EP.10

1052 คำ
      “จันทร์ขอบคุณพี่กรมากๆ เลยนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ จันทร์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำให้แม่ได้ดีแบบนี้หรือเปล่า ถ้าพี่กรอยากให้จันทร์ทำอะไรให้ พี่กรบอกจันทร์ได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจเลย จันทร์จะทำให้พี่ทุกอย่างเลยค่ะ ทุกอย่างที่พี่ต้องการ”            คำพูดอย่างซาบซึ้งในบุญคุณของพรบุหลันทำให้ภากรชะงักไปชั่วครู่ ‘ทุกอย่างที่พี่ต้องการ’ คำนั้นดังซ้ำๆ อยู่ในสมอง แล้วถ้าเขาขอให้เธอเลิกติดต่อกับอารัญล่ะ เธอจะทำได้ไหม แววตาของผู้ชายคนนั้นที่มองพรบุหลัน หรือแววตาของพรบุหลันที่มองเขาคนนั้น ไม่น่าไว้ใจเลย ในเมื่อคนหนึ่งพึงพอใจ ส่วนอีกคนนั้นเหมือนเหยื่ออันโอชะที่กำลังจะติดเบ็ด            “ไม่เป็นไรหรอก พี่เต็มใจอยู่แล้ว ว่าแต่เสร็จงานครูแล้วจันทร์จะทำอะไรต่อล่ะ”            “จันทร์ว่าจะเข้ากรุงเทพฯ น่ะค่ะพี่ ถ้าอยู่ที่นี่คงไม่มีงานให้จันทร์ทำ”            พรบุหลันนึกถึงงานที่ตรงกับสาขาคหกรรมที่เธอเรียนมา เธอยื่นใบสมัครผ่านทางอินเทอร์เน็ตไปหลายที่ และก็ได้รับคำตอบรับใบสมัคร บางที่ก็นัดเธอไปสัมภาษณ์ แต่นั่นก่อนที่แม่จะอาการทรุดหนักลง ช่วงนั้นเธอจึงไม่มีกะจิตกะใจจะโทร. ไปเลื่อนนัด จนถึงป่านนี้งานก็คงไม่รอเธอแล้ว เพราะคงไม่มีเจ้าของภัตตาคารแห่งไหนรอผู้ช่วยเชฟที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างเธอแน่            “ทำไมไม่ลองหาดูในเมืองก่อนล่ะ ไปอยู่กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายมันสูงนะ”            ใจจริงเขาอยากจะบอกว่าอันตรายและไม่อยากให้เธอห่างไปจากเขา แต่เพราะเส้นทางชีวิตคือสิ่งที่พรบุหลันต้องเลือกเดินเอง และตอนนี้เขาก็อยู่ในสถานะของพี่ชายข้างบ้าน จะมีเหตุผลอะไรไปรั้งเธอไว้ได้ ทำได้แค่ชี้นำเท่านั้น            “จันทร์ลองหาแล้วค่ะพี่ แต่บ้านเราก็มีภัตตาคารแค่ไม่กี่แห่ง และเขาก็มีพนักงานประจำอยู่แล้วด้วย จันทร์คงต้องลองเข้ากรุงเทพฯ ดูน่ะค่ะ แต่พี่กรไม่ต้องเป็นห่วงจันทร์นะคะ จันทร์ดูแลตัวเองได้ ที่จันทร์ดูจากในเน็ต หลายที่ก็มีที่พักให้พร้อมน่ะค่ะ คงไม่ลำบากเท่าไหร่หรอก แต่ถึงลำบาก...จันทร์ก็ทนได้ค่ะ จันทร์จะตามฝันให้เจอ จะทำให้แม่ภูมิใจในตัวจันทร์ให้ได้”            สีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความฝันของพรบุหลันทำให้ภากรเม้มปากแน่น พยายามสะกดเก็บความรู้สึกของตัวเองสุดฤทธิ์ หรือเขาควรพูดความในใจออกไป เพื่อรั้งเธอเอาไว้            “แล้วจันทร์จะไปเมื่อไหร่ล่ะ” นั่นคือคำถามที่เหมาะสมแล้ว เพราะไม่ใช่เวลาเลยที่เขาจะสารภาพความในใจ ทั้งที่ในอ้อมกอดของพรบุหลันนั้นยังมีเถ้ากระดูกของครูรัชนีกรอยู่            “ก็คงเร็วๆ นี้น่ะค่ะ เพราะเงินเก็บก็เหลืออยู่ไม่มากแล้ว จันทร์ต้องดูแลตัวเองให้ได้ค่ะพี่กร จันทร์ไม่อยากให้แม่มีห่วงอะไรอีก”            ดวงตาสวยเจือเศร้าหลุบมองห่อผ้าขาวในพานและโกศทองเหลืองที่เธอกอดอยู่ เธอต้องก้าวเดินต่อไปให้ได้ ให้สมกับที่แม่อบรมเลี้ยงดูเธอมาอย่างดี ความดี ความกตัญญูที่แม่เพียรสอนให้เธอจดจำจะทำให้เธอฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปได้            “จันทร์...ถ้าจันทร์ขาดเหลืออะไร จันทร์ต้องบอกพี่นะ พี่ยินดีช่วยจันทร์ทุกอย่าง”            “จันทร์คงรบกวนพี่กรไม่ได้หรอกค่ะ แค่นี้พี่กรก็ทำให้จันทร์มามากพอแล้ว”            “สำหรับจันทร์พี่ไม่ลำบากเลย พี่อยากช่วย เอ่อ...อย่างนั้นจันทร์รับปากพี่อย่างหนึ่งนะ ถ้าจันทร์เดือดร้อนไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม จันทร์จะคิดถึงพี่เป็นคนแรก”            ใบหน้าสวยที่มองมาอย่างสงสัยในคำพูดทำให้ภากรต้องพูดกลบเกลื่อน เพราะหากพรบุหลันไม่ได้คิดตรงกันกับเขา ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาอาจสะบั้นลงก็ได้ เขาต้องแน่ใจให้มากกว่านี้ แน่ใจว่าพรบุหลันไม่ได้รังเกียจข้าราชการครูเงินเดือนไม่มากเช่นเขา และต้องมั่นใจว่าเธอพร้อมจะรับเขาเข้าไปดูแลหัวใจ ไม่ใช่คิดกับเขาแค่พี่น้องหรือเพื่อนบ้าน            “ค่ะพี่ จันทร์รับปาก”            ดวงตาสวยหวานที่มองมาพร้อมรอยยิ้มด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งทำให้ภากรชะงักไปชั่วครู่ เพราะหัวใจของเขเบ่งบานไม่ต่างจากดอกไม้กำลังแย้มกลีบดอก ก่อนจะได้สติเพราะสุดสายตานั้นเห็นชายจีวรสีส้มอมเหลืองกำลังใกล้เข้ามา            “โน่นแน่ะจันทร์ พระท่านมาแล้ว ไปกันเถอะ”            ระหว่างที่พระทำพิธีบรรจุโกศกระดูกเข้าไว้ที่ช่องกำแพงโบสถ์ ภากรได้แต่ลอบมองด้านข้างของพรบุหลันพลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่เธอพูดเอาไว้ เพราะเขาไม่ต้องการให้เธอทำอะไรให้เลยสักอย่าง สิ่งที่เขาอยากได้จากพรบุหลันก็คือ ให้เธอรับหัวใจของเขาเอาไว้ ซึ่งวันนั้นต้องมาถึงในไม่ช้า ขอเพียงให้เธอแสดงออกสักนิดว่าพอใจในตัวเขาเช่นเดียวกัน แค่เพียงแววเขินอายสักนิดจากดวงตา จากนั้นเขาจะไม่รออะไรอีก            “ไปกันเลยมั้ยจันทร์” ภากรถามหลังจากพระทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว            “ค่ะ งั้นพี่กรไปรอจันทร์ที่หน้าวัดนะคะ เดี๋ยวจันทร์ไปเอาดอกไม้ก่อน”            “ไม่เป็นไร เดินไปด้วยกันนั่นแหละ มาเถอะ”            พรบุหลันยิ้มอ่อนอย่างขอบคุณเมื่อภากรยื่นมือมาให้เธอจับ แต่ก่อนที่เธอจะวางมือลงไปนั้น...            “เดี๋ยวครับ! เดี๋ยว!”            เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้พรบุหลันหันมองคนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาดักหน้าเธอไว้ ซึ่งเธอจำได้ว่าเขาคือผู้ชายที่มากับอารัญเมื่อวานนี้ แค่เพียงคิด ภาพของอารัญก็มาอยู่ตรงหน้าจนเธอต้องเม้มริมฝีปากเพื่อสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ คนของเขามาที่นี่ ย่อมมีเรื่องเกี่ยวข้องกับเธอแน่ แต่เรื่องอะไรล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม