EP2 Save zone

1177 คำ
หญิงสาวพยุงร่างกายบอบช้ำของตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะกลับบ้านเพราะเธอทนอยู่ที่นี่ไม่ไหว "ฮรึก ฮือ" หญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำด้วยความเสียใจในใจหวนคิดถึงอดีตที่แสนหวานของเธอและเขา เธอเป็นคนที่บอกความรู้สึกกับเขาก่อนซึ่งวันนั้นเขาเองก็ยอมเปิดใจให้เธอจนทั้งคู่คบกันมาได้ถึงสองปี หญิงสาวเก็บตัวอยู่ในห้องโดยที่ไม่พูดอะไรกับใครแต่วันนี้เธอจะออกไปหาบิดาของเธอเพื่อถามให้แน่ใจว่าเรื่องมันคืออะไรทำไมอดีตคนรักของเธอถึงบอกเธอมาแบบนั้น หญิงสาวเดินเข้ามาในบริษัทใหญ่ในเครือของตระกูลอย่างหน้าตั้งเพราะเธออยากจะเคลียร์เรื่องนี้กับบิดา "แด๊ดหล่ะ" เธอถามลูกน้องของบิดาเสียงเรียบนิ่งจนชายฉกรรจ์ขนลุกกับน้ำเสียงที่แปลกไปของคุณหนูของบ้าน "นายใหญ่อยู่ในห้องทำงานกันคุณฟีน่าครับ" หญิงสาวไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แกร๊ก!!! "ฮึก แด๊ด ฮือ" เธอเดินเข้ามากอดบิดาร้องไห้โฮโดยที่มาเฟียใหญ่บิดาของเธอโอบกอดเธอเอาไว้ "เป็นอะไร ใครทำอะไรหนู!?" ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามซึ่งเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะร้องไห้อยู่ "ฮืออ ไม่จริงใช่มั้ยคะ แด๊ดไม่ได้ฆ่าใครเพื่ออยากได้ที่ดินเขาใช่มั้ย บอกหนูที ฮรึก" ทันทีที่เธอเอ่ยขึ้นบิดาของเธอก็เริ่มทำตัวไม่ถูกและยังหันไปมองห้องนอนของตัวเองเธอคิดว่าฟีน่าเพื่อนสนิทของเธอคงอยู่ในนั้น "ไปคุยที่ห้องประชุม" บิดาของเธอรีบจูงมือเธอเดินห้องประชุมอย่างเร่งรีบด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด "หนูไปเอามาจากไหน ใครบอกอะไร บอกแด๊ดมา!!?" มาเฟียใหญ่บิดาของเธอเอ่ยถามเธอเสียงร้อนรนจนเธอร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะอาการของบิดาเธอในตอนนี้มันเหมือนกลับว่ายอมรับความจริงทางอ้อม "ไม่มีใครบอกหนูหรอกค่ะ เขาเกลียดหนูไปแล้ว ฮือ จริงใช่มั้ยคะบอกหนูสิ" เธอเองก็เอาแต่ร้องไห้จนตัวโยนเอาแต่บอกว่าแฟนหนุ่มของเธอเกลียดเธอเเล้วๆ "ใช่..ปู่ของฟีน่าตายเพราะแด๊ดเอง" ทันทีที่บิดายอมรับเธอถึงกับทรุดตัวลงพื้นอย่างหมดแรงร้องไห้ปานจะขาดใจจนผู้เป็นบิดาต้องรีบเข้ามาสวมกอดเธอ "ฮรึก ฮือ แด๊ดทำทำไม ฮือ เขาเกลียดหนูแล้ว ฮือ เขาบอกเลิกหนูแล้ว ฮือ" ยิ่งเธอร้องไห้มากเท่าไหร่ผู้เป็นบิดาก็กอดเธอแรงขึ้นมากกว่าเดิม "อย่าเพิ่งให้ฟีน่ารู้ได้มั้ย แด๊ดอยากสืบด้วยตัวเองว่าแด๊ดไม่ผิด ทำเพื่อน้องที่จะเกิดมาได้ไหมลูก" เธอมองหน้าบิดาทั้งน้ำตาก่อนจะเอ่ยถามเมื่อได้ยินคำว่าน้องจากปากบิดาอย่างสงสัยในคำพูด "ฟะ ฟีน่าท้องหรอ ฮรึก" พูดถึงตรงนี้เธอยิ่งอยากร้องไห้เพราะเด็กในท้องไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย "รอแด๊ดนะแล้วแด๊ดจะหาหลักฐานทุกอย่าง เชื่อแด๊ดนะ" ผู้เป็นบิดาเอ่ยบอกเธอเสียงเข้มจนเธอยอมอ่อนลง "ฮรึก จะจริงหรอคะ แด๊ดแน่ใจใช่มั้ย ฮือ" ยิ่งพูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าเธอก็ยังมีหวังว่าคนรักของเธอจะกลับมารักเธออีกครั้ง "แด๊ดไม่ได้พูดเพื่อให้ความหวังหนูจริงๆ ใช่มั้ย" เธอมองหน้าบิดาทั้งน้ำตา "ครับเด็กดีกลับบ้านก่อนนะอย่าร้องเดี๋ยวไม่สวย" รู้สึกปวดใจไม่น้อยที่ทำให้ลูกสาวร้องไห้มากขนาดนี้ หญิงสาวเดินออกมาจากบริษัทอย่างเหม่อลอยก่อนจะขึ้นรถขับตรงออกมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง "คิดจริงๆ หรอว่าฉันจะรักผู้หญิงที่เป็นลูกสาวฆาตกรที่พรากคนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตไป!" "ผู้หญิงอย่างเธอมันก็คงเลวไม่ต่างจากพี่ชายนักหรอก คิดจริงๆ หรอว่าฉันอยากเป็นเพื่อนกับน้องสาวผู้ชายเลวระยำอย่างมัน!!" "ฮือ ฉันทำอะไรผิดนักหนา ทำไมไม่ให้ฉันมีความรักมีความสุขกับคนที่ฉันรักบ้าง ฮรึก" หญิงสาวนั่งสะอึกสะอื้นไห้โดยไม่อาบสายตาใครที่มองมา ฝนตกโปรยปรายลงมาซึ่งเธอก็ไม่ได้หลบฝน เธอนั่งร้องไห้กลางสายฝนโดยไม่รู้สึกหนาวเหน็บเพราะจิตใจของเธอในตอนนี้มันเจ็บปวดยิ่งกว่าจะรู้สึกอะไรได้อีก ตึก ตึก ตึก จู่ๆ ก็มีปลายเท้าหนาตรงเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าของเธอโดยที่เธอก็เงยหน้ามองขึ้นช้าๆ และพอมองชัดๆ เธอยิ้มทั้งน้ำตามองหน้าผู้ชายที่เธอคุ้นเคยยืนกางร่มให้เธออยู่นั่นเอง "ไม่หนาวหรอครับ เดี๋ยวก็เป็นไข้เอาหรอก" น้ำเสียงอบอุ่นของผู้ชายที่เคยเป็นคนติวหนังสือให้เธอในช่วงเริ่มเรียนมหาลัย "พะพี่เจย์ ฮรึก หนูไม่ไหวเลย ฮือ" เธอโผล่เข้าสวมกอดเจย์เดนผู้ชายที่เป็นเซฟโซนสำหรับเธอมาตลอด "เป็นอะไร หื้ม" ชายหนุ่มกอดปลอบเธอโดยไม่กลัวว่าตัวเองจะเปียกไปด้วยซักนิด "ฮือ ไม่มีใครรักหนูเลย ทุกคนเกลียดหนู หนูมันน่ารังเกียจใช่มั้ยคะ หนูไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว หนูไม่ไหวเลย ฮรึก" เธอสะอื้นไห้ในอ้อมกอดของเจย์เดนเพราะเขาอีกคนเดียวที่คอยรับฟังคอยอยู่ข้างๆ เธอมาโดยตลอด "ไปเถอะครับ อยากระบายกับพี่หรือเปล่า หื้ม" ชายหนุ่มประคองเธอขึ้นมานั่งบนรถก่อนจะยื่นมือไปเอาชุดสูทมาคุมให้เธอ "พี่จะลงไปรอข้างนอกหนูเป็นชุดเถอะจะได้ไม่ป่วย" เขาเดินลงจากยืนหันหลังให้เธอเพื่อเปลี่ยนชุดที่เขาชอบซื้อเสื้อยืดเอาไว้เวลาฉุกเฉิน หญิงสาวเปลี่ยนชุดไม่นานเธอก็เคาะประตูรถเรียกเขาเข้ามาเพราะอากาศข้างนอกมันหนาวเพราะฝนตกหนักแถมยังฟ้าร้องอีกด้วย "ขอบคุณนะคะที่อยู่กับหนูในเวลาแย่ๆ เวลาที่หนูไม่สบายใจ" เธอพูดเสียงแผ่วเบา "เป็นอะไรหรือเปล่า บอกพี่ได้นะพี่ยินดีรับฟัง" ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงอ่อนโยนจนเธอยอมเล่าออกมานิดเดียวแต่ไม่ทั้งหมด "ถ้าเขารักเราเขาจะยอมฟังทุกอย่าง ยอมฟังเหตุผลของเราและเขาก็จะมีความเชื่อใจในตัวเราไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่" เขาพูดแค่นี้หวังว่าเธอจะเข้าใจ ".." "ถ้าหากพี่เป็นเขาพี่จะฟังเหตุผลของเธอพี่จะเชื่อในคนรักของพี่และพี่จะต้องแน่ใจก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียคนที่รักไป"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม