Gloy’s part
ตื่นนอนบ่าย ๆ ตื่นมากินบะหมี่แล้วไปนอน แล้วค่อยตื่นมาตอนค่ำ ๆ ออกไปเดินตลาดใกล้ ๆ กับนุ่น หาอะไรอร่อย ๆ กินตามประสาสาวโสดกับวันหยุด ความตั้งใจพังทลายลงเมื่อไอ้เวรกราฟมาปลุกถึงห้อง
มันต้องการฝึกถ่ายรูป หวังจะไปถ่ายให้คนคุยของมัน เหอะ! คิดว่าตัวเองจะได้ถ่ายหรือไง มันคุยกันขนาดนั้น มันไม่รู้เลยเหรอว่าพริตตี้คนนั้นมีคนคุยต่อแถวยาวไปไหนต่อไหน รถไฟชนกันจัง ๆ มันยังโง่อยู่อีก
ที่จริงฉันจะไม่ไปถ่ายรูปด้วยหรอกนะ เพราะฉันคิดว่าไร้ประโยชน์ อย่างไรกราฟก็ไม่ได้เป็นคนถ่ายรูปให้อุ๋มแน่นอน อุ๋มก็มีคนคุยที่เป็นช่างภาพ เชื่อเถอะว่าต้องตามมาถ่ายให้ แล้วกราฟจะฝึกถ่ายไปเพื่อ?
ฉันยอมตกลงออกมาด้วยเพราะอยากให้กราฟเลิกอ้อนสักที ตอนที่กราฟเอาของกินมาหลอกล่อ ฉันไม่ได้สนใจเลยสักนิด ของกินพวกนั้น ฉันไปกินกับกลุ่มเพื่อนเป็นประจำ เรียกได้ว่ากินจนเบื่อ แต่พอกราฟยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ หัวใจฉันสั่นไหวแปลก ๆ มันเต้นแรงจนยากเกินจะควบคุม ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะฉันตกใจ ก็คิดดูสิ ลืมตาขึ้นมาก็ใบหน้ามันชัด ๆ เต็มตา จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร
แต่ดันไม่จบแค่นั้น ตอนที่กราฟโผเข้ากอดฉันไว้แน่น ฉันก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เกิดมาไม่เคยมีแฟน นอกจากพ่อและพี่ชายก็ไม่เคยมี
ผู้ชายคนไหนกอดฉันแน่นแบบนี้เลย…
“เพิ่มเบคอนสามที่ค่ะ และก็เอาหมูนุ่มด้วย” ฉันบอกกับพนักงานของร้านปิ้งย่างในห้าง ก่อนจะคีบเนื้อที่ย่างเสร็จแล้วมาจิ้มน้ำจิ้มแล้วยัด
เข้าปาก ดื่มด่ำกับเนื้อหอม ๆ คลุกน้ำจิ้มที่มีพริกขี้หนูติดอยู่ มันอร่อยเหาะจนไม่อยากสนใจเพื่อนร่วมโต๊ะที่เอาแต่แชตคุยกับสาว
กราฟเขาทำตามที่พูดไว้คือพามาเลี้ยง ฉันก็เลือกปิ้งย่างนี่แหละ
ไม่รู้จะกินร้านไหนดี เรามาหาอะไรกินเพื่อฆ่าเวลา กว่าจะไปถ่ายรูปกันก็เย็น ๆ แต่มันดันมาปลุกฉันตอนสาย แทนที่จะมาปลุกตอนบ่าย บ้าบอจริง ๆ เลย
“กูดูในเฟซบุ๊ก เขาบอกว่าชั้นจีมีบูทหนังสือมาเปิดหลายร้าน
ลดราคาด้วย ไปเดินเล่นกันเปล่า” กราฟหันหน้าจอสมาร์ตโฟนมาให้ฉันดู ฉันก็นึกว่ามันแชตกับอุ๋มเสียอีก ที่แท้ก็ดูเฟซบุ๊ก
“ไปดิ แต่รอกูอิ่มก่อนนะ” ตอนนี้ยังไม่ถึงเสี้ยวของกระเพาะ ขอใส่ลงไปให้แน่นก่อน แล้วค่อยไปเดินย่อยทีหลัง
“ครับคุณ” กราฟตอบด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ก่อนจะจัดการคีบเบคอนบนเตา จิ้มน้ำจิ้มแล้วยื่นมาที่ปากฉัน
ป้อน? มันจะป้อนฉันทำไม แต่ชิ้นเบคอนจ่ออยู่ที่ปากฉันแล้ว น้ำจิ้มที่จิ้มมาฉ่ำ ๆ ก็เริ่มหยดลงที่โต๊ะ ฉันเลิกหาเหตุผลที่กราฟป้อนฉัน แล้วจัดการงับเข้าปากไปเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย
ฉันรู้สึกว่าถูกจ้องมองอยู่ตลอด หันซ้ายหันขวาไม่มีใครมอง มีแค่
ไอ้คนตรงหน้านี่แหละที่มอง ฉันรีบยกมือขึ้นลูบริมฝีปาก น้ำจิ้มเลอะหรืออย่างไร มันถึงได้เอาแต่มองหน้าฉัน แต่จากที่ลูบก็ไม่มีอะไรเปรอะเปื้อนนะ
แล้วมันมองอะไรของมันวะ
กราฟมองจนฉันแทบกินต่อไม่ได้ เลยดีดนิ้วตรงหน้ามันเสียงดังเป๊าะ! กราฟสะดุ้งเล็กน้อยแล้วยกแก้วชามะนาวของโปรดขึ้นมาดื่ม
“มึงมองหน้ากูทำไมนักหนา มองจนกูกินไม่ลงแล้ว”
“กูกำลังจินตนาการว่ามึงคืออุ๋ม”
ได้ยินคำตอบของกราฟแล้วฉันกลืนหมูไม่ลง แถมยังกลอกตาไปมา ไม่รู้มันไปหลงเสน่ห์อุ๋มขนาดนั้นได้ไง ก็แค่สวย เซ็กซี่ หุ่นเป๊ะ โดดเด่น
ออร่าพุ่งกระจาย แค่นี้เอง จะหลงอะไรขนาดนั้น
“กูคือกลอย กลอย กลอย ท่องไว้ว่ากลอย มโนเชี่ยอะไรนักหนา” ฉันย้ำชื่อตัวเองหลายครั้ง เผื่อว่ากราฟจะซึมซับเข้าสมอง และเลิกมโนว่าฉันคืออุ๋ม
“เออ มึงคือกลอย เพื่อนสนิทของกู”
ฉันนิ่งไปชั่วขณะที่กราฟย้ำสถานะ มองหน้ากราฟที่กำลังสนใจกับหมูบนเตา สะบัดศีรษะเล็กน้อยแล้วกินต่อ
เราออกจากร้านปิ้งย่างมาเดินย่อยกันที่ชั้นจี ฉันแยกกันเดินกับกราฟเพราะเรามีความชอบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน กราฟไปดูพวกนิตยสารเกี่ยวกับรถ ส่วนฉันน่ะนิยายบ้าง อาหารบ้าง มาสะดุดที่สมุดสีชมพูสวยหวาน
“ขอเปิดดูด้านในได้ไหมคะ” ฉันถามพี่คนขาย พี่เขาอนุญาตให้ฉันแกะดูได้ ฉันเบามือมาก ๆ กลัวว่าพลาสติดจะขาด
ด้านในขนาดบรรทัดกำลังดี แถมมีลายน่ารัก ๆ ฉันถูกใจมากก็เลยซื้อมา วันนี้วันที่หนึ่งพอดี และสมุดไดอารี่เล่มเก่าก็เต็มพอดี ได้เปลี่ยนใหม่เลย
ฉันน่ะชอบบันทึกเรื่องราวลงไปในสมุด เวลาย้อนกลับมาอ่านร้องเชี่ยดังมากทุกครั้ง อารมณ์แบบ ‘ตอนนั้นกูทำไปได้อย่างไร’ แต่ก็ตลกดี เวลาเหงา ๆ เอามาอ่านนี่หายเหงาเลยนะ ฉันเขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นนั้น ไม่ว่าจะดีหรือร้าย จะทุเรศทุรังขนาดไหนฉันก็เขียน…
กราฟพาฉันมาที่สนามดริฟต์ มันบอกว่าบรรยากาศก็คล้าย ๆ กันกับสนามแข่ง อุปกรณ์ถ่ายรูปของกราฟก็คือสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มันใช้อยู่นี่แหละ
ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าพริตตี้เขาจะโพสท่ากันอย่างไร ฉันโพสตามที่ฉันชอบโพส จิกกล้องอะไรงี้ทำไม่เป็นหรอก กราฟให้ฉันไปโพสหลายมุม กับรถบ้าง กับพื้นบ้าง ฉันก็เต็มที่ ตามใจกราฟเลย
ช่างภาพฝึกหัดถ่ายไปยิ้มไป มันคงจินตนาการว่าฉันคืออุ๋มอีก
นั่นแหละ ฉันโพสจนเมื่อยไปหมดแล้ว ยิ้มจนขี้เกียจยิ้ม ถ้าจะให้ยิ้มมากกว่านี้ก็ต้องอาศัยสมุนไพรบางอย่างแล้ว
“พอได้ละ กูขี้เกียจ” ฉันเดินเข้าไปหากราฟแล้วดึงสมาร์ตโฟนจากมือของกราฟมากดดูรูป
กราฟมายืนข้าง ๆ แล้วยกแขนขึ้นกอดคอฉัน ดวงตาของฉันเบิกโพลงด้วยความตกใจ กอดคอฉันเพื่อ? ฉันดันแขนเขาออก แล้วส่งสมาร์ตโฟนคืนไป
“มึงว่าสวยปะ” กราฟถาม
“สวย กูสวย รูปก็ต้องออกมาสวยสิวะ” ฉันตอบกลับไปแบบกวน ๆ ฉันก็รู้ว่ากราฟหมายถึงมุม แสง อะไรแบบนั้น แต่ที่ฉันกวนเล่น ก็เพราะอยากให้สมองของฉันเลิกคิดเรื่องเมื่อสักครู่
กราฟยกแขนขึ้นกอดคอฉันอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น กราฟรั้งตัวฉันให้เข้าไปใกล้ ๆ แล้วทำท่าจะตีเข่าใส่ท้องฉัน ฉันต้องคอยหลบทั้งที่เขากอดคอฉันไว้อยู่
เสียงหัวเราะของกราฟดังแข่งกับเสียงโวยวายของฉัน ฉันเลิกโวยวายแล้วขำไปกับเขา เสียงของเราดังจนพี่เจ้าของสนามเดินเข้ามาหา พี่เขารู้จักกับกราฟ ก็รู้จักทั้งทีมวินโซนนั่นแหละ
ระหว่างที่เขาคุยกัน ฉันหลบมายืนอยู่ข้างรถ ยกมือขึ้นกุมหน้าอก ไม่รู้ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงแบบนี้ วันนี้กราฟทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ หลายรอบแล้วนะ!