คึด……คึด……คึด…..คึด
เสียงเหมือนเดินลูดเท้าอยู่ที่หน้าห้องของมะลิ มะลิที่นอนหลับด้วยความออ่นเพลียเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความโมดหและรำคาญที่มีเสียงมารบกวนเธอด้วยความที่เธอเพิ่งล้มหัวนอนไปเพียงแค่2ชั่วโมงเอง เมื่อเธอรู้สึกตัวแล้วด้วยความที่เธอเป็นคนไม่กลัวใครหรือว่าอะไรทั้งนั้นมะลิเลยลุกออกมาจากเตียงก่อนจะเดินมาเปิดประตูห้องเพื่อหวังว่าจะได้เจอไอ้คนท่มาเดินลากตีนอยู่ที่หน้าห้องเธอแล้วเธอจะต่อยหน้าสักทีโทษฐานที่ไม่มีมารยาทมารบ
กวนคนจะหลับจะนอน
ผลัก
“ ดะๆเดิน” มะลิที่เปิดประตูออกมาเธอก็กระว่าจะด่าเต็มที่แต่ก็ต้องหุบปากลงเพราะว่าไม่มีใครเลยแล้วห้องของเธอก็ไม่ได้ติดบรรไดถ้าเธอออกมาคนที่เดินลากเท้าเมื่อกี่ก็คงหนีไม่ทัน สาบานเลยว่าเธอเปิดประตูออกมาขนทั้งตัวขอเธอแม่งลุกทั้งตัว เมื่อสัมผัสของเธอบอกว่าสิ่งที่มาเดินลากตีนอยู่ที่หน้าห้องของเธอไม่ใช่คนแต่เป็น…….
ปัง
เมื่อสัมผัสของเธอบอกแล้วว่าสิ่งที่มากวนเธอเป็นอะไรมะลิก็รีบปิดประตูลงทันทีด้วยความเร็วแสงเธอไม่ได้กลัวนะแต่เป็นเพราะเธอไม่อยากยุ่งเรื่องอะไรแบบนี้กับของที่มองไม่เห็น ป้ากับลุงและก็พี่ชายของเธอสั่งห้ามเลยว่าเรื่องของคนกับผีห้ามไม่ให้เธอไปยุ่งไม่อย่างนั้นเธอจะเปลี่ยนกรรมแต่ถ้าจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็แค่แกล้งหูหนวกตาบอด หรือไม่ก็แกล้งเป็นไบ้ซะแค่นั้น เดินผ่านอะไรถ้าไม่มั้นใจก็ห้าทักหรือว่าพูดอะไรออกมานี้คือสิ่งที่ป้าลุงและพี่ชายบอกเธอมาตลอดตั้งแต่รู้ว่าเธอสามารถมองเห็นผี
ปัง ปัง ปัง ปัง
นั้นไงนึกยังไม่ทันขาดคำมันก็เริ่มเลย เสียงเคาะประตูห้องของมะลิดังสนั่นอย่างกับว่าประตูของเธอจะพังมะลิเมื่อรู้ว่าสิ่งที่มาเคาะมากวนเป็นอะไรเธอก็หันหลังเดินแสยะยิ้มมานั่งบนที่นอนทันทีเพราะต่อให้มึงเคาะจนแขนหักเธอก็ไม่มีทางเปิดให้อย่างเด็ดขาดเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่มากวนเธอเป็นอะไรเธอก็เอาผ้าขึ้นมาห่มก่อนจะปิดตานอนด้วยความเหนื่อยก่อนจะบ่นออกมาเบาๆกับตัวเอง
“ เอาสิมึงไหวกูก็ไหว “ มะลิบ่นจบเธอก็ปิดตาหลับลงด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพราะนั่งรถทัวมาจากบานนานถึง6ชั่วโมงแล้วก็นั่งรถเมย์มานี้อีก1ชั่วโมง ถ้าเธอไม่หลับก็แปลกแล้ว555
เช้าวันต่อมา
“ ซุบซิบ ซุบซิบ “ เสียงคนที่ตึกต่างก็ซุบซิบพูดกันเมื่อเห็นมะลิแต่งตัวกำลังจะเดินลงมาจากตึกด้วยท่าทางปกติ ระหว่างที่เธอใส่รองเท้าอยู่นั้นเธอก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่าชั้น3ที่เธออยู่นี้มีแค่เธอเท่านั้นเมื่อเธอเห็นแบบนั้นเธอก็แสยะยิ้มส่ายหน้าให้กับความโง่ของตัวเองที่ไม่เอะใจว่าทำไมถึงราคา3,000บาทเท่านั้น จากนั้นเธอที่มาในชุดทะมัดทะแมงเสื้อโปโลสีขาวกางเกงยีนขาเดบรองเท้าผ้าใบเก่าๆราคาถูกกระเป๋ายามสะพายของของชาวเหนือ ปล่อยผมที่ยาวจนถึงเอวให้สะย้ายสู้ลมดูแล้วต่อให้เป็นชุดราคาถูกธรรมดาแต่ด้วยความสวยของเธอทำให้เธอไ่ม่ได้ดูราคาถูกเหมือนเสื้อผ้าเลย
“ หนู เดี๋ยวก่อนจ๊ะหนูชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” ป้าที่อยู่ชั้นหนึ่งเดินเข้ามาถามเธอเมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนต่อๆมาก็กรูเข้ามาหาเธอด้วยความตื่นเต้น ปนอยากรู้อยากเห็น
“ สวัสดีจ๊ะหนูชื่อมะลิจ๊ะ” มะลิยกมือไหว้ทุกคนอย่างน้อบน้อมพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรความสวยน่ารักของเธอสะกดส่ายตาของทุกคนที่มองมาแต่ก็ยังไม่ทำให้คนอยากรูอยากเสือกลบืมเลี้ยงที่กำลังจะถามหญิงสาว
“ เอ้อ…เอ้อ…หนูมะลิจ๊ะเมื่อคืนนอนหลับดีไหมลูก” ป้าอีกคนถามเปิดประเด็นเมื่อเห้นทุกคนกำลังโดนความน่ารักของหญิงสาวสะกดสายตา มะลิได้ยินแบบนั้นในใจของเธอก็ยิ้มทันที
กูว่าแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ5555
“ ก็ไม่มีอะไรนี่คะมะลิหลับสบายทั้งคืนเลย” มะลิยิ้มหวานบอกคนที่มาลุมเอาคำตอบจากเธอที่ทุกคนสนใจไม่ใช่อะไรหรอกเพราะคนที่มาเช่าคนก่อนๆมาอยู่ที่ห้องนี้เต็มที่เลยอยู่ได้แค่เดือนเดียวแล้วก็ย้ายออกเพราะชั้น3ที่มะลิอยู่มีการฆ่าตกรรมสาวคาราโอเกะเป็นข่าวดังมากอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วไหนจะวิญญาณของอาม่าที่ช็อกตายด้วยความที่เป็นห่วงสมบัติและก็ห่วงลูกสาวที่ไม่รู้จักโตพาผู้ชายมานอนไม่ซ้ำหน้าสักวัน เลยทำให้วิญญาณของอาม่าไม่ยอมไปไหน และนี่ก็เป็นสาเหตุนี้ละมั้งที่มะลิเรียกยายแกเมื่อคืนเธอไม่ลุกมาหา แต่แล้วไงมะลิก็ยังไม่รู้เพราะเรื่องนี้แอนเจ้าของตึกนี้ห้ามคนที่อยู่ที่นี้เล่าเรื่อง ตึกนี้ให้ใครฟังไม่อย่างนั้นเธอจะไล่ออกด้วยความที่ถูกและก็อยู่ใกล้ห้าง ตลาด มหาลัย หรือแม้แต่สถานีรถไฟฟ้า ทุกคนที่หาเช้ากินค่ำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเลยเลือกที่จะเงียบตามที่เจ้าของตึกขอร้องไว้ เมื่อทุกคนได้ยินมะลิบอกแบบนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกันออกมา แอนและผู้ชายของเธอที่แอบดูอยู่ก็มองมะลิด้วยความแปลกใจเพราะชั้นที่เธอนอนมันเป็นชั้นที่น่ากลัวที่สุดขนาดล่าท้าผียังมารองของแล้วเจอดีเลย แต่เด็กที่มาอยู่ใหม่ไม่เจออะไรเลย แอนและแฟนของเธอถึงกับมองหน้ากันด้วยสายตาที่โคตรสงสัย
“ มันจะเป็นไปได้ยังไง” แอนนพูดออกมาด้วยเสียงเบาแต่ผู้ของนางก็ได้ยิน แอนเจ้าของตึกมองตามแผ่นหลังของเด็กนั้นด้วยสายตาที่หลากหลายอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กนั้นจะไม่เจออะไร ส่วนผู้ชายที่เธอพามานอนนั้นก็เป็นนักศึกษาที่เธอหิ้วมาจากผับเมื่อคืนแต่ด้วยความที่เธอกินเขาบ่อยแล้วอีกอย่างตึกนี้ทุกคนและนักศึกษาในระแวกนี้ต่างรู้กิติศัพท์ดีว่าน่ากลัวแค่ไหน
“ นั้นดิ” เสียงชายหนุ่มหน้าตาดีพูดสัมทับออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องที่บอกว่าหญิงสาวไม่เจออะไรเลยจะเกิดขึ้น คิดดูสิว่าน่ากลัวไม่น่ากลัวเวลาจ้างคนทำความสะอาดห้องหลังจากคนเก่าออกต้องจ้างมาตั้ง5-6เพื่อให้เสร็จและก็อยู่เป็นเพื่อนกันแถมยังจ้างราคาแพงอีกด้วย แล้วสิ่งที่เธอบอกว่าไม่มีอะไรก็เลยแปลกมากอย่างไม่อยากจะเชื่อเลย