อึดใจต่อมา ดวงตาเรียวเล็กมองมือปราบหนุ่ม นางพิศวาสเขา ครั้งหนึ่งเคยอยากสานสัมพันธ์อย่างบ้าคลั่งกับชายผู้นี้ หลังจากเห็นว่าเขาเข้ามารับใช้รัชทายาท และเป็นคนโปรดของไทเฮา
ม่านกุ้ยหนิง ทิ้งกัวซาลงพื้น มือเรียวสวยเอื้อมมาถูไถที่ส่วนปลายหยักแดงก่ำของเหวินมู่ถังที่มีน้ำหล่อลื่นใสวามวาวซึมเอ่อ
นางปรารถนาอยากอม ชักรูด แล้วโลมเลียให้สาแก่ใจ ทว่าเมื่อค่อยๆ เงยหน้าสานสบสายตาอีกฝ่าย ม่านกุ้ยหมิงต้องผงะ หัวใจนางหดเกร็ง บุรุษผู้นี้ มองนางราวกับเป็นหญิงร่านสวาทในซ่องชั้นเลว
“กล้าดีเช่นไร ถึงใช้สายตาหยาบคายต่อข้าเยี่ยงนี้”
เมื่อเหวินมู่ถังไม่ตอบ นางจึงหวังใจกลั่นแกล้งเขา ให้ต้องอับอาย มือหนึ่งเอื้อมไปหยิบมีดสั้น แล้วกรีดหัวไหล่อีกฝ่าย ส่วนอีกมือถูไถปลายหัวหยักเขาอย่างสตรีกระหายในตัณหา
ถูไม่พอ นางยังต้องการสั่งสอนเขาให้เข็ดหลาบ และม่านกุ้ยหนิงสั่งให้คนรับใช้ นำท่อนเหล็กยาวราวๆ ครึ่งศอกมา และมันมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 3 มิลลิเมตร
ปลายหัวหยักของเขาถูกนางจัดการ และปลุกเร้าอารมณ์หนักหน่วง ทั้งเหวินมู่ถังได้รับยากระตุ้น เขาจึงปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมามากจนม่านกุ้ยหนิงซ่านสยิว
“ทนเจ็บสักหน่อย และท่านจะต้องมีความสุข เมื่อเหล็กท่อนเล็กๆ นี้ แทงเข้าไปในท่อน้ำรักขาที่สามของท่าน!”
สิ่งที่ม่านกุ้ยหนิงจะทำก็คือการสวนท่อนเหล็กเข้ากับท่อปัสสาวะ เป็นการทรมานร่างกายอย่างหนึ่ง กระนั้นก็อาจทำให้เพิ่มความใคร่ แต่ก็มีอันตรายสูง เพราะหากบาดเจ็บจนเลือดออก ก็จะมีน้ำหนอง หรือหนักสุดคือ ต้องสอดท่อเพื่อให้ใช้ในการปัสสาวะไปตลอดชีวิต!
เหวินมู่ถังเกิดความตึงเครียด เขาพยายามระงับความรู้สึกแข็งขัน หากแกนกายลดความต้องการลง ม่านกุ้ยหนิงคงลงโทษเขาด้วยวิธีนี้ไม่สำเร็จ
อึดใจต่อมา ดวงตาหงส์ของม่านกุ้ยหมิงต้องเบิกค้าง คราแรกที่นางพยายามแทงท่อนเหล็กเข้าปลายท่อปัสสาวะของเหวินมู่ถังซึ่งเกือบสำเร็จแล้ว นางยังสัมผัสได้ว่าท่อนเนื้อร้อนเขายังเต้นตุ้บๆ สร้างความเสียวสยิว แล้วเหตุใด มันถึงค่อยๆ อ่อนลงทีละน้อย จนยามนี้ นางไม่อาจฝืนแทงท่อนเหล็กผ่านเข้าไปได้
หญิงสาวหวีดร้องอย่างเสียงอารมณ์ แล้วโยนท่อนเหล็กในมือทิ้ง ก่อนตั้งใจใช้มีดสั้นกรีดร่างกายเขาต่อ และหลังจากทรมานเขาจนได้เลือดซึมหลายแห่ง นางกลับไม่อาจล้วงความลับจากเขาได้ มิหนำซ้ำ ชายหนุ่มยังอดทนเก่งเหลือเกิน เขาไม่ยอมคลายความอุ่นซ่านใดๆ ให้นางและสาวใช้ได้ชมเป็นขวัญตา!
“บัดซบ! เจ้าปรารถนาให้ข้า เฉือนเนื้อออกมาเป็นชิ้นๆ และตัดแท่งหยกทิ้งหรืออย่างไร ถึงจะบอกที่ซ่อนป้ายคำสั่ง”
ริมฝีปากบางยกขึ้นมุมหนึ่ง เพียงเท่านั้นหัวใจม่านกุ้ยหนิงพลันอ่อนยวบ เขาหล่อเหลา และมีความเร่าร้อนทั่วกายแกร่ง ฝ่ายหญิงสาวรู้สึกถึงเนื้ออ่อนในร่มผ้าที่เต้นเร่าๆ นางปรารถนาในเรือนกายมือปราบผู้นี้ ด้วยเกิดกำหนัด จนหูอื้อ ตาลายไปหมด
“ท่านหญิง รองดูว่า ระหว่างข้ากับสตรีสูงศักดิ์ ใครจะมีความอดทนสูงกว่ากัน”
“เจ้ากล้าท้าทายข้าหรือ” นางว่าพร้อมตั้งใจใช้มีดสั้นแทงเข้าที่ต้นขาแกร่ง หากเป็นยามนั้นที่ใบหน้าผะผ่าวร้อน เมื่อสายตาจับจ้องกลางกายชายหนุ่มแทน และจากที่มันอ่อนตัวอยู่ ก็เห็นว่า กลับมาผงาดตั้งชัน และยั่วยวนให้ม่านกุ้ยหมิงคลั่งไคล้อีกหน
“ฆ่าจะสั่งเฆี่ยมเจ้า และนาบแผ่นเหล็กร้อน ทำสัญลักษณ์คนชั้นต่ำบนใบหน้า ดูสิว่า ต่อไปยังจะเหย่อหยิ่ง และกล้าอวดดีอีกหรือไม่”
“ท่านหญิง อย่าคิดว่าท่านมีอำนาจ แล้วจะทำสิ่งต่างๆ ได้ตามใจตน อีกทั้งแม้ข้าเป็นมือปราบ แต่รอบรู้หลายสิ่ง โดยเฉพาะเรื่องเมื่อสามปีก่อน!”
ยามนั้นม่านกุ้ยหนิงใจคอไม่สู้ดี นางรู้ว่าเหวินมู่ถังเป็นมือปราบแถวหน้าของแคว้น สกุลของเขารับใช้บ้านเมืองมานนาน พี่ชายคือรองแม่ทัพใหญ่ ปู่คืออดีตเทพอาชาช่วยกอบกู้บ้านเมืองให้รอดพ้นจากภัยสงครามหลายครั้ง อีกทั้งฉายาเสือดำตุลาการ ไม่ใช่ว่าจะครอบครองได้ง่ายๆ คนผู้นี้ใกล้ชิดรัชทายาท ทั้งยังได้รับความไว้ใจให้เข้าออกวังหลวง ราวกับเป็นเรือนหลังที่สองของตน และเหนืออื่นใด เสือดำตุลาการ เขาล่วงรู้สิ่งใดเกี่ยวกับนาง ?!
“สิ่งที่ท่านหญิงต้องตระหนักให้ดี หากกักขังตัวข้าไว้ ข้อหาของท่าน อาจใหญ่หลวงถึงขั้นเป็นกบฏแผ่นดิน อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ระหว่างท่านกับราชบุตรเขย ย่อมถูกเปิดเผยให้คนทั้งใต้หล้ารู้ เรื่องเลวร้ายที่สุด คงหนีไม่พ้นการให้กำเนิดทายาทปีศาจของท่านกับซือหลาง!”
ม่านฮุ่ยหมิงทรุดลงไปกองบนพื้น ก่อนหน้านี้นางคิดว่าตนอยู่เหนือไป๋ซือหลางหากได้ของสำคัญจากมือปราบผู้นี้ แต่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งหวัง เหวินมู่ถังกับร้ายกาจยิ่งกว่านั้น ด้วยทำให้นางต้องเสียขวัญ และกลัวเหลือเกินว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับไป๋ซือหลางจะแดงขึ้น และเด็กปีศาจของนาง ลูกชายคนเดียว อาจทำให้สกุลนางล่มสลาย
“คิดดูเถิด ท่านหญิงม่าน หากฮ่องเต้ ผู้เป็นลุงของท่าน ล่วงรู้ว่า หลานสาวคนโตผู้งดงาม มีค่าดังทองคำพันชั่ง คลอดตัวอัปลักษณ์ ชีวิตท่าน และคนทั้งสกุลม่าน ยังจะรักษาไว้ได้หรือไม่!”
“ฮึ เหลวไหล หากข้า ทำให้เจ้าสิ้นลมหายใจเสีย ย่อมไม่มีสิ่งใดแพร่งพราย”
เหวินมู่ถังยิ้มเย็น แม้เขาจะหลงกลหญิงสาวผู้นี้ในคราแรก แต่การเป็นมือปราบตั้งแต่อายุน้อย และต้องทำเรื่องสำคัญให้แผ่นดินเสมอ ชายหนุ่มย่อมมีแผนสำรองเตรียมไว้ เพื่อเป็นข้อต่อรองพวกที่คิดชั่ว “เข้าใจผิดแล้ว ก่อนที่ข้าจะคุ้มกันท่านหญิง ให้เดินทางอย่างปลอดภัย ข้าส่งข้อมูลชุดหนึ่งออกไปเพื่อปกป้องตน หากข้าไม่ได้มีชีวิตรอด หรือขาดการติดต่อนานจนผิดปกติ ทุกอย่างจะตกถึงมือฝ่ายตุลาการ แน่นอนรัชทายาทผู้ที่เป็นอริกับราชบุตรเขย ย่อมล่วงรู้ทุกสิ่งในมิช้า!”
ม่านกุ้ยหนิงกรีดร้องเสียงดัง นางกำลังจะเสียสติ และสิ่งที่ตระหนักคือ นางตกเป็นคนโง่อีกครั้ง ตกเป็นเครื่องมือไป๋ซือหลาง
ยังไม่พอ ยามนี้ต้องถูกมือปราบเหวินวางหมากบีบบังคับให้ต้องปล่อยตัวเขา!
จากนั้น จมูกทั้งสองข้างของม่านฮุ่ยหมิงมีเลือดกำเดาสีดำข้นไหลทะลัก นางวิงเวียนศีรษะอย่างหนัก และกำลังจะหน้ามืด
“ท่านหญิง หากอยากมีชีวิตรอด จงรีบปล่อยข้า และเราสมควรเจรจากันอย่างผู้มีปัญญา!”
และถึงจะรอดพ้นการกักขังของม่านกุ้ยหนิงได้ แต่พิษที่นางวางยาเขายังไหลเวียนในร่างกาย อีกทั้งต้องใช้การขับออกหลายวัน เรื่องโง่เขลาเช่นนี้ ผู้ที่วางยาคนอื่นย่อมมีแต่ม่านกุ้ยหนิง
“ยาถอนพิษ ข้าไม่ได้นำติดตัวมาด้วย อีกอย่างเจ้าสามารถขจัดออกได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลานานสักหน่อย!”
“ฮึๆ ๆ เช่นนั้น ข้าจะมาคิดบัญชีแค้น กับท่านหญิงในภายหลัง” มือปราบหนุ่มเอ่ยจบก็โผนทะยานจากไป ในขณะที่ผ่านเมืองเล็กๆ ที่ชื่อฮุ่ย โดยที่เหวินมู่ถังต้องรับมือกับมือสังหาร และนักฆ่าล่าหัว
เขาพยายามเอาตัวรอดอย่างเต็มที่ กระนั้นพวกมันได้ใช้วิธีหมาหมู่ ซ้ำร้ายยังเอาแม่ลูกอ่อนมาหลอกล่อเขาให้เกิดความสงสาร สุดท้ายเขาจึงถูกเด็กชายวันเพียงเจ็ดขวบ ใช้มีดคู่ฟันกลางแผ่นหลัง ส่วนแม่ลูกอ่อนที่เป็นนักฆ่า นางยิงหน้าไม้ใส่หัวไหล่เขา ซึ่งอาวุธนางอาบยาพิษ
ร่างสูงใหญ่ประคองสติตนเองแทบไม่ไหว แต่แข็งใจ สกัดพิษแล้วเดินลมปราณ จากนั้นจึงกัดฟันเอาตัวรอดให้จงได้
“ป้ายคำสั่ง จงมอบมันให้พวกข้าเดี๋ยวนี้”
“ฮึๆ ๆ ของสิ่งนั้นสำคัญกว่าชีวิตเศษสวะที่ล้อมหน้าล้อมหลังข้าในตอนนี้”
เขากล่าวด้วยเสียงเข้มทรงพลัง จากนั้นก็วาดกระบี่ออกไป สุดกำลัง ฝ่ายตรงข้ามล้มตายไปจำนวนมาก คงเหลือเพียงเด็กชาย และแม่ลูกอ่อน
“หากภายภาคหน้า ยังเห็นพวกเจ้าจับอาวุธ ข้าผู้นี้ จะปลิดชีพพวกเจ้าด้วยมือตนเอง”
เมื่อกล่าวจบ ชายหนุ่มจึงบ่ายหน้าสืบเท้าต่อไป แม้เลือดไหลโทรมกาย แต่เหวินมู่ถึงก็แข็งใจหาที่หลบภัย เพื่อรักษาชีวิตตน