ศิลานักล่าวิญญาณ

ใส่บาตร

“ อ๊ากกกกกกก ท่านคงช่วยข้าด้วย อ๊าาาาาาา นังเด็กนั้นมันทำร้ายข้า “ วิญญาณท่านขุน เดินเซซ้ายเซขวาด้วยสภาพบอบช้ำเป็นอย่างมา ก่อนจะเล่าบอกกล่าวเรื่องที่ศิลาได้ฝากมาบอกหมอผีคง อาจารย์คงได้ฟังแบบนั้นเขาก้กำมือขึ้นมาก่อนจะทุบลงที่ตักของตัวเองด้วยความโกรธแค้นเป้นอย่างมากที่เด็กเพิ่งเกิดมาขัดขาเขาแบบนี้

ปึก

“ หึ อีเด็กฝรั่งตาน้ำข้าว มึงกล้าดียังไงบังอาจมายุ่งกับเรื่องของกู “ อาจารย์คงเอากำปั้นทุบที่หน้าขาของตัวเอง พร้อมกับด่าออกมาด้วยความโกรธแค้น

“ ดีถ้าอย่างนั้นกูจะรอมึงอยู่ที่นี้ “ หมอผีคงกัดกรามแน่นด้วยความโกรธแค้นเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าเด็กเพิ่งเกิดมาขู่เขาแบบนี้

ทางด้านศิลา

“ เอาละ พี่จุ๊ก พี่ทับทิม พี่ขุน ลบุงหาญด้วย พวกคุณไม่ต้องตามศิลาไปนะคะ เรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือพวกพี่หรอกคะศิลาคนเดียวก็พอเดี๋ยวพี่กับลุงไปเดี๋ยวตำหนักหมอผีคงจะเละ5555 “ ศิลาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลกที่จริงแล้วเธอไม่ให้ผีทั้ง4ตนไปด้วยเพราะว่าที่นั้นเป็นถิ่นของมัน ศิลากว่าว่าทั้ง4จะพลาดท่าได้ ทั้ง4ตนเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดเยิ่นยอตัวเองแบบนั้นต่างก็พากันยืดอกอ่างภูมิใจ ที่โดนเจ้านายตัน้อยยอ

“ เอาละคะไปใส่บาตรกัน เดี๋ยวศิลาจะเข้าไปในหมู่บ้านแล้วโทรหาม๋ามิ๊สะหน่อย “ ศิลาเธอคิดว่าตัวเองจะไปหาหมอผีคงอยู่แล้วเธอก้คิดว่าจะเข้าไปโทรหามม่ามิ๊สักหน่อยเพราะตั้งแต่มาเธอไม่ได้โทรหาแม่เลยเพราะที่นี้ไม่มีสัญญาณ และโทรศัพท์แบรตก็หมด ผีทั้ง4เมื่อได้ยินเจ้านายชวนไปใส่บาตรทั้ง4ตนก็รีบจัดเสื้อผ้าที่อยุ่ในตัวให้เรียบร้อย ศิลาที่ติดการแต่งตัวสมัยตะวันตก บวกกับที่เมื่อไทยอากาศร้อนเธอเลยเอามาแต่เสื้อผ้าสบายๆเท่านั้นเสื้อผ้าที่มีแบบทางการไม่มีหรอกด้วยความเซ้อของเธอทำให้ ใครๆก็ไม่คิดว่าเธอมีตังแต่ความจริงแล้วนางรวยมาก ….( มาก….จริงๆ) เพราะพ่อของนางเป็นถึงเจ้าของธนาคารโลก ไม่รวยให้มันรู้ไปสิ

“ เอาละโยมตั้งใจรับพรนะ “ หลวงพ่อเอ้ยบอกศิลาก่อนจะมองมายังเธอด้วยสายตาที่แปลกใจ เพราะที่ท่านได้ยินว่าหมอผีใจบุญ ท่านที่เป็นพระใหม่ไม่คิดว่าที่ชาวบ้านเล่าจะเป็นลูกครึ่งที่ออกจะฝรั่งมากกว่าไทย และเสื้อผ้าหน้าผม รอยสักอีก พระใหม่มอมาที่ศิลาด้วยสายตาที่แปลกประหลาดเพราะท่านโตมาจากที่นี้ท่้านไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือหมอผีที่ไหนแต่งตัวแบบนี้มาก่อน

“ ท่านปาน อย่าแปลกใจเลยไม่อย่างนั้นจะมีคำที่บอกเหรอว่าอย่ามองคนแค่ภายนอก” หลวงตาเจ้าอาวาทปลามพระใหม่ที่เอาแต่จ้องศิลาด้วยสายตาที่แปลกใจเพราะท่านไม่คิดว่าหมอพี่ที่ชาวบ้านต่างเล่าขานกันจะเป็นเด็กและน่ารักออกทรงเด็กแว๊นมากกว่าหมอผี พระใหม่ได้ยินเสียงปลามของหลวงตาเจ้าอาวาทแบบนั้นท่านก็ได้สติก่อนจะสวดให้หญิงสาวกับผีที่นั่งอยู่ด้านข้า นอกจากศิลาแล้วก็หน้าจะเป็นหมาที่ตามมาบิณทบาตรนี้แหละที่มาทีไรก็หอนทุกที

“ อ๊ะ อู๊……….อ๊ะ….ฮู๊……” เสียงหมาหอนตลอดที่ระหว่างศิลาใส่บาตรแต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอรุ้ว่าหมาวัดเห็นอะไร

“ อายุวันโสุขังพลัง “ หลวงตาสวดให้หญิงสาวและผีทั้ง4ที่รอรับพรอยู่แล้วก็นั่งรับพรพร้อมกับจับชายเสื้อของคนเป้นเจ้านาย พระใหม่ที่เห้นแบบนั้นก็ตกใจจนแทบอยากวิ่งแต่เพราะเป็นพระเลยทำให้ท่านไม่สามารถสติแตกได้

“ สาธุ “ ศิลาเอ้ยสาธุ ก่อนจะทำท่าเข้าบ้านเอาน้ำไปกรวด ขณะที่ศิลากำลังจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านนั้นเธอก็ต้องหยุดสองเท้าทันที เมื่ออยู่ๆหลวงพ่อที่ไม่ค่อยคุยกับเธอ ก็เรียกเธอขึ้นมา

“ หนุศิลา ระวังตัวนะลูกอย่าประมาทคนชั่วยังไงก็คือคนชั่ว ต่อให้หนูให้โอกาส100ครั้งก็ไม่รู้จักกับตัว จะคิดหรือว่าทำอะไรต้องมีสติให้มากกว่าอารมณ์นะ “ หลวงตาเอ้ยกับศิลาเหมือนท่านรู้ว่าศิลากำลังจะไปไหน ศิลาเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มให้ท่านอย่างเอ็นดู

“ หลวงตาไม่ต้องห่วงเจ้าคะ ศิลารับรองว่าหลวงตาจะไม่ผิดหวังแล้วก็จะได้เห็นศิลามาใส่บาตรให้หลวงตาทุกเช้าเจ้าคะ” ศิลายิ้มหวานตอบหลวงตาเมื่อหลวงตาได้ยินแบบนั้นท่านก็รู้สึกสบายใจก่อนจะเดินนำทางพระใหม่พากลับวัด

“ เอาละพี่ๆ4ตน มารับบุญนะคะ ขอใหบุญที่ศิลาทำในวันนี้ศิลาขอมอบให้พี่จ๊ก พี่ทับทิม พี่ขุน ลุงหาญ และเจ้าที่บ้านหลังนี้นะเจ้าคะ ขอบคุณที่อยู่ช่วยเหลือกันมาตลอดจนถึงวันนี้ “ ศิลาที่กรวดน้ำเสร็จ ผีทั้ง4รวมทั้งเจ้าที่ก็รู้สึกอิ่มบุญเป็นอย่างมาก ศิลาเมื่อทำธุระเสร็จแล้วเธอก็เตรียมตัวเก็บของสำคัญที่เธอต้องได้ใช่เอาเข้ากระเป๋าเป้สุดสวยของเธอ เพราะการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปโทรหาแม่แต่มันหมายถึงศักดิ์ศรีของเธอเอง

“ เอาละคะพี่ๆรอศิลาอยู่บ้านนี้แหละคะห้ามออกไปเที่ยวที่ไหนด้วยนะคะ เดี๋ยวชาวบ้านแตกตื่น “ ศิลากำชับผีทั้ง4ตนเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดความรำคาญศิลาเลยไม่ยอมให้ผีออกไปนอกบ้านขณะที่เธอไท่อยู่ ผีทั้งตนเมื่อได้รับคำสั่งแบบนั้นของเจ้านายต่างก็พยักหน้ารับคำอย่างยินดี