SADISM 5

1335 คำ
ผ่านมาสามวัน ไม่สิ น่าจะสี่แล้วมั้งที่ผมมาขลุกอยู่ที่ห้องยูกิ ตอนแรกก็ไม่ได้รู้จักชื่อหรอกแต่เห็นพวกลูกน้องมันเรียกกันอย่างนั้นผมก็เลยเรียกตาม “ยูกิ ...ยูกิ ...ยูกิ ?” “โว้ย! นายจะเรียกอะไรบ่อยๆเนี่ย แล้วห้องตัวเองเมื่อไหร่จะกลับไปซะที” เธอทำหน้าหงุดหงิดแบบสุดขีดตอนที่หันมาเห็นห้ายิ้มกวนๆของผม ...ก็ไม่ตั้งใจให้กวนตีนอย่างนี้หรอก แต่มันเป็นเองอ่ะครับ ? “ฉันหิวข้าว ...ทำหน้าที่เมียหน่อยสิ” ยัยตัวแสบทำหน้าตูมถ้ามีควันพ่นออกจากหูอีกนิดก็สมบูรณ์แบบแล้วนะเนี่ย ฮ่าๆ หน้าโคตรจี้เลย “ไปหาเมียนายโน่นเป็นร้อยเป็นพันข้างนอกนั่นน่ะ! ...แล้วก็เสด็จออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ฉันรำคาญ!” แล้วเธอก็หันไปสนใจกับกองเอกสารเป็นตั้งโดยไม่หันมาสนใจผมอีก “แต่ฉันหิวจริงๆนะ ...อยากให้ฉันกินข้าวหรือกินเธอดีล่ะ ?” “โว้ะ! รอตรงนี้เดี๋ยวไปทำมาให้” ร่างเล้กกระแทกเท้าปึงปังออกจากห้องนอนไปโดยสั่งให้ผมนั่งรอในห้อง ...แต่แหมใครจะปล่อยให้ยัยนั่นไปทำกับข้าวคนเดียวอ่ะ ...เกิดใส่ยาเบื่อมาให้ก็แย่สิครับ “นู่น นี่ก็เรื่องมาก บ่นก็ไม่ได้ เบื่อๆๆ อยากนอนก็โดนกวน” ยูกิทำกับข้าวไปก็บ่นไปอย่างกับหมีกินผึ้ง สงสัยเพราะโดนกวนตอนที่นอนหลับเพราะตั้งแต่ผมมาอยู่ก็จับเธอนอนให้ตรงกับเวลาชาวบ้านเขา ...ผู้หญิงบ้าอะไรนอนตั้งเกือบสิบแปดชั่วโมงต่อวัน คนหรือสล็อธวะ “เสร็จแล้ว! กินแล้วก็ออกไปได้แล้วฉันจะทำรายงาน” แล้วเธอก็เดินปึงปังไปนั่งที่เดิมก่อนจะทำรายงานอย่างตั้งใจ ส่วนผมก็นั่งกินข้าวไปจ้องเธอไปมันก็เพลินดีนะ อาจจะเพราะไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มั้งก็เลยเห่อเป็นธรรมดา ...ผมลองมาหมดแล้วแหละทั้งซิงและไม่ซิงยูกิไม่ใช่คนแรกหรอก แต่ที่ติดใจเพราะเธอเป็นคนแรกที่ทำท่าทางอย่างนี้ใส่ผมเลยสนใจมากเป็นพิเศษ “อ้าว หลับไปแล้ว? ไหนว่าจะทำการบ้านให้เสร็จไง” ผมส่ายหน้าแล้วอุ้มร่างบางที่นอนฟุบคาโต๊ะไปนอนที่เตียงให้สบายตัวก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้แทนแล้วมองกองรายงานที่วางล้นอยู่บนโต๊ะ “ไม่น่าล่ะ ทำไมถึงดูวุ่นวายขนาดนี้ ดองการบ้านจนจะครบกำหนดแล้วค่อยทำสินะทั้งที่มันง่ายขนาดเด็กอนุบาลก็ทำได้แท้ๆ” ผมจับรายงานเธอแต่ละชิ้นมาทำจนมันเสร็จภายในสองชั่วโมงนิดๆ ...อืม ก็ไม่ได้ยากนี่หว่า นึกว่าจะลืมไปหมดซะแล้ว “งืม ...ง่วง แม่อย่าเพิ่งปลุกกิน้า ..งืม” ผมหันไปตามเสียงก็เจอกับยัยบ้าที่นอนแจ๊บปากแล้วก็ละเมออยู่คนเดียว -_- นี่กูคิดถูกใช่มั้ยวะที่จะเอายัยนี่เป็นของเล่น แทนที่จะได้เล่นสนุกเหมือนทุกครั้งกลับต้องมานั่งดูแลแล้วก็ทำห่าอะไรก็ไม่รู้อยู่เนี่ย “บอกดิ๊ว่าฉันคิดไม่ผิดเนี่ย เห้อ” นึกแล้วก็ขำว่ะ ไม่ได้เจออะไรตลกๆแบบนี้มานานแล้ว ครั้งล่าสุดก็หลายปีแล้วเพราะนอกจากเพื่อนผมก็ไม่เคยจะอยู่กับใครได้นานขนาดนี้เลย ...อาจจะเป็นเพราะว่ายูกิยังสดใหม่หรือเปล่า มึงเลยคิดว่าตัวมึงแปลกไปวะไอ้ดิน! “ไม่มีใครเปลี่ยนตัวตนของฉันได้หรอก ...เธอก็อย่าหวังเลย” ผมปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นเหมือนเดิมก่อนจะใส่เสื้อแล้วเดินออกจากห้องไป “นายจะไปไหนครับ” “คลังของเล่น” มันพยักหน้าแล้วเดินนำผมไป แต่ผมก็แอบเห็นว่ามันมีแววตาเสียดายตอนที่ผมเดินออกมาจากห้องของยูกิ ...คงคิดสินะว่าผู้หญิงคนนั้นจะเปลี่ยนกูได้ ไม่มีทางซะหรอก! PD OFF “อื้อ ห้าววว ได้นอนหลับเต็มตื่นซะที” ฉันบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนที่สายตาจะแพลนไปเจอกองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ไอ้บ้ายูกิ แกหลับทั้งๆที่ทำรายงานไม่เสร็จได้ยังง้ายย “โอ้ย ตายแน่ๆ ...เอ๊ะ ทำไมมันเสร็จหมดแล้วล่ะ แถมยังทำถูกหมดด้วย สงสัยว่าฉันจะละเมอทำแน่ๆเลยเก่งจริงๆเลยน้ายูกิ” สงสัยว่าตอนที่เผลอหลับไปคือร่างกายฉันอาจจะยังทำงานอยู่แต่ไม่รู้ก็ได้ “แล้วอีตานั่นไปไหนแล้วเนี่ย ...กลับไปได้ก็ดีแล้ว” บอกตามตรงนะว่าตลอดเวลาเกือบอาทิตย์นึงที่เขามาอยู่ด้วยเนี่ยโคตรจะอึดอัดเลย แถมยังโดนจิกหัวใช้สารพัดอีก ...แต่ที่สำคัญสุดๆเลยคือฉันโดนรบกวนเวลานอน!! ก็อกๆ “หือ ใครอีกอ่ะ ...ไม่น่าจะใช่อีตานั่นหรือเปล่าเพราะปกติคงเอากุญแจห้องไขเข้ามาแล้วมั้ง” แล้วฉันจะบ่นพึมพำเพื่ออะไรเนี่ย “อ้าว นายลูกกระจ๊อกของไอ้เสี่ยหื่นนั่นนี่นา ...มีอะไร?” เขายิ้มแหยๆแล้วมองไปด้านหลังที่มีไอ้บ้านั่นโดนหิ้วปีกในสภาพเมาแอ๋ “แล้วเอามาห้องฉันทำไม ..นู่นพาไปห้องของเจ้านายของพวกนายนู่นนน” พวกนั้นส่ายหน้าแล้วถือวิสาสะพาเขามาทิ้งไว้ที่โซฟาแล้วทยอยเดินออกไปจนหมดห้อง ...ถ้าเป็นปกติผู้หญิงจะเช็ดตัวให้ถูกมะ แต่โทษทีฉันไม่ใช่นางเอกว่ะและฉันใจร้ายพอที่จะปล่อยให้หมอนี่นอนอยู่ตรงนี้ ในสภาพแบบนี้ด้วยสิ “คนอย่างนายไม่สมควรจะได้รับการปฏิบัติตัวดีๆจากใครหรอก” ฉันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้องนอนแล้วนั่งทำงานอย่างสบายใจจนเวลาล่วงเลยมาเกือบฟ้ามืดของอีกวัน “หิวจังเลย ...เอ๊ะ ทำไมยังไม่ลุกไปอีกเนี่ย” เชื่อมั้ยว่าเขายังนอนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนเลย ...ตายหรือเปล่าเนี่ย “นายๆ ตายป่าวเนี่ย ...ว๊าย!! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไอ้กะล่อน” ไม่น่าไปหลงเชื่อกับท่าทางของไอ้บ้านี่เลย ก็อยู่ดีๆเขาก็ลืมต่แล้วกระชากแขนให้ลงไปนอนด้วยเนี่ยสิ ...โอ๊ย จะบ้าตาย “เมื่อกี้คือห่วงว่าฉันไม่สบายหรือคิดว่าตายแล้วหะ” ริมฝีปากร้อนที่คลอเคลียอยู่ตรงท้ายทอยทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “คิดว่าตายแล้วน่ะสิ ยังคิดว่ามีคนห่วงคนแบบนายหรือยังไง!” เขาสะอึกไปนิดนึงก่อนจะผ่อนแรงที่แขนออกปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ “นั่นสิเนอะ ...ใครจะมาเป็นห่วงตัวร้ายอย่างฉันอ่ะ ?” เขาพูดแล้วก็เดินออกไปจากห้องทิ้งฉันให้นั่งงงอยู่ที่โซฟา นี่คืองอน? หรือโกรธแต่โกรธนี่ไม่น่าใช่นะ ...แล้วฉันจะมานั่งกังวลทำไมล่ะไม่เกี่ยวอะไรกับฉันซะหน่อย แกร๊ก! “อ้าว แล้วนายล่ะครับ” ลูกน้องคนเดิมที่เอาเจ้านายตัวเองมาทิ้งไว้โผล่หน้าเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ ...นี่มันห้องส่วนตัวฉันนะเว้ย ไม่ใช่ล็อบบี้โรงแรมเดินเข้า เดินออกกันเป็นว่าเล่นเลย “ไม่รู้ดิ เห็นเดินออกไปเมื่อกี้นี้ไม่ได้บอกด้วยว่าไปไหน” “แล้วคุณไปพูดอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมนายผมออกไปแบบนั้น” เดี๋ยวนะ ไอ้สายตาระแวงแบบนี้มันคืออะไรยะ -_- “พูดแค่ว่าไม่มีใครเขาเป็นห่วงนายนั่นหรอก แค่นั้นแหละเขาก็เดินออกไปเลย” “ซวยแล้ว!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม