บัณฑิฒ

2809 คำ
มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง ใจกลางกรุงเทพมหานคร หลังเสร็จจากพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนักศึกษาระดับปริญญาตรี เสร็จสิ้นลง เหล่าบัณฑิตต่างก็พากันร่วมถ่ายรูปหมู่ เสร็จแล้วบางส่วนก็แยกย้ายไปร่วมถ่ายรูปกับญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท และมีบางคนที่ไม่สามารถอยู่ร่วมถ่ายรูป หรือฉลองกับเพื่อนๆได้ รีบเดินทางกลับบ้าน บางคนมีงานทำแล้ว บางคนยังไม่มีงานทำ บางคนรีบกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปฉลองกับครอบครัว อินถวา สิริสุขกำจร หรือยี่หวา เป็นอีกหนึ่งคนที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาฟู้ดซาย บ้านเธออยู่ต่างจังหวัด เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ระหว่างเรียนเธอทำงานพิเศษ ร้านเบเกอร์รี่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และงานโรงแรม เธอไม่อยากรอเงินจากทางบ้าน และคิดว่า การได้ทำงาน ทำให้เธอมีประสบการณ์ สามารถที่จะเอาไปต่อยอดได้ เมื่อเธอเรียนจบ พ่อกับแม่ของเธอมาร่วมถ่ายรูป และแสดงความยินดี เมื่อวันซ้อมใหญ่ วันรับจริงอินถวาไม่ได้ให้พ่อกับแม่มา เพราะไม่สะดวกหลายอย่าง เงินสองหมื่นบาทที่ได้จากทางบ้าน นับว่าเยอะพอสมควร ยี่หวาใช้เงินไม่สุรุ่ยสุร่าย เก็บไว้ซื้ออุปกรณ์การเรียน และของใช้ส่วนตัว ค่าหอ ค่ากิน ส่วนเสื้อผ้า เธอจะเก็บของแม่มาใส่ เพราะเมื่อสมัยที่แม่กับพ่อเธออยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งสองคนทำงานบริษัทฯ ผลิตเสื้อผ้า แม่เธอเป็นคนชอบแต่งตัว เสื้อผ้าสมัยที่พ่อกับแม่ใช้ ท่านเก็บกลับบ้านไปด้วย รักษาไว้อย่างดี สมกับที่ชอบแต่งตัว อินถวาชอบวินเทจ จึงใส่ชุดของแม่ได้ ยังใช้ได้ดีเกือบทุกชุด อินถวาเรียนโรงเรียนรัฐบาลมาตลอด กระทั่งจบปริญญาตรี เธอต้ังใจเรียนแค่ปริญญาตรี หญิงสาวมีความรู้สึกว่า ทางบ้านเริ่มที่จะมีปัญหาทางการเงิน ช่วงที่เธอเรียนปีสี่เทอมแรก พ่อกับแม่เริ่มลดเงินเดือนที่เคยให้ จากสองหมื่นบาท เหลือเพียง หนึ่งหมื่นห้าพันบาท และเทอมสุดท้ายเหลือเพียง หนึ่งหมื่นบาทถ้วน โชคดีที่ยี่หวามีเงินเก็บจากการทำงานพิเศษ จ่ายค่าหอพัก ค่ากิน ค่าโน้นนี้ เงินหนึ่งหมื่นบาทเหลือไม่มาก ถ้าไม่มีเงินจากการทำงานพิเศษ คงไม่พอใช้แน่ๆ อินทร์นทีพี่ชายของอินถวา โทรหาเธอ เร่งให้รีบกลับบ้าน บอกว่าพ่อกับแม่ไม่ค่อยสบาย ให้เธอรีบกลับบ้านไปดูแลกิจการร้านอาหาร ทำไมเธอจะไม่รู้ว่า ที่พี่ชายเธอโทรมาเร่งให้เธอรีบกลับบ้านเพราะอะไร อินทร์นที สิริสุขกำจร หรืออินทร์ อายุมากกว่าเธอสองปี พ่อกับแม่รักมาก ครอบครัวเธอเป็นคนไทยเชื้อสายจีน พ่อกับแม่รักลูกชายมากกว่าลูกสาว พี่ชายเป็นเบอร์หนึ่ง ส่วนเธอเป็นเบอร์สอง มีเพียงปู่กับย่าเท่านั้นที่รัก และเข้าใจเธอ พี่ชายเธอเรียนเก่ง ได้เรียนโรงเรียนเอกชนมาตลอด กระทั่งจบปริญญาตรีที่เมืองไทย ไปต่อปริญญาโท ที่เมืองนอก และมีทีท่าว่า จะต่อปริญญาเอกอีกด้วย และยังไม่แน่เลยว่า ถ้าพี่ชายเธอกลับมาเมืองไทย เขาจะทำงานอะไร เพราะตั้งแต่ไปเรียนต่างประเทศ เขายังไม่เคยกลับบ้านเลย ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ลำบาก ทำงานร้านอาหาร ส่งเสียเงินให้เขาไปอยู่สุขสบายที่เมืองนอก คนที่ไม่เคยทำ จะไม่มีทางรู้เลย ว่าลำบากยังไง ยี่หวาเองทำมาตั้งแต่ยังเด็ก รู้ถึงความลำบากทุกอย่าง ยี่หวาเคยเข้าไปส่องไอจีของพี่ชาย เป็นที่น่าตกใจมาก พี่ชายเธออยู่ต่างประเทศ มีชีวิตสะดวกสบาย ใช้ชีวิตหรูหรา ใครที่เห็นไลฟสไตล์ของเขา ก็คิดว่าเป็นลูกเศรษฐีจากเมืองไทย ทั้งที่พัก ที่กินอยู่ เธอเคยเข้าไปกดถูกใจ สุดท้ายพี่ชายเธอปิดช่องทางติดต่อทุกทาง ถ้าเขามีเรื่องที่จะคุย เขาถึงจะโทรหาเธอเอง เช่นวันนี้ ทั้งที่รู้ว่าเธอเพิ่งรับปริญญาเสร็จ แต่โทรมาเร่งให้เธอรีบกลับบ้าน ถ้าพี่อินทร์โทรมา แสดงว่าเขาเดือดร้อนจริงๆ “ยี่หวา ทำไมหน้าไม่ดีเลย มีอะไรหรือเปล่า ” สร้อยสน มหาดำรง เพื่อนสนิทของยี่หวา ที่คบกันมา ตั้งแต่สมัยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง สร้อยสนผิวขาวมาก หน้าตาออกไปทางเกาหลี น่ารักทีเดียว ครอบครัวของสร้อยสนค่อนข้างมีฐานะ ที่บ้านที่โรงงานผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ไม่ค่อยขัดสนเรื่องเงิน มีหลายครั้งที่สร้อยสน ชวนยี่หวาไปพักที่บ้าน ช่วงที่ต้องอ่านหนังสือก่อนสอบ เพราะหอพักของเธอไม่ค่อยสะดวกนัก ค่อนข้างเสียงดัง ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิอ่านหนังสือ เธอไม่เคยปฏิเสธ พ่อกับแม่ของสร้อยสน เอ็นดูยี่หวา เพราะเห็นว่าเธอขยัน ช่วยงานบ้านทุกอย่าง แถมทำอาหาร คาวหวานได้อร่อยมากด้วย ที่สำคัญสองสาวทำเค๊กอร่อยมาก พ่อกับแม่ของสร้อยสน เป็นคนไทยเชื้อสายจีนเหมือนครอบครัวเธอ สร้อยสนมีพี่สาวสองคน สรุปว่ามีสามสาว ถึงที่บ้านจะมีเชื้อสายจีน แต่ก็ไม่มีปัญหา พ่อกับแม่รักลูกเท่ากัน ไม่เกี่ยงว่าเป็นผู้หญิง ต่างกับบ้านเธอจริงๆ สร้อยสนอยู่กรุงเทพฯ ส่วนเธออยู่ต่างจังหวัด สร้อยสนเคยไปเที่ยวบ้านยี่หวาที่เพชรบูรณ์ ทั้งสองสนิทกันมาก ถึงสร้อยสนจะเคยไปเที่ยวบ้านยี่หวา ไม่กี่ครั้ง แต่ก็พอจะรู้ว่า พ่อกับแม่ของยี่หวาลำเอียง รักแต่ลูกชาย อยู่กับลูกสาวแต่พูดถึงแต่ลูกชาย มันน่าน้อยใจนัก “ยี่หวา แวะไปบ้านสร้อยก่อนนะ พ่อกับแม่ พี่ๆถามหา “ “แต่พี่อินทร์ โทรมาให้ฉันรีบกลับบ้าน” “ยี่หวาก็บอกพี่อินทร์ไปว่า มีงานต้องทำยังกลับตอนนี้ไม่ได้” “จะดีเหรอ ยี่หวาไม่อยากมีปัญหากับพี่อินทร์เลย เดี๋ยวจะลามไปถึงที่บ้าน” “ยี่หวาก็เป็นแบบนี้ทุกที คิดถึงแต่คนอื่น ไม่คิดถึงตัวเองบ้างเลย” “ว่าจะกลับอาทิตย์หน้า ยี่หวามีงานที่ร้านค้างอยู่ ยังไม่ได้บอกพี่เขาเลยว่าจะกลับบ้าน” “งั้นช่วงนี้ไปอยู่กับสร้อยที่บ้านดีกว่า ยี่หวาจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าหอ” “จะดีเหรอสร้อยสน” “ดีซิ เจ้าของหอก็หน้าเลือดเกิน อยู่แค่สิบห้าวันจะเก็บเต็มเดือน หน้าเลือดที่สุด” “จริงๆ ยี่หวาเก็บของบางส่วนส่งกลับบ้านไปบ้างแล้วล่ะ เหลือแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุด แล้วก็ของใช้จุกจิกนิดหน่อย” “งั้นก็ย้ายไปบ้านสร้อยเลย เคลียร์งานที่ร้านขนมปัง กับร้านอาหารให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยกลับ” “ไปเลยตอนนี้ สร้อยจะไปช่วยเก็บของ เดี๋ยวให้รถที่บ้านไปรับที่หอ” สร้อยสน เป็นห่วงเพื่อน ยี่หวาน่าสงสาร เธอรับรู้ทุกสถานการณ์บ้านของยี่หวา ที่พ่อกับแม่ลำเอียง รักแต่พี่ชาย มีเพียงปู่กับย่าที่เข้าใจ ยี่หวาเรียนเก่ง เรียบร้อย แต่สู้คน สมัยเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ๆ สร้อยสนเคยมีเรื่องกับเพื่อน ดีที่ยี่หวามาช่วยไว้ได้สองสามครั้ง สร้อยสนเรียนไม่ค่อยเก่ง มีอินทวาคอยติวให้ตลอด ล่าสุดเธอมีเรื่องกับแฟนเก่า แฟนใหม่ของแฟนเก่าเธอ มาหาเรื่องตบตี ก็ได้ยี่หวาช่วยไว้ ไม่งั้นเธอโดนมีดคัตเตอร์กรีดหน้าเสียโฉมแน่ๆ ฝ่ายนั้นหึงหวง เข้าใจว่าแฟนกลับมาหาสร้อยสน ทำให้ต้องเคลียร์กันนานหลายครั้ง สุดท้ายเป็นเพราะผู้ชายไม่อยากเลิกกับสร้อยสน แต่อยากจะมีผู้หญิงอีกคน ครั้งนั้นวุ่นวายน่าดู ก็ได้ยี่หวาคอยช่วยกันไว้ตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องที่ผู้หญิงของแฟนเก่าที่มาวุ่นวายกับสร้อยสน ที่ยี่หวาช่วยไว้เท่านั้น ครั้งหนึ่งสร้อยสนทำงานกลุ่ม ที่หอพักของเพื่อนใกล้มหาวิทยาลัย ครั้งนั้นยี่หวาไม่ได้อยู่ทำงานด้วย เพราะอยู่คนละกลุ่ม และต้องทำงานพิเศษที่ร้านเบเกอรี่ สร้อยสนกลับดึก ช่วงที่เดินกลับจากหอพักของเพื่อนออกมาหน้าปากซอย เพื่อรอรถที่บ้านมารับ มีผู้ชายเข้ามาลวนลามสร้อยสน เกือบจะถูกฉุด บังเอิญยี่หวาทำงานอยู่ที่ร้านเบเกอร์รี่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัย เห็นเหตุการณ์พอดี พวกผู้ชายสามคนกำลังยื้อยุดฉุดกระชากลากสร้อยสน ล้มลุกคลุกคลาน เพื่อที่จะพาไปขึ้นรถ ยี่หวาเห็นท่าไม่ดีตั้งแต่แรก รีบวิ่งไปช่วยสร้อย มือก็ถือโทรศัพท์ถ่ายวีดีโอไปด้วย ส่งเสียงร้องเรียกให้คนช่วย และคว้าเหล็กที่หาได้แถวนั้น วิ่งไล่ตีพวกผู้ชายขี้ยาทั้งสามคน คนรถที่บ้านของสร้อยสนมาทันเวลาพอดี ช่วยกันไล่ตีผู้ชายสามคนนั้นหนีกระเจิงไป แต่พวกนั้นก็ไม่รอด เพราะยี่หวาถ่ายวีดีโอไว้ เห็นหน้าชัดทุกคน ทางบ้านสร้อยสนดำเนินคดีเรียบร้อย ครั้งนั้นสร้อยสนถือว่า ยี่หวามีบุญคุณกับเธอมาก ช่วยเธอให้พ้นจากอันตราย ถ้าไม่มียี่หวา มีหวังเธอคงโดนฉุดไปข่มขืนแน่ๆ สร้อยสนปลอดภัย และวันนั้นเป็นวันแรกที่สร้อยสนพายี่หวาไปที่บ้าน เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กับที่บ้านฟัง ทุกคนซาบซึ้งมาก ต่างขอบอกขอบใจยี่หวา ยี่หวาเป็นคนสวย ผิวขาว ผมยาวหยิกสลวย หยิกแบบธรรมชาติ เวลายิ้มฟันเรียงกันสวยมาก รูปร่างดี เสียแต่ว่าไม่ค่อยใส่เสื้อผ้าเปิดเผยสัดส่วนเท่าไหร่ นอกจากชอบเดรสวินเทจแล้ว ยังชอบใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงยีนต์ รองเท้าผ้าใบ เรียกว่าหน้าตาดีทีเดียว แต่แปลก ไม่ค่อยมีใครกล้ามาจีบยี่หวา อาจเพราะเธอเป็นคนนิ่งๆ ถ้าจะมาจีบแบบทีเล่นทีจริง เธอไม่เคยสนใจ คิดเพียงแต่ว่าต้องเรียนให้จบ เวลาที่หญิงสาวไม่ยิ้ม เหมือนคนหน้าดุ ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายด้วย อินถวายอมไปพักที่บ้านของสร้อยสน สองสาวกลับไปที่หอพักเพื่อเก็บของ ในใจคิดว่าถ้าพี่ชายโทรมาอีกครั้ง เธอจะบอกเขาว่ายังไงดี “สร้อย ยี่หวาจะอยู่ที่บ้านสร้อย แค่สัปดาห์เดียวพอนะ ห่วงที่บ้าน ไ่ม่รู้ว่า พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้าง คิดถึงปู่กับย่าด้วย ” “เฮ้อ...คิดถึงแต่คนอื่น “ สร้อยสนบ่นเพื่อน เธอมีลางสังหรณ์ ถ้ายี่หวากลับเพชรบูรณ์ คงไม่มีโอกาสกลับมาทำงานที่รุงเทพฯ แน่ๆ “ยี่หวารู้สึกเป็นห่วงพ่อกับแม่ ปู่ย่า จริงๆ นะสร้อย ทุกคนไม่ใช่คนอื่น ทุกคนเป็นคนในครอบครัวยี่หวา ” “เพราะอะไร ทำไมคิดแบบนั้น พ่อกับแม่ ไม่ค่อยสบายเหรอ” “เมื่อก่อน ยี่หวาได้เงินเดือนจากที่บ้าน เดือนละสองหมื่น หลังๆ มาลดลงมาเหลือหนึ่งหมื่น พี่อินทร์ก็บ่น ว่าที่บ้านส่งเงินให้ช้า ยี่หวาเลยคิดว่าพ่อกับแม่จะมีปัญหาจริงๆ” “แล้วเวลายี่หวากลับบ้านเวลาปิดเทอม สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง” “พ่อกับแม่ก็ปกตินะ เหมือนกับท่านไม่ค่อยอยากให้รู้เท่าไหร่ “ “ยี่หวา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอยังมีฉันนะ ถึงแม้ว่าจะช่วยได้ไม่มาก แต่ขอให้บอก” “ขอบใจมากนะสร้อยสน เธอดีกับฉันตลอดเลย” “ใครบอก เธอซิดีกับฉันมาก ถ้าไม่ได้เธอจัดการกับพวกที่คอยมาแกล้งฉัน มีหวังฉันหน้าแหกเสียโฉมแล้ว” “ไม่เป็นไรหรอก เป็นใครก็ต้องช่วย เป็นเพื่อนกัน ไม่ช่วยกันได้ยังไง สร้อยไม่ต้องคิดมาก” “ไม่ให้คิดได้ยังไง สร้อยถือว่าเป็นเรื่องใหญ่” “เอาเถอะๆ ไม่เป็นไรหรอก ถ้ายี่หวาต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ยี่หวาจะบอกสร้อยเป็นคนแรก ” บ้านของสร้อยสน อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ แน่นอนบ้านของระดับมหาเศรษฐีเจ้าของโรงงาน ผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ใหญ่โตมาก บ้านหลังใหญ่ปลูกอยู่ภายในเนื้อที่เกือบสามไร่ ภายในบ้านอาศัยอยู่ด้วยกัน ห้าคน พ่อ แม่ และพี่สาวของสร้อยสนอีกสองคน ที่ห้องอาหารจีนหรูหรา ใจกลางกรุงเทพมหานคร แหล่งที่คนรวยมักพากันมาจัดงานเลี้ยงงานสังสรรค์ คืนนี้พ่อกับแม่ของสร้อยสน จัดงานเลี้ยงฉลองให้ทั้งสร้อยสนและอินทวา คุณกำธร และคุณอาภรณ์ สองสามีภรรยา ถูกชะตากับอินถวามาก รวมถึงพี่สาวสองคนของสร้อยสน ภารดีและพิณสุดา เวลาที่ยี่หวามาที่บ้าน จะช่วยเหลือทุกอย่าง งานบ้าน ทำกับข้าว ช่วงที่สร้อยสนมีปัญหา ได้ยี่หวาช่วยไว้ ทุกคนยิ่งรัก และเอ็นดูเด็กผู้หญิงคนนี้มาก เหมือนกับมีลูกสาวอีกคน “วันนี้ถือว่าเราเลี้ยงฉลองให้กับสร้อยสน และอินถวา ที่เรียนจบปริญญาตรี พ่อกับแม่และพี่ๆ ดีใจที่สร้อยสนเรียนจบ ถือว่าประสบความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง หลังจากนี้ก็พักก่อน จะทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วแต่ลูกเลย” คุณกำธรเอ่ยขึ้นระหว่างที่ทุกคนกำลังกินข้าว “ยี่หวา ถึงจะเรียนจบแล้ว ไม่ว่าจะกลับบ้าน หรือทำงานที่ไหน ยังไง ก็ต้องกลับมาเยี่ยมกันบ้างนะลูก” คุณอาภรณ์พูดกับยี่หวา ด้วยความเมตตา ดีใจที่สร้อยสนมีเพื่อนที่ดี นางเห็นอินถวาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ปีหนึ่ง สังเกตุเด็กคนนี้มาโดยตลอด “ขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่มากๆนะคะ ที่เมตตายี่หวามาตลอด” “เห็นว่าได้เกียรตินิยมด้วยกันทั้งคู่เลยใช่ไหมสร้อยสน” ภารดีพี่สาวคนโตหันไปถามน้องสาวคนเล็ก “เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยนะคะพี่ภารดี น้องเก่งมากทั้งสองคน”พิณสุดาตอบแทนสร้อยสน “ทำดีมากทั้งสองคน พี่ดีใจด้วย แล้วนี่ยี่หวา ดูไว้หรือยัง ว่าจะทำงานที่ไหน หรือว่าจะกลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อน” “ยี่หวาจะกลับบ้านก่อนค่ะพี่สุดา พอดีพ่อกับแม่ไม่ค่อยสบาย ที่บ้านไม่มีใครเลย ปู่กับย่าก็อยู่อีกบ้าน ” “อ้าวไหนว่ามีพี่ชายอีกคนไม่ใช่เหรอลูก” “ใช่ค่ะ ยี่หวามีพี่ชายอีกคน แต่ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่อังกฤษค่ะคุณแม่ ” “ก็น่าเป็นห่วงนะ แล้วที่บ้าน นอกจากขายอาหารแล้วทำอะไรอีกไหมลูก” “ทำสวนกุหลาบ ค่ะคุณพ่อ ยี่หวาเลยอยากกลับไปช่วยที่บ้าน” “น่าสนใจนะ กุหลาบ ปลูกขายเหรอลูก” “ใช่ค่ะปลูกส่งตลาดไท ส่งในอำเภอ และตลาดแถวบ้าน ยี่หวาอยากทำน้ำหอมกลิ่นกุหลาบค่ะ แต่ว่าต้องศึกษาก่อน” “เข้าท่านะพี่ว่า ทำเป็นแบรนด์ของตัวเอง พี่เองก็ชอบเหมือนกัน พี่รู้จักคนที่ทำหอมดี ไว้พี่จะบอกนะยี่หวา เผื่อได้ไปดูงานกับเขา” “ยี่หวาขอบคุณพี่ภารดีมากเลยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เมตตายี่หวา ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก บุญคุณของยี่หวาที่เคยช่วยสร้อยสนไว้ พวกเราไม่เคยลืม และอีกอย่าง ถ้ามีปัญหาเรื่องอะไร ให้รีบบอกพวกเรา บ้านเรายินดีให้ความช่วยเหลือ เอาล่ะๆ กินข้าวกันดีกว่า วันนี้วันดี” นายกำธรเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฟังทุกคนพูดจบ “ขอบคุณมากค่ะคุณพ่อ” อินทวายกมือไหว้คุณกำธรอีกครั้ง ภารดีและพิณสุดา พี่สาวของสร้อยสน ไม่แต่งงาน ดูท่าว่าจะอยู่เป็นโสด สร้อยสนห่างจากพี่สาวสองคนมาก พี่ภารดีสามสิบปี ส่วนพี่พิณสุดาสามสิบสองปี ทั้งสองทำงานช่วยครอบครัว เป็นผู้หญิงที่เก่ง มากความสามารถด้วยกันทั้งคู่ สร้อยสนเป็นลูกหลง ทุกคนจึงรักและถนุถนอมมาก เรื่องที่อินถวาเคยช่วยสร้อยสนไว้ ทั้งเรื่องการเรียน เรื่องที่ช่วยให้รอดพ้นจากโจร เรื่องที่มีปัญหากับเพื่อน ทุกคนถือว่าอินถวามีบุญคุณ และถ้าหากว่า ยี่หวามีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ บ้านมหาดำรง ยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง แบบไม่มีข้อแม้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม