ลู่เฉียวเมื่อทำภารกิจลุล่วงแล้วจึงมารวมตัวที่โรงเตี๊ยมตามนัดหมายเหมือนอย่างเคย ทุกคนมารอกันพร้อมหน้าเหลือแต่เขาที่เพิ่งเสร็จธุระเพียงคนเดียว “ว่าอย่างไรเล่าพ่อค้าลู่เฉียว ได้ข่าวว่าค้าขายรุ่งเรืองดีใช่หรือไม่” ลู่ฉิงออกปากเย้าโดยไม่ทันให้ตั้งตัว ทุกคนต่างทำการค้าขายทั้งสิ้นจึงมักอวดยอดขายและเกทับกันอยู่เป็นประจำ “ข้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่แน่เขาอาจได้เงินมากกว่ายอดขายในร้านสมุนไพรของข้าทั้งเดือนเสียอีกกระมัง” ลู่ฉินก็ใช่ย่อยคอยซ้ำอยู่ตลอด “ก็อย่างว่าล่ะนะ คนทุจริตคิดไม่ซื่อชอบคดโกงคนอื่นย่อมตกเป็นเหยื่อของคนโกงอีกทอด เป็นเรื่องธรรมดา” ลู่เฉียวโบกพัดในมือด้วยสีหน้าเหนือกว่า เพราะเขาขายสินค้าให้กับอนุหลินเพียงแค่ครั้งเดียวก็ได้เงินมากมาย หากเทียบกับพ่อค้าธรรมดาอาจไม่ต้องขายให้คนอื่นไปอีกตลอดทั้งเดือนเลยทีเดียว ส่วนลู่ฉีได้แต่นั่งอมยิ้มฟังสหายทั้งสามหยอกเย้ากันไปมาเนื่องจากการเงินของตนสะพัดยิ่