พุทธศักราช 2562
ตอนใกล้เที่ยง ที่ฟาร์มโคนมแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ออนของจังหวัดเชียงใหม่
“เฮ้ย… ไอ้เรือง… ”
‘เรวัฒน์’ ชายวัยสี่สิบห้าผู้เป็นเจ้าของฟาร์มเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านอยู่ตรงหน้า ตะโกนออกมาด้วยแววตาดีใจที่ได้เจอเพื่อนรักซึ่งครั้งหนึ่งเคยคบหากันมานานตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักศึกษา
“โห… ไอ้วัฒน์… มียาดีอะไรวะ นี่มึงยังหนุ่มไม่เปลี่ยนแถมยังหล่อขึ้นด้วย”
เรืองฤทธิ์ตะลึงชม จ้องมองเพื่อนรักด้วยความตกใจ ด้วยเรวัฒน์ยังดูหนุ่มแน่นกว่าอายุจริง เนื้อตัวกำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม หน้าตาหล่อเหลาจนน่าทึ่ง รอยตีนกาสักเส้นบนใบหน้าก็แทบจะหาไม่เจอ
“ไม่ได้กินยาอะไรหรอกว่ะ… กูแค่ออกกำลังกายประจำ ต้องไม่เครียด ใช้ชีวิตให้เป็น ระวังเรื่องอาหารการกิน เหล้าเบียร์กูเลิกหมดแล้ว… ดีใจที่ได้เจอมึงว่ะเพื่อน”
เรืองฤทธิ์ตรงเข้าสวมกอดเพื่อนรัก เรวัฒน์บอกเคล็ดลับซึ่งดูเหมือนว่าทำได้ง่ายๆ แต่หลายคนก็ทำไม่ได้
“กูเชื่อว่าเหล้ายามึงเลิกได้… เรื่องเดียวที่มึงเลิกไม่ได้คือความเจ้าชู้หื่นกามใช่ป่ะวะ”
เรืองฤทธิ์แซวอย่างเพื่อนที่รู้นิสัยกันเป็นอย่างดี
“เออ… มึงนี่มันช่างรู้จริง สมกับเป็นเพื่อนกู แต่ตอนนี้กูหมดไฟกับเรื่องอย่างว่าแล้วว่ะ”
เรวัฒน์กล่าวติดตลกมากกว่าจะเป็นความจริง
“แล้วทำไมไม่แต่งงานใหม่วะ… จนป่านนี้แล้วมึงรอใครอยู่”
เรืองฤทธิ์สงสัย เรวัฒน์เป็นผู้ชายเพียบพร้อมทุกอย่าง มีทั้งฐานะและรูปร่างหน้าตา น่าจะเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ที่อยากได้ผัวเศรษฐี
“นั่นสิ… ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากูรอใครอยู่?”
เรวัฒน์กล่าวติดตลก หลังจากภรรยาตายจากไป เขาก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานใหม่ ไม่ใช่ว่าหมดความต้องการ เพียงแต่ในใจมันรู้สึกว่ากำลังรอใครสักคน… ใครที่ยังไม่เจอ… และไม่รู้ว่าอยู่ไหน รู้แค่ความรู้สึกสั่งให้รอ
“แล้วไหนลูกสาวมึง”
เรวัฒน์ถามถึงคนที่เรืองฤทธิ์ฝากให้มาฝึกงานที่ฟาร์มโคนมของเขา
“กำลังเดินตามมา… ”
เรืองฤทธิ์กล่าวพลางหันมองมายังลูกสาวที่ยังเพลิดเพลินอยู่กับการเดินชมฟาร์ม ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายภาพดอกไม้หลากสีสันท่ามกลางสนามหญ้าหน้าบ้าน ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกๆ อย่างรอบตัวของสาวน้อยล้วนน่าตื่นตาตื่นใจไปเสียหมด
“ยัยหนู… มาเร็วๆ… ”
เสียงเรียกของบิดา ทำให้ผู้เป็นลูกสาวเร่งฝีเท้าตามมาจนทัน
“ยัยฝ้าย… นี่ลุงวัฒน์เพื่อนรักของพ่อ”
เรืองฤทธิ์แนะนำเจ้าของฟาร์มรูปหล่อ สาวน้อยยกมือไหว้ ตะลึงมองในความหล่อเหลา
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
ปุยฝ้ายกระพุ่มมือไหว้ สิ่งแรกที่เกิดขึ้นเมื่อสบตากับเขาก็คือความรู้สึกคุ้น เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง เพียงแต่ยังนึกไม่ออก
“สวัสดีครับหนูปุยฝ้าย”
เรวัฒน์ไม่อาจละสายตาจากใบหน้าสะสวย ทั้งสองตะลึงงัน! ตาจ้องตา ความรู้สึกบางอย่างหลั่งไหลพรั่งพรูมาสู่กัน
เรวัฒน์สั่นศีรษะเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าภาพในความทรงจำกับความจริงกำลังทับซ้อนกัน รู้สึกเหมือนอาการที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ราวกับว่าความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นเมื่อในอดีตได้ย้อนคืนกลับมาเกิดซํ้าอีก ‘ปุยฝ้าย’ คือผู้หญิงปริศนาที่ปรากฏกายขึ้นในความฝันของเขาบ่อยๆ ในยามค่ำคืน
“ช่างบังเอิญ… ”
เรวัฒน์พึมพำ
“บังเอิญอะไรวะ?”
หัวคิ้วของเรืองฤทธิ์ชิดเข้าหากัน ไม่รู้ว่าเพื่อนรักกำลังจะบอกอะไร? เพราะว่าเรวัฒน์หยุดก่อน
ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะถ้าเรวัฒน์กล่าวออกมาว่าเขา ‘ได้เจอผู้หญิงที่อยู่ในความฝัน’ คงจะต้องจับเข่านั่งคุยกันอีกยาวถึงสิ่งเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในตอนนี้
“ไอ้วัฒน์… กูฝากลูกสาวด้วยนะโว้ย… ”
เรืองฤธิ์กล่าวพร้อมกับยกหลังมือขึ้นมองนาฬิกา ท่าทางรีบร้อน
“อ้าว… นี่มึงจะไม่ค้างกับกูสักคืนหรือวะไอ้เหี้ย… มึงอย่าบอกนะว่าจะกลับเลย”
“ใช่… พรุ่งนี้กูต้องบินแล้ว ขอโทษนะโว้ยที่อยู่ค้างคืนด้วยไม่ได้ อีกเดือนเจอกันตอนกูกลับมารับลูกสาว”
เรืองฤทธิ์ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายขายรถยนต์ญี่ปุ่นแบรนด์ดัง กำลังจะย้ายไปรับตำแหน่งผู้จัดการสาขาที่ประเทศเวียดนาม
“เออ… เดินทางปลอดภัยนะเพื่อน… ”
“กูฝากลูกสาวด้วยนะ”
เรืองฤทธิ์กล่าว สาเหตุที่ต้องพาลูกสาวมาฝากไว้กับเพื่อนรักก็เพราะว่าหลังจากภรรยาหนีตามชายชู้ไปเมื่อเจ็ดปีก่อน เรืองฤทธิ์ก็กลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี๋ยวที่ต้องเลี้ยงลูกเองมาตลอด ตอนที่ภรรยาหนีไปปุยฝ้ายเพิ่งอายุได้สิบสองขวบ ถึงตอนนี้ก็สิบเก้าปีบริบูรณ์
“ไม่ต้องห่วง… กูจะดูแลให้อย่างดี”
เรวัฒน์เอื้อมมือมาตบไหล่เพื่อนรัก นั่งคุยกันต่อมาอีกครู่สั้นๆ เรืองฤทธิ์ก็ขับรถออกไปจากฟาร์ม
ในเวลาต่อมา
หลังจากสาวใช้พาปุยฝ้ายเข้ามาชมห้องพักที่เรวัฒน์สั่งให้จัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเพื่อนจะมาอาศัยอยู่ด้วย
สาวใช้พาปุยฝ้ายเดินดูส่วนต่างๆ ของบ้านเพื่อให้หญิงสาวคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ จากนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนเย็น
“ดูอะไรอยู่คะหนูฝ้าย”
ที่เทอเรสหน้าบ้าน เรวัฒน์ร้องถามขณะหญิงสาวยืนอยู่ท่ามกลางสนามหญ้า ทอดสายตามองดูพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
“ชมวิวค่ะคุณลุง… ที่นี่อากาศดี๊ดีนะคะ”
หญิงสาวหันมามอง สะดุดตากับเรือนร่างกำยำของเรวัฒน์ที่อาบไปด้วยเหงื่อเลื่อมพราว ปั้นไหล่แน่นนูนไปด้วยมัดเนื้อ วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ
สาเหตุที่เรวัฒน์เปลือยอกท่อนบนก็เพราะว่าเพิ่งเดินออกมาจากยิมเล็กๆ ที่หลังบ้าน เป็นสถานที่ซึ่งเขาใช้ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำทุกเย็น