เช้าวันนี้จ่าวเว่ยหลงเป็นคนมารับของเอง เขามาเพื่อที่จะเอาสัญญาการค้ามาให้และได้สืบเรื่องของหลินเจียวเจียวแล้ว ก่อนหน้านี้เธออาจจะเป็นคนร้ายกาจ หรือเป็นคนที่ไม่ทำอะไรเลยเอาง่ายๆ คือไม่สนใจอะไร แต่หลังจากที่เธอหายป่วย เธอก็เปลี่ยนนิสัยของตัวเองกลับกลายเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่จ้าวเว่ยหลงขอดูอีกสักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจรับเธอเป็นน้องบุญธรรม วันนี้เขาเอาสัญญามาให้เพราะไม่อยากที่จะให้เธอทำอาหารส่งที่ไหนนอกจากร้านของเขา
“อ้าวคุณจ้าว วันนี้มาเองเลยเหรอคะ” หลินเจียวเจียวทักขึ้นเมื่อเห็นว่าใครมารับของ
“ใช่ ผมมีอะไรจะคุยด้วยหน่อยคุณสะดวกคุยไหม” จ้าวเว่ยหลงพูดด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม
“ได้สิคะ เข้ามาก่อนค่ะ” จากนั้นหลินเจียวเจียวก็เรียกพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ออกมา
“คุณจ้าวคะนี่พี่สามีของฉันและพี่สะใภ้ค่ะ ทั้งสองคนนี้เป็นคนทำขนมที่ส่งให้คุณ” หลินเจียวแนะนำทั้งสองคนให้คุณจ้าวรู้จัก
“อ้าวเหรอ ผมนึกว่าคุณทำเองทั้งหมด วันนี้ผมเอาสัญญามาให้ ผมต้องกลับไปทำใหม่แล้ว” จ้าวเว่ยหลงเขาคิดว่าหลินเจียวเจียวเธอเป็นคนทำ
“สัญญาอะไรคะ แล้วทำไมต้องกลับไปเปลี่ยน”
“ผมทำสัญญาการค้าระหว่างเราขึ้น ผมต้องการให้คุณทำซาลาเปาและเกี๊ยวรวมไปถึงขนมส่งให้เพียงร้านผมร้านเดียว และอีกอย่างผมขอเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย ตอนนี้ผมกำลังจะเปิดอีกร้านหนึ่ง แต่ผมไม่ห้ามนะถ้าคุณยังจะขายที่ตลาดนัดต่อ” เขาไม่ห้ามที่จะขายที่ตลาด แต่ห้ามส่งร้านอาหารร้านอื่น
“แล้วเพิ่มจำนวนเป็นเท่าไหร่ค่ะ ฉันกลัวว่าจะทำไม่ทัน”
“ไส้เนื้อผมขอเป็น สามร้อยลูก ไส้ผักผมขอเป็น หนึ่งร้อยห้าสิบลูก เกี๊ยวผมขอ ห้าร้อยตัว และขนมไข่นึ่ง สี่ร้อยชิ้น ทั้งหมดนี้ผมขอต่อวันนะครับ ตอนนี้ของที่เอาไปขายไม่ถึง สองชั่วโมงก็หมดแล้ว ถ้าร้านใหม่เปิดอาจจะต้องขอเพิ่มอีกหน่อย พอจะทำไหวไหม นี่สัญญาลองอ่านดูนะว่าต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง” จ้าวเว่ยหลงส่งสัญญาให้หลินเจียวเจียวอ่าน
“สัญญานี้ ห้าปีเลยเหรอคะ” ไม่ใช่แค่หลินเจียวเจียวที่ตกใจ แต่เป็นทั้งสามคนที่ตกใจไม่ว่าจะเป็นซ่งฮ่าวหยูหรือแม้แต่โกวหัวหลิงที่ได้ยินยังตกใจ
“ครับ สัญญานี้เป็นสัญญาระยะยาว แต่ผมต้องกลับไปเปลี่ยนใหม่เพราะคุณบอกว่าขนมเป็นของพี่ชาย”
“ไม่เป็นไรครับถ้าเจียวเจียวตกลงก็ใช้สัญญาใบเดียวกันก็ได้ครับ” ซ่งฮ่าวหยูเขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ที่เขาลืมตาอ้าปากได้ก็เพราะน้องสาวคนนี้
“ฉันไม่มีปัญหานะคะถ้าเป็นช่วงนี้ แต่ถ้าหลังจากนี้ พ่อ แม่ พี่ฮ่าวหยู และพี่รองของฉันต้องกลับไปทำงานที่กองพลน้อยนะสิคะ เหลือเพียงฉัน พี่สะใภ้แล้วก็เด็กๆ เท่านั้น” หลินเจียวเจียวทำเป็นคิดหนัก ซ่งฮ่าวหยูเมื่อได้ยินน้องสะใภ้พูดแบบนั้นก็ได้แต่คิดในใจ ‘ความเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกินจริงๆ ถ้าคุณจ้าวตกลงนั่นก็หมายความว่าทุกคนไม่ต้องกลับไปทำงานที่กองพลน้อยแล้ว’
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณส่งรายชื่อคนในครอบครัวมาแล้วผมจะจัดการให้ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องมีใครไปทำงานที่กองพลน้อยแล้ว” จ้าวเว่ยหลงตัดสินใจในที่สุด เพราะเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกินกำลังของเขา
“จริงเหรอค่ะ พี่ใหญ่ไปเขียนชื่อให้หน่อยสิคะ” หลินเจียวเจียวบอกอย่างดีใจ จริงๆ แล้วเธอรอแค่เวลา เธอตั้งใจว่าจะบอกคุณจ้าวให้ช่วยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันแต่ไม่คิดว่าคุณจ้าวจะเป็นคนจัดการให้เอง
ซ่งฮ่าวหยูเองก็ไม่คิดว่าคุณจ้าวจะดำเนินการให้ทันที ตอนแรกคิดว่าจะต้องรอหรือว่าจะต้องตัดสินใจก่อน จากนั้นก็ไปเขียนรายชื่อก่อนจะยื่นให้กับเจียวเจียวน้องสะใภ้เขา
“นี่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณจ้าว” หลินเจียวเจียวยื่นรายชื่อให้ ก่อนจะกล่าวคำขอบคุณ
“ไม่เป็นไรถึงยังไงเราก็มีประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกผมก็แล้วกัน หากผมช่วยได้ผมก็จะช่วย คิดซะว่าผมเป็นพี่ชายคนนึงก็แล้วกัน” จ้าวเว่ยหลงบอก
“คุณจ้าวพวกเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่อาจเอื้อมไปเป็นพี่น้องกับคุณหรอกค่ะ” หลินเจียวเจียวไม่กล้าถึงขนาดนั้นถึงแม้จะดีใจก็เถอะที่มีพี่ชายระดับนี้เพิ่ม
“อย่าคิดมากเลยชาวบ้านก็คนเหมือนกันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ต่อไปพวกคุณก็เรียกผมว่าพี่จ้าวหรือพี่เว่ยหลงก็แล้วกัน วันนี้พี่ขอตัวก่อนไว้วันหลังพี่จะพาภรรยาและลูกมาแนะนำให้รู้จัก” จ้าวเว่ยหลงไม่ให้ทั้งสามคนปฏิเสธ ก่อนจะขอตัวกลับ
หลินเจียวเจียวอยากจะขอบคุณพี่ชายคนขับรถ วันก่อนต้องไปส่งขนมให้พี่ชายและทำทีไปซื้อของจึงขอติดรถไปด้วยเธอจึงเตรียมซาลาเปาและเกี๊ยวไว้ให้เพื่อขอบคุณ
“พี่ชายคนขับรถคะ อันนี้ซาลาเปาฉันเตรียมไว้ให้เพื่อขอบคุณที่ให้ฉันติดรถไปวันก่อน ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ” ปากพูดว่าเกรงใจแต่มือรับนะ
“ไว้โอกาสหน้าหากฉันทำอาหารแบบใหม่ ฉันจะเอาให้ลองชิมนะคะ” หลินเจียวเจียวบอกกับพี่คนขับ
“อย่าลืมฝากของพี่ด้วยละ ไปก่อนนะแล้วเจอกัน”
เมื่อจ้าวเว่ยหลงกลับไปแล้วหลินเจียวเจียวก็เตรียมลงมือทำของวันถัดไป ก่อนจะพูดกับพี่ใหญ่และพี่สะใภ้
“พี่ใหญ่พี่สะใภ้แล้วเราจะทำกันทันรึเปล่าพี่ ทำทั้งส่งทำทั้งขาย” หลินเจียวเจียวกลัวว่าหากไม่ขายที่ตลาดชาวบ้านจะรอกันนะสิและขาดรายได้อีกต่างหากเธอไม่ได้งก แต่ไม่อยากเสียรายได้
“แล้วเจียวเจียวคิดว่าทำยังไงดีละ อย่าลืมว่าเราต้องไปขายที่ตลาดวันเว้นวันด้วยนะ” ซ่งฮ่าวหยูก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกันเพราะขนมของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น สี่ร้อยชิ้น
“พี่ใหญ่พี่สะใภ้พอที่จะรู้จักใครบ้างไหมที่ไว้ใจได้ แล้วมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเรา” หลินเจียวเจียวไม่อยากเอาคนที่ปากมากมาทำงาน
“พี่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่ป้าชุนแม่ของชุนเผิงก็นิสัยดี บ้านชุนก็ลำบากเหมือนกัน เจียวเจียวลองถามป้าย่าเจียวกับตงหนิงดูก่อนไหม เพราะชุนเผิงเป็นสหายกับตงหนิงไม่ใช่เหรอ”
“จริงด้วยพี่ใหญ่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอพี่รองกับแม่มาก่อนดีกว่า จะได้บอกข่าวดีกับทุกคนด้วย” หลินเจียวเจียวนึกได้ก็ตอนพี่สามีบอกนี่แหละ
ไม่นานบ้านหลินก็มาถึงวันนี้มาพร้อมกันทั้งสามคนเลย
“วันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงดูมีความสุขกันจัง แต่ละนั่งยิ้ม ขนาดยืนหน้าบ้านยังรู้เลย”
หลินตงหนิงมาถึงก็เห็นแต่ละคนดูมีความสุขจึงถามขึ้น
“จะไม่ให้เจียวเจียวดีใจได้ยังไงละตงหนิง วันนี้คุณจ้าวมาเอง แถมยังมีสัญญามาด้วย ให้เราทำของส่งเขาคนเดียวห้ามส่งคนอื่น แถมยังสามารถขายที่ตลาดได้ตามปกติด้วย ยังไม่หมดนะ สัญญาระบุไว้ ห้าปี”
“แล้วรู้ไหมคุณจ้าวเอาชื่อของพวกเราไปแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องไปทำงานที่กองพลน้อยอีกแล้ว เพราะยอดส่งของต่างๆ เพิ่มขึ้นมาก” ซ่งห่าวหยูบอกด้วยความดีใจ เขาเองยิ่งกว่าดีใจเสียอีก เพราะทำขนมส่งครั้งนี้หักต้นทุนแล้วเขาเหลือกำไรยี่สิบกว่าหยวนเกือบสามสิบหยวนเลยนะต่อวันที่เขาจะได้รับ
“จริงเหรอเจียวเจียว” หลินเหวินเทาถามลูกสาว
“จริงค่ะพ่อ นี่ไงสัญญา” หลินเจียวเจียวยื่นสัญญาให้พ่อดู หลินเหวินเทาพอจะมีความรู้จึงอ่านหนังสือออก เมื่อเห็นยอดสั่งที่ระบุในสัญญาก็อุทานขึ้น
“เยอะขนาดนี้แล้วจจะทำกันไหวเหรอ ไหนจะต้องไปขายที่ตลาดอีก”
“พอไหวอยู่ค่ะพ่อ แต่ฉันไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยจนเกินไป จึงจะหาใครมาช่วยสัก สองคน” หลินเจียวเจียวตอบพ่อก่อนจะหันมาคุยกันพี่รอง
“พี่รองพี่ชุนเผิงสหายของพี่เป็นยังไงบ้าง”
“นิสัยดีมากไม่ค่อยวุ่นวายกับใคร นิสัยเหมือนพี่นี่แหละบ้านชุนเป็นกันทั้งบ้าน เจียวเจียวถามทำไมเหรอ”
“ฉันอยากให้ไปถามสหายของพี่กับป้าชุนดูว่าอยากทำงานไหม ฉันจะจ้างให้มาช่วยทำขนมกับซาลาเปา” หลินเจียวเจียวบอกกับพี่รองของเธอ
“เจียวเจียวถ้าจ้างบ้านชุนมา พี่จะช่วยจ่ายค่าแรงนะ” ซ่งฮ่าวหยูไม่อยากให้น้องสะใภ้จ่ายคนเดียว
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ใหญ่ ของฉันได้กำไรมากกว่าของพี่เยอะ” หลินเจียวเจียวเองก็ไม่คิดมาก
“ไม่ได้หรอกแค่นี้พี่ก็เอาเปรียบเราแล้ว ถ้ายังไม่ให้พี่ช่วยจ่ายค่าจ้าง เจียวเจียวก็ไม่ต้องจ่ายของพี่สะใภ้”
“ถ้าอย่างนั้นพี่จ่ายมาให้ฉันหยวนเดียวพอ เพราะของฉันเยอะกว่าพี่ หากว่าพี่ไม่ยอมก็ไม่ต้องจ่ายเลยสักเหมา”
“เอาอย่างนั้นก็ได้พี่กับพี่สะใภ้ไม่เคยชนะเราได้สักครั้งเลย” ซ่งฮ่าวหยูส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของน้องสะใภ้ด้วยความเอ็นดู
“พี่รองไปถามสหายพี่กับป้าชุนดูว่าจะทำไหม ฉันให้คนละ สองหยวนต่อวัน” เธอไม่สนเลยว่าทั้งสองคนจะทำงานที่กองพลน้อยหรือไม่ อย่างมากเธอแค่เอารายชื่อฝากไปให้พี่จ้าวของเธอก็พอ
“ได้สิพี่จะไปถามให้” เมื่อได้รับคำสั่งจากน้องสาวสุดที่รัก หลินตงหนิงก็รีบวิ่งไปหาสหายของตัวเองที่บ้านชุน เพราะถ้าหากช้ากว่านี้กลัวน้องสาวจะเปลี่ยนใจ
“ชุนเผิง ป้าชุนอยู่บ้านไหม” หลินตงหนิงตะโกนเรียกสหายอยู่ที่หน้าบ้าน
“อยู่ นายเข้ามาก่อนฉันให้อาหารไก่อยู่หลังบ้าน” ชุนเผิงตะโกนบอกสหาย หลินตงหนิงก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูรั้วเข้ามาแล้วเดินตรงมาที่หลังบ้าน
“ป้าชุนไม่อยู่เหรอ”
“เย็บเสื้ออยู่ในบ้าน นายถามทำไม” ชุนเผิงไม่เข้าใจสหายว่าตกลงมาให้ใครกันแน่
“ฉันถามนายก่อนนายห่อเกี๊ยวกับห่อซาลาเปาเป็นไหม” หลินตงหนิงถามเพื่อความแน่ใจว่าสหายเขาทำงานนี้ได้
“นายนี่ก็ถามแปลก ทั้งบ้านมีแค่ฉันกับแม่ ฉันช่วยแม่ทำมาตั้งแต่เด็กนายก็รู้ไม่ใช่เหรอ” ชุนเผิงมองหน้าสหาย
“ฉันลืมนะมัวแต่ตื่นเต้น” หลินตงหนิงเกาท้ายทอยด้วยความเขิน ก็เขาตื่นเต้นจริงๆ นี่ สหายเขาจะได้ไม่ลำบากหากได้ทำงานกับเจียวเจียว
“นายนี่ท่าจะบ้า ไปเข้าบ้านไปหาแม่ก่อน” ชุนเผิงส่ายหัวให้กับสหายที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก
“ป้าชุนครับผมมีเรื่องจะบอกทั้งสองคน” หลินตงหนิงพูดขึ้นเมื่อเจอกับแม่ของสหาย
“ว่าไงเหรอลูกมีอะไรคุยกับป้า” ชุนหลินถามขึ้น
“คือว่าเจียวเจียวน้องสาวผมให้มาถามป้ากับชุนเผิงว่าอยากจะไปช่วยทำซาลาเปาแล้วก็ทำขนมไหม ห่อเกี๊ยวด้วย เจียวเจียวให้คนละ สองหยวนต่อวัน”
“ไม่ต้องจ้างหรอกลูกตอนนี้ไม่มีงานในกองพลให้ทำ ป้ากับอาเผิงไปช่วยได้” ชุนหลินพูดขึ้น ค่าจ้างมันก็เยอะด้วยอีกอย่างคนรู้จักกันไปช่วยแค่นี้จะเป็นอะไรไป
“ไม่ใช่ทำวันเดียวครับแต่ทำตลอด ป้ากับชุนเผิงอย่าพึ่งพูดอะไรมากเลยตามผมไปหาเจียวเจียวก่อนหากผมพาทั้งสองคนไปช้า น้องสาวผมกลายร่างแล้วกินหัวผมขึ้นมาผมจะทำยังไง ผมยังไม่แต่งภรรยาเลยนะครับ”
หลินตงหนิงพูดจบก็รีบจูงมือป้าชุนออกจากบ้าน ปล่อยให้ชุนเผิงสหายล็อกประตูแล้ววิ่งตามมา
********************