บทที่ 2 จุดเริ่มต้น

1302 คำ
ชายแปลกหน้าค่อยๆ ลืมตาตื่นเงยมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเพียงแค่เห็นรับรู้ได้ว่าเขาคือใคร เสียงหัวเราะดังก้องขึ้นมา “พวกแกมีแผนจะทำอะไรอีก!” “ต่อให้ตายฉันก็ไม่บอกอะไรแกหรอก!”ยิ้มเยาะติดตามมา เซ็ทชะงักอารมณ์เดือดดาลคว้าปืนจากลูกน้องจ่อตรงศีรษะแต่เหมือนมันจะไม่สะทกสะท้านยังคงหัวเราะลั่นเหมือนต้องการยั่วยุ “เดี๋ยวครับคุณชาย”ฟาวิโอ่ห้าม ก่อนหยิบรูปถ่ายออกมาแล้วจ่อตรงหน้า “นี่ลูกสาวแกใช่ไหม แล้วนี่ก็เมียแก คนนี้ใช่แม่ของแกหรือเปล่า อันตัส!” เงยหน้ามองชายร่างสันทัดแววตาแข็งกร้าว ลมหายใจติดขัด เลือดในกายเดือดพล่านพยายามดิ้นรนน้ำตาคลอ “ไอ้ชั่ว แกจะทำอะไรครอบครัวฉัน!” ผลั่ก! เสียงหมัดกระแทกปากคนโดนเลือดไหลกลบ จ้องมองแววตาอาฆาต คนปล่อยหมัดยืนนิ่งสนิทเหมือนเคย “หึ!” ยิ้มเย้ย “แล้วการที่แกจะวางระเบิดโรงแรมฉันโดยไม่สนว่าใครจะตายหรือไม่ นั่นไม่เรียกว่าชั่วเหรอ แกไม่สนด้วยซ้ำว่าคนเหล่านั้นจะเป็นครอบครัวของใคร มันก็คุ้มกันแล้วนี่... กับการทีแกจะต้องสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรักดูบ้าง!” ร่างกำยำขยับกายหมายจะพุ่งชนเซ็ท ความแค้นนี้จะไม่มีวันจางหากลูกเมียเป็นอะไรไป “ถ้าแกทำอะไรครอบครัวฉัน... ฉันสาบานเลยว่าต่อให้กลายเป็นผีก็จะไม่ละเว้นพวกแก!” “ก่อนแกจะอาฆาตคิดว่าฉันจะฆ่าลูกเมียแกแล้วล่ะก็ ช่วยกรุณาคายเรื่องที่พวกแกจะทำต่อไปเสียก่อน แล้วลูกเมียแกจะปลอดภัย ดีไหม... ถือเป็นข้อตกลงตามธรรมเนียมเลยก็ว่าได้”เซ็ทย่อกายลงจ้องมองใบหน้าเขียวช้ำ “ตัดสินใจซะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเอาคำตอบ” ลุกยืนเช่นเดิมหันหลังสาวเท้าตั้งใจเดินออกจากห้องใต้ดิน อันตัสขบกรามแน่น จำต้องทรยศต่อตระกูลอันเคยเกื้อหนุนเขามาตลอด “เดี๋ยวก่อน!” เซ็ทชะงักเท้าหันหลังกลับมามอง “มีอะไร!” “ฉันจะบอกความจริงกับพวกแก!” เซ็ทยิ้มแล้วก้าวเดินหยุดยืนตรงหน้าผู้ร้าย อันตัสเงยหน้าข่มกลั้นความเจ็บใจ “พรุ่งนี้จะมีการประชุมลับระหว่างผู้ถือหุ้นของพวกแก ระหว่างการเดินทางไปประชุมที่เมืองมิลาน จะมีการวางระเบิดตามเส้นทาง!” คนฟังพูดไม่ออกขบกรามแน่นข่มอารมณ์ตนเอง เซ็ทสูดหายใจเข้าปอด “พวกแกรู้ได้ยังไงว่าทางอัลเล็นโซ่จะมีการประชุมลับกัน!” “เพราะทางอัลเล็นโซ่มีหนอนบ่อนไส้ แถมยัง... เป็นตัวใหญ่ซะด้วย”น้ำเสียงเหมือนเยาะ เซ็ทหันมองลูกน้องแววตาแข็งกร้าว เกิดเรื่องใหญ่แน่หากมีใครต้องจบชีวิตลง คงต้องแจ้งเรื่องนี้ให้พี่ชายทราบเสียก่อน “เกรเต้รีบไปรายงานพี่ซาฟให้รู้ด้วย!” “ครับ”บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำเร่งฝีเท้าออกไป มองสภาพสะบักสะบอมของอันตัส คนอย่างเขาไม่เคยคิดฆ่าใครอยู่แล้วถ้ามันไม่จวนตัว ในเมื่อได้ข้อมูลมาก็ถือว่าดีไม่น้อย ไม่อย่างนั้นอาจมีใครได้รับอันตรายกันบ้าง “ฟาวิโอ่ พามันไปส่งตำรวจหลังจากจัดการเรื่องวางระเบิดเรียบร้อย เพราะเราไม่แน่ใจว่ามันจะพูดจริงหรือเปล่า”เซ็ทบอกลูกน้อง “ครับ” ตอนนี้คงโล่งได้เปราะหนึ่งเพราะพี่ชายคนโตทำงานรวดเร็วและเฉียบขาด คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่หนอนบ่อนไส้ตัวสำคัญนี่สิมันคือใครกันแน่ “ฉันบอกความจริงพวกแกไปแล้ว ชะ...ช่วยฟังคำขอร้องสักอย่างได้ไหม!”น้ำตาคลอ “เรื่องอะไร!”เซ็ทย้อนถามเสียงห้วน “ช่วย...คุ้มครองลูกเมียฉันหน่อยได้ไหม ถ้าหากท่านรัสตินรู้ว่าฉันถูกจับตัวได้ ลูกเมียฉันจะต้องถูกฆ่าแน่ๆ” เห็นแววตาส่งมา ซ่อนความเจ็บปวด หวาดกลัวไว้ “ก็ได้ ฉันตกลงรับปากแก แต่แกต้องไปสารภาพเรื่องทั้งหมดกับตำรวจด้วยเหมือนกัน”เซ็ทยื่นข้อเสนอ “ฉันยอมทำตามทุกอย่างขอแค่ครอบครัวฉันปลอดภัย!” “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้” ฟาวิโอ่เดินเคียงข้างเจ้านายออกมา นึกนับถือน้ำใจของชายคนนี้ อยู่กันมานานรวมสิบปีทำให้ได้เห็นหลายๆ อย่าง ยังกลุ้มใจไม่หายเรื่องที่ท่านซานโต้ของร้อง แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากทำมันเท่านั้น รู้ดีสถานการณ์อันกำลังจะเกิดนับจากนี้จะสร้างความแค้น เจ็บปวดให้ใครหลายคน หากไม่ลงมืออัลเล็นโซ่อาจถึงกาลวินาศจริงๆ ก็เป็นได้ ร่างสันทัดลุกจากเตียงนอนนาฬิกาตรงฝาผนังบอกเวลาตีสอง ขยับร่างกายไล่ความขบเมื่อยลุกยืนมองตัวเองในกระจกถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เสื้อคอกลมสีดำกับกางเกงสีเข้าชุดสวมทับด้วยแจ็กแก็ตสีน้ำตาล รองเท้าบูทเพื่อความคล่องตัว เช็คปืน มีดพก และระเบิดควัน ทุกอย่างครบครันเปิดประตูออกมาจากห้อง สองเท้าก้าวเดินอย่างเงียบเฉียบตามที่ได้ฝึกมา กวาดตามองอย่างระแวดระวัง แต่พยายามเดินให้เป็นปกติ ช่วงกลางดึกไม่มีบอดี้การ์ดด้านใน ช่วงประตูจะมีคนเฝ้าสองคนอาจเพราะพวกนั้นคิดว่ามีเขากับเกรเต้อยู่ใกล้ชิดเจ้านายแล้วก็เป็นได้ กริ๊ก! จับลูกบิดเปิดประตูเข้าห้องทำงานตู้เซฟแสนสำคัญอยู่ข้างโต๊ะ รีบเร่งฝีเท้า เพราะเข้านอกออกในบ่อยครั้งเลยพอรู้รหัสลับต่างๆ ของเจ้านาย บิดไม่กี่ครั้งตู้เปิดออก อัญมณีแสนล้ำค่ากำลังส่องประกายท้าแสงไฟ ฟาวิโอ่รีบหยิบเพชรหกเหลี่ยมเข้ากระเป๋าตนเอง หุนหันออกจากห้องอย่างรวดเร็ว สองเท้าก้าวเดินมาถึงหน้าประตู ลูกน้องหันมองสีหน้าแปลกใจ “จะไปไหนเหรอครับคุณฟาวิโอ่”บอดี้การ์ดหน้าประตูเอ่ยถาม “พอดีมีธุระนิดหน่อย” จ้ำก้าวถึงมอเตอร์ไซส์คันใหญ่ขึ้นคร่อมสตาร์ทเครื่องออกในทันใด ลูกน้องมองหน้ากันสีหน้างุนงง ตีสองกว่าจะไปไหนได้น่าแปลก แปดโมงเช้าร่างสูงลงจากชั้นบนนั่งลงบนเก้าอี้ไม้บุนวมสีไข่ไก่ หนังสือพิมพ์ถูกกางออกเพื่ออ่านข่าว เสียงฝีเท้าดังขึ้นแล้วหยุดลง เซ็ทเงยหน้าจากจุดสนใจแล้วมองเกรเต้ลูกน้องคนสนิท “ผมเรียนให้คุณชายซาฟทราบแล้วนะครับ ตอนนี้ท่านกำลังจัดการ” “อืม” “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เกรเต้ก้มศีรษะเล็กน้อย “เดี๋ยวก่อน” กวาดตามองรอบๆ “ฟาวิโอ่ไปไหน” เกรเต้ครุ่นคิด เขาเองก็ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้วเหมือนกัน “ผมก็ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้วครับ”เกรเต้บอก “ในห้องไม่มีเหรอ”เริ่มงุนงง ปกติฟาวิโอ่จะตื่นแต่เช้าตลอด “ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ผมไม่เห็นรถคุณฟาวิโอ่เลยครับ” คิ้วเข้มขมวดปิดหนังสือพิมพ์ลงแล้วลุกยืน สองเท้าก้าวเดินถึงหน้าคฤหาสน์ชะเง้อมองรถคู่ใจลูกน้อง ไม่มี หมายความว่ายังไงกันแน่ หันมาทางสาวใช้เก่าแก่ “เซร่าไปตามฟาวิโอ่ให้หน่อย” “ได้ค่ะ” สาวใช้กลางคนรีบวิ่งขึ้นชั้นสองเพื่อตามคนที่เจ้านายต้องการพบทันที ถึงหน้าห้องลองเคาะแต่ไม่มีเสียงใดตอบรับเลยถือวิสาสะเปิดออก เซร่ายืนงงเมื่อไม่เห็นผู้ใดลงมาก้าวยาวถึงเจ้านาย เซ็ทหันมองแววตาสับสนรู้ดีหากไม่มีร่างสันทัดติดตามคงไม่อยู่ ลางสังหรณ์บางอย่างเริ่มก่อตัว “คุณฟาวิโอ่ไม่ได้อยู่ในห้องค่ะ”รายงานแล้วถอยฉากออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม