เล่มนี้มีนิยายสองเรื่องคือ พี่เขยครับผมรับไม่ไหว และ พี่เขยเถื่อนสวาท
(พี่เขยครับผมรับไม่ไหว)
เชียงใหม่ พุทธศักราช 2563
ช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอม ผมยังจดจำได้ไม่เคยลืม วันนั้นผมเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงสนามบินเชียงใหม่ในตอนค่ำ พอถึงจุดหมายผมก็โทรหาพี่ดาว
‘ดาวริน’ เธอเป็นพี่สาวของผม
“ถึงแล้วครับพี่… ”
ผมยืนอยู่ที่ร้านกาแฟภายในสนามบิน ใกล้กับประตูทางออก
“บอมม์… อยู่ตรงไหน… ”
พี่สาวถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น นานเกือบปีกว่าแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน
“ร้านกาแฟครับ… พี่ดาวล่ะอยู่ตรงไหน”
ผมถาม ดีใจไม่ต่างกันที่จะได้เจอพี่สาว แม้ว่าพี่ดาวจะเป็นพี่สาวต่างมารดากับผม
“พี่ก็อยู่ร้านกาแฟใกล้ประตูทางออกนะ… ”
พี่ดาวบอกชื่อร้าน… ผมค่อยๆ หมุนตัวหันหลังกลับมาเหมือนภาพสโลว์โมชั่น เราเกือบชนกัน
“บอมม์… ”
พี่ดาวอุทานเรียกชื่อผม ที่แท้ก็อยู่ข้างหลังนี่เอง พี่ดาวจับมือผมเขย่าด้วยความดีใจ
“หล่อขึ้นนะเรา… เอ๊ะ… หรือว่าสวยขึ้น… ”
พี่ดาวชมผมอย่างพี่น้องที่รู้จักธาตุแท้กันเป็นอย่างดี เพราะว่าช่วงชีวิตในวัยเด็กของเราถูกเลี้ยงดูมาด้วยกัน
เราพากันเดินเข้าไปหาฝรั่งร่างสูงใหญ่ นั่งรออยู่ในร้านกาแฟ
“นี่พี่แดนน์… สามีพี่… ”
พี่ชายแนะนำฝรั่งรูปหล่อที่ตาของผมกำลังจ้องมองด้วยความตะลึงพรึงเพริด สามีของพี่สาวหล่อวัวตายความล้ม
“สวัสดีครับ… ยินดีที่ได้รู้จักนะ… ”
พี่แดนน์ยื่นมือออกมาเช็กแฮนด์ เราจับมือกัน มือของพี่แดนน์ใหญ่มากจริงๆ ใหญ่จนแทบจะกำทั้งมือของผมได้เลยทีเดียว
ในเวลาต่อมา
เมื่อออกมาจากสนามบินเชียงใหม่ พี่แดนน์กับพี่ดาวพาผมแวะมากินมื้อค่ำที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมือง
ร้านนี้ตกแต่งได้บรรยากาศมาก ทั้งร้านขายแต่อาหารเหนือ มีเกือบทุกเมนู แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คือแกงฮังเลที่ผมไม่เคยลืมกลิ่นเครื่องเทศที่แม้ผมจะไม่รู้จักว่ามันคืออะไรบ้าง แต่กลิ่นนั้นยังจดจำได้ไม่ลืม
ผมชอบความรู้สึกตอนที่รสแกงกำซาบเข้ามาที่ลิ้น กลิ่นนั้นหอม แกงฮังเลไม่เผ็ดร้อน รสชาติออกจะหวานด้วยซ้ำ แต่ก็กลมกล่อม โดยเฉพาะเนื้อหมูสามชั้นที่เคี่ยวจนมันเปื่อยยุ่ยละมุนลิ้น ทำให้ผมกินข้าวได้มากเป็นพิเศษ
วันนั้นจึงเป็นมื้อค่ำที่อิ่มหนำสำราญมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้กินอาหารเหนืออย่างผม
เรานั่งฟังเพลงคำเมืองที่บรรเลงอะคูสติกสดๆ ได้อารมณ์สุดๆ ผมชอบเพลงเหนือที่มีท่วงทำนองดนตรีเป็นเอกลักษณ์แสนไพเราะ
และในระหว่างที่พี่แดนน์เดินออกไปจากโต๊ะอาหารเพื่อจะเข้าห้องน้ำ ผมกับพี่สาวก็แอบชวนกันเมาท์เรื่องของพี่เขย
“พี่แดนน์สัญชาติอะไรครับ… ”
ผมถามพี่ดาวด้วยความสงสัย
“อิตาเลี่ยนจ้ะ… ”
พี่ดาวตอบ…
เราคุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ จนได้รู้ว่าพี่แดนน์คนนี้เป็นลูกครึ่งที่เกิดจากพ่อซึ่งเป็นชาวอิตาลีกับแม่คนไทย
ตอนนี้พ่อกับแม่พี่แดนน์ให้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ แต่พี่แดนน์เลือกที่จะมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย หลังจากได้เจอกับพี่ดาว
พี่แดนน์กับพี่ดาวพบรักกันกลางอากาศ ทั้งสองเจอกันบนเครื่องบิน เพราะว่าพี่ดาวเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินแห่งหนึ่ง และวันนั้นพี่แดนน์นั่งมาพอดี ก็เลยเจอกัน
ทั้งสองตกหลุมรักกันในเวลาอันสั้น จากนั้นก็ตัดสินใจแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย
พี่แดนน์ซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ของโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ตั้งอยู่เชิงดอย ใช้ชีวิตร่วมกับพี่ดาวในบ้านหลังนี้มาปีกว่า
“เมื่อก่อนพี่แดนน์ทำงานอะไรครับ… ”
ผมถามต่อด้วยความอยากรู้
“เมื่อก่อนพี่แดนน์เคยเป็นสถาปนิกจ้ะ แต่ตอนนี่เปลี่ยนมาทำธุรกิจส่วนตัว… ”
พี่ดาวบอกเล่าประวัติโดยย่อของพี่เขยให้ผมฟัง ผมไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมพี่แดนน์รวยจัง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้พี่แดนน์พาเที่ยวนะ… ”
พี่ดาวกล่าวราวกับว่าตัวเองจะไม่อยู่
“อ้าว… แล้วพี่ดาวไม่อยู่ด้วยหรือครับ… ”
ผมสงสัยจึงรีบถาม
“ใช่… พี่มีบิน… อีกห้าวันเจอกันนะ… ”
พี่ดาวตอบ…
ซึ่งผมก็เคยรู้มาว่าคนที่มีอาชีพเป็นสจ๊วดหรือแอร์โฮสเตสจะไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือนักขัตฤกษ์แบบพนักงานออฟฟิศทั่วไป แต่จะทำงานและหยุดตามตารางเวลาของสายการบินที่สังกัด
“ว้า… เสียดายจังครับ… ”
ใจจริงผมอยากให้พี่สาวได้เที่ยวด้วยกัน
“ไม่เป็นไร… แค่ห้าวันเดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว”
พี่ดาวเอื้อมมือมาขยี้หัวผม
ตอนนั้นพี่แดนน์เดินกลับมาที่โต๊ะพอดี เราสามคนนั่งคุยกันต่อมาอีกครู่สั้นๆ ก็พากันกลับ
ในเวลาต่อมา
วันรุ่งขึ้น…
ผมรู้สึกอายจังที่นอนตื่นสาย พอเดินลงบันไดมาที่ชั้นล่าง กลิ่นหอมของอาหารที่โชยมาแตะจมูก เร่งเร้ากระตุ้นความอยากรู้ให้ผมต้องเดินตามมาถึงในครัว เห็นพี่แดนน์กำลังยืนทำอาหาร
“สวัสดีครับพี่แดนน์… ”
ผมกล่าวทักทายเมื่อชะโงกใบหน้าผ่านกรอบประตูเข้ามาในห้องครัว
พลันสายตาปะทะเข้ากับโครงร่างสูงใหญ่ กำลังยืนอยู่หน้าเตาทำอาหาร
“เสร็จแล้ว… หิวหรือยังน้องบอมม์… ”
พี่แดนน์หันมาส่งยิ้ม ผมยอมรับว่าหลงเสน่ห์พี่เขาเข้าอย่างจัง
“ครับ… ว้าว… น่ากินจัง”
ผมมองผัดสปาเกตตีในจาน
“หิวใช่ไหม… ”
“ครับ… ”
“งั้นก็จัดการเลย… ”
พี่แดนน์ถือจานมาวางลงบนโต๊ะ เรานั่งกินสปาเกตตีด้วยกัน
“อร่อยมากครับ… ”
ฝีมือของพี่เขยคนนี้ไม่ธรรมดาจนผมต้องเอ่ยชม
“เมนูง่ายๆ พี่พอทำได้… ”
พี่แดนน์ตอบ เอื้อมมือมารินน้ำใส่แก้วให้ผม
“ผัดสปาเกตตีก็ไม่ง่ายนะครับ… พี่แดนน์เรียนทำอาหารมาหรือครับ”
ผมสงสัย คนอะไรทั้งหล่อทั้งเก่ง
“พี่นั่งดูจากยูทูปน่ะ… ”
“เก่งจังครับ… ”
ผมชมจากใจจริง…
เรานั่งคุยกันต่อมาอีกพักใหญ่ๆ สรุปว่าวันนี้พี่แดนน์จะพาผมไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์ และคืนนี้เราจะนอนค้างคืนบนดอย