8

3256 คำ
                เพราะอยากรู้ว่าเมื่อคืนเสียงเคาะห้องที่ดังขึ้น สรุปแล้วเป็นคนหรือผี ก่อนที่จะเช็กเอาต์ออก วาจึงลองสอบถามพนักงานของโรงแรมดูว่าเขาสามารถดูกล้องวงจรปิดได้หรือไม่ แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมา กลับต้องทำให้วาต้องผิดหวัง เมื่อทางโรงแรมไม่สามารถเปิดกล้องวงจรปิดให้ดูได้ เว้นแต่ว่าเขาจะมีใบแจ้งความมายื่นเท่านั้น                 “นายยังอยากรู้อยู่ไหม ถ้าอยาก…เดี๋ยวฉันจะลองไปคุยกับเขาให้” คุณไฟเอ่ยขึ้น หลังวาเดินคอตกกลับมาหาคุณเขา                 “ไม่เป็นไรครับ”                 “…..”                 “ทรัพย์สินไม่ได้สูญหาย ผมไม่ได้ถูกทำร้าย มันก็โอเคแล้ว”                 แม้จะยังอยากรู้อยู่ แต่วาก็เลือกที่จะปฏิเสธความหวังดีนั้น เนื่องจากเขาไม่อยากยุ่งยากและให้เราเสียเวลาไปมากกว่านี้ อีกทั้งเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว วาไม่ได้รับความเสียหายอะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉะนั้นปล่อยผ่านไปเลยก็ได้ เพราะยังไงวันนี้เราก็จะกลับกรุงเทพกันแล้ว                 หลังจากเมื่อคืนที่ความผิดพลาดเกือบจะเกิดขึ้น เช้าวันต่อมาวาก็แอบกังวลอยู่ไม่น้อยว่าเราจะปฏิบัติตัวต่อกันอย่างไร ก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับคำตอบว่าจะเราปฏิบัติตัวต่อกันเหมือนเดิม ไม่มีการพูดถึงเหตุการณ์นั้น ไม่มีการทำอะไรที่ต่างออกไป เรายังคงสถานะเจ้านายกับลูกน้องเหมือนเดิม เสมือนไม่มีเรื่องบ้า ๆ เกิดขึ้น                 เหมือนกับตอนนั้น…ที่เราทะเลาะกันอย่างรุนแรง                 “เหลือถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารอีก1เล่มนะครับ แล้วก็มีคิวถ่ายละครตอนจบอีกสองวัน หลังจากนั้น…ก็มีกินเลี้ยงฉลองปิดกล้อง” ระหว่างที่รอเรียกขึ้นเครื่อง วาก็เปิดดูตารางงานของคุณไฟไปด้วย ก่อนที่เขาจะแจ้งรายละเอียดเรื่องงานต่าง ๆ ที่มีคิวจะถ่ายในเร็ววันนี้ให้อีกฝ่ายฟัง                 “อ้อ! แล้วรอบนี้มีถ่ายแบบร่วมกับนายแบบอีกคนด้วยนะครับ” นอกจากจะแจ้งลักษณะงานคร่าว ๆ ให้คุณไฟฟังแล้ว วายังต้องไม่ลืมที่จะแจ้งด้วยว่าการทำงานแต่ละครั้ง มีการร่วมงานกับดาราคนอื่นหรือไม่                 “ใคร?” คุณไฟถามกลับ                 “เท่าที่ทราบมา… เหมือนจะเป็นนายแบบหน้าใหม่นะครับ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณไฟก็ทำแค่พยักหน้ารับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อีกครั้ง                 เรามาถึงสนามบินดอนเมืองในช่วงบ่ายของวัน ซึ่งในวันนี้ไม่มีตารางงานที่ไหน วาจึงตั้งใจว่าหลังจากที่เขาไปส่งคุณไฟเสร็จ วาก็จะกลับห้องเลย เนื่องจากเช้าในวันถัดไปคุณไฟมีงาน                 “เดี๋ยวให้คนขับไปส่งนายก่อน” คุณไฟพูดขึ้น หลังเราขึ้นมานั่งบนรถตู้ส่วนตัวแล้ว                 “….”                 “พอดี ฉันจะแวะไปหาพิม” คุณเขาอธิบายต่อ                 “อ๋อ…โอเคครับ”                   “ว่าไงครับ พี่ว่าน” หลังกลับมาถึงห้อง วาก็ต่อสายตรงโทรหาญาติคนสนิททันที                 อันที่จริงพี่ว่านโทรมาหาเขาตั้งแต่เที่ยงแล้ว แต่คุยกันยังไม่ได้ความ วาก็ต้องตัดสายทิ้งไปเสียก่อน เนื่องจากถึงเวลาที่เขาจะต้องขึ้นเครื่องและเมื่อว่างวาจึงรีบโทรกลับหาอีกฝ่ายทันที เผื่อพี่ว่านมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย                 [เปล่าหรอก พี่ก็แค่อยากถามว่างานอีเวนต์ที่อุบลเป็นไงบ้าง]                 “อ๋อ ทุกอย่างราบรื่นดีครับ ผู้จัดงานเขาเป็นธุระให้ทุกอย่างเลย” วาตอบตามความจริง                 [แล้วคุณไฟล่ะ? ช่วงนี้เขาเป็นไงบ้าง มีงานหลายวันติด ๆ กันแบบนี้ เขามีงอแงบ้างไหม?] พอได้ยินพี่ว่านถามถึงอีกคน วาก็ถึงกับเงียบไป ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาในความคิดของเขาอีกครั้ง                 “เขา….ก็เหมือนเดิมครับ ไม่ได้มีท่าทีงอแงอะไร” นานเกือบนาที กว่าวาจะตอบกลับไป                 [มีอะไรหรือเปล่า? ทำไมแกตอบช้าจัง]                 “เปล่าครับ” วาปฏิเสธ                 [วา….ถ้าคุณไฟเขามีปัญหาอะไร แกคุยกับพี่ได้เลยนะ เดี๋ยวพี่จะดูให้เองว่าต้องแก้ที่ตรงไหน เราทำงานร่วมกับคน เวลามีปัญหาก็ต้องรีบคุยกัน เข้าใจไหม] พี่ว่านเอ่ยเสียงจริงจังและนั่นก็ทำให้คนฟังถึงกับถอนหายใจออกมา ไม่ใช่ว่าวาไม่อยากคุย ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากบอก แต่เพราะไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนต่างหาก วาถึงได้อ้ำอึ้งอยู่อย่างนี้                 “เข้าใจครับ ไว้ถ้ามีปัญหาจริง ๆ ผมจะรีบโทรบอกพี่ว่านแล้วกันนะครับ”                 [อือ ดีแล้วล่ะ]                 “ว่าแต่ว่า…แม่พี่เป็นไงบ้างครับ” วาเปลี่ยนเรื่อง                 [อ้อ! เตรียมจะถอดเฝือกอีกสองสัปดาห์หน้าน่ะ นี่ก็ข้อยึดแล้ว ถอดเฝือกเสร็จก็คงต้องทำกายภาพอีกนั่นแหละ]                 “อ๋อ…..”                 [แต่ว่าพี่คงไม่ได้รอจนให้แม่หายดีหรอก หลังถอดเฝือกและทำกายภาพจนพอช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว พี่ก็จะรีบขึ้นกรุงเทพเลย เพราะลางานนาน ๆ แต่ยังได้รับเงินเดือนจากคุณไฟอยู่ พี่ก็ไม่สบายใจเหมือนกัน เหมือนเราเอาเปรียบเขา]                 “ครับ งั้นพี่ว่านก็รีบขึ้นมานะ ผมคิดถึงพี่แล้ว” วาพูดแล้วเราก็คุยเรื่องอื่นกันอีกนิดหน่อย ก่อนที่วาเป็นฝ่ายขอตัวก่อน เนื่องจากความเพลียสะสมที่ได้รับจากการเดินทาง เริ่มทำงานจนทำให้เขาง่วงแล้ว                   ได้มีโอกาสตามคุณไฟไปถ่ายแบบก็บ่อย แต่ทว่าการถ่ายแบบครั้งนี้กลับทำให้วารู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเพื่อนร่วมงานของคุณไฟมีหลายคน ทั้งนายแบบหน้าใหม่และช่างภาพชื่อดังที่วาเคยได้ยินชื่อมาอยู่บ้าง                 โดยปกติเวลาที่มีถ่ายแบบร่วม คุณไฟมักจะได้ร่วมงานกับนางแบบหรือไม่ก็นักแสดงหญิงในแวดวงเดียวกัน พองานนี้เป็นการถ่ายแบบคู่กับนายแบบ มันจึงค่อนข้างน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งวาคิดว่าที่ครั้งนี้คุณไฟได้ถ่ายแบบร่วมกับผู้ชาย คงเพราะทางนิตยสารต้องการให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตามกระแสที่เปิดกว้างเรื่องเพศ                 “พี่สาคะ!! นายแบบเป็นลมพิษค่ะ ตอนนี้กำลังแอดมิทอยู่โรงพยาบาลค่ะ” ขณะที่คุณไฟกำลังพูดคุยกับช่างภาพอยู่นั้น หนึ่งในทีมงานก็ถือโทรศัพท์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาคุยกับคุณสา หัวเรือใหญ่ของการถ่ายแบบนี้เสียงเครียด เพียงเท่านั้นทั้งสตูดิโอก็ตกอยู่ในความเงียบทันที เนื่องจากปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่มาก                 “แล้วจะเอายังไงต่อ นี่คุณไฟกับช่างภาพเขามารอแล้วนะ” คุณสาพูดเสียงนิ่ง ซึ่งภายใต้ความนิ่งงั้นนั้น วารู้ดีว่าเธอกำลังไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด                 พลังงานลบแผ่ออกมารอบตัวเธออย่างชัดเจน จนทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นอย่างวา แม้จะไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบอะไรด้วย ก็ยังรู้สึกเครียดไปตาม ๆ กัน                 “จริง ๆ ทางผู้จัดการเขาน่าจะแจ้งเราก่อนนะ อย่างน้อยก็ต้องเร็วกว่านี้ เพราะกว่าเราจะหาคิวช่างภาพกับคุณไฟที่ตรงกันได้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย จู่ ๆ ก็มาทำงานไม่ได้แบบนี้ เราสามารถฟ้องร้องเขาได้เลยนะ เพราะเราเสียหาย” คุณสาเอ่ยต่อเสียงเครียด                 “…..”                 “ทุกอย่างยกเลิกไม่ได้ เธอจะเอายังไงต่อ? มันเลื่อนไม่ได้แล้ว ทุกคนมารอที่หน้างานแล้ว เธอเห็นไหม?”                 “แล้วเราสามารถหานายแบบมาแทนน้องเขาได้ไหมคะ” หนึ่งในทีมงานเสนอความคิด                 “ได้… แต่เธอจะหาใครมา จู่ ๆ โทรไปเรียกเขาอย่างนั้น ใครมันจะว่างมาให้”                 “ถ้างั้น….”                 “ถ่ายแบบเดี่ยวไม่ได้ด้วยนะ เพราะเรื่องนี้เขาย้ำกับทางเรามาก” คุณสาพูดดัก                 “จะว่าไป….หน้าน้องวาก็ได้อยู่นะคะ ส่วนสูงกับสัดส่วนก็ใกล้เคียงกับน้องนายแบบ” พอได้ยินชื่อตัวเอง วาก็ถึงกับนั่งหลังตรงโดยอัตโนมัติ เขาหันไปมองหน้าคุณไฟในทันที ซึ่งอีกฝ่ายเองก็กำลังมองมาที่วาด้วยเช่นกัน             “คุณไฟจะว่าอะไรไหมคะ ถ้าเราจะขอให้น้องวามาแทนนายแบบก่อน?”                 “ถามเจ้าตัวเถอะครับ ผมไม่ใช่เจ้าชีวิตใคร” นานเกือบนาทีกว่าที่คุณไฟจะให้คำตอบ อีกฝ่ายพูดพร้อมเลื่อนสายตามองมาที่วาอีกครั้ง ราวกับรอคำตอบด้วยเช่นกันและนั่นก็ทำให้ความกดดันถูกเทมาที่วาทันที                 “วาจ๊ะ ช่วยพี่หน่อยนะ” คราวนี้คุณสาหันมาพูดกับวาเอง                 “คือผมไม่มี….” วาพูดยังไม่ทันจบประโยค คุณสาก็พูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง                 “พี่ไหว้ล่ะนะ” เธอไม่ว่าเปล่า แต่ยังยกมือขึ้นจะไหว้วาที่มีอายุน้อยกว่าเป็นสิบปี                   ปกติเคยเป็นแค่คนที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ ไม่เคยได้ลงสนามจริงเลยสักครั้ง แต่พอวันนี้มีเหตุจำเป็นที่ต้องได้เป็นนายแบบ นั่นจึงทำให้วารู้ว่าการทำงานหน้ากล้อง อยู่ท่ามกลางสายตาของทีมงานทั้งหลาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…                 ใบหน้าที่ไม่เคยถูกลงรองพื้นมาก่อน อย่างมากสุดก็มีแค่กันแดดเนื้อบาง กำลังถูกช่างแต่งหน้าประทินโฉมให้เสียใหม่ สำหรับวาผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ทุกอย่างมันจึงยากเสียตั้งแต่ตอนนี้ มันเป็นเรื่องท้าทาย เมื่อเขาจะต้องพยายามมองบน ห้ามกะพริบตา ยามที่ช่างแต่งหน้ากำลังบรรจงเขียนขอบตาล่างให้                 วูบหนึ่งในความคิด วาก็สงสัยอยู่ไม่น้อยว่าคุณไฟทนให้ช่างแต่งหน้าเขียนขอบตาล่างได้อย่างไร?                 เพราะวารับรู้รายละเอียดงานมาแค่ผิวเผินเท่านั้น นั่นจึงทำให้เขาต้องมาคุยรายละเอียดกับคุณสา ช่างภาพและทีมงานก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจคอนเซปต์ว่าการถ่ายแบบครั้งนี้ เราต้องการอะไร สื่ออารมณ์แบบไหน โดยการพูดคุยครั้งนี้ คุณไฟที่อยู่ในโหมดทำงานก็ยืนประกบวาอยู่ไม่ห่าง…                 เพราะคุณไฟมีประสบการณ์และรู้มากกว่า อีกฝ่ายคอยจึงเป็นธุระ อธิบายคำศัพท์เฉพาะให้กับวา อีกทั้งยังคอยช่วยย่อยรายละเอียดต่าง ๆ ให้เข้าใจได้โดยง่าย ซึ่งโดยรวม ๆ คุณไฟถือว่าช่วยวาได้เยอะมาก                 ตามที่วาเข้าใจการถ่ายแบบครั้งนี้ เราจะอยู่ภายใต้คอนเซปต์unisex unisexที่ว่า ไม่ใช่เพศทางเลือกหรือรสนิยมทางเพศ แต่เป็นแนวคิดที่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน ซึ่งแนวคิดนี้ส่วนใหญ่จะถูกแสดงออกผ่านเสื้อผ้าและเครื่องประดับอย่างที่วากำลังสวมใส่                 “งั้นเดี๋ยวเราจะถ่ายรูปเดี่ยวก่อนนะ ขอเริ่มที่คุณไฟแล้วกัน วาจะได้เห็นภาพจริงว่าสิ่งที่เราต้องการ มันคือแบบไหน” พี่ช่างภาพเอ่ยขึ้น หลังจากที่เราคุยเรื่องคอนเซปต์งานกันเรียบร้อยแล้ว                 “ไม่ต้องกังวล” ก่อนที่คุณไฟจะเดินแยกเข้าไปหน้าฉาก อีกฝ่ายก็หันมาพูดกับวา พร้อมกับตบไหล่เขาเบา ๆ                   ขณะที่สายตากำลังจ้องการทำงานของคุณไฟตาไม่กะพริบ วาก็นั่งรวบรวมสมาธิของตัวเองไปด้วย ยิ่งเขาเห็นความเป็นมืออาชีพของคุณไฟมากเท่าไร ความกังวลที่เคยมีก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน                 ข้อแตกต่างของคนที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ มันคงเห็นได้ชัดจากตรงนี้ เพราะขณะที่คุณไฟกำลังโพสต์ท่าหน้ากล้องอย่างลื่นไหลและไม่มีซ้ำสักท่า วากลับกำลังนั่งผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อลดความประหม่าตัวเอง                 นี่ขนาดยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องออกไปถ่ายเดี่ยว ตัวของวาก็ยังเริ่มสั่นแล้ว นั่นจึงทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าหากถึงเวลานั้นจริง ๆ วาจะทำให้ทุกคนต้องมาเสียเวลาด้วย เนื่องจากความไม่มีประสบการณ์ของเขา                 “น้องวา มาเลยครับ!” และแล้วเวลาที่วาไม่อยากให้มาถึงมากที่สุดก็มาถึงจนได้ หลังจากการถ่ายแบบเดี่ยวของคุณไฟสิ้นสุดลง ก็ถึงตาของเขาบ้างที่ต้องไปยืนตรงนั้นแทนคุณเขา…                 “สบาย ๆ ไม่ต้องอายนะ คนกันเองทั้งนั้น” พี่ช่างภาพเอ่ยขึ้น หลังวาเดินสวนกับคุณไฟมายืนที่หน้ากล้องแล้ว                 “ครับ ๆ” วารับคำ เขาพยายามส่งยิ้มไปให้อีกฝ่ายคล้ายจะบอกว่าตัวเองโอเค                 “คุณไฟทำไงดี น้องหน้าเหลืองหมดแล้ว” ทว่าความพยายามของวากลับไม่เห็นผล เมื่อพี่ช่างภาพหันไปพูดกับคุณไฟที่ยังไม่ได้เดินออกไปไหนและนั่นก็ทำให้คุณเขาเดินกลับเข้ามาหาวาอีกครั้ง                 “วา…ตอนนี้ในสตูดิโอก็มีแค่ทีมงาน ไม่ต้องอาย ไม่ต้องเครียด” คุณไฟเอ่ย พร้อมกับจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาเอาไว้                 “ผม…ผมทำไม่ได้” วาตอบกลับเสียงแผ่ว                 “นายทำได้” คุณไฟพูดเสียงมั่นใจ พร้อมยื่นมือมาลูบศีรษะวาเบา ๆ แล้วพูดต่อ “นายเป็นคนเก่ง นายทำได้อยู่แล้ว”                 “…..”                 “เดี๋ยวฉันจะคอยยืนมองนายอยู่ตรงนั้น” ว่าจบ คุณเขาก็ชี้ไปยังที่ว่างตรงข้างจอมอนิเตอร์แล้วพูดต่อ “จะไม่ไปไหน…จนกว่านายจะถ่ายแบบเสร็จ”                 ไม่รู้ว่าการที่คุณไฟคอยยืนมองอยู่ห่าง ๆ จะช่วยได้มากแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ วาเลือกที่จะใช้ประโยชน์จากตรงนั้น ในการเช็กท่าโพสต์ของตัวอง                 เนื่องจากเขาไม่มีประสบการณ์มาก่อนและไม่รู้ว่าท่าโพสต์ของตัวเองดีพอแล้วหรือยัง นั่นจึงทำให้วาเลือกที่จะใช้ความพึงพอใจของคุณไฟและพี่ช่างภาพเป็นที่ตั้ง                 ความเคอะเขินที่เคยมีเริ่มบางเบาลงเรื่อย ๆ เมื่อพี่ทีมงานและช่างภาพพยายามเอาใจช่วยวาอย่างสุดความสามารถและเพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องมาเสียเวลานาน นอกจากวาจะพยายามกล้าให้มากขึ้นแล้ว ตลอดการถ่ายแบบเดี่ยวเขาก็ยังตั้งใจสุดกำลัง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาถ่ายแก้อีก                 “วา เซ็ตนี้พี่ขอจิกกล้องหน่อยนะ” พี่ช่างภาพบอก ขณะที่เจ้าตัวกำลังรัวชัตเตอร์ใส่กันไม่หยุด                 “จิก…จิกไงอะครับ” เขาถามกลับหน้าฉงน                 “แบบนี้นะ ๆ” เป็นคุณสาที่ออกโรงมาสอนจริตจะก้านทางสายตาให้ ซึ่งทันทีที่วาเห็นเช่นนั้น เขาก็รีบทำตามเธอทันที                 “ขอเยอะกว่านี้นิดนึง… นั่นแหละ ๆ แบบนั้นแหละ ดีมาก” ทันทีที่คุณสาพูดจบ พี่ช่างภาพก็รัวชัตเตอร์ไปอีกสามสี่ครั้ง ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลง                 “เรียบร้อยแล้วนะ เดี๋ยววาเข้าไปเปลี่ยนชุดได้เลย” และทันทีที่พี่ช่างภาพเอ่ยเช่นนั้น คุณไฟที่ยืนกอดอก มองการทำงานของวาอยู่ไม่ห่างก็หมุนตัวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที                                 เมื่อเข้าสู่ช่วงการถ่ายแบบคู่ วาและคุณไฟที่เปลี่ยนอยู่ในชุดใหม่แล้ว ก็ต้องมาคุยกับทีมงานอีกครั้งว่าต้องการงานประมาณไหน ซึ่งตามที่เข้าใจการถ่ายแบบคู่ครั้งนี้ ทางทีมงานไม่ได้ต้องการให้ดูเหมือนเป็นความสัมพันธ์พี่ชายน้องชาย แต่ต้องการให้เราทั้งคู่ดูมีอะไรให้ชวนคิด                 “เดี๋ยววาจับมือคุณไฟหน่อยนะ” เสียงพี่ช่างภาพเอ่ยบอก ขณะที่เรากำลังทิ้งตัวนอนลงข้างกัน                 เพราะว่านี่คือการทำงาน วาจึงไม่ได้มีท่าทีอิดออดหรือรู้สึกหนักใจอะไร ซึ่งทันทีที่เขาถูกสั่งเช่นนั้น วาก็ยื่นมือข้างหนึ่งไปจับมือคุณไฟไว้ทันที ก่อนในเวลาต่อมาอีกฝ่ายจะสอดประสานนิ้วทั้งห้าของเราไว้ด้วยกัน                 บรรยากาศระหว่างการถ่ายแบบคู่ค่อนข้างจะแตกต่างจากตอนถ่ายเดี่ยว หลังวารู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวของเขา เริ่มเงียบลงเรื่อย ๆ มีเพียงแค่เสียงกดชัตเตอร์เท่านั้นที่ยังคงดังอยู่เป็นระยะ ๆ                 “ดีครับ ดี”                 “…..”                 “วาเอียงหัวไปทางซ้ายหน่อยครับ ดีครับ ดีมาก” เสียงชมของพี่ช่างภาพดังขึ้นตลอดเวลาและในขณะเดียวกันนั้นสายตาของทีมงานหลาย ๆ คู่ก็จับจ้องมาที่เราเพียงจุดเดียว                 “อยู่นิ่ง ๆ” เสียงดุ ๆ ของคุณไฟดังขึ้น เมื่อเรากำลังอยู่ในท่าเกยตักกันแล้ววาก็ขยุกขยิกตัวบ่อยเกินไป                 เพราะลักษณะท่าที่คล้ายจะนั่งตักกัน นั่นจึงทำให้วารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก ซึ่งความไม่สบายใจนี้ก็คงมีแค่เขาเท่านั้นที่เป็น เพราะคุณไฟไม่ได้ท่าทีหนักใจอะไรด้วยเลย มิหนำซ้ำหลังคุณเขาดุวาเสร็จ อีกฝ่ายก็ยังใช้แขนรั้งร่างวาให้เข้าไปชิดยิ่งกว่าเดิม ทำเอาคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ถ่ายแบบมาก่อนถึงกับตัวแข็งทื่อ                 “คุณไฟครับ…..”                 “อะไร? นายยังไม่เป็นงาน…ฉันก็กำลังจะสอนนี่ไง” คุณไฟกระซิบข้างหู จงใจให้เราได้ยินกันแค่สองคน                 เนื่องจากว่ามันคือการทำงาน วาจึงเลือกที่จะอดทนแทนที่จะชกเข้าที่ไหล่หนาของคุณเขาอย่างที่ใจนึก เขาอดทน… นั่งเกยตักคุณไฟอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่ จนกระทั่งพี่ช่างภาพเก็บภาพจนพอใจแล้ว วาก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว                 “น้องวาคะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันค่ะ ยังเหลืออีกเซ็ตหนึ่งนะ” ยังไม่ทันจะได้ฉะกับคุณไฟ เรื่องที่อีกฝ่ายแอบลูบสีข้างกันตอนทีมงานเผลอ พี่ที่ดูแลวาก็เดินเข้ามาหาเสียก่อน นั่นจึงทำให้เขาต้องหุบปากฉับ                 “ครับ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น วาก็ขานรับเธอเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ก่อนที่เขาจะเดินทีมงานกลับไปยังห้องแต่งตัว                                 “เหลืออีกตั้งเซ็ตหนึ่ง ถ้ารังเกียจกันนัก…ก็ทนเอาหน่อยแล้วกันนะ” คุณไฟเอ่ยขึ้น หลังเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง                 “คุณไฟครับ….มันใกล้ไป”                 ในระหว่างที่ทีมงานกำลังจัดแสงให้ใหม่ วาก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด เมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมาใกล้ วางใบหน้าหล่อ ๆ ของตัวเองไว้ที่ลาดไหล่แคบของเขา จนทำให้ลมหายใจร้อนกรุ่นสัมผัสโดนซอกคอของวา….อย่างจงใจ                 “ใกล้อะไร? มากกว่านี้…ก็เคยมาแล้ว” คุณเขาว่า                 “คุณไฟครับ! ผมว่า…”                 “ท่านี้ดีครับ ค้างไว้แป๊บหนึ่งนะครับ” จังหวะที่วาเตรียมจะแย้งกลับ เสียงของพี่ช่างภาพก็ดังขึ้นเสียก่อน ทำเอาคุณไฟถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องค้างอยู่ในท่านั้นพักใหญ่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม