"คุณแม่?"
"นี่มันอะไรกัน!" อัญชัญมองมือที่เกาะแขนลูกชายแบบไม่พอใจเอามากๆ
หญิงสาวเห็นสายตานั้นแล้วกำลังจะชักมือออก แต่ถูกเขาเหนี่ยวรั้งไว้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงจะปฏิเสธ ..แต่ครั้งนี้จากที่ทำแค่เกาะ มือเรียวเลื่อนขึ้นเป็นคล้องแขนเขาไว้ เหมือนคู่รักทั่วไปที่ทำกัน
"ผมกำลังจะออกไปทานข้าวข้างนอกครับ คุณแม่มีธุระอะไร" ชายหนุ่มมองดูผู้หญิงที่มากับแม่แบบไม่พอใจ
"แม่กำลังจะมาชวนลูกไปทานข้าวนั่นแหละ พอดีเลยออกไปทานพร้อมกัน"
"ผมจะไปทานกับ.." สายตาของเขามองกลับมาดูคนที่กอดแขนเขาอยู่ กลัวว่าเธอจะไม่เล่นละครด้วย
"ฉันหิวแล้วค่ะเรารีบไปกันเถอะ" รรรรรรรู้ดีว่าเวลานี้เธอต้องทำยังไง
"คุณแม่คะ เอมมี่ว่าเรากลับกันดีกว่า" หญิงสาวที่มากับอัญชัญเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่สื่อออกมาให้เห็นว่าเสียใจมาก กับภาพที่เห็นอยู่ในเวลานี้
"หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ตัวจริงจะกลัวอะไรล่ะ"
"แม่จะพูดอะไรก็สงสารเมียผมบ้างสิ"
"เมีย?" เห็นควงแขนกันก็ว่าตกใจมากแล้ว แต่ได้ยินคำว่าเมียออกจากปากท่านประธาน นิรันดร์ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
"แกจะเอาใครเป็นเมียกี่ร้อยกี่พันคนแม่ไม่ว่า แต่คนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่มีแค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น!"
"คงไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่ ดิฉันไม่ได้ใจกว้างพอที่จะแบ่งสามีให้ใครต่อใครขนาดนั้น" รรรรรรต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เพราะเธอต้องได้เงินก้อนนั้นให้เร็วที่สุด ถ้าขืนยังมัวคุยกันอยู่หน้าลิฟต์แบบนี้ คงผ่าตัดพี่สาวไม่ทันแน่
ที่เธอไม่ได้บอกความจริงกับเขาไป ว่าตอนนี้พี่สาวของเธอประสบอุบัติเหตุ ..ก็เพราะว่าตอนที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เธอไม่ยอมช่วย ..แต่พอเวลาที่เธอต้องการบ้าง กลับรีบวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากเขาแบบนี้ รรรรรรก็เลยยอมทำตามข้อเสนอที่เขาเคยยื่นมาให้ เพื่อแลกกับเงินก้อนนั้น
"นี่เธอ!!" อัญชัญตะคอกเสียงแรงใส่ผู้หญิงอวดเก่งที่อยู่ตรงหน้า
"วันหลังค่อยคุยกันดีกว่าครับแม่ ถ้าพนักงานมาเห็นมันจะไม่ดีนะ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็พาเธอเดินเลี่ยงผู้เป็นแม่เข้าไปในลิฟต์ที่ถูกกดค้างไว้ ส่วนแม่ของเขาทำได้แค่ยืนมองทั้งสองลงลิฟต์ไป ด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น ผู้หญิงคนก่อนนางยังจัดการมาได้ ทำไมจะจัดการอีกสักคนไม่ได้
"ท่านประธานคะ" ในขณะที่ลงลิฟต์มา หญิงสาวก็ได้เอ่ยพูดอีกครั้ง
"ค่อยคุยกันบนรถ"
นิรันดร์ที่ยืนอยู่ในลิฟต์ด้วยก็แปลกใจ เพราะตอนนี้น้ำเสียงของท่านประธานไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ต่อหน้าแม่ของท่านเลย
พอเดินมาถึงรถ คฑาก็สั่งให้นิรันดร์เป็นคนขับ โดยที่ไม่ใช้คนขับรถประจำ เพราะเรื่องนี้เขาจะให้รู้หลายคนไม่ได้
"ฉันคุยได้แล้วใช่ไหมคะ" ในขณะที่พูดเธอไม่ได้มองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่สายตาของเธอมองไปดูผู้ช่วยของเขาที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่
"พูดมา"
"ฉันต้องการเงินหนึ่งล้านบาท"
"หนึ่งล้าน? ขอโทษครับ" คนที่ตกใจก็คือนิรันดร์อีกนั่นแหละ เพราะตอนนี้พอจะเดาทางออกแล้ว
"ได้"
"ฉันต้องการเดี๋ยวนี้"
"แต่เรายังไม่ตกลงอะไรกันเลย" เขาเป็นนักธุรกิจ ไม่มีทางที่จะจ่ายเงินก่อนจะคุยธุรกิจแน่
"ฉันตกลงทุกอย่าง"
"ตกลงทุกอย่าง?" สายตาคมมองจ้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกาย เมื่อวานนี้เธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ "ถ้าง่ายแบบนี้แต่ทีแรก ก็ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว"
"ค่ะ..ฉันขอโทษด้วยที่ทำตัวให้ยาก" ไม่ว่าเขาจะว่าอะไร ตอนนี้เธอรับได้หมด ขอแค่ให้ได้เงินก้อนนั้นมาก่อน เพราะตอนนี้ ห้องผ่าตัดรอแค่เธอโทรไปคอนเฟิร์ม