แม่จ๋าหย๋อ

1901 คำ
"หวัดดีจ้ะพู่พู่ ไว้เราค่อยคุยกันนะ" "..." เด็กหญิงตัวน้อยพยักหัวหงึกหงัก ก่อนที่ลี่จูจะหันไปคุยกับแม่เฒ่าเมิ่งซูเจินต่อ "หนูชื่อเจียงลี่จูค่ะคุณป้า หนูถูกป้าแท้ ๆ พาตัวมาขายทดแทนหนี้สินให้คนบ้านนั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นทุบตีหนูจนเป็นแบบที่เห็นค่ะ" ลี่จูเล่าเรื่องราวพอสังเขปเพราะเธอยังจดจำปะติดปะต่อเรื่องราวของเด็กสาวคนนี้ไม่ได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่โชคดีก็คือเจ้าของร่างนี้มีชื่อแซ่เดียวกันกับเธอ เพียงแต่รูปร่างหน้าตาและอายุเด็กกว่าเธอในปัจจุบันที่เธอจากมา "แล้วแม่หนูจะเอายังไงต่อ? ถ้าหนูไม่รังเกียจอยากจะพักอยู่กับเราที่นี่ก็ได้นะ เพียงแต่บ้านของพวกเราอาจจะเก่าและทรุดโทรมไปหน่อย" คนป่วยยิ้มอ่อนให้กับความจิตใจดีของคนบ้านนี้ ตอนนี้เธอไม่ต่างจากเผือกร้อนที่ถูกโยนเข้ามาในมือ หากไม่รีบวางลงคงหนีไม่พ้นจะต้องเจ็บปวด ถึงอย่างนั้นทุกคนในบ้านหลังนี้ก็ยังไม่ต่อว่าหรือขับไล่ไสส่งเธอสักคำ "นังหนูก็ต้องอยู่ที่นี่สิยายเฒ่า ไม่ได้ยินที่บ้านหลักพูดรึอย่างไงกัน" ยังไม่ทันที่ลี่จูจะได้ตอบกลับ เสียงของพ่อเฒ่าเมิ่งฉือก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน ทางด้านลูกชายที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่เหนื่อยอ่อนให้กับการที่บิดาของเขายอมอยู่ใต้อาณัติของพี่ชายต่างมารดาไปเสียทุกอย่าง "พ่อครับ ผมว่าพ่อไม่จำเป็นต้องทำตามที่คนบ้านโน้นบอกทุกอย่างก็ได้ แค่ต้องหาเงินส่งให้บ้านโน้นทุกเดือนก็มากพอแล้วนะครับ ผมไม่เห็นว่าพวกเค้าจะช่วยเหลืออะไรเราสักอย่าง" "หนูขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องทะเลาะกันนะคะ แต่ตอนนี้หนูไม่มีที่ไปจริง ๆ ขอหนูพักที่นี่ไปก่อน ระหว่างนี้หนูจะได้หาเงิน 200 หยวนใช้หนี้ครอบครัวนั้นไปด้วย รับรองว่าหนูจะไม่ทำให้ทุกคนในบ้านหลังนี้เดือดร้อนและไม่ทำตัวให้เป็นภาระแน่นอนค่ะ" หญิงสาวเริ่มรู้สึกไม่ดีที่เธอกลายเป็นสาเหตุทำให้ทุกคนต้องทะเลาะกัน เธอจึงรีบเอ่ยเพื่อหาทางออกให้กับทุกคน "ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น" คนหน้านิ่งรีบตอบกลับก่อนที่เด็กสาวตรงหน้าจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เขาเพียงแค่อยากให้ผู้เป็นบิดาเข้มแข็งกว่านี้และไม่ยอมให้บ้านหลักมากดขี่หรือหากินกับความกตัญญูของคนอื่นก็เท่านั้น "เอาล่ะ ๆ ตกลงว่าแม่หนูอยู่ที่นี่ต่อไปได้ แต่เรื่องความเหมาะสมล่ะ จะทำยังไง หรือแม่หนูลี่จูจะยกน้ำชาเป็นสะใภ้บ้านรองของเราเลยดีไหม? ว่ายังไงแม่หนู" ผู้เฒ่าเมิ่งฉือยังคงมีความพยายามที่จะทำตามความต้องการของคนบ้านหลัก แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เพื่อตัวเด็กสาวและลูกชายของเขาเอง การที่ให้เด็กสาวคนนี้มาอยู่ในบ้านย่อมต้องสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของเธอเอง เป็นอย่างนั้นแล้วใครจะแต่งเธอเข้าสกุลกันเล่า และอีกมุมหนึ่งก็เป็นเพราะพ่อเฒ่าเมิ่งฉืออยากให้ลูกชายของตนมีคนดูแล นับตั้งแต่ที่ซูอี้อุ้มลูกน้อยกลับบ้านมาเมื่อ 2 ปีก่อนชายหนุ่มก็ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย ครั้นถามหาแม่ของเมิ่งพู่พู่ก็ไร้ซึ่งคำตอบใด ๆ หากเป็นเช่นนั้นต่อไปใครจะดูแลหลานน้อยของท่านในยามที่ท่านทั้งสองจากไปแล้ว "ได้เหรอคะ พู่พู่จ๊ะ เรามาเป็นแม่ลูกกันดีไหม? แม่จ๋ามีขนมอร่อย ๆ ให้พู่พู่เยอะเลยนะ" ลี่จูยิ้มกริ่มก่อนจะตอบกลับพ่อเฒ่าเมิ่งฉือ ก่อนจะหันไปพูดกับเด็กสาวตัวน้อยด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อ่อนโยน เมิ่งซูอี้ที่ได้ยินเด็กสาวตรงหน้าพูดแบบนั้นก็รู้สึกคันยุกยิกในใจ ลี่จูต้องถามเค้าสิ! ทำไมถามพู่พู่ล่ะ ในเมื่อเธอจะมาเป็นแม่ของพู่พู่นั่นก็หมายความว่าเธอต้องเป็นเมียของเขาไม่ใช่หรืออย่างไร? "แม่จ๋าหย๋อ~ ฮึก ปู้ปู้จะอาวแม่จ๋า" เด็กหญิงตัวน้อยตาใสแป๋วเคียงคอถามลี่จูด้วยความสงสัย เวลาที่เธอเดินผ่านพี่ ๆ ที่โตกว่าทุกคนมักจะบอกว่าพู่พู่เป็นเด็กไม่มีแม่และไม่ค่อยมีใครอยากเล่นกับเธอ แต่วันนี้พู่พู่มีแม่แล้ว ต่อไปจะไม่มีใครล้อพู่พู่แล้ว "ใช่จ้ะ แม่จ๋าขอเป็นแม่ของพู่พู่ได้ไหมจ๊ะ" "ดะ..ได้เยย ปู้ปู้ยักแม่จ๋า ฮึก" เด็กหญิงตัวน้อยโผเข้ากอดลี่จูทั้งน้ำตา คุณแม่มือใหม่กระชับอ้อมกอดเด็กหญิงตัวน้อยพร้อมกับลูบหลังเพื่อปลอบโยนเมื่อรับรู้ได้ถึงน้ำสีใสที่ไหลเปียกชื้นเปื้อนเสื้อของตน ภาพของลี่จูกับพู่พู่ทำให้พ่อเฒ่าและแม่เฒ่ารวมถึงซูอี้ต่างก็ใจอ่อนยวบด้วยความสงสาร ใครกันที่บอกว่าเด็กไม่มีหัวใจ ใครกันที่บอกว่าเด็กไม่มีความรู้สึก ไม่จริง พู่พู่รับรู้ได้ทุกอย่างและยังมีความต้องการไม่ต่างจากผู้ใหญ่ทุกคน "โอ๋เอ๋ ไม่ร้องนะเด็กดี พรุ่งนี้แม่จ๋าจะให้กินช็อกโกแลตดีไหม?" "ฮึก อึก ช็อกแยตหย๋อ ช็อกแย็ตเป็งงายแม่จ๋า แม่จ๋าปู้ดจิงน๊า~" "ช็อกโกแลตเป็นขนมสีน้ำตาล รสชาติหวาน ๆ แม่จ๋าพูดจริงจ้ะ แม่จ๋าไม่โกหก ฮึบเร็วเข้า ฮึบ" "อึบ อึบ อึบ ฮึก~ อึบแย้ว~" ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยริ้วรอยฟกช้ำเผยรอยยิ้มละมุนจนซูอี้สายตาพร่าเบลอ มันก็ดีอยู่หรอกหากลูกของเขาจะมีรอยยิ้มและมีความสุข แต่ถ้าลี่จูสัญญาแล้วทำไม่ได้จะเป็นยังไงต่อ พู่พู่ไม่ต้องเสียใจกว่าเดิมหรอกหรือ "ดึกมากแล้วพ่อกับแม่ไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะออกมานอนข้างนอกเอง ส่วนคุณก็นอนให้ห้องของผมไปก่อนก็ได้ แต่ก่อนไปผมขอคุยอะไรด้วยหน่อย" ซูอี้ตีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะเอ่ยเบา ๆ ไม่ให้พู่พู่ตกใจ แต่มีหรือที่พ่อเฒ่าเมิ่งฉือจะปล่อยผ่าน ยิ่งได้เห็นว่าลี่จูกับพู่พู่เข้ากันได้ดีขนาดนี้พรุ่งนี้ท่านต้องให้ทั้งสองยกน้ำชาพาสะใภ้เข้าบ้านให้ถูกต้อง "จะไปนอนก็ได้ แต่พ่อขอถามทั้งสองคนให้ชัดเจนก่อน" "..." "..." "ตกลงว่าแม่หนูลี่จูยินดีแต่งเข้าบ้านรองของเราไหม? แล้วลูกล่ะอาอี้ ลูกยินดีจะแต่งลี่จูมาเป็นภรรยา มาเป็นแม่ของพู่พู่รึเปล่า?" "ป้อจ๋าแต่งเยย~ ปู้ปู้อยากมีแม่จ๋า น๊าป้อจ๋า~" เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่บนตักของลี่จูส่งเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับสายตาอ้อนวอนไปทางที่พ่อจ๋าของเธอนั่งอยู่ "หนูยินดีแต่งเข้าค่ะ แม่จ๋าจะเป็นแม่ที่ดีของพู่พู่นะจ๊ะ แล้วพี่ชายจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะขอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ หรือพี่มีใครอยู่ในใจแล้วรึเปล่า?" ลี่จูลองหยั่งเชิงเมิ่งซูอี้ว่าอีกฝ่ายจะตอบอย่างไร แม้ว่าเธอจะรู้อยู่แล้วซูอี้เป็นพ่อหม้ายลูกติดก็ตาม "ผมไม่มีปัญหา แต่อย่างเดียวที่อยากจะขอก็คืออย่ารับปากอะไรลูกถ้าคุณทำไม่ได้ ผมไม่อยากให้พู่พู่เสียใจทีหลัง" ถึงซูอี้จะไม่รู้ว่าช็อกโกแลตที่เธอพูดถึงจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ต้องเตือนเธอไว้ก่อนว่าไม่ควรให้ความหวังที่ไม่มีทางเป็นความจริงได้ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกน้อยเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องที่เด็ก ๆ ในหมู่บ้านเทียวพูดล้อเลียนลูกของตนที่ไม่มีแม่ แต่ซูอี้เลือกที่จะปล่อยผ่านเพราะไม่อยากไปทะเลาะกับเด็ก ๆ "ตกลงค่ะ" "เย้~ ปู้ปู้มีแม่จ๋าแย้ว~" รอยยิ้มของเด็กหญิงตัวน้อยเป็นดั่งหยดน้ำฝนชโลมจิตใจที่ห่อเหี่ยวของทุกคนได้เป็นอย่างดี "เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าแม่จะเตรียมน้ำชาให้ทั้งสองนะลูก งั้นคืนนี้ก็แยกย้ายกันไปนอนดีกว่า" แม่เฒ่าเมิ่งซูเจินที่ฟังอยู่เงียบ ๆ ได้โอกาสเหมาะเจาะจึงเอ่ยขึ้น ตามด้วยสามีของนางที่สมทบขึ้นอีกที "ไหน ๆ ก็ตกลงว่าจะยกน้ำชากันแล้วก็ไม่ต้องแยกที่นอนหรอกอาอี้ คืนนี้ก็เข้าไปนอนที่ห้องโน้นทั้งพ่อทั้งลูกเลยก็แล้วกัน" "นองด้วยกังหย๋อปู่จ๋า~ ปู้ปู้ได้นองกะป้อจ๋าแม่จ๋าด้วยหย๋อ เย้~ ดีตี้ฉุด ปายนอง ๆ " เด็กหญิงตัวน้อยพูดจบก็เดินนำหน้าทุกคนเข้าห้องนอนของพ่อเธอไป ส่วนลี่จูกับซูอี้ต่างก็หน้าแดงทำตัวไม่ถูก ส่วนลี่จูเองก็เป็นครั้งแรกที่จะได้นอนใกล้เพศตรงข้าม ก้อนเนื้อในอกซ้ายจึงเต้นระส่ำเป็นจังหวะรัวเร็วดั่งกลองเพล "ฮะ ฮะ ฮะ พู่พู่เอ๊ย เอาน้องเล็กมาฝากปู่ด้วยนะลูก" "ตาเฒ่า! อย่าไปแซวลูก ไป ๆ เข้าไปนอนได้แล้ว" "ได้เยยปู่จ๋า~ ป้อจ๋า แม่จ๋า ปู้ปู้อยากได้น้องเยว ๆ ซี๊~" บทสนทนาของปู่กับหลานทำให้ใบหน้าของลี่จูกับซูอี้แดงปลั่งไม่ต่างจากลูกตำลึงสุก ก่อนที่ลี่จูจะค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นจากแคร่กลางบ้านโดยมีซูอี้คอยช่วยพยุงอีกแรง "ไปแล้วลูกไปแล้ว พู่พู่ช่วยพ่อจ๋าจัดที่นอนให้แม่จ๋าได้ไหมคะ หนูเห็นไหมว่าแม่จ๋ายังตัวร้อนอยู่เลย" "ได้เยยป้อจ๋า~" เด็กหญิงตัวน้อยรีบปีนขึ้นบนเตียงเตาก่อนจะหยิบหมอนกับผ้าห่มมาเตรียมให้แม่จ๋าของเธออย่างรวดเร็ว การสนทนาของสองพ่อลูกสร้างรอยยิ้มให้ลี่จูได้เป็นอย่างดี มองปราดเดียวก็รู้ว่าเมิ่งซูอี้พื้นฐานจิตใจเป็นคนอบอุ่น ถึงจะชอบตีหน้าตึงก็เถอะ ส่วนเรื่องยากดีมีจนไม่ใช่ปัญหาของลี่จูเลยสักนิด เธอมั่นใจเกินร้อยว่าเธอสามารถนำพาบ้านรองสกุลเมิ่งให้ร่ำรวยและสุขสบายได้ ขอเพียงแค่คู่ครองของเธอเป็นคนรักมั่นใจเดียว การงานหนักเบาไม่ท้อถอยเท่านั้นก็เกินพอแล้ว คืนนี้เป็นคืนที่เมิ่งพู่พู่นอนยิ้มอย่างมีความสุข มือเล็ก ๆ ของเด็กน้อยจับมือแม่จ๋าของเธอเอาไว้แน่เพราะกลัวว่าพอตื่นมาแม่จ๋าของเธอจะหายไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม