หลังจากที่พ่อเลี้ยงภวินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาอะไรกินในช่วงเย็น เนื่องจากว่าตอนเที่ยงที่ผ่านมาไม่มีอะไรตกถึงท้อง เพราะมัวแต่วุ่นวายกับการส่งไวน์ให้ร้านคู่ค้า ไหนจะต้องส่งองุ่นให้ห้างสรรพสินค้าอีก ชีวิตในแต่ละวันวุ่นวายแทบจะไม่ได้มีเวลาทำอย่างอื่น
"ป้าสมพิศมีอะไรให้ผมกินบ้างเย็นนี้"
เขาตะโกนเรียกป้าสมพิศ เธอคือแม่บ้านที่คอยดูแลบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่แห่งนี้ เป็นคนเก่าแก่ที่อยู่กับเขามานาน และก็มีแม่บ้านคนอื่นอีกหลายคน ไร่ภวินแห่งนี้มีพนักงานโดยรวมหลายร้อยคน เขาต้องคอยดูแลให้ทั่วถึง ส่งเสียลูกหลานของพนักงานเรียนหนังสือ โชคดีที่ธุรกิจของเขาไปได้ดี จึงมีเงินเหลือมาคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายของลูกน้อง รวมถึงอาหารการกิน ไหนจะที่พักอีก ไม่มีใครดูแลพนักงานได้ดีเท่าไร่ภวินแห่งนี้อีกแล้ว
"ใจเย็นก่อนเจ้า ตอนนี้คุณหนูมินนี่กำลังเข้าครัวอยู่ พ่อเลี้ยงนั่งรออีกสักแป๊บได้ไหมเจ้า"
"เมื่อกี้ป้าสมพิศบอกว่าใครเป็นคนเข้าครัวนะ"
ดูเหมือนว่าเขาจะหูฝาดไปชั่วขณะ จึงต้องเอ่ยถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คนอย่างมินนี่นะเหรอจะเข้าครัวทำกับข้าว ตั้งแต่รู้จักกันมายัยเด็กคนนี้ไม่ชอบเข้าครัวที่สุด
"ใช่แล้วเจ้า ไปเรียนเมืองนอกเมืองนามาเกือบสองปี กลับมาอีกทีทำกับข้าวเก่งมากเลยเจ้า สงสัยในระหว่างที่ว่างน่าจะไปเรียนทำอาหารมา กลิ่นหอมฉุยเลยเจ้าพ่อเลี้ยง"
"น่าจะหอมแค่กลิ่นแหละ สภาพน่าจะกินไม่ได้ ทำไมผมจะต้องฝากท้องของตัวเองกับยัยเด็กนั่นด้วย ถ้าเกิดว่าผมท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไง ผมว่าป้าสมพิศไปหาอะไรให้ผมกินดีกว่า ผมไม่อยากเสี่ยง"
เขาทำท่าขนลุกขนพองเมื่อนึกถึงว่าตัวเองจะต้องกินอาหารฝีมือของมินนี่ คนที่ไม่มีความคิดอยากจะเข้าครัวมาตั้งแต่เด็ก ผ่านไปแค่สองปีไม่มีทางหรอกที่จะทำให้มันอร่อยขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นเขาขอไม่เสี่ยงดีกว่า
"ป้าสมพิศคะอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ เรียกพ่อเลี้ยงออกมาได้เลยค่ะจะได้กินข้าวเย็นกัน"
น้ำเสียงเล็กดังขึ้นมาจากในห้องครัว ป้าสมพิศได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันมามองเจ้านายที่ตอนนี้ทำท่าทางเหมือนไม่อยากจะกินมัน
"เปิดใจหน่อยสิเจ้าพ่อเลี้ยง ป้าว่าคุณหนูมินนี่ต้องทำมันออกมาดีแน่เลยเจ้า ถ้าอย่างนั้นพ่อเลี้ยงไปนั่งรอที่ห้องอาหารเลยนะ เดี๋ยวป้าสมพิศจะให้เด็กไปจัดโต๊ะให้เจ้า"
เมื่อป้าสมพิศพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที รีบไปช่วยมินนี่จัดจาน จากนั้นก็ให้เด็กนำไปวางที่โต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ ส่วนพ่อเลี้ยงภวินก็คิดว่าจะลองชิมอาหารฝีมือของมินนี่สักคำ ถ้าเกิดว่ากินไม่ได้เขาจะด่าให้ฉ่ำเลย
ทางด้านของมินนี่เธอเพิ่งทำซีซ่าสลัด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของโปรดของพ่อเลี้ยงภวิน แล้วก็มียำรสจัดที่ชายหนุ่มชอบกินอีก สำหรับมินนี่ไม่มีอะไรที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับพ่อเลี้ยง เดินตามต้อย ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเขา จนแทบจะเป็นคนเดียวกันแล้ว
"เอาไปเสิร์ฟได้เลยค่ะ"
"คุณหนูจะกินข้าวกับพ่อเลี้ยงไหมเจ้า"
"กินค่ะเดี๋ยวหนูล้างมือแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวตามเข้าไปในห้องอาหารนะคะ"
"ได้เลยเจ้า"
มินนี่ยิ้มกว้างออกมาภูมิใจในเมนูอาหารที่ทำในวันนี้ เธอเป็นคนที่เกลียดการเข้าครัวมากที่สุด แต่ทว่าตัดสินใจที่จะไปเรียนทำอาหาร เพราะพ่อเลี้ยงชอบกินข้าวที่บ้านเป็นหลัก นานทีปีหนชายหนุ่มถึงจะออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างนอก เธอรีบเดินไปล้างไม้ล้างมือจากนั้นก็รีบเข้าไปหาชายหนุ่มที่ห้องอาหารเพราะเกรงว่าอาจจะรอนาน
"มาแล้วค่ะ"
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องอาหาร เจอชายหนุ่มกำลังจ้องมองอาหารตรงหน้า ทำท่าทีเหมือนกลืนไม่ลงยังไงอย่างนั้น
"ทำไมทำหน้าเหมือนว่าอาหารตรงหน้ามันกินไม่ได้คะ ไม่ต้องกลัวหรอกมินนี่ไม่ใส่ยาเสน่ห์เข้าไปหรอกค่ะ"
เธอเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวนั่งลงตรงข้ามกับเขา ดูจากใบหน้าของชายหนุ่มก็คงกำลังคิดว่าจะหาเรื่องว่าร้ายอะไรเธออีก และในความคิดของเขาในตอนนี้ก็คงมีแค่อยากจะคอมเม้นต์ว่าอาหารตรงหน้ามันกินไม่ได้
"มันจะกินได้หรือเปล่าเนี่ย คงได้ให้ป้าสมพิศไปทำมาใหม่ซะแล้วละมั้ง"
เขาทำหน้ากวนประสาทหญิงสาว ก่อนจะหยิบส้อมบนจานของตัวเอง ลองตักสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าที่เป็นของโปรด ถ้าเขาอยากจะกินอาหารสไตล์ยุโรปต้องออกไปกินที่ร้านอาหารข้างนอก เพราะแม่บ้านที่นี่ไม่มีความสามารถในการทำของอร่อยที่เขาต้องการได้ ทุกวันนี้ได้กินแค่อาหารไทยเพียงเท่านั้น
จากนั้นก็เอาอาหารใส่เข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวแก้มตุ่ย ทว่ากัดเข้าไปคำแรกทำเอาพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินถึงกับอึ้งไป มันเป็นรสชาติอาหารยุโรปแบบแท้จริง ไม่ใช่สูตรฉบับปรับรสชาติให้เข้ากับคนไทย ซึ่งมันหากินยากมากในประเทศนี้
"อร่อยไหมคะ"
หญิงสาวเท้าคางจ้องมองว่าที่สามีในอนาคตด้วยรอยยิ้มกว้าง สองปีที่ผ่านมาเธอไม่ได้เรียนแค่ปริญญาโทเพียงอย่างเดียว แต่เธอไปเรียนทำอาหารยุโรปกับเชฟมิชลินสตาร์ เชื่อเถอะว่าพ่อเลี้ยงภวินจะต้องหลงเธอหัวปักหัวปำในอนาคตแน่ เพราะว่าเธอรู้ใจเขาแทบทุกอย่างยังไงล่ะ
"ก็งั้น ๆ แหละ ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย"
ปากบอกไม่อร่อยแต่ตักกินไม่หยุดเลย มินนี่เห็นแบบนั้นก็กลั้นยิ้มพยายามไม่แสดงออกเพื่อให้เขาเห็น เพราะถ้าเกิดเธอแสดงท่าทีออกไปเกินงาม เขาจะหยุดกินอาหารตรงหน้าทันที
"เอาไว้มินนี่จะพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นกว่านี้นะคะ จะทำให้พ่อเลี้ยงหลงหัวปักหัวปำไปไหนไม่รอดเลย"
หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปเขี่ยหลังมือของชายหนุ่มอย่างหยอกล้อ พ่อเลี้ยงถึงกับสะดุ้งรีบดึงมือของตัวเองไปซ่อนไว้ข้างหลัง รู้สึกขนกายลุกซู่อย่างประหลาด เมื่อได้รับสัมผัสจากยัยเด็กเมื่อวานซืนตรงหน้า
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะเว้ย"
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ อีกหน่อยมินนี่ก็จะต้องเป็นเมียของพ่อเลี้ยง ตั้งแต่เด็กจนโตมาอายุ 25 ปี มินนี่รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ให้พ่อเลี้ยงโดยเฉพาะเลยนะคะ ไม่อยากจะลองของสดใหม่เหรอ หืม..."
เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก จ้องมองสบตาของพ่อเลี้ยงด้วยแววตาหวานฉ่ำ แต่ทว่าคนตรงหน้าตั้งแง่รังเกียจเธอ แถมยังพูดจาไม่น่ารักต่อหน้าบรรดาแม่บ้านทั้งหลาย
"อยากเป็นเมียฉันนักก็เป็นไปเลย คอยดูเถอะจะปล่อยให้เหี่ยวเฉาน้องสาวไม่ได้ใช้การ กลายเป็นซากฟอสซิลที่มีแต่ฝุ่นเกาะ"
"อร๊าย! ทำไมพ่อเลี้ยงปากร้ายแบบนี้คะ"
หญิงสาวจิปากออกมาอย่างขัดใจ อุตส่าห์เอาความสาวความสวยเข้าอ่อย แต่ทว่าคนใจร้ายยังคงปากดีไม่เลิก มันน่าตีปากด้วยปากจริง ๆ เลย ให้ตายสิ
"หึ... ไม่เชื่อก็ลองดู"
"งั้นก็มาดูกันค่ะ ว่าพ่อเลี้ยงกับมินนี่ใครจะตบะแตกก่อนกัน"
.....
ปากดีจริงๆนะพ่อเลี้ยง อิอิ ทุกคนขาไรท์เปิดกลุ่มเอาไว้อัพเดทนิยายแล้วก็ลงนิยายให้อ่านฟรีด้วยค่ะ เข้ามาเป็นสมาชิกอยู่ด้วยกันนะ ตอนนี้ลงไว้ 5 เรื่องแล้วค่ะ กำลังอัพเรื่องที่ 6
พร้อมกับภาพประกอบสุดแซ่บ อิอิ
ชื่อกลุ่ม นิยายฟรี By fortune_289
ถ้าเกิดว่าหากลุ่มไม่เจอ ให้เข้าที่เพจ facebook ของไรท์นะคะ link กลุ่มที่ปักหมุดแนะนำเลยค่ะ
ชื่อเฟซ fortune Author