หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงรุ่นที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้น แพรวาที่กลับมาถึงบ้านก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดหกฟุต พลางคิดถึงเรื่องที่ได้คุยกับเพื่อนรักทั้งสี่คนไป และก็ทำให้ภาพใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งลอยเข้ามาในห้วงความคิด
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนหน้า…
แพรวาได้กินเลี้ยงอำลากับเหล่าเพื่อนครูที่โรงเรียนเก่า เนื่องจากเธอหมดวาระจากการเป็นครูผู้ช่วยสอน หลังจากงานเลี้ยงเมื่อช่วงค่ำจบลง เธอก็ได้ไปดื่มต่อที่ผับตามลำพังด้วยหัวใจที่เปลี่ยวเหงา
แพรวาใช้ชีวิตการเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนแห่งนั้นเป็นเวลาสามปีหกเดือนนับตั้งแต่เรียนจบมา ด้วยความรักและความผูกพันต่อเด็กนักเรียนและเพื่อนร่วมอาชีพที่อยู่ด้วยกันมานาน ก็ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจที่จะต้องย้ายไปสอนที่โรงเรียนแห่งใหม่
“ขอไวน์โรเซขวดหนึ่งค่ะ”
แพรวาเข้าไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์และสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์หน้าตาหล่อเหลาที่ยืนอยู่
ไวน์สีชมพูกุหลาบที่ผสมกันระหว่างไวน์ขาวและไวน์แดงอย่างลงตัวในขวดหรู ก็ได้ถูกนำมาวางตรงหน้าของครูสาวสุดเซ็กซี่ที่คืนนี้มาในชุดมินิเดรสเกาะอกสีดำทั้งตัว ขับผิวขาวผ่องสะดุดตาชายหนุ่มที่ออกมาดื่มในค่ำคืนนี้ให้เหลียวมองกันแทบไม่วางตา และบาร์เทนเดอร์คนเดิมก็รินไวน์ใส่แก้วทรงสูงเพรียวเอาไว้ให้ลูกค้าสาวหนึ่งแก้ว
มือเล็กจับแก้วไวน์จรดริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงอมชมพูระเรื่อแล้วดื่มน้ำสีหวานลงคอ ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติละมุนลิ้น ทำให้ดื่มง่าย แต่ก็ทำให้เมาได้ไม่แพ้เหล้าดีกรีสูงเช่นเดียวกัน
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง ไวน์โรเซก็พร่องลงไปครึ่งขวด ใบหน้าหวานซับไปด้วยสีเลือดฝาด ดวงตาหวานหยาดเยิ้ม เธอคิดว่าคืนนี้ถ้าไม่หมดขวดอย่างไรก็จะไม่ยอมกลับคอนโด
ว่าแล้วก็รินไวน์ใส่แก้วแล้วกระดกลงคอไปอีกแก้ว
ผู้คนทั่วทั้งผับส่วนมากจะเป็นเหล่านักศึกษาที่พากันออกมาดื่มในช่วงวันหยุด ขนาดว่าวันนี้เป็นคืนวันอาทิตย์เหล่าชายหญิงวัยมหาวิทยาลัยยังคงออกมาเที่ยวกันเต็มพื้นที่ในผับ บ้างก็ออกมาโชว์สเต็ปแดนซ์โยกย้ายเรือนกายไปตามจังหวะของดนตรีที่ดังกระหึ่ม บ้างก็นั่งกินที่โต๊ะรวมกับกลุ่มเพื่อนเพื่อสนทนากัน
แสงไฟวิบวับหลากสีที่สะท้อนเข้าตา ชวนให้หญิงสาวที่นั่งอยู่รู้สึกตาลายเป็นอย่างมาก คล้ายว่าจะเริ่มมึนเมาขึ้นมาบ้างแล้ว
“ไอ้น่านน้ำ คืนนี้ไม่เมาห้ามหนีกลับนะเว้ย” เสียงของเจย์เอ่ยกับเพื่อนสนิทที่ชวนกันมานั่งดื่มตั้งแต่หัวค่ำ
“นี่ใคร น่านน้ำนะครับ กูเคยหนีกลับด้วยเหรอวะ”
น่านน้ำ หนุ่มหล่อที่สุดและก็พูดน้อยที่สุดในกลุ่มเพื่อน เห็นหน้าหล่อๆ แบบนี้แต่ดันโสดสนิท เพราะเขาไม่เคยคิดจะมีแฟน สาวๆ คนไหนที่เข้ามาจีบก็โดนปฏิเสธไปทุกราย จนเพื่อนๆ ต่างเสียดายในความหล่อที่ใช้ไม่เป็นของเจ้าตัว
“น้อง เอาเหล้ามาอีกขวด กูจะดูสิว่าในพวกเราใครจะเมาหัวราน้ำก่อนกัน” ภูผาชูมือขึ้นกวักเรียกพนักงานมาสั่งเหล้าเพิ่ม
แก๊งหนุ่มหล่อยื่นแก้วไปด้านหน้าเพื่อชนแก้วกัน และเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันอย่างพร้อมเพรียงว่า “หมดแก้ว” จากนั้นก็กระดกเหล้าสีเข้มลงคออย่างคนกระหาย
สายตาคู่คมของน่านน้ำจังหวะที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มก็เหลือบมองไปเห็นหญิงสาวในชุดมินิเดรสเกาะอกสีดำ ที่นั่งอยู่คนเดียวหน้าเคาน์เตอร์บาร์ราวกับคนเหงา ด้านหน้ามีขวดไวน์และแก้วที่มีน้ำสีชมพูวางอยู่ แล้วเธอก็ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มชวนให้มองตามราวกับต้องมนต์สะกด จนเจ้าตัวเผลอกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างลืมตัว แล้วเผลอพูดอะไรบางอย่างออกมาจนเพื่อนๆ ต่างพากันงง
“มาเที่ยวผับแต่สั่งไวน์เนี่ยนะ”
“พูดอะไรวะ” ภูผาส่งมือไปตีที่หน้าขาเพื่อเรียกสติเพื่อน
“นั่นสิ มองอะไรวะ สาวเหรอ ไหนคนไหน ชี้ให้พวกกูดูบ้างดิวะ”
เจย์รีบมองตามสายตาของน่านน้ำ ก่อนที่เจ้าตัวจะดึงสายตากลับมาที่กลุ่มเพื่อนของตัวเอง แล้วยกเหล้าขึ้นดื่มเพื่อแก้เขินที่ดันลืมตัวเผลอมองผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แต่หญิงสาวคนนี้ช่างดูมีเสน่ห์ ตัวเล็ก ผิวขาว ใบหน้าสวยออกหวาน ริมฝีปากอวบอิ่ม ขนาดมองจากที่ไกลๆ ก็ยังดูสวยชวนมองขนาดนี้ แล้วถ้าได้เห็นใกล้ๆ ล่ะ...
น่านน้ำรีบยกเหล้าขึ้นดื่มเพื่อสลัดความคิดบ้าๆ ในหัวของตัวเองทิ้ง ไม่รู้ว่าดื่มหนักหรืออย่างไรความคิดนี้ถึงได้ผุดเข้ามาในหัวสมองของเขาได้ เพราะปกติเขาไม่เคยให้ความสนใจผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะสวย เซ็กซีขนาดไหนก็ตาม
“ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” น่านน้ำเอ่ยกับเพื่อนเสร็จก็ลุกออกจากโต๊ะไปทันที
“รีบไปรีบมาล่ะ” เจย์ตะโกนตามหลัง
“ห้ามหนีกลับนะเว้ย ไม่งั้นเหล้ามื้อนี้กูจะตามไปเช็กบิลที่มึงนะ” ภูผาเอ่ยสมทบอีกคน
น่านน้ำไม่ได้หันกลับไปมองเพียงแต่ยกมือให้อย่างไม่ยี่หระ แล้วก็เดินตรงไปเข้าห้องน้ำทันที
ทางด้านแพรวา เธอก็ลุกออกจากเคาน์เตอร์บาร์ไปเข้าห้องน้ำ และในตอนที่ออกจากห้องน้ำมาก็ถูกชายหนุ่มที่มายืนสูบบุหรี่เอาตัวมากั้นขวางทางเอาไว้ เพื่อหาเรื่องพูดคุยกับเธอ
“สนใจไปต่อกับพี่ไหมครับ จะเรียกค่าตัวเท่าไรว่ามาได้เลย สวยๆ แบบนี้พี่พร้อมจ่าย”
ชายคนดังกล่าวเอ่ยคำพูดแสลงหูแถมยังพูดจาดูถูก จนคนที่ได้ฟังถึงกับอดไม่ได้ต้องรีบสวนกลับไปทันที
“ฉันมาเที่ยวไม่ได้มาขายตัว ถ้าคันมากก็เชิญไปชักว่าวในห้องน้ำนู้นไป”
น่านน้ำที่ทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จและเดินออกมา ก็พบกับหญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานที่ทำให้เขาเผลอมอง กำลังต่อว่าใครบางคนอยู่ และชายคนดังกล่าวก็กำลังฉุดกระชากข้อมือของเธอเพื่อดึงเข้าไปกอด โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ให้ความยินยอม
ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษอย่างเขาเจอสถานการณ์แบบนี้เข้า จึงอดไม่ได้ที่จะเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือ
“ผู้หญิงไม่เล่นด้วยก็ปล่อยเธอดิครับ” น่านน้ำเอ่ยแทรกทำให้อีกฝ่ายชะงักการกระทำ แล้วหันมามองเขาด้วยสายตาเอาเรื่อง
“แฟนฉันมาแล้วปล่อยนะ”
แพรวาออกแรงขัดขืนและดิ้นออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย และดีที่ฝ่ายนั้นยอมหยุด เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดลำแขนของชายหนุ่มที่เข้ามาขัดจังหวะ แถมเธอยังถือวิสาสะบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธออีกต่างหาก
“ยืมเป็นแฟนแป๊บนึงนะ” แพรวาเขย่งปลายเท้าโน้มใบหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหูเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
“อื้ม” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มขานรับอย่างเต็มใจ
“มีแฟนแล้วก็ไม่บอก เสียเวลาชิบ” ชายคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยท่าท่างเสียดาย
“ก็บอกอยู่นี่ไง ขอตัวก่อนนะ แฟนฉันมารับกลับบ้านแล้ว”
แพรวาเอ่ยจบก็กอดแขนพาชายที่ยังไม่รู้แม้แต่ชื่อเดินออกมาจากหน้าห้องน้ำ
“มาคนเดียวเหรอครับ” น่านน้ำถามอีกฝ่าย
“อื้ม ไหน ๆ ก็ช่วยฉันแล้ว ไปส่งฉันหน่อยสิคุณแฟน” แพรวาเอ่ยขอกับชายแปลกหน้าที่ก็ถือว่านิสัยดี…มั้ง
เพราะวันนี้แพรวาไม่ได้ขับรถมาเอง เพื่อนที่เป็นครูมารับที่คอนโดและเธอก็เดินทางมาดื่มต่อที่ผับแห่งนี้ด้วยรถแท็กซี
“ขอกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ” น่านน้ำหันไปถาม ไม่คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายถูกผู้หญิงเชิญชวน แถมยังสวยมากอีกด้วย
“ก็ง่ายๆ แบบนี้แหละ” แพรวาตอบอย่างมาดมั่น ดื่มมาขนาดนี้แล้ว มีอะไรบ้างที่เธอไม่กล้าก็แค่ให้ขับรถไปส่งที่คอนโดเอง
เมื่อเธอกล้าขอ น่านน้ำก็กล้าไปส่งโดยที่เขาก็ไม่ได้เข้าไปบอกกับเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะออกจากผับมา
ในระหว่างทางไปถึงคอนโดดูเหมือนแพรวาจะเมาจนได้ที่และเผลอหลับไปตลอดทาง ดีที่เธอได้บอกโลเคชั่นให้กับน่านน้ำแล้ว เขาจึงไม่ได้ปลุกจนรถขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถใต้คอนโดของหญิงสาว
น่านน้ำหันไปมองก็เผลอกระตุกยิ้มมองใบหน้าสวยที่กำลังหลับตาพริ้ม สายตาเจ้ากรรมก็เผลอมองต่ำบริเวณสองเต้าอวบที่ล้นเกาะอกออกมา และเลื่อนสายตาลงต่ำไปมองเรียวขาขาวเนียนน่าสัมผัส ถ้าเธอดิ้นตัวอีกนิดก็อาจจะเห็นชั้นในโผล่ออกมาด้วย เพราะชุดของเธอนั้นมันสั้นมาก ทำเอาใจเขาสั่นไหวและรู้สึกร้อนวูบวาบไม่เป็นตัวของตัวเอง
น่านน้ำโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อย่างลืมตัว ลมหายใจเริ่มติดขัด แทนที่เขาจะเรียกให้เธอตื่น แต่กลับเลื่อนมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยออกให้แทน
แพรวาเริ่มรู้สึกตัวค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้อยู่ห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ ลมหายใจอุ่นๆ ที่ปนกลิ่นแอลกอฮอล์เป่ารดใบหน้าของกันและกัน ดวงตาสองคู่จ้องกันอย่างไม่วางตา
“ขอได้ไหม” น่านน้ำเอ่ยขอเสียงเบาราวกับไม่มั่นใจว่าสิ่งที่กำลังขออยู่ เธอจะตอบอนุญาตหรือไม่