EP5.1 ll มนุษย์ติ๋ม [1]

1259 คำ
12.00 นาฬิกาเป๊ะ ฉันยืนรอเซฟอยู่หน้าตึกแปดตามเวลานัด เสียงอัศวินยังคงดังก้องในหัวพร้อมกับคำถามที่ว่า... แม่งจริงปะวะ? อย่างเซฟเนี่ยนะจำทำผู้หญิงท้องตั้งแต่มอสาม? โม้แล้ววววววว! รัศมีเด็กเนิร์ดเจิดจรัสขนาดนี้ จะเอาอะไรไปแบดบอยวะเออ ฉันไม่เชื่อมันหรอก! สมมติมันเป็นเรื่องจริง ฉันก็ไม่ว่าหรอก ถ้าเขาจะทำฉันท้องอีกคน นี่เรียนจบปุ๊ป มีหลานให้พ่อปั๊ป คือเตรียมพร้อมมากอ่ะ ได้นะ ฉันไม่ถือ งานแต่งเอาไว้ทีหลังก็ได้ คนกันเอง แต่เดี๋ยวนะ ถ้าเขาทำผู้หญิงท้อง แล้วอีชะนีนั่นใคร... ยังมีตัวตนอยู่มั้ย? ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาเดินกับผู้หญิงนางไหนนะ เห็นเดินกับเพื่อนผู้ชายแก๊งตุ๊ดของเขาตลอด โอ๊ย คิดมากไปเพื่ออะไร มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอก! “หลิน” เสียงหวานดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมสีน้ำตาลเซตลวกๆ กับนัยน์ตาสีน้ำตาลใสซื่อมองฉันพลางระบายยิ้มอ่อน เนี่ยนะ... คนที่ทำผู้หญิงท้องตั้งแต่มอสาม อย่างเซฟเนี่ยนะ! อีอัศวินปากพล่อย โกหกไม่เคยเนียน! อีผู้ชายทะลุถุงยางมาเกิด! มาแกล้งหลอกฉันได้ไงวะ อย่าให้เจออีกนะ แม่จับกระแทกต้นเสาเข่าแตกแหกถึงแกนกะโหลกจริงด้วย! “มาถึงไวเนอะ” เขาหัวเราะก่อนจะเกาหัวแกรกๆ อย่างเอียงอาย โอ๊ย น่ารักเกิน! เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกยั่วยวนฉันตลอดเวลาอ่ะ “จริงๆ ก็พึ่งถึงเมื่อกี้แหละ” เพราะมัวแต่เถียงกับอัศวิน ฉันเลยช้า ความจริงฉันกะจะมาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ เซฟจะได้เห็นถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ ความตรงเวลาอันมโหฬารแล้วก็อยากได้ฉันเป็นแม่ของลูก ให้ตายเถอะ เซฟแม่งอดใจไหวได้ไงวะ น่ารักขนาดนี้ อ่อยขนาดนี้ ถ้าฉันเป็นผู้ชายนะจับตัวเองปล้ำไปนานแล้วเนี่ย “แล้วชมรมอยู่ห้องไหนเหรอ? มีอะไรให้เราทำบ้าง? เราทำได้เยอะนะ” ฉันเสนอตัวช่วยอย่างออกนอกหน้าก่อนจะเนียนแต๊ะอั๋งเขาด้วยการจับฝ่ามือนุ่มนิ่มนั่น หูย... ผู้ชายไรวะ มือยังกับผู้หญิง นุ่มมากอ่ะ นุ่มจนมือฉันสากไปเลย เซฟยิ้มก่อนจะปรายสายตาไปมองที่ตึกแปด มันเป็นตึกสองชั้นทำจากปูน มีห้องเล็กๆ หลายห้องติดกัน คล้ายๆ ห้องเรียนเด็กประถม “อยู่ชั้นสองอ่ะ วันนี้มีคนมาแค่พวกสมาชิกเก่าๆ สัปดาห์หน้าพวกเราถึงจะมีตติ้ง” เขาว่าพลางสลับจากที่ฉันจับมือเขา เป็นเขาจับมือฉันแล้วเดินนำไปอีกทาง กะ กรี๊ดดดดด น่ารักอ่ะ นางจับมือด้วยอ่ะ นางจับมือช้านนนน! โผละ! อ้าว! =O=! ฉันสตั๊นเมื่อจู่ๆ มือของเราทั้งคู่ก็ถูกกระชากแรงๆ จนแยกออกจากกันเพราะบุคคลปริศนาหน้าตาบอกบุญไม่รับสวมแว่มกลมส่วนสูงราวๆ ร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ฉันหันไปสบตาไอ้คนมาใหม่อย่างเอาเรื่อง มันเป็นใครวะ กล้ามาดึงแขนฉันได้ไงแถมมาขัดจังหวะมุ้งมิ้งของฉันกับเซฟเนี่ย! “อ้าว มาโนชน์” เซฟเบิกตาโตก่อนจะมองคนมาใหม่ อีตานั่นใส่ชุดนักศึกษาตัวเล็กๆ แขนขาเรียวบางยังกับผู้หญิง ผิวขาวละเอียด ผมสั้นซอยเซตระดับหูสีดำสนิท เฮอะ แค่เห็นแวบแรกก็ไม่ถูกชะตาแล้ว “อีนี่ใครคะ มาจับไม้จับมือถือแขนประธานได้ไงคะ โนชน์ไม่ปลื้ม” เสียงแว้ดๆ ที่แปรผกผันกับเพศ รวมทั้งสายตาจิกกัดนั่นกระตุ้นอารมณ์เดือดดาลของฉันทันที “เรียกใครว่า ‘อี’? เราเคยรู้จักกันปะ? อย่ามาปากหมาหาเรื่องก่อนนะ เราไม่ชอบ” ฉันเหวี่ยงทันทีที่มันเอ่ยประโยคน่าถีบออกมา ก็มันจริงปะวะ ฉันพึ่งเคยเจอนางครั้งแรก ก็มาแว้ดๆ แสดงตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเซฟ แถมยังเรียกฉันว่า ‘อี’ ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็ยอมรับอ่ะว่าเป็นคนจับมือก่อน แต่เมื่อกี้เซฟจับมือฉันนะโว้ย! แล้วฉันก็ไม่เคยทำอะไรนางสักหน่อย ทำไมต้องมาจิกตาหาเรื่องด้วย ชาติก่อนเป็นไก่หรือไงวะ! “ไม่ได้หาเรื่องนะคะ แค่เห็นชายหญิงจับมือกันมันไม่เหมาะสม” คนมาใหม่เสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าฉันไม่ใช่ลูกล่อให้เขาตะคอกใส่ได้ เซฟหัวเราะเพื่อคลายบรรยากาศตึงเครียด “เฮ้ยๆ ไม่เอาดิ ไม่ทะเลาะกัน อันนี้หลินที่จะมาเข้าชมรมเราคนใหม่น่ะ” “เราไม่ได้อยากทะเลาะนะ แต่เพื่อนเซฟเริ่มก่อน ปากอ่ะพูดดีๆ ไม่เป็นเหรอ ไม่เห็นต้องมากระชากแขนออก โตๆ กันแล้ว” “หลิน” เซฟตบบ่าฉันให้อารมณ์เย็นลง เพราะใบหน้ากวนประสาทของคนตรงหน้าทำให้ฉันหงุดหงิด ฉันสะบัดไหล่ก่อนจะขยับขาเข้าไปใกล้มันอย่างเอาเรื่อง “ก็มันจริงอ่ะ มาเรียกเราว่าอีได้ไงวะ พึ่งเจอหน้าครั้งแรกอ่ะ มารยาทอ่ะมีปะ?” “ใจเย็นๆ น่า เราขอโทษแทนมันละกันนะ” เซฟรั้งแขนฉันไว้ ในขณะที่คนถูกด่าเบิกตาโตเอามือทาบอกอย่างตกใจที่ฉันใส่ๆๆๆ เขาแรงขนาดนั้น ฉันไม่ใช่คนอารมณ์ร้ายนะ แต่ถ้าร้ายมา ฉันคูณร้อย! “โอ๊ยตาย ประธานไปหานางมาจากหลุมไหนคะเนี่ย ดุจัง โนชน์ขอโทษค่ะ แค่ปากมันพาไป” เขาเอ่ยพลางทำตาสำนึกผิดเพื่อให้ฉันอารมณ์เย็นลง “เออ” ฉันพ่นลมหายใจดังฟู่ก่อนจะหันไปเจอรอยยิ้มหวานที่ทำให้อารมณ์โกรธของฉันหดหายไปในทันที “ใจเย็นลงยัง?” เขาถามพลางสบตาฉัน “นิดนึง” “งั้นเดี๋ยวเราแนะนำใหม่นะ อันนี้หลิน สมาชิกชมรมคนใหม่” เขาผายมือมาทางฉันพลางแนะนำให้ไอ้แว่นแต๋วแตกนั่นรู้จัก นางพยักหน้ารับเบาๆ แล้วยิ้มให้ แต่ฉันไม่ยิ้มตอบ พร้อมเบะปากใส่แม่งด้วย “หลิน อันนี้มาโนชน์ รองประธานชมรมเรา” เขาผายมือไปทางมาโนชน์ที่ริอาจหาเรื่องฉันเมื่อกี้ นางยกยิ้มอีกทีแล้วโบกมือไหวๆ หวังให้ฉันยิ้มหรือส่งปฏิกิริยาตอบรับ ฉันเลยเบะปากใส่มันอีกที ไม่ญาติดีด้วยหรอก หมั่นไส้ “แหะๆ ท่าทางนางจะโกรธโนชน์จริงนะคะ ยิ้มให้ไม่ตอบเลย” พอเห็นฉันไม่ญาติดีด้วย เขาก็หันไปขอความช่วยเหลือจากเซฟ เซฟยิ้มแหยๆ ก่อนจะปรายสายตาอ้อนวอนมาทางฉัน หยุด... หยุดเลยนะ หยุด! ไม่ได้ผลหรอก! “หลิน ไม่โกรธดิ เราลำบากใจนะ” เขาถอนหายใจยาวทำเอาฉันรู้สึกผิดไปด้วย ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ฉันแค่ไม่ชอบที่จู่ๆ มาเรียกฉันว่า ‘อี’ ทั้งที่ไม่รู้จัก มันดูไร้มารยาท “เซฟไม่ต้องมาง้อแทนเพื่อนหรอก เราไม่ได้โกรธอะไร แต่เราแค่ไม่ชอบ” ฉันเอ่ยพลางปรายหางตาไปยังมาโนชน์ตั้งแต่หัวจรดเท้า คิดอยู่นานว่าจะพูดดีมั้ย ฉันเป็นคนชัดเจนชอบขีดเส้นคั่นสถานะ ฉันก็เลย... “ถ้าเขาอยากอยู่อย่างสงบๆ ก็อย่าให้เพื่อนเซฟมายุ่งกับเรา”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม