รักสนุกก็ต้องรู้จักเซฟ

1130 คำ
ผมไล่สายตามองรูปร่างใต้ชุดเดรสสีแดงสดของเธอพลางเลียริมฝีปากยั่ว ไวโอเล็ตหัวเราะเบาๆ ยื่นเท้ามาลูบขาผมที่ใต้โต๊ะเป็นสัญญาณให้ผมเตรียมพร้อม ไม่นานนัก เธอก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่เพื่อนๆ ของเธอเมาคอพับคออ่อน ผมเองก็กำลังเมาได้ที่ แต่พอเห็นโอกาสงามอย่างนั้น ผมก็เลือกที่จะคว้าไว้ ทิ้งจังหวะนิดหน่อยก่อนจะลุกตามไป พอเลี้ยวมายังหัวมุมทางเข้าห้องน้ำ มือบางของไวโอเล็ตที่ดักรออยู่แล้วก็โอบลำคอผมไปจูบอย่างดูดดื่ม ผมสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงเธอ กะว่าจะจัดการให้เสร็จตรงนี้ ทว่าเธอก็คว้ามือผมเอาไว้ก่อน “ตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ว่าจบก็ลากผมไปยังประตูหลังไนท์คลับซึ่งเป็นตรอกแคบๆ ไร้ผู้คน มีเพียงแสงไฟสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ เท่านั้นที่ส่องมาพอให้มองเห็นบ้าง มันจะน่าพิศสมัยมากถ้าหากไม่มีถังขยะใบใหญ่ตั้งตระหง่านส่งกลิ่นคลื่นเ**ยนอยู่ แต่ในเวลาอย่างนี้ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการซุกไซ้ร่างอวบอั๋นตรงหน้าแล้ว ผมดันเธอไปชิดผนัง จัดการบรรเลงตามสัญชาตญาณดิบจนทุกอย่างเข้าที่ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลัง ล้วงเอาซองพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมจัสตุรัสออกมาแล้วฉีกมันออก ไวโอเล็ตมองยางสีขาวขุ่นทรงยาวแล้วก็หัวเราะออกมา “เตรียมพร้อมดีจังนะ” “รักสนุกก็ต้องรู้จักเซฟ” ผมบอก พลันส่งให้ไวโอเล็ตถือมันไว้ เลื่อนมือไปปลดเข็มขัด แต่ก็ต้องส่งเสียงจึ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อโทรศัพท์มือถือของไวโอเล็ตที่เหน็บอยู่ในร่องอกเธอดังขึ้นมา เธอยกมือขึ้นจุปากเป็นสัญญาณให้ผมเงียบก่อนกดรับ ผมถอนหายใจออกมาเต็มแรง พร้อมกับไฟราคะเมื่อครู่ที่มอดลงที่รู้ว่าคู่สนทนาของเธอคือแฟนหนุ่มที่โทรมาตามกลับบ้าน “เดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว อีกสักชั่วโมงสองชั่วโมง อะไรนะ มารออยู่ข้างหน้าแล้ว!? โอเคได้ เดี๋ยวฉันออกไป” แสงไฟสลัวตกกระทบใบหน้าทำเอาผมนิ่งค้างไปชั่วขณะ ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก แม้แต่ผมที่ไม่เคยชายตามองผู้ชายด้วยกันมาก่อนยังอดชมไม่ได้ แม้จะเปรอะเปื้อนไปด้วยปื้นดำๆ แต่ก็ไม่สามารถบดบังรูปหน้าสมมาตรได้เลย จมูกเป็นสันคมรับกับแนวกรามเป็นอย่างดี มองอย่างไรก็ไม่ต่างจากเทพบุตรกรีก ผมทรุดตัวนั่งยอง ปัดปอยผมสีเฮเซลนัทที่ปรกหน้าผากเขาออก พลางถามเสียงเบา “เฮ้ นายโอเคมั้ย” คนถูกถามค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมา และผมก็ต้องตะลึงงันไปอีกรอบเมื่อเห็นดวงตาสีเทาสว่างคู่สวย ผู้ชายคนนี้... มีเสน่ห์น่าดูเลยแฮะ นี่ล่ะมั้งที่เรียกว่าเซ็กส์แอพพึล “จะให้เรียกแท็กซี่ให้มั้ย ดูท่าทางนายจะเมาหนักแล้วนะ” ผมว่า เดาเอาเองว่าเขาคงจะเป็นลูกค้าของไนท์คลับแห่งนี้เหมือนกัน รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ไม่พ้นเป็นนายแบบไม่ก็ลูกคนรวยที่ไหนสักที่แน่ๆ แต่ผมไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ ถ้าเป็นลูกค้าวีไอพีของที่นี่ อย่างน้อยๆ ผมก็ต้องเคยเห็น ไม่ก็ต้องเคยได้ยินสาวๆ พูดถึงบ้างสิ หล่อขนาดนี้จะถูกเมินนี่เป็นไปไมได้เลย หมอนั่นไม่ตอบ มองผมตาปรือ พลันไอโขลกออกมาขนานใหญ่ “เฮ้ ไหวมั้ย” ผมรีบพยุง ก่อนที่มือจะสัมผัสเข้ากับของเหลวบางอย่างที่ไหลซึมมาจากสีข้างของร่างใหญ่ แค่ของเหลวอย่างเดียวยังไม่เท่าไหร่ นี่ยังมีแท่งอะไรบางอย่างปักอยู่บนตัวเขาด้วย ผมใจหายวาบ รู้ได้ในทันทีว่ามันคือมีด และหมอนี่ก็คงจะถูกทำร้ายมา “เดี๋ยวฉันโทรแจ้งตำรวจให้” ผมรีบบอกเร็วๆ ดึงมือออกมา หมายจะล้วงเอาโทรศัพท์โทรหาตำรวจ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสีของของเหลวที่เปื้อนมือ มันไม่ใช่สีแดงอย่างที่ควรจะเป็น แต่มันเป็นสีเขียว... สีเขียวอ่อนเสียด้วย! ผมเบิกตาโพลง กลิ่นคาวของมันทำให้ผมมั่นใจว่ามันคือเลือด แต่สีเขียวอ่อนอย่างนี้ ผมอดคิดไม่ได้เลยว่านี่เป็นการเล่นตลกอะไรของพวกลูกหลานคนไฮโซ เพราะเจ้าคนพวกนี้ชอบแกล้งกันอยู่เนืองนิตย์ โดยเฉพาะพวกที่มาเที่ยวที่นี่ “นี่มันบ้าอะไรเนี่ย!” เท่านั้น ผมก็หัวเสียทันที หมอนั่นไม่ตอบ แต่ยื่นมือมาจับไหล่ผมไว้มั่นแทน “ขะ...ขอ...” น้ำเสียงขาดห้วงไป ทำเอาผมย่นคิ้วยุ่ง “อะไร” “ขอวางไข่หน่อย...” “อะไรนะ!” ผมถามเสียงดัง ไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่หมอนี่พูดมันใช่ประโยคเดียวกับที่ตัวเองได้ยินหรือเปล่า “ขอวางไข่...” ยังย้ำผมด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอีกครั้ง วางไข่อะไรวะ! ผมทำท่าจะลุกหนีเพราะเห็นว่าการคุยกับหมอนี่มันทำให้ผมหัวเสียกว่าเดิม หากแต่พอผมจะลุกขึ้น มือใหญ่ที่จับไหล่ผมอยู่ก็ออกแรงดึงร่างผมให้เข้าไปใกล้ ก่อนที่เขาจะจรดริมฝีปากหยักลงมาบนเรียวปากผม มิหนำซ้ำ ยังพยายามดุนลิ้นเข้ามาข้างในด้วย ทำให้ผมผลักไอ้บ้านี่ออกเต็มแรง “ทำเวรอะไรเนี่ย!” หมอนั่นไม่ตอบเช่นเคย และไม่ยอมปล่อยให้ผมไปไหนด้วย พอผมผละออก มันก็รีบพยุงตัวเองขึ้น แล้วดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้ง การจูบครั้งนี้รุนแรงและหนักหน่วงกว่าครั้งแรกมาก หมอนั่นแทบจะไม่รั้งรอที่จะดุนลิ้นนุ่มเข้ามาในโพรงปากผมเลยแม้แต่น้อย ผมพยายามจะสะบัดหน้าหนีแต่ก็รู้สึกเหมือนว่ามีบางอย่างตรึงผมไว้ให้อยู่กับที่จนขยับไม่ได้ ครู่เดียว ก็รู้สึกถึงวัตถุทรงกลมบางอย่าง ขนาดเท่าเมล็ดถั่วแมคคาเดเมียในปาก ผมพยายามจะขย้อนมันออก แต่อีกฝ่ายใช้ลิ้นดันมันเข้ามาลึกเรื่อยๆ จนผมต้องกลืนมันลงไปอย่างไร้ทางเลือก และพอผมกลืนมันลงไป คนขโมยจูบก็ถอนริมฝีปาก ผมได้สติในตอนนี้ ง้างหมัด กระชากคอเสื้อเขาเตรียมจะซัดทันใด พอวางสาย เธอก็หันมายิ้มแหยให้ผม ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าสังเวียนครั้งนี้ถึงเวลาล่มไม่เป็นท่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม