งานเลี้ยงกลางคืนของนักธุรกิจที่เพิ่งเปิดตัวธุรกิจใหม่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมดังระดับห้าดาวแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เฟรย่าเดินทางมาพร้อมพ่อที่แม้อายุจะมากขึ้นแต่ยังคงดูภูมิฐานสมวัยผู้ใหญ่ ยิ่งอยู่ในชุดสูทสีกรมท่ายิ่งดูดี
ส่วนเฟรย่าเธอสวมชุดเดรสรัดรูปแขนสั้นที่อวดไหล่สวย ตัวชุดจับจีบกระโปรงยาวเลยเข่าลงไปสีกากีที่มีความแวววาวจากกลิตเตอร์บนชุดที่เธอสวม ยิ่งเวลากระทบแสงก็ยิ่งทำให้ชุดยิ่งส่องประกายอย่างงดงามดึงดูดสายตาผู้คน เธอควงแขนพ่อผู้ให้กำเนิดเข้างานไปพร้อมกัน
งานเลี้ยงนี้ถูกจัดขึ้นมาอย่างหรูหราสมฐานะของคนร่ำรวยที่เป็นนักธุรกิจ มีแขกมากมายในงานที่ล้วนเป็นนักธุรกิจด้วยกันทั้งนั้นทั้งชายและหญิง ทันทีที่เดินเข้าไปก็ได้ทักทายกับเหล่าบรรดาคู่ค้าด้านธุรกิจของพ่อหลายคนด้วยกันที่มาพร้อมทายาทชายหญิงที่อายุไล่เลี่ยกันกับเธอ เฟรย่าขอตัวออกไปหาของกินเล่นในงานแทนเมื่อเห็นว่าพ่อกำลังคุยถูกคอกับนักธุรกิจหน้าใหม่อีกคนที่เดินมาทำความรู้จัก บอดี้การ์ดสามคนต่างเดินตามอยู่ห่างๆ อย่างให้ความเป็นส่วนตัว
ขนมหวานหลากหลายสีสันหลากหลายชนิดถูกจัดวางอย่างสวยงามถูกเฟรย่าจัดการไปไม่น้อยตามความชอบก่อนจะหันไปหยิบเครื่องดื่มจากพนักงานบริการที่เดินถือถาดเครื่องดื่มผ่านมา เธอไม่ชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังนั้นจึงเลือกเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้แทน เมื่อกินขนมหวานจนพอใจแล้วก็หันไปเห็นว่าหนึ่งในสามบอดี้การ์ดของเธออย่างฌอนที่มีร่างกายสูงใหญ่แถมหน้านิ่งเหมือนดุตลอดเวลานั้นกำลังไปหาพ่อของเธอที่ยืนรออยู่ไม่ไกลเหมือนมีเรื่องจะสั่งงานอย่างเร่งด่วน
เธอยืนถือแก้วน้ำผลไม้มองดูทั้งคู่กำลังกระซิบคุยกันอย่างสงสัยก่อนที่ฌอนจะเดินกลับมาหาเธอ
"คุณหนูครับคุณท่านมีเรื่องเร่งด่วนต้องเดินทางไปต่างประเทศกระทันหัน ผมต้องไปส่งคุณท่านที่สนามบิน ส่วนดีแลนกับมาร์ชจะพาคุณหนูไปส่งที่คฤหาสน์นะครับ"
"ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ครับ เหมือนธุรกิจสาขานั้นจะมีปัญหาที่ต้องเร่งจัดการจึงรอช้าไม่ได้และหลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์คุณท่านจะมีคุยเจรจาธุรกิจอีกประเทศหนึ่งเพื่อขยายเพิ่มสาขาที่นั่นอีกด้วยครับ"
"แล้วจะไปนานไหม"
"ประมาณสองอาทิตย์หรืออาจจะมากกว่านั้นครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"แต่คนของคุณพ่อก็มีทำไมต้องให้นายไปส่งด้วย"
"คนสนิทของคุณท่านตอนนี้กำลังไปเตรียมของใช้ส่วนตัวให้คุณท่านครับส่วนอีกคนก็ไปเอาเอกสารสำคัญที่บริษัทครับ"
เฟรย่ามองไปที่จุดที่พ่อของเธอยืนอยู่ ตอนนี้ข้างกายของพ่อไม่มีเงาของคนสนิทอย่างเลขาและบอดี้การ์ดที่คุ้นตาอยู่เลย ดูเหมือนตอนนี้พ่อของเธอกำลังไปกล่าวลากับเจ้าภาพงานเลี้ยงที่เป็นคู่ค้าคนสนิทตามมารยาทที่ไม่ได้อยู่ร่วมในงานเลี้ยงจนจบงาน
"ดูแลคุณหนูเฟรย่าให้ดี" ฌอนหันไปกำชับกับเพื่อนบอดี้การ์ดอีกสองคนก่อนจะขอตัวเดินจากไปแต่เฟรย่าก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไปเพราะอยากไปลาพ่อด้วยเช่นกัน จะไม่ได้เจอพ่อหลายอาทิตย์เธอย่อมต้องคิดถึงเป็นธรรมดา
"คุณพ่อคะ เดินทางปลอดภัยนะคะ"
"แล้วพ่อจะรีบกลับมา" ชนะเทพเอ่ยตอบลูกสาวก่อนจะยิ้มกลับเมื่อลูกสาวเอ่ยประโยคถัดมา
"พร้อมของฝาก"
"แน่นอน ของฝากลูกสาวจะขาดได้ไงไว้พ่อเสร็จงานแล้วจะแวะซื้อของฝากมาให้แน่ พ่อไม่อยู่ก็อย่าดื้อล่ะ"
"เฟรย่าเหรอจะดื้อ คุณพ่อกล่าวหาลูกสาวชัดๆ" เธอแสร้งเอ่ยงอนพลางกอดอกใส่พ่อ
"ดื้อน้อยซะเมื่อไหร่เราน่ะ เอาเถอะมีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่พ่อก็หายห่วง พ่อต้องรีบไปแล้วถ้าไปจัดการช้าเดี๋ยวมันจะบานปลาย"
"ถ้าถึงที่นั่นแล้วส่งข้อความมาบอกเฟรย่าด้วยนะคะ อย่าลืมนะคะ" เธอโผกอดพร้อมเอ่ยกำชับพ่อก่อนจะเดินไปส่งท่านที่รถยนต์ที่มีคนขับเป็นฌอนเดินมาเปิดประตูรถให้ก่อนจะขับรถจากไป
แม้จะเศร้าอยู่บ้างที่พ่อไปต่างประเทศกระทันหันแบบนี้แต่ทว่าเธอก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ การที่พ่อไม่อยู่แบบนี้เธอก็สามารถเริงรักกับบอดี้การ์ดได้อย่างสบายใจไม่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ ตั้งหลายอาทิตย์
เฟรย่าหันไปอมยิ้มให้กับบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนขนาบข้างเธออยู่บริเวณประตูทางเข้าหน้าโรงแรม แม้จะเสียดายที่ฌอนไม่อยู่แต่เวลายังมีอีกเยอะ ไม่ว่างยังไงก็ได้สมปรารถนาดังใจเธอต้องการแน่นอน
"ผมจะไปเอารถมารับนะครับ" มาร์ชเอ่ยบอกพร้อมเดินที่ลานจอดรถทิ้งให้ดีแลนเป็นคนเฝ้าดูแลความปลอดภัยของเธอแทน
"กลางคืนนี่บรรยากาศดีจังเลยเนอะดีแลน ว่าไหม?" เธอเอียงคอเอ่ยถามบอดี้การ์ดลูกครึ่งอเมริกาเจ้าของใบหน้าหล่อที่มีผมที่ทองส่องประกายชวนน่าหลงไหล
"ครับ บรรยากาศดี ยิ่งเวลานั่งอยู่บนรถแล้วมองออกไปด้านนอกขณะที่รถยังคงวิ่งแล่นอยู่บนถนนยิ่งทำให้บรรยากาศดียิ่งขึ้นคุณหนูคิดว่าอย่างนั้นไหมครับ" ดีแลนหันมายิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์ขี้เล่น เขารู้ว่าคุณหนูเฟรย่าคิดอะไรอยู่ สงสัยเมื่อเช้าที่ถูกจัดไปคงยังไม่พอแต่ก็นะ… คุณหนูขี้เ****นแบบนี้ต่อให้เอาทั้งวันก็ยังไม่พออยู่ดี
"นั่งอยู่เฉยๆ มันคงน่าเบื่อนะต้องมีกิจกรรมอะไรทำไปด้วยสิถึงจะดี"
"นั่นสินะครับ อย่างคุณหนูต้องเป็นกิจกรรมอะไรดีครับ …กิจกรรมเข้าจังหวะหรือเปล่าครับคุณหนูเฟรย่า"