EP.2 CRAZY LOVE คลั่งรัก♥ ตอน ทำงานวันแรก

2199 คำ
EP.2 CRAZY LOVE คลั่งรัก♥ ตอน ทำงานวันแรก  เขามองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอหญิงสาวคนที่เพิ่งจะเสี่ยงตายด้วยกันเมื่อสักครู่นี้ มีแต่พวกนักแข่งคนอื่น ๆ ที่บาดเจ็บในการแข่งขันที่กำลังนั่งทำแผลกันอยู่เต็มไปหมด "พอเธอฟื้นได้สติก็รีบวิ่งออกไปเลยค่ะ" พยาบาลสาวหน้าสวยคนเดิมเดินมาหยุดตรงหน้าพร้อมกับอธิบายขึ้นด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน "เห็นเธอบอกว่ามีธุระด่วนค่ะ" "แต่เธอไม่มีบาดแผล หรือ อาการบาดเจ็บอะไรเลยนะคะ" "คุณฟาเรนไม่ต้องเป็นห่วงเธอหรอกนะคะ" พยาบาลหน้าสวยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและมองตรงมาที่ร่างสูงตรงหน้าของเธอพร้อมกับยิ้มละมุนให้กับเขาอย่างตั้งใจ "ฉันไม่ได้เป็นห่วงยัยนั่นสักหน่อย" เขากระตุกยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ในเต็นท์ปฐมพยาบาล พร้อมกับถอดเสื้อออกโชว์เรือนร่างกำยำ รอยสักบนแผ่นอกแกร่ง กล้ามท้องแน่นที่ได้มาจากกีฬาต่อยมวย ซึ่งเป็นงานอดิเรกอันแสนจะโปรดปรานของชายหนุ่มเลือดร้อนคนนี้ ไม่ว่าจะต่อยจริงหรือซ้อม ๆ เขาก็ใส่เต็มที่ไม่เคยมียั้งเลยสักครั้ง ทั้งรูปร่างและความแข็งแรงกำยำของฟาเรนจึงดึงดูดสายตาของสาว ๆ ได้ไม่ยากเลยสักนิด "เธอช่วยทำแผลให้ฉันหน่อย" สายตาเจ้าเล่ห์เหลือบมองไปทางหญิงสาวอย่างรู้ดีว่าเธอกำลังแอบมองเขาอยู่ตลอดเวลา เขาเหยียดยิ้มเพราะรู้อยู่แก่ใจว่า เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ "ได้เลยค่ะคุณฟาเรน" พยาบาลสาวยิ้มออกมาพร้อมกับรีบหยิบอุปกรณ์ทำแผลมา แอบลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นเรือนร่างกำยำของชายตรงหน้า "เดี๋ยวฉันจะทำแผลให้ อย่างเบามือที่สุดเลยนะคะ" เธอพูดเชิงขออนุญาตเจ้าตัวไปก่อนจะเริ่มทำแผลให้กับหนุ่มมาดเท่ตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง "ไม่ต้อง!" ฟาเรนหันไปพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะดึงฝ่ามือของพยาบาลสาวหน้าหวานคนนั้นมากุมเอาไว้แน่น เขาบีบแน่นมากจนเธอหน้าเสียเล็กน้อยเพราะเจ็บ แต่เธอก็ยังคงพยายามยิ้มสู้ "ฉันชอบความรุนแรง" ชายหนุ่มกัดริมฝีปากเล็กน้อยพูดพร้อมกับเหลือบมองเรือนร่างของเธออย่างพิจารณา "เธอทำแรง ๆ เลยก็ได้นะ" เขาพูดก่อนจะปล่อยฝ่ามือของพยาบาลสาวออกช้า ๆ เธอกลืนน้ำลายอย่างใจสั่น ๆ "ได้ค่ะ" เธอพยักหน้ารับและมองเขาด้วยสายตาที่หลงใหลใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางดิบเถื่อน ทางด้านของน้ำขิง หลังจากที่เห็นว่าเพื่อนรักอย่างไอรีนหายไปกับแฟนเก่าคนดีคนเดียวคนเดิมของเธอแล้ว เพื่อนรักอย่างน้ำขิงเองก็รู้สึกโล่งใจเพราะลึก ๆ แล้วน้ำขิงก็อยากให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจเข้าหากัน และเธอก็เชื่อว่าไม่มีใครทนเพื่อนเธอได้ดีเท่าวินด์เซอร์แล้วจริง ๆ บนโลกใบนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วินด์เซอร์กับไอรีนมีปัญหาและเลิกรากัน มันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่จะปล่อยพวกเขาทั้งคู่เอาไว้ด้วยกันเพื่อปรับความเข้าใจ บนแท็กซี่ - "จอดตรงหน้าผับนี้เลยค่ะ" เธอเอ่ยบอกกับคนขับแท็กซี่ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถทันทีที่จ่ายเงินเสร็จสรรพ เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะได้เริ่มทำงานในผับแห่งนี้ เพื่อหารายได้เสริมเนื่องจากทางบ้านประสบปัญหาทางการเงิน (ค่อนข้างหนัก) "ทำไมวันนี้มันถึงมีแต่เรื่องซวย ๆ เกิดขึ้นในชีวิตของฉันนะ" ฉันเอ่ยออกไปอย่างถอนหายใจรอบที่ล้านแปด แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะงานที่นี่ ทั้งเงินดีและไม่กระทบกับเวลาเรื่องช่วงเช้าอีกด้วย แม้ว่าเธอเองจะวิ่งทำงานหนักมากจนแทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบเลย แต่มันก็จำเป็นที่ต้องดิ้นรนต่อไปเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง และคนในครอบครัว เนื่องจากภาระหนี้สินของที่บ้านที่มีกำหนดจะต้องจ่ายทั้งดอกและต้นภายในสิ้นเดือนนี้ งานเสริมที่มีอยู่มันไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้นอกระบบที่พ่อเธอเป็นคนกู้มา ซึ่งดอกเบี้ยมันก็โหดมากและลักษณะการทวงหนี้ก็ป่าเถื่อน แถมคนปล่อยกู้ก็อยู่เหนือกฎหมายอีกซะด้วย แม้ว่าฉันจะพยายามห้ามปรามพ่อแล้วแต่สุดท้ายมันก็ไร้ประโยชน์ ทุกครั้งที่เจ้าหนี้มันมาทวงเงิน ความซวยมันก็มักจะตกมาอยู่ที่ฉันกับพี่สาว อย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงต่อชะตากรรมที่เกิดจากผู้เป็นพ่อของตัวเองได้เลย @ผับ XSO "วันแรก หล่อนมาสายไปสามชั่วโมง!" เสียงผู้หญิงวัยสามสิบต้น ๆ ตวาดลั่นใส่หน้าของเด็กสาวที่ยังคงเอาแต่ยืนก้มหน้าอย่างเกร็งและกลัวเธอจนตัวสั่น "นี่ถ้าไม่ใช่เด็กที่เพื่อนฉันฝากฝังมา ฉันคงไม่รับเธอเข้าทำงานแน่ ๆ " เธอพูดตำหนิฉันภายในห้องแต่งตัวของผับเปิดใหม่ในย่านทองหล่อที่มีชื่อแห่งหนึ่ง "หนูขอโทษจริงนะคะ ขอโทษมาก ๆ เลยค่ะ" น้ำขิงทำได้เพียงแค่ยกมือไหว้ขอโทษเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า "เฮ่อ เฮ่อ ๆ " สาววัยสามสิบถอนหายใจออกมาซ้ำ ๆ เพื่อแสดงให้เธอรับรู้ว่าหล่อนไม่พอใจเอามาก ๆ "อืม! จะขอโทษขอโพยไปก็เสียเวลาทำมาหากินเปล่า" เธอพูดปัด ๆ ก่อนจะเหลือบสายตาก็มองใบหน้าของเด็กสาวอย่างพิจารณา "หน้าตาไม่เลวเลย ไปทำหมอไหนมา?" เธอหรี่สายตามองทางน้ำขิงก่อนจะลูบใบหน้าที่เรียบเนียนและผิวพรรณขาวผ่องของเธอเบา ๆ และจับปลายคางดูใบหน้าของสาวสวยตรงหน้าอย่างละเอียด "หนู ไม่มีเงินไปทำศัลยกรรมหรอกค่ะ" เด็กสาวยิ้มเจื่อน ๆ ตอบไปอย่างแผ่วเบา "ต้นทุนเธอดีเหมือนกัน ก็ดีเหมาะกับงานที่สมัครเข้ามาทำดี เพราะงานนี้ต้องใช้หน้าตาเพื่อช่วยเรียกลูกค้า" เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติกว่าตอนแรกที่เจอกัน เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าอาจจะสามารถเป็นตัวชูโรงให้ผับแห่งนี้ได้ "ยังไงครั้งหน้าอย่าสายอีก เพราะต่อให้สวยแต่ไม่รักษาเวลา" "ฉันก็ไม่เอาเธอเหมือนกัน!" เธอพูดย้ำขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้าที่จริงจัง "รับทราบค่ะ" น้ำขิงรีบก้มหัวรับคำสั่งของเธอทันที "ฉันชื่อดาว เป็นคนคุมงานสาว ๆ ที่นี่และทุกคนที่นี่ก็เรียกฉันว่าเจ๊ดาว" เธอเอ่ยแนะนำตัวด้วยใบหน้าที่วางมาดเล็กน้อย "ค่ะเจ๊ดาว" ฉันก้มหัวอย่างอ่อนโน้มถ่อมตนอีกครั้ง เพราะเธอจำเป็นต้องทำงานเสริมนี้จริง ๆ "เธอชื่อน้ำขิงใช่ไหม?" เจ๊ดาวถามย้ำอีกครั้ง ซึ่งน้ำขิงก็รีบพยักหน้ารับทันที "นี่ป้ายชื่อของเธอ ติดไว้ที่อกแล้วเดินไปรับแขกโต๊ะ VIP 8 ตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย" เธอออกคำสั่งทันทีอย่างไม่รีรอ เพราะทุกวินาทีของที่นี่ดริงก์ มันคือเงิน "เงินวันนี้ฉันหักเธอ 50 % เพราะเธอมาช้า" เจ๊ดาวพูดขึ้นพร้อมกับเขียนลงในสมุดเงินของเธอ "โอเคไหม?" เจ๊ดาวเงยหน้าขึ้นมองอย่างรอฟังคำตอบ "ได้เลยค่ะ เจ๊ดาว" เด็กสาวรีบพยักหน้ารับทันที "อืม ถ้าอยากได้เงินเยอะ ๆ ก็หลอกเอาจากพวกแขกมาให้มากที่สุดแล้วกัน!!" เธอพูดพร้อมกับกวักมือเรียก "คนที่ทำงานที่นี่ส่วนใหญ่ได้ทิปหนักกว่าเงินเดือนเป็นหลายเท่า แต่เราเลือกแขกเองไม่ได้ จะแก่จะหนุ่มจะหล่อ จะไม่หล่อก็รับงานทั้งนั้น" เธอเอ่ยขึ้นอย่างแนะนำเพราะเห็นว่าเป็นเด็กใหม่ ที่ไม่เคยลองงานประเภทนี้มาก่อนเลย "เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหม?" เธอย้ำอีกครั้ง "ค่ะ" ฉันก็พยักหน้ารับอย่างเดียว "ถ้าเธอไม่สวยและรูปร่างไม่ดีแบบนี้ ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทฉันฝากงานมาฉันก็คงไม่รับแน่" แม้ว่าเจ๊ดาวจอมเหวี่ยงจะโกรธสาวนั่งดริงก์คนใหม่เอามาก ๆ แต่ด้วยหน้าตา และรูปร่างที่น่าจะดึงดูดพวกลูกค้าในร้าน เธอจึงคว้าตัวเด็กคนนี้เอาไว้ก่อน "เมเปิ้ลพายัยเด็กใหม่นี่ไปรับงานพร้อมเธอด้วยนะ" เธอแผดเสียงดังออกไปพร้อมกับกวักมือเรียกสาวสวยอีกคนที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ไม่ไกลมากนัก "และก็คอยประกบ สอนงานด้วยว่าต้องทำงานเอาใจแขกยังไงบ้าง เด็กใหม่ยังไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน" เจ๊ดาวออกคำสั่งกับสาวสวยสุดมั่นที่แต่งหน้าและทาลิปสติกสีแดงเข้ม ขนตางอนยาว และสวมใส่ชุดเกาะอกที่โชว์ลงมาครึ่งเต้านมทรงกลม ๆ ของเธอขนาดหน้าอกที่ไซส์ใหญ่ตัดกับเอวบาง ๆ ของเธออย่างสิ้นเชิง "ได้เลยค่ะเจ๊" เมเปิ้ลพยักหน้ารับ "ดูแลด้วยแล้วกัน" เจ๊ดาวย้ำอีกครั้ง "ตามฉันมาสิ" เธอสะกิดน้ำขิงให้เดินตามเธอเข้าไปในผับทันที เมื่อเดินเข้าไปยังด้านในของผับหรู ที่ตอนนี้เปิดเพลงดังกระหึ่มและแสงไฟระยิบระยับวิบวับไปทั่วทั้งผับ "เป็นเด็กใหม่แต่ได้ดูแล VIP คู่กับฉันแบบนี้" "แสดงว่าเจ๊คงชอบเธออยู่ไม่น้อยเลย" เมเปิ้ลหันมาพูดคุยกับน้ำขิงด้วยท่าทีเป็นมิตร "ก็ขอให้เป็นแบบนั้นนะ" สาวสวยผู้อ่อนประสบการณ์เอ่ยตอบไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่หนักว่าจะทำงานออกมาได้ดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอลองมาทำงานกลางคืนแต่เธอก็ต้องทำให้ได้ เพื่อเงิน เงิน เงิน เท่านั้น ฉันเคยเข้าผับก็จริง แต่ไม่เคยมาในฐานะของเด็กนั่งดริ้งเลยสักครั้ง NAM KHING’ S PART "เติมลิปหน่อย ปากเธอซีดไป" เมเปิ้ลหันมาบอกกับฉันขณะที่เธอเองก็ยืนจัดทรงผมของตัวเอง และจัดแจงชุดเกาะอกให้โชว์เต้านมอวบมากขึ้นไปอีก ฉันพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหยิบลิปสติกที่พกมาทาทับไปแบบลวก ๆ ขณะที่เราเดินผ่านโต๊ะยืนและโต๊ะนั่งเก้าอี้ธรรมดามาเรื่อย ๆ ทำให้ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าป้ายชื่อที่เจ๊ดาวให้ฉันมามันสีแตกต่างจาก เด็กนั่งดริงก์ของโต๊ะอื่น ๆ จริงด้วย "สาว ๆ สำหรับวีไอพีมาแล้ว" เสียงพนักงานผู้ชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งเหล้าและถังน้ำแข็งยื่นให้ทางฉันกับเมเปิ้ลทันที "โต๊ะ 8 นะครับ" พนักงานชายยิ้มและขยิบตาส่งให้กับฉันขณะที่ยื่นขวดเหล้าให้มา แถมยังหลอกจับมือของฉันซะด้วย "อืม ฉันรู้แล้วค่ะ" ฉันเอ่ยตอบกลับด้วยใบหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะชักมือของเธอคืนทันทีด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เขาฉวยโอกาสมาจับมือของฉัน "ไปกันเถอะ" เมเปิ้ลพูดขึ้นก่อนจะพาฉันเดินมายังโต๊ะ VIP ที่เราต้องนั่งชงเหล้าให้ในคืนนี้ โซนวีไอพีจะเป็นโซนโซฟากำมะหยี่อย่างดีและตั้งอยู่ห่างกันพอสมควร เพื่อเว้นระยะห่าง และดูยิ่งใหญ่สมราคาค่าโต๊ะคืนละ 1 หมื่นบาทจริง ๆ โต๊ะ VIP 8 "สวัสดีค่ะคุณลูกค้าขา พวกเรามาพร้อมบริการแล้วนะคะ ~" เมเปิ้ลเปลี่ยนสีหน้าท่าทางของเธอภายในชั่วพริบตา เธอทำเสียงอ่อนเสียงหวานใส่ลูกค้าทั้งสองคน ซึ่งฉันเองก็ยืนถือขวดเหล้าอยู่ด้านหลังของเธอ "ฉันกำลังนั่งเบื่อรอพวกเธออยู่พอดีเลย" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นซึ่งยอมรับว่าฉันรู้สึกคุ้น ๆ เสียงของเขามากแต่ไม่รู้ว่าเคยได้ยินที่ไหน แต่พอเมเปิ้ลที่ยืนบังอยู่ด้านหน้าเดินออกไปทางลูกค้าที่เรียกเธอ ทำให้ฉันพบว่า "เธอ! เพื่อนไอรีนนี่น่า" ผู้ชายคนที่เรียกเมเปิ้ลไปชี้หน้าของฉันและตาโตอย่างตกใจไม่น้อยที่เห็นฉัน "เธอทำงานที่นี่ด้วยเหรอ?" ผู้ชายหน้าหวาน ๆ อีกคนเอ่ยถามต่อทันที "เออ...ใช่" ฉันอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ตอบไปอย่างรู้สึกอายมาก ๆ ที่ดันมาเจอพวกเขาที่นี่ และจะบอกว่าจำคนผิดก็ไม่ได้ซะด้วย ฉันรีบมองหาใครอีกคนทันทีอย่างหวาดระแวง "มานั่งตรงนี้สิ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม