ภายในร้านกาแฟแบรนด์ดัง โดมินิกลงจากเครื่องบินแล้วกำลังนั่งรอให้โรเจอร์นำรถมารับ โดยระหว่างนั้นเขาก็อ่านแฟ้มประวัติของครอบครัวเจตนิพัทธ์ไปด้วย เขาอ่านจบและปิดลงอย่างไม่สนใจอีกต่อไปเนื่องจากสมองชาญฉลาดจดจำได้หมดในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดมินิกเหยียดยิ้ม ครอบครัวเจตนิพัทธ์มีจุดโหว่ให้เขาเล่นงานได้หลายอย่างอย่างแรกก็คือเรื่องธุรกิจที่เริ่มขาดสภาพคล่อง เขาก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ใกล้ได้เวลาที่จะไปสะสางเรื่องเจตนิพัทธ์ให้เสร็จเสียที
ร่างสูงลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่ ดันประตูออกไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ไม่สนว่าจะมีสาวๆมองตามตาปรอยพร้อมจะทอดสะพานคอนกรีตมาให้อย่างไร เพราะเขามีจุดมุ่งหมายอย่างอื่นที่สำคัญกว่า ทว่าดวงตาสีฟ้าต้องเบิกกว้าง นิ่งงันอยู่กับที่เมื่อเห็นร่างบอบบางคุ้นตาเดินผ่านหน้าไปในอีกฟากถนน เขาเพ่งมองอยู่ครู่ถึงมั่นใจว่าเขาจำคนไม่ผิด
“ไม่คิดว่าจะมีโชคสองชั้น” โดมินิกหัวเราะในลำคอ ดวงตาเป็นประกายพราวระยับ
อีกฟากตรงข้ามหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางในชุดเดรสทำงานพอดีตัวสีดำสนิทกำลังเดินเร็วๆ ออกมาจากร้านอาหารร้านหนึ่ง เธอเดินปะปนกับคนอื่นๆที่เป็นเพื่อนร่วมทาง แต่ความสวยเปล่งปลั่งของเธอกระจายออกแผ่รอบตัวจนสะดุดตาเขาเข้าอย่างจัง
โดมินิกรีบก้าวออกมาจากประตู แล้ววิ่งข้ามถนนตรงไปทางที่เธอเดินปะปนกับคนอื่นๆ โดมินิกคิดว่าเขาจำไม่ผิดเธอคือ พบขวัญ ทวีกานต์ คู่นอนคืนเดียวที่หนีหายจากเขาไปทันทีในวันรุ่งขึ้น เธอเป็นอดีตพนักงานของเขาด้วยอีกหนึ่งตำแหน่งแต่ก็ลาออกไปทันทีหลังจากผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนด้วยกันซึ่งเขาอยากรู้นักว่ามันเกิดอะไรขึ้น
พบขวัญทำให้เขาเสียความมั่นใจพอควร เขาทำอะไรพลาดไปเธอถึงได้รีบร้อนจากไปไม่แม้กระทั่งบอกลา โดมินิกเสียดายที่ยังรู้จักเธอไม่เต็มที่ กินเธอไม่เต็มคราบ แต่เธอก็มาชิงลาออกหนีกลับบ้านเกิดเมืองนอนเสียก่อน
แม้ไม่รู้ว่าเธอจะเดินไปสิ้นสุดที่ไหน แต่เขาจะต้องตามไปคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เขารีบสาวเท้าเร็วๆจนทันเธอขณะเธอเดินเข้าไปภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ด้วยเสียงดังจอแจ กับความพลุกพล่านของคนที่มาช้อปปิ้งทำให้คนที่ถูกตามมานานไม่ทันสังเกต
โดมินิกจำดวงตาคู่หวาน กับรอยยิ้มสดใสของพบขวัญได้ เธอน่ากินและถ้ามีโอกาสได้กินซ้ำสองเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนั้นแน่ ร่างสูงใหญ่เดินตามร่างเล็กบางเข้าไปถึงด้านในศูนย์การค้า โดมินิกเห็นเธอหายเข้าไปในมุมที่เป็นห้องน้ำหญิง จะเดินตามเข้าไปก็ต้องชะงักฝีเท้าไว้อย่างใจเย็น ก็พอดีกับเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น โดมินิกกดรับเขารู้ว่าเป็นโรเจอร์ตั้งแต่ยังไม่มองชื่อคนโทรเข้ามาด้วยซ้ำ
“ว่าไง มาถึงแล้วหรือ รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวฉันทำธุระเสร็จจะตามไป เท่านี้ก่อน” โดมินิกวางสายทันทีอย่างไม่มีอารมณ์จะคุยต่อ ตอนนี้มีอารมณ์อย่างเดียวคืออยากสานสัมพันธ์กับเธอคนนั้น พบขวัญ เขาจะต้องถามถึงสาเหตุที่เธอหนีหายไปพร้อมกับต้อนเธอขึ้นเตียงให้ได้อีกครั้ง
เสียงน้ำในอ่างถูกก็อกดันปิด พบขวัญหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือก่อนสะพายกระเป๋าแนบลำตัวแล้วผลักประตูห้องน้ำออกมา เธอเดินเร็วๆไปที่ลานจอดรถ วันนี้เธอออกมากินข้าวกลางวันนอกบริษัทฯเพราะต้องมาซื้อของใช้เข้าบ้าน เลยต้องยอมฝ่ารถติดออกมา ทั้งนม ทั้งแพมเพิร์สหมดพร้อมกันพอดีจนไม่สามารถรอได้อีกต่อไป หัวอกคนเป็นแม่กลัวลูกจะอดก็ต้องรีบออกมาหาซื้อไว้แม้นมจะมีราคาแพงขึ้นตลอดแต่ทุกๆเดือนมันคือสิ่งแรกที่เธอจะซื้อเข้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออดได้แต่ลูกอดไม่ได้
และด้วยความรีบเร่งกลัวเข้างานไม่ทันพบขวัญจึงไม่ทันระวังตัว ไม่รู้ว่ามีใครเดินตามออกมาด้วย พอหันกลับไปร่างบางก็ถูกมือหนาของใครไม่รู้คว้าตัวไว้แล้วดึงเข้าไปที่ประตูหนีไฟด้านหนึ่ง
ด้วยความตกใจพบขวัญหวีดร้องลั่น แต่ถูกมือหนาปิดปากไว้ ร่างบอบบางใช้ปลายรองเท้าส้นสูงกระแทกลงไปบนรองเท้าอีกฝ่ายเพื่อให้ร่างกายหลุดพ้นพันธนาการแต่เขาหลบทัน เธอมองคนทำเรื่องอุกอาจด้วยดวงตาหวาดผวาก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจตามด้วยประหลาดใจ
“คุณโดมินิก” เธอพึมพำชื่อนั้นในลำคอเพราะปากยังถูกปิดไว้ด้วยมือกำยำ
ร่างทั้งร่างถูกคนตัวใหญ่ดันให้ติดผนังปูนด้านหนึ่ง เขาแนบร่างมากดทับเธอไว้ ทำให้พบขวัญรับรู้ถึงความทรงพลังในความเป็นบุรุษเพศของเขา เธอดิ้นรนน้อยลงเพราะรู้แล้วว่าไม่ใช่มิจฉาชีพแต่เป็นคนที่เธอคิดว่าหนีเขามาพ้นแล้วและอ้อนวอนพระเจ้าขออย่าได้เจอเขาอีกเลย
“พบขวัญใช่คุณจริงๆใช่ไหมไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกคุณที่นี่ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” โดมินิกบอกความตั้งใจ
“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่รู้จักคุณ” พบขวัญส่ายหน้าปฏิเสธแต่มีหรือที่โดมินิกจะเชื่อ เขายิ้มเย็น ประสานสายตากับดวงตากลมโตที่แสนตื่นตระหนกไม่ต่างจากกวางน้อยที่ติดบ่วงแร้วนายพราน
“ผมจำคุณได้ทุกส่วนเลยพบขวัญ รวมถึงปานแดงเล็กๆใต้ราวนม”
พบขวัญเบิกตากว้าง “คุณมันบ้า บางเรื่องไม่ต้องจำก็ได้”
แล้วพบขวัญก็รู้ว่าเธอพลาดท่าเขาให้แล้ว นี่แหละนะที่เขาเรียกว่าโกรธคือโง่โมโหคือบ้า
“ใช่คุณจริงๆด้วย ยอมรับมาเถอะ” เขาบอกแล้วยังกักร่างบอบบางไว้ในวงแขน
พบขวัญยังส่ายหน้าดิ้นรนไม่ยอมรับ ทำให้โดมินิกโน้มหน้าเข้าไปใกล้แล้วทำให้พบขวัญร้องตื่นตระหนก เพราะบางอย่างที่แข็งขึงของเขากำลังดุนดันหน้าท้องเธอ
“อย่าค่ะคุณเฮลตัน”
“นั่นแน่ผมยังไม่ได้บอกชื่อคุณเลย คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไงกัน ไหนว่าไม่รู้จักกันหรือว่าคุณเป็นหมอดูเลยเดาชื่อผมได้แม่นมาก” เขาถามเสียงยั่วเย้า ยียวน แล้วโน้มหน้าเข้ามาสูดดมความหอมหวานจากซอกคอขาวผ่อง ปลายจมูกโด่งจัดคลอเคลียแถวใบหูไม่ห่าง ราวกับราชสีห์เย้าแหย่เหยื่อก่อนจะขย้ำกิน
ขนคอของพบขวัญลุกชัน รีบรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปกลับมาผลักอกแกร่งออก แล้วเบี่ยงตัวหลบจากวงแขนเขา
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ คุณมันพวกฉวยโอกาสกับผู้หญิง ฉันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคุยด้วยฉันกลัวแฟนมาเห็น” พบขวัญอ้าง สีหน้าขึงขัง
“เดี๋ยวก่อนสิ คุยกันก่อน ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงหนีผมกลับเมืองไทย ผมจะไม่บอกเขาหรอกว่าคืนนั้นเรามีซัมติงกันแล้ว แค่คุณบอกผมหน่อยสิว่าคืนนั้นทำไมคุณกลับไปโดยไม่บอกผม”
โดมินิกรู้สึกไม่ชอบนักเมื่ออีกฝ่ายอ้างว่าแฟนเธอจะมาเห็นแต่เขาก็ไม่ได้แคร์อะไรนักคนนอนกันแค่คืนเดียวเธออาจจะมีแฟนมาก่อนหน้าเขา หรือหลังจากที่นอนกับเขาแล้วเธออาจจะมีใครต่อจากเขาอีกมากมายก็ไม่เห็นแปลก แต่มันแปลกที่เขาใช้ความเจ้าเล่ห์หลอกเธอขึ้นเตียงด้วยอย่างง่ายๆ แล้วพบว่าเธอยังเป็นสาวเวอร์จิ้นมันถึงทำให้คาใจ