ความเดิม- "ทำไม่ละครับ/นั่นซิ/อือ.นั่นซิ" เขมชาติ เขมณัฐ และเขมยุทธเอ่ยถามอย่างสงสัย
………………………………….
"เออน่ะ ถามมากจริง กุจะดูพ่อเทพบุตรของกูว่าจะปากแข็งได้สักแค่ไหน เตี่ยมองออกนะว่ามันชอบน้องสาวของพวกเราตั้งแต่แรกเจอแล้ว แต่มันติดที่ตัวมันเองนั่นแหละ..ไม่รู้จะเจียมตัวอะไรนักหนา" เขมรัฐเอ่ยเรียบ ๆ แต่มุมปากยกยิ้ม
"อ้าวเตี่ยนี่ยังไงนะ..เค้าเจียมตัวก็ว่า ถ้าเค้าเข้าหาก็จะหาว่าเค้าอยากตกถังข้าวสารอีกแหละ เห็นว่าเป็นลูกกำพร้า ยายเอาไปถวายวัดไม่ใช่เหรอ เค้าก็ย่อมจะเจียมตัวเป็นธรรมดา ไม่ใช่เหรอ" เขมชาติเอ่ยขึ้นอย่างคนห่างวัดห่างว่า
"เฮ่ยเฮียไม่ใช่ เค้าเรียกว่าเอาไปเอาปล่อยวัดต่างหาก" เขมยุทธเอ่ยแย้งบ้าง
"ผิดทั้งคู่แหละ ไม่มีใครเกินใครเลยพวกมึง ไอ้พวกห่างวัดห่างวา จะอะไรก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าตอนนี้เจ้าหนุ่มคนนี้คือคนที่มีบุญคุณกับครอบครัวเรา เค้าช่วยชีวิตน้อง แล้วก็คือคนที่ได้ใจน้องไปกว่าครึ่ง เข้าใจมั๊ย" เขมรัฐสรุปเสียงดังฟังชัด
อีกด้านของผู้มาใหม่
"เอ่อ..ของว่างจ้าเตี่ย..ลูก ๆ สรุปว่ายังไงคะ แม่จะได้ทำตัวถูก" วรรณดาเอ่ยยิ้ม ๆ มองหน้าคนโน้นคนนี้ที
"ไม่มีอะไรมากหรอกแม่ ก็ดู ๆ กันไปน่ะแหละ ตำราก็ส่วนตำรา ความประพฤติก็ต้องดูกันอีกยาว เตี่ยเองก็ไม่เห็นคนอื่นดีกว่าลูกกว่าเต้าหรอกสบายใจเถอะ" เขมรัฐเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบด้วยเหตุด้วยผล ทำเอาสามหนุ่มที่ฟังอยู่แอบมองบนกันเป็นแถบในขณะที่ชายชราเหลือบไปเห็นหน้าจอโทรศัพท์เตือนว่ามีข้อความใหม่
ตัดมาที่โรงพยาบาลเอกชนกลางเมืองท่องเที่ยว
นวนนท์หลังจากให้ยาฆ่าเชื้อทางสารน้ำครบแล้วหนึ่งเซ็ท แพทย์สั่งให้นอนพักเพื่อดูอาการอีกหนึ่งคืนแต่ชายหนุ่มดื้อไม่ยอมฟังจะออกโรงพยาบาลท่าเดียวเดือดร้อนแพทย์ที่ดูแลต้องรายงานต่อผู้บริหารโรงพยาบาลได้แก่นายแพทย์เขมณัฐ และด้วยเหตุนี้เองเขาจึงต้องมาไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง
"คุณนิว ปอดคุณยังไม่หายดีนะครับ คุณยังมีไข้ต่ำ ๆ อยู่เลย อยู่ดูอาการต่อเถอะครับ เพิ่งพักได้สามวันเอง ให้ครอบครัวของผมได้ตอบแทนคุณบ้างเถอะครับ" เขมณัฐเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
"ผมสบายดีแล้ว หายใจโล่งขึ้นแล้วครับ ผมขอออกเลยครับ" นวนนท์ยืนยันจะไปท่าเดียว
อีกด้านของผู้มาใหม่
"พักต่อเถอะนายนิว ป๊าสั่งเฮียมาว่าถ้าให้นายพักให้หายดีค่อยไปทำ จะกี่วันหรือกี่สัปดาห์ไม่สน ขอให้นายหายดี" แดนไตรเอ่ยเสียงเข้ม
"ท่านรอง สวัสดีครับ มาได้ยังไงครับ" นวนนท์เอ่ยขึ้นอย่างตกใจพลางหันไปมองหน้าเขมณัฐเพียงครู่ ส่วนอีกคนได้แต่หลบตา
"คิดถึงน่ะ เห็นว่ายังไม่หายดี ยังมีไข้อยู่ไม่ใช่เหรอ เห็นเฮียเกมบอกตอนนายหลับลองจับตัวดูยังตัวร้อนอยู่เลย พักต่อเถอะนะ เอาให้หายดีแล้วค่อยกลับไปทำ รับรองเฮียไม่ไล่นายออกหรอกแน่นอนเพราะไม่มีใครสู้กับแฮกเกอร์พวกนั้นได้นะถ้านายไม่ไปเป็นกำลังสำคัญให้ แต่ถ้านายเป็นอะไรไปเท่ากับเฮียเสียน้องชายอีกคนไปเลยนะ อีกอย่างนายก็มีหุ้นที่โรงแรมนิ่ ไม่ทำงานก็มีกิน เงินปันผลปีนึง ๆ เป็นสิบล้าน จะไปกลัวอะไร ไหนจะดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารอีก" แดนไตรเอ่ยอย่างสบายอารมณ์พร้อมกับบีบไปที่ไหล่คนน้องอย่างให้กำลังใจ
"แต่ผมสบายดีขึ้นตั้งเยอะแล้วครับ ผมไปนั่งในห้องคอนโทรลก็ได้ อย่างน้อยก็ดูแลระบบก็ยังดีนี่ครับท่านรอง" นวนนท์เถียงข้าง ๆ คู ๆ
"อย่าดื้อกับหมอซิ่ลุก นี่โรง'บาลของป๋าเอง ต่อให้ต้องดูแลเราเป็นเดือน ๆ ป๋าก็ไม่ล่มจมหรอก อยู่ต่อเถอะ เดี๋ยวยัยใบตองออกกะก็จะแวะมาเยี่ยมเรา เห็นบอกว่าเลิกงานแล้วจะตรงมานี่เลย" เป็นเขมรัฐที่เอ่ยขึ้นหลังจากลูกชายคนกลางส่งข่าวไปให้มาช่วยมาสงบศึกให้หน่อย
"อ้าวป๋าเข่ง กลับมาอีกทำไม ไป ๆ มา ๆ โรงพยาบาลนี่มันดีนักเหรอ เชื้อโรคออกเยอะแยะ ป๋าแก่แล้วนะ ทำไมไม่พักอยู่ที่บ้าน" คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงกลับบ่นคนแก่เสียงขรม
"ก็มาห้ามคนดื้ออย่างเอ็งไม่ให้ออกจากโรง'บาลไง ไม่รู้จะดื้ออะไรนักหนา ไม่รักตัวเองบ้างหรือไง หรือคิดว่าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจะทำยังไงกับชีวิตตัวเองก็ได้ รักตัวเองบ้างเถอะไอ้ลูกชายเชื่อป๋านะอยู่ต่อรักษาตัวให้หายแล้วค่อยกลับไปทำงาน ถ้าเค้าจะไล่ออกก็มาทำงานกับป๋านี่" เขมรัฐบอกเสียงแข็งบ้าง
ด้านแดนไตรที่ยืนฟังอยู่ได้แต่ยกยิ้มมุมปากพลางนึกในใจ เป็นกันทั้งพ่อทั้งลูกเลยเว้ย นายนิวนี่มันมีมนต์เสน่ห์อะไรทำไมมีแต่คนรักคนหลงว๊ะ
"พักต่อเถอะนะนายนิว เฮียไปนะ ดูท่าจะมีคนห่วงนายเยอะแล้ว ถ้าไม่หายดีอย่ากลับไปทำงานล่ะไม่งั้นป๊าต้องด่าเฮียแน่เลย ไปล๊ะ/สวัสดีครับคุณเขมรัฐ /ลาละครับคุณหมอ" แดนไตรเอ่ยลาคนป่วยและผู้สูงวัยรวมถึงคณะแพทย์แล้วเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยด้วยใบหน้ายกยิ้ม และบังเอิญที่สวนกันกับณรรรดาพอดี
"อ้าวท่านรอง สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมพี่นิวหรือคะ" ณรรรดาเอ่ยขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบกับเจ้านายพอดี
"สวัสดีครับณรรรดา มาเยี่ยมนายนิวครับ ตอนนี้กำลังจะกลับแล้ว" แดนไตรเอ่ยยิ้ม ๆ
"อ๋อ..ค่ะพี่นิวคงดีใจน่าดูเลย ขอบคุณนะคะ สวัสดีค่ะ" ณรรรดาเอ่ยขอบคุณแทนคนป่วย ส่วนแดนไตรได้แต่แปลกใจเล็กน้อยกับคำขอบคุณของสาวเจ้าได้แต่ยิ้มภูมิใจแทนน้องชายที่มีคนรักเหลือล้นแล้วเดินออกไปอย่างสบายอารมณ์