ความเดิม- "ได้เลยครับ ๆ ผมยินดีช่วยเต็มที่อยู่แล้วครับ" รปภ.วัยกลางคนช่วยคอยกดลิฟท์และคอยเปิดประตูรถยนต์ให้ แล้วรายงานนิติถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
………………………………..
ตัดมาที่สามพ่อลูก
"เตี่ยจะบอกยัยใบตองมั๊ยครับ"
"อย่าเลยลุก ถ้าบอกน้องต้องรีบบึ่งรถมาหานายนิวที่นี่แน่ ๆ น้องเข้ากะเช้า เพิ่งทำงานจะเสียงานเปล่า ๆ" เขมรัฐเอ่ยอย่างใช้เหตุผล
"ครับ ผมส่งข้อความไปบอกหัวหน้าเวรดึกแล้วครับ ทางนั้นน่าจะกำลังเตรียมห้องครับ แต่เรื่องประวัติการแพ้ยา หรือประวัติโรคประจำตัวของนายนิวเราไม่มีเลย" เขมณัฐพึมพำ
"มันต้องมีคนรู้ซิ ใช่ นายนิวเป็นเด็กวัด แล้วคนที่นายนิวนับถือที่พูดถึงบ่อย ๆ ชื่อเกม เป็นมือขวาของคุณแดนไตรเจ้าของโรงแรมในเครือเรืองทรัพย์ไพศาล" เขมชาติเอ่ยยิ้ม ๆ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างแล้วเพราะเขาพอจะมีนามบัตรของนายเกมคนนี้อยู่
"งั้นโทรหานายเกมอะไรนั่นก่อน ให้นายเกมไปถามพระให้ ถ้าไม่ได้ก็มีวิธีที่ปลอดภัย สกินเทสทุกรายการมันไปเลย เอาที่ปลอดภัยสุด ๆ งบประมาณไม่เกี่ยง" เขมณัฐเอ่ยอยางเฉียบขาด
"ได้ครับ" เขมชาติรับคำบิดา และรีบค้นหานามบัตรในกระเป๋าสตางค์และกดเบอร์ตามนามบัตรทันที สักพักปลายสายก็รับแล้วให้ความร่วมมืออย่างดี
สักพักรถยนต์คันหรูก็มาจอดที่ลานจอดรถในส่วนที่กันไว้สำหรับ วีไอพี และพนักงานเข็นรถเข็นมารออยู่ก่อนแล้ว และเข็นผู้ป่วยไปยังห้องตรวจฉุกเฉิน
ผลการตรวจปรากฎว่าปอดของคนไข้ช้ำและอักเสบแต่ไม่มีซีโครงหรือกระดูกหัก น่าจะกระแทกอะไรสักอย่างอย่างรุนแรงจนเกิดการอักเสบและหายใจลำบาก และคนป่วยต้องนอนที่โรงพยาบาลเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อทางสารน้ำ และถูกจัดให้พักในห้องพิเศษ
สักพักใหญ่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ครื่ด.. (เสียงเคาะประตูและเลื่อนเปิดเข้ามาจากกรวรรธ)
"เป็นยังไงบ้างพระเอก ท่านรองฝากมาบอกว่าให้อยู่รักษาจนหายดี ไม่ต้องไปทำงานหรอก นอนให้ยาจนครบค่อยกลับไปทำ"
"เฮียเกม เฮียรู้ได้ครับ" นวนนท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"ช่างเถอะ หลวงพี่ก็ฝากมาบอกว่าขอให้หายไว ๆ จะช่วยสวดมนต์เรียกขวัญให้หึหึ" กรวรรธเอ่ยยิ้ม ๆ
"ขอบคุณนะครับเฮีย ผมว่าผมจะเยี่ยมหาหลวงพี่อยู่ พอดีก็ติดนี่ติดนั่นเลยไม่ได้ไป" นวนนท์เอ่ยอย่างยากลำบาก
"อืม หายไว ๆ นะ เฮียไม่กวนล๊ะ เดี๋ยวจะบอกเจ้าโจกับเจ้าปอนด์ให้ เผื่อพวกมันอยากมาเยี่ยม พรุ่งนี้ท่านรองน่าจะมาแหละ พักเถอะ เฮียไปก่อน อยากกินอะไรมั๊ย พรุ่งนี้เฮียจะทำมาให้ เดี๋ยวไปถามหมอเจ้าของไข้ก่อน เฮียไปนะ" กรวรรธเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเข้าไปตบที่ไหล่ผู้ที่รักเหมือนน้องชายเบาแล้วเดินออกจากห้องไป
ด้านเขมณัฐได้จ้างพยาบาลพิเศษที่เป็นผู้ชายให้ดูแลคนป่วยและเขาก็กลับพร้อมกับบิดาและพี่ชายเพื่อไปส่งข่าวคนที่บ้าน
@บ้านพลผลาดล
ทั้งสามคนเดินเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยหน่ายแต่ต้องแปลกที่พบว่าสมาชิกในครอบครัวที่เหลือนั่งรอพวกเขาอยู่อย่างพร้อมเพรียง
"พี่นิวเป็นยังไงบ้างคะเตี่ย"
"ให้พี่ณัฐของเราเล่าเถอะ เตี่ยบอกไม่ถูก"
"ยังไงเหรอคะ พี่นิวเป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"ก็ไข้สูงอยู่เหมือนกัน แผลก็ท่าทางจะอักเสบน่าจะไม่ได้กินยาตามหมอสั่ง ที่ยิ่งไปกว่าแผลก็ปอดนี่แหละ ช้ำอักเสบก็เลยมีไข้ หายใจลำบากต้องให้ยาทางน้ำเกลือจนครบเซ็ทแหละ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้เครดิตคุณวรรณดานะครับที่ไล่ให้พวกเราไปดูนายบอดี้การ์ดนั่น ถ้าไปช้ากว่านี้ นายนั่นอาจติดเชื้อ หรือลำบากมากกว่านี้ก็ได้” เขมณัฐเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันมาสบตามารดาเพียงครู่อย่างนึกชื่นชม
"สงสารน่ะลูก ตัวคนเดียว ได้ข่าวว่าเป็นเด็กกำพร้าอยู่กับหลวงตาเลี้ยงมาจนโตไม่ใช่เหรอ" วรรณาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสลด
"ใช่แม่ แต่เด็กมันดีนะ ประคับประคองชีวิตให้ดีได้จนถึงทุกวันนี้ เงินเดือนรายได้ก็เก็บเอาไปซื้อหุ้นของโรงแรมได้ค่าหุ้นกันไม่ใช่น้อย ไหนจะรายได้พิเศษค่าเป็นโปรแกรมเมอร์อะไรของเค้าอีก แต่ชอบทำกับข้าว ชอบทำขนม เตี่ยเจอกับนายนิวครั้งแรกก็ตอนที่เตี่ยเป็นลมหน้ามืดเค้าก็เข้ามาช่วยพาไปหาหมอ จ่ายตังค์ให้เสร็จแล้วก็พากลับมาที่เดิมเค้าเข้าใจว่าเตี่ยเป็นอาแปะแก่ ๆ คนนึงน่ะ ภายหลังเตี่ยบอกความจริงไปและตัดสินใจให้เค้าช่วยเรื่องแยกนายหน้าหล่อจากลูกสาวของเรา ตอนแรกเค้ายอมที่ไหนล่ะ แต่ไม่รู้ยังไงก็ยอมช่วยเฉย เตี่ยก็เลยยกร้านให้เป็นการตอบแทน แต่เค้าก็บอกว่าไม่ได้อยากได้ร้านฟรี ๆ แต่รู้ว่าไอ้หน้าหล่อนั้นมันปลิงก็เลยอยากช่วยแกะปลิงออกให้แค่นั้น นี่แหละเหตุผลที่เตี่ยรักในน้ำใจเด็กหนุ่มคนนี้แหละแม่" เขมรัฐเล่าทุกอย่างให้ภรรยาฟังยิ้ม ๆ
"แม่จะถือว่านี่คืพรหมลิขิตนะคะ ต่อจากนี้ไปนายนิวคือลูกชายของแม่อีกคนนะ" คุณวรรณดากล่าวขึ้นบ้าง
"ได้เลยแม่ นิวจะเป็นลูกชายอีกคนของเรา"
"ได้ไงคะเตี่ย แม่ พี่นิวต้องเป็นแฟนหนูซิคะ" ณรรรดาแย้งขึ้นเสียงแจ๋ว
"หึหึ ยัยเด็กโง่เอ๊ย.. ก็หมายถึงว่าที่ลูกเขยนั่นแหละ" เขมรัฐเอ่ยกลั้วหัวเราะ
"อ้าว..เหรอคะ พรุ่งนี้หนูอยากไปเยี่ยมพี่นิวจัง ได้มั๊ยคะเตี่ย แม่ พี่ ๆ" ณรรรดาเอ่ยเป็นเชิงขออนุญาต
"ได้ แต่ต้องหลังเลิกงานแล้วนะ" คุณนายวรรณดาเอ่ยอย่างเฉียบขาด