หลังจากที่ดัชตินพาเธอมาอยู่ที่ชายแดนทางตอนเหนือ บางอย่างก็เริ่มจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างเช่นท่าทีที่ห่างเหินของเราในฐานะสามีภรรยา
เขามิได้ยุ่งกับสตรีอื่นอีกเลย ตั้งแต่ที่เรามาอยู่ที่นี่
เธอกับเขาแยกห้องนอนกัน และแน่นอนเราทั้งสองคนยังคงมิได้เข้าหอกันเลย ถึงแม้ว่าเราจะแต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว
"วันนี้จะกลับเร็วนะ เตรียมตัวเอาไว้ด้วยเพราะคืนนี้มีงานเลี้ยงวันบรรลุนิติภาวะของบุตรสาวลอร์ดคีแนน"
เธอส่งเสื้อคลุมขนแกะให้เขาพร้อมกับส่งยิ้มจางๆ
"ค่ะ ข้าเข้าใจแล้ว"
ดัชตินหอมแก้มเธอ เป็นการหอมแก้มที่บางเบาดุจแมลงปอแตะผืนน้ำ เขาเริ่มใส่ใจเธอมากขึ้น จนในใจเกิดเป็นความหวังขึ้นมา
ถึงแม้ว่าครอบครัวของเธอจะเลวร้าย แต่นั่นไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก เพราะว่าเธอจะสามารถสร้างครอบครัวใหม่ขึ้นมาได้
สร้างครอบครัวอบอุ่นขึ้นมากับดัชตินที่เป็นคนใหม่ เขาไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้เธอขุ่นเคืองใจเลย เวลามันผ่านไปยาวนานจนถึงหนึ่งปีที่เธอมาอยู่ที่นี่
ดัสตินยังคงกลับบ้านเร็วทุกวัน เขาพาเธอไปออกงานในฐานะภริยาของลอร์ดดาร์เรน และวันนี้เป็นวันแรกที่เขาร้องขอให้เราขยับความสัมพันธ์
ดัชตินไม่อาจจะแยกห้องนอนอีกแล้ว เพราะเขาอายุยี่สิบกว่าและจูเลี่ยนก็เกือบยี่สิบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันพร้อมสำหรับการที่จะมีสมาชิกใหม่มาวิ่งเล่นในคฤหาสน์หลังนี้แล้ว
เวลาได้พิสูจน์สามีของเธอ ว่าเขาสามารถเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ได้จริงๆ
ไม่มีสิ่งใดให้เธอต้องลังเลอีกแล้ว....
ชีวิตที่โหดร้ายของจูเลี่ยนถูกดัชตินเยียวยาช้าๆ เขาโอบกอดเธอในวันที่เหน็บหนาว จูบปลอบประโลมในวันที่หิมะโปรยปรายลงมา
นี่คือความรักอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยพบเห็นมาก่อนแต่ว่าเธอสัมผัสมันได้ จากทุกการกระทำของดัชติน
จนผ่านพ้นไปอีกสามปี
"ยินดีด้วยค่ะท่านลอร์ด ท่านหญิงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว"
ครอบครัวที่แสนอบอุ่นของเรากำลังจะสมบูรณ์แบบ กว่าสี่ปีที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยากัน เขายังคงดีเสมอต้นเสมอปลาย
"ต่อจากนี้พวกเจ้าจะต้องดูแลนายหญิงให้ดีกว่าเดิม เข้าใจรึเปล่า"
ดัชตินสั่งข้ารับใช้ในคฤหาสน์ดาร์เรนเสียงดัง นั่นมันทำให้เธออดจะรักเขามากขึ้นไม่ได้ แต่แล้วในสัปดาห์ต่อมาดัชตินก็มีงานด่วนที่ต้องกลับเมืองหลวงกะทันหัน ทำให้จูเลี่ยนต้องอยู่เฝ้าคฤหาสน์เพียงคนเดียว เธอไม่อาจตามเขากลับเมืองหลวงได้เพราะว่าเธอนั้นตั้งครรภ์อยู่
"สวัสดีครับนายหญิง พอดีมีเอกสารราชการบางอย่างที่ข้าจะต้องนำไปให้ท่านดยุค ลอร์ดดัชตินได้ฝากท่านไว้รึเปล่าครับ"
"ดัชตินมิได้ฝากอะไรไว้เลยค่ะ เขาน่าจะลืม เช่นนั้นข้าจะไปดูในห้องทำงานของเขาให้นะคะ"
"รบกวนด้วยครับนายหญิง"
เป็นครั้งแรกที่จูเลี่ยนเดินเข้ามาในห้องทำงานของสามี เธอจำได้ดีว่าวันนั้นคือวันที่หิมะตกลงมาเป็นครั้งแรกของปี
จดหมายมากมายอยู่ในลิ้นชักของเขา มันคือจดหมายที่มีตราประทับของตระกลูของเธอ จูเลี่ยนเปิดอ่านจดหมายด้วยมือที่สั่นเทา
มันคือหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของดัชติน
และคนที่โอนเงินให้เขาคือท่านพ่อของเธอ จูเลี่ยนใช้เวลาในนั้นอยู่นานมากจนเธอลืมไปแล้วว่าเธอเข้ามาที่นี่เพราะอะไร
เธอเปิดอ่านจดหมายทุกฉบับของเขา ในตลอดระยะเวลาสี่ปี
ดัชตินมีคนรักอยู่แล้ว นางชื่อว่าเรญ่า ในวันที่เธอและดัชตินแต่งงานกัน เรญ่านั้นท้องได้หกเดือนแน่นอนว่าลูกในท้องของเรญ่าคือลูกนอกสมรสของดัชติน
คนเช่นเดม่อนไม่ยอมให้มีเรื่องเสื่อมเสียงอย่างเช่นเรื่องบุตรนอกสมรสเกิดมาอย่างเด็ดขาด เขาจะต้องฆ่าเรญ่าแน่นอนถ้าเขารู้
เพราะหากดัชตินมีลูกชาย ตำแหน่งผู้นำตระกลูของเดม่อนจะสั่นคลอนทันที นี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
ดัชตินด้วยความเป็นห่วงลูกชายและเรญ่าเขาจำเป็นต้องมีที่พึ่ง และที่พึ่งพิงนี้จะต้องปกป้องและคุ้มครองเรญ่าได้
คนที่จะทำเช่นนี้ได้ก็คือพ่อของเธอ
ดัชตินยื่นข้อเสนอกับท่านพ่อว่าเขาจะรักเธอ จะทำดีกับเธอและจะไม่นอกใจเธออีก แลกกับเงินทองและการดูแลลูกชายกับภรรยานอกสมรสของเขา
มันราวกับว่าความฝันของเธอพังทลายลงมา เขาไม่ได้....รักเธอเลย ดัชตินหลอกลวงเธอเพราะว่าเขารักเรญ่า
สี่ปีที่ผ่านมามันคือภาพลวงตาทั้งสิ้น!!
ทุกอย่างมันโกหก ไม่ว่าจะเป็นคำหวานที่เขาพร่ำบอกเธอก่อนนอน อ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ท่าทีที่ดูห่วงใย
ไม่มีจริงเลยสักอย่างเดียว
จูเลี่ยนกระอักเลือดคำโตออกมาก่อนที่เธอจะล้มลง เธอตื่นมาในวันรุ่งขึ้นพร้อมกับคำกล่าวที่น่าเศร้าของหมอหลวงว่าเธอเสียลูกในท้องไป
"ห้ามบอกกล่าวเรื่องนี้กับท่านลอร์ด ใครกล้ารายงานเกี่ยวกับอาการป่วยของข้า ข้าจะตัดลิ้นมันเสีย"
เป็นช่วงเวลาสองเดือนที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับจูเลี่ยน เธอน้อยใจในโชคชะตาจนอยากคิดจะตายมากมายหลายหน
ทำไมกันนะ ทำไมชีวิตของเธอมันถึงเป็นเช่นนี้ เธอร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาแล้ว ไม่กินไม่ดื่มอะไรจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงที่จะหายใจ จูเลี่ยนใช้เวลาสองเดือนนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงเพื่อรอคอยดัชติน
เธออยากจะตบหน้าเขาสักครั้ง และยื่นจดหมายหย่าให้เขาประทับตราลงไป
"ปิดหน้าต่างซะ ข้าเกลียดวันที่หิมะตก..."
สาวใช้ผู้นั้นรีบวิ่งไปปิดหน้าต่างตามคำสั่งของนายหญิงทันที
"หากว่านายหญิงไม่ชอบหิมะ เช่นนั้นทำไมท่านไม่ไปอาศัยอยู่ในเมืองทางใต้ล่ะคะ ที่นั่นติดทะเล ปีทั้งปีแทบจะไม่มีหิมะตกเลย ถึงท่านมีความจำเป็นที่ต้องตามท่านลอร์ดมาที่นี่ แต่การอาศัยอยู่กับสิ่งที่เราเกลียดมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลงนะคะ..."
เมืองที่ไม่มีหิมะงั้นเหรอ
บางทีการไปอยู่ในทีที่ไม่มีใครรู้จัก อาจจะดีกว่านี้รึเปล่านะ
จูเลี่ยนได้ตายไปแล้วในคืนที่หิมะตก ตอนนี้เหลือเพียงจูเลียที่เจิดจ้าราวกับแสงแดดในยามเช้าเท่านั้น