6(2/2)

2371 คำ
                เพราะไม่มีธุระตั้งแต่แรก หลังออกจากร้านมาได้ วาจึงไม่รู้จะไปไหนต่อ สุดท้ายเขาก็ต้องมายืนคิดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ตรงริมฟุตบาธหน้าร้านอาหาร ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาไล่หาเบอร์พี่ไทระ เพราะจำได้ว่าเราเคยแลกเบอร์กันไว้ ตั้งแต่ตอนที่มีโอกาสไปกินข้าวด้วยกันครั้งแรก                 [ว่าไง เจ้าวา!] ทันทีที่พี่ไทระกดรับสาย อีกฝ่ายก็ทักทายวาก่อนด้วยน้ำเสียงสดใส                 “ตอนนี้พี่ไทระอยู่ไหนเหรอครับ?” เขาเอ่ยถามปลายสาย                 [ก็อยู่ร้านพี่สาวน่ะสิ กำลังเป็นหนูทดลองชิมขนมอยู่เลยเนี่ย ว่าแต่วามีอะไรหรือเปล่า?]                 “ดีเลยครับ…จะเป็นไรไหม ถ้าผมอยากไปเป็นหนูทดลองด้วยอีกคน”                 [ด้วยความยินดีเลย แต่วันนี้เราว่างเหรอ]                 “ครับ วันนี้คุณไฟไม่มีตารางงาน ผมว่างมากเลย”                 [โอเค งั้นก็เข้ามาได้ แล้วนี่จะให้พี่ไปรับที่หอพักเลยไหม?]                 “ไม่ต้องครับ ตอนนี้วาอยู่ข้างนอก พี่ไทระช่วยส่งพิกัดมาให้ก็พอครับ”                 [ได้ ๆ งั้นรอแป๊บหนึ่งนะ]                   “นึกยังไงเนี่ย ทำไมจู่ ๆ ก็จะมาหากัน” นั่นเป็นประโยคแรกที่พี่ไทระเอ่ยทักทาย หลังวามาถึงร้านขนมกึ่งคาเฟ่ของพี่สาวอีกฝ่ายแล้ว ซึ่งคาเฟ่ที่ว่าก็จะเปิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้                 “ก็ว่างไงครับ พอดีเห็นเบอร์พี่ไทระก็เลยนึกขึ้นได้” วาให้คำตอบ พร้อมส่งยิ้มให้กับคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่อย่างเป็นมิตร ซึ่งเธอก็หน้าตาละม้ายคล้ายพี่ไทระอย่างไม่มีผิดเพี้ยน                 “เออ พอดีเลย นี่พี่เทียน….พี่สาวพี่เอง” พอสบโอกาส พี่ไทระก็เอ่ยแนะนำให้เราสองคนได้รู้จักกัน “พี่เทียนครับ นี่น้องวาที่ผมเคยเล่าให้ฟัง”                 “ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะน้องวา ตัวจริงน่ารักกว่าคิดเยอะเลย” พี่เทียนเอ่ยพร้อมยกมือรับไหว้จากเขา                 “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ว่าแต่ว่า…พี่ไทระเขาแอบเมาธ์ผมเหรอ” วาถามอีกฝ่ายอย่างใคร่รู้                 “อืม จะให้พี่พูดเรื่องไหนก่อนล่ะ”                 “เฮ้ย! พี่เทียนไม่เอาดิ อย่าหักหลังน้องชายตัวเองสิ” พี่ไทระรีบพูดแทรกขึ้น ในเวลานี้อีกฝ่ายดูร้อนตัวยิ่งกว่าใครทั้งหมด ซึ่งพอหันไปปรามพี่เทียนเสร็จ อีกฝ่ายก็รีบหันมาแก้ตัวกับวาต่อ                 “วาสบายใจได้ พี่พูดแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น”                 “น้องวาเชื่อเหรอคะ” พี่เทียนพูดขึ้นอีกครั้ง                 “พี่เทียน อย่าปั่น ๆ วันนี้ผมอุตส่าห์เข้ามาช่วยพี่ชิมขนมนะเนี่ย สำนึกบ้างดิ” คราวนี้พี่ไทระว่าหน้ายุ่งและนั่นก็ทำให้พี่สาวของเจ้าตัวระเบิดหัวเราะออกมา ราวกับสะใจที่กลั่นแกล้งน้องชายตัวเองได้สำเร็จ                 “โอเค ๆ ฉันไม่แกล้งแกก็ได้” พี่เทียนพูดทั้งรอยยิ้ม แล้วเธอก็มาพูดกับวาต่อ “วามาก็ดีแล้ว มา ๆ ลองชิมขนมพี่ดู  นี่เพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้เลยนะ”                 “พี่เทียนคิดสูตรเองเหรอครับ” เขาถามอีกฝ่ายพร้อมรับขนมปังจากมือเธอมาชิ้นหนึ่ง                 “ใช่แล้วล่ะ พี่ลงทุนไปเรียนที่อังกฤษเลย เป็นไงอร่อยไหม?”                 “อร่อยครับ… อร่อยมาก หอมกลิ่นนมมากเลยครับ” วาให้คำตอบ หลังเขาได้ลองชิมขนมปังสูตรพี่เทียนแล้ว ซึ่งสัมผัสแรกที่ได้รับก็คือความนุ่มของขนมปัง ส่วนด้านในจะมีรสนมที่หวานกำลังดีสอดแทรกอยู่ นี่ถ้าหากได้กินคู่กับกาแฟคงเข้ากันไม่น้อย                 “ใช่ ๆ อันนี้เป็นรสนมสดฮอกไกโด ถ้าวาชอบจะห่อกลับไปด้วยก็ได้นะ พี่ทำเผื่อไว้จำนวนหนึ่งอยู่จ้ะ”                 “ขอบคุณมากครับ”                   หลังลองเป็นหนูทดลองชิมขนมสูตรของพี่เทียนไปหลายอย่าง วาก็ขันอาสาเป็นลูกมือลองช่วยอีกฝ่ายทำขนมต่อ เขารับหน้าที่ผสมแป้งต่าง ๆ ตามที่พี่เทียนตวงไว้ให้ โดยมีพี่ไทระก็คอยเอาใจช่วยอยู่ไม่ห่าง แต่วากลับคิดว่าอีกฝ่ายเป็นตัวป่วนเสียมากกว่า เพราะล่าสุดพี่ไทระก็เพิ่งหาหนังยางมาทำจุกหน้าม้าให้วาเสียแล้ว                 “วาสมัครอินสตาแกรมยัง” อีกฝ่ายถาม                 “ยังเลยครับ”                 “งั้นให้พี่สมัครให้ปะ”                 “นี่พี่ไทระจะให้วาเล่นให้ได้เลยใช่ไหมครับ” วาถามอีกฝ่ายพร้อมกลั้วหัวเราะเบา ๆ                 “ก็พี่อยากเห็นเราอัปรูปบ้างอะ เปิดเถอะนะ ๆ” เพราะพี่ไทระพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน นั่นจึงทำให้วาเผลอหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้และในที่สุดเขาก็เผลอใจอ่อนให้อีกฝ่ายอีกครั้ง                 “…ตอนนี้มือวากำลังไม่ว่าง ถ้าพี่ไทระอยากให้วาเล่นนัก ก็ช่วยเป็นธุระให้ทีนะครับ”                 “มันต้องอย่างงี้ดิ!” เมื่อวาว่าเช่นนั้น พี่ไทระก็เอ่ยอย่างดีใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะขออนุญาตหยิบโทรศัพท์วามาเปิดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว แล้วถามต่อ “แล้วเราจะตั้งชื่อว่าอะไรดี nong_vanarak?”                 “พี่ไทระ…คือชื่อมันโบราณอะครับ” ว่าจบวาริชก็หัวเราะเพราะอีกฝ่ายอีกระลอก                 “อ้าวเหรอ งั้นชื่อไรดีนะ” พี่ไทระพึมพำ อีกฝ่ายนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเสนอวาอีกรอบ “งั้นเอาชื่อนี้แล้วกัน va_varich”                 “ก็ได้นะครับ” หลังวาเอ่ยเช่นนั้น พี่ไทระก็เงียบไปสักพักใหญ่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเข้ามาใกล้วาพร้อมเปิดโปรแกรมกล้องหน้าขึ้น                 “พี่ไทระ จะทำอะไรครับ?” วาถามอย่างตกใจ                   “ถามแปลก…ก็ถ่ายรูปไง ยิ้มดิ เร็ว!”                 “พี่ไทระ ไม่เอาครับ” วาปฏิเสธพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น                 “ไม่เอาน่า… เราอุตส่าห์กลับมาเล่นสักที เอ้า! ยิ้มมมมม” เพราะพี่ไทระรบเร้าอย่างไม่ย่อท้อ นั่นจึงทำให้วาส่งยิ้มให้กล้องอย่างขอไปที แต่ทว่ากลับถูกใจอีกฝ่ายนักหนา                 “เรียบร้อย” พี่ไทระว่า หลังอีกฝ่ายทำการเช็กรูปเรียบร้อยแล้ว “งั้นพี่ลงให้เลยนะ”                 “ตามใจเลยครับ”                 “งั้นพี่เอาของวามากดฟอลไอจีพี่ด้วยนะ”                 “ตามใจค้าบบบ”                 “เสร็จล่ะ มา ๆ ยิ้มอีกสักครั้งหน่อย คราวนี้ขอยิ้มหวาน ๆ เลยนะ”                 “ครับ? เมื่อกี้ก็ถ่ายไปแล้วนี่” วาริชท้วง                 “อันนั้นเครื่องวา ส่วนอันนี้เครื่องพี่ไง พี่ก็อยากลงบ้างอะ ยิ้มหน่อยเร็ว ขอหวาน ๆ”                 “เฮ้อ พี่ไทระ”                   ‘ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกอินสตาแกรมครับ น้องวา             เหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นแล้ว…                 เป็นอีกครั้งที่อัคนีนั่งมองรูปถ่ายจากอินสตาแกรมนายแบบหนุ่ม เขาอ่านข้อความประกอบภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งคราวนี้อัคนีพบว่ามันต่างจากครั้งก่อน เมื่อมีการแท็กชื่ออินสตาแกรมของคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกันด้วย                 ภายใต้ความนิ่งเงียบ อัคนีกำลังไม่พอใจขั้นสุด หลังคิดได้ว่าธุระสำคัญที่วาริชยกมากล่าวอ้าง จนทำให้ปฏิเสธไม่ยอมอยู่กินข้าวร่วมโต๊ะกับตน มันคือการไปพบกับไทระ เพื่อที่ทั้งสองจะได้อี๋อ๋อกัน                 ทั้ง ๆ ตัวเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับวาริช ความสัมพันธ์ของเราสองคนเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น แต่เขากลับกำลังไม่พอใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก…                 “ไฟ ทำหน้าเครียดอีกแล้ว มีอะไรหรือเปล่าคะ” พิม ณิชาเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ หลังอีกฝ่ายกลับมาคอนโดพร้อมกับเขาด้วย                 “อย่ายุ่ง” เพราะกำลังอารมณ์ไม่ดี นั่นจึงทำให้เขาเผลอพูดกับคนข้างกายเสียงห้วนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน                 “…..”                 “พิม….ผมขอโทษ  แต่ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว” อัคนีเอ่ยต่อ เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด                 “ได้ค่ะ ไว้ไฟอารมณ์เย็นลงตอนไหน เราค่อยคุยกันก็ได้ค่ะ” พิมเอ่ยว่าง่าย                 เพราะเธอไม่ใช่คนเซ้าซี้หรือชอบจี้ถามอะไรที่เขายังไม่พร้อมตอบ นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เราคบหากันมานานขนาดนี้                 “อืม ไว้ถ้าผมพร้อม ผมจะบอกคุณเอง”                 “ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ….พิมทำแกงเลียงกุ้งไว้ให้ ถ้าหิวก็อย่าลืมตักมากินนะคะ”                 “ครับ ขอบคุณมากครับ”                 หลังคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักกลับไปแล้ว อัคนีก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ความรู้สึกขุ่นเคืองกำลังส่งผลให้เขาหงุดหงิดทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ตัวไปเสียหมด                 และอะไรที่เขาเคยพอใจ ก็กลายเป็นไม่พอใจไปเสียแล้ว                   กว่าเราจะลองทำขนมจนเกือบครบทุกสูตรที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ดวงตะวันก็ลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว แม้วาจะเหนื่อยจนได้เหงื่อ แต่ตลอดครึ่งวันมานี้ เขาก็มีความสุขมาก วาได้ลองทำเบเกอรี่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสนุกสนาน เพราะทั้งพี่เทียนและพี่ไทระก็ต่างเป็นกันเองกับเขามาก                 “วันนี้ขอบคุณมากนะครับ” ก่อนจะลงจากรถคันหรู วาริชก็พูดขอบคุณนายแบบหนุ่มด้วยความจริงใจ นี่ถ้าวันนั้นเราไม่ได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ บางทีวันนี้หลังจากที่เลี่ยงคุณไฟได้ วาก็อาจต้องกลับมานอนเหงาที่ห้องแทน                 “จะมาขอบคุณอะไรกันเล่า! วันนี้วาอุตส่าห์ไปช่วยแท้ ๆ” พี่ไทระว่า พร้อมระบายยิ้มละมุน ก่อนจะพูดต่อ “แต่ก็น่าเสียดายจังนะที่วามาทำงานที่ร้านไม่ได้ วันนี้เท่าที่พี่สังเกตดู…วากับพี่เทียนก็ทำงานเข้ากันได้ดีเลยนะ”                 “นั่นสิครับ วาก็เสียดายอยู่เหมือนกัน เราน่าจะเจอกันให้เร็วกว่านี้”                 หากจะบอกว่าอุปสรรคนี้ เป็นเพราะคุณไฟก็คงไม่ถูกเท่าไรนัก เพราะถ้าวาไม่ได้ทำงานกับคุณไฟมาก่อน เขากับพี่ไทระก็อาจไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยก็ได้ วาเชื่อในโชคชะตาและเวลาของมัน                 “แต่ถ้าในอนาคต….วาเกิดตกงานขึ้นมา ก็ขอไปทำงานด้วยนะครับ” เขาว่าต่อ                 “อย่าพูดแบบนั้นดิ วาเป็นคนขยัน ไม่ตกงานง่าย ๆ หรอก”                 “ฮ่า ๆ ก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกันครับ พรุ่งนี้มีงาน วาต้องรีบขึ้นไปนอนแล้ว ฝันดีนะครับ”                 “เช่นกันครับ”                 หลังร่ำลากับพี่ไทระแล้วลงจากรถเรียบร้อยแล้ว วาก็ยืนมองอีกฝ่ายขับรถออกไป จนกระทั่งเขามองไม่เห็นรถของพี่ไทระแล้ว วาถึงได้ฤกษ์เดินเข้าหอพักตัวเอง                                 นับตั้งแต่วินาทีที่พี่ไทระจัดการเปิดอินสตาแกรมให้วา พร้อมลงรูปแล้วติดแท็กหากัน เสียงการแจ้งเตือนโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นทุก ๆ ห้านาที นั่นจึงทำให้วาต้องปิดโทรศัพท์ เนื่องจากมันเกิดอาการค้างและกระตุกอยู่หลายครั้งหลายครา                 พอกลับมาถึงห้อง วาจึงได้เริ่มทำการเปิดโทรศัพท์ขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะต้องแปลกใจ เมื่อยอดผู้ติดตามของเขามีเกือบห้าพันคน ภายในระยะไม่ถึงหนึ่งวัน                 เพราะวาไม่ใช่คนดัง เพราะเขาไม่เคยมีผลงานในวงการมาก่อน ทำให้การที่มีผู้ติดตามจำนวนหลายพันคนภายในวันเดียวแถมยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ มันค่อนข้างแปลกสำหรับเขา                 และวาก็คิดว่าที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพราะความดังของพี่ไทระแน่ ๆ                 หลังจากกดดูการแจ้งเตือนเสร็จ สิ่งที่วาทำต่อไปหลังจากนั้น นั่นก็คือการกดพิมพ์ชื่อของคุณไฟในช่องค้นหาดู แล้วหน้าบัญชีผู้ใช้ของคุณเขาปรากฏขึ้น                 ยอดผู้ติดตามทะลุสิบล้านคน เป็นตัวการันตีความดังของคุณไฟ แต่ทว่าแม้ยอดผู้ติดตามของอีกฝ่ายจะมีมากมาย แต่การกดติดตามผู้อื่นของคุณไฟ กลับขึ้นเพียงแค่อันเดียวเท่านั้น                 เท่าที่วาเคยรู้มาจากพี่ว่าน… โดยปกติคุณไฟจะไม่กดติดตามใครเอาไว้ เพราะครั้งหนึ่งเคยเกิดปัญหาขึ้น เมื่ออีกฝ่ายกดติดตามเพื่อนร่วมวงการแล้วก็มีคนจับผิด กุข่าวว่าคุณไฟอาจกำลังกุ๊กกิ๊กกับนักแสดงหญิงในเรื่อง                 เพื่อตัดปัญหาทั้งหมด นับตั้งแต่วันนั้นคุณไฟก็ไม่เคยฟอลอินสตาแกรมใครอีกเลย แม้กระทั่งคุณพิม คนที่เป็นตัวจริงของอีกฝ่ายในตอนนี้                 ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงลองกดเข้าไปรายชื่อคนที่คุณไฟกดติดตามเอาไว้ดู ระหว่างที่รอให้เน็ตโหลด วูบหนึ่งในความคิด วาริชก็คิดว่าคน ๆ นั้นอาจเป็นคุณพิม คนรักของคุณไฟก็ได้ แต่ทว่าพอเน็ตโหลดเรียบร้อยแล้ว ทำไมมันถึงขึ้นเป็นอินสตาแกรมเขาเสียได้                 บางทีโทรศัพท์ของวาอาจจะรวน…                 เมื่อคิดได้เช่นนั้น วาริชก็ไม่รอช้า เขาลองออกจากแอปฯ แล้วรีสตาร์ทเครื่องใหม่ แต่มันก็ยังเป็นแบบเดิม ด้วยความข้องใจ เก็บเอาไว้เช็กพรุ่งนี้ก็กลัวจะนอนไม่หลับ สุดท้ายวาริชจึงตัดสินใจลองทักพี่ไทระ แล้ววานขอให้อีกฝ่ายถ่ายรูปหน้าจอมาให้ดูหน่อย เนื่องจากเขาอยากรู้จริง ๆ ว่าโทรศัพท์ตัวเองขัดข้องหรือว่ามันเป็นเรื่องจริง ซึ่งพี่ไทระก็ดีใจกับวาเหลือเกิน อีกฝ่ายเงียบหายไปเกือบห้านาที ก่อนจะส่งรูปกลับมาให้พร้อมข้อความยาวเหยียด                 ‘เปล่าหรอก เน็ตโทรศัพท์วาไม่ได้ช้า โทรศัพท์วาไม่ได้รวน…. แต่คุณไฟกดติดตามวาแค่คนเดียวจริง ๆ’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม