จวิ้นอ๋อง

1341 คำ
ทุกอากัปกิริยาของสตรีในอาภรณ์สีเข้ม ที่ยังคงสวมผ้าคลุมปกปิดใบหน้าอยู่ตลอดเวลา อยู่ในสายตาของบุรุษเรือนร่างสูงใหญ่ที่ควบกายอยู่บนอาชาสีดำทมิฬ ซึ่งวันนี้เขายอมปรากฏกายออกจากเงามืด เมื่อได้รับรู้ว่าสตรีตรงหน้าได้รับใบหย่าที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ทุกประการแล้ว “หึหึ จากนี้ไปข้าจะได้ไม่ต้องเกรงใจผู้ใดอีกแล้ว ชินอ๋องท่านชาญฉลาดในการศึกแต่เรื่องของหัวใจเหตุใดจึงโง่เขลายิ่งนัก ไม่ทันจะได้สืบหาความจริงกลับหลงเชื่อในข่าวลวงจากผู้ไม่ประสงค์ดี หากไม่เรียกว่าบุรุษโง่เขลาจะให้ข้าเรียกท่านว่ากระไร” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยออกมาแผ่วเบาพอให้ได้ยินแค่คนเดียว สายตาอ่อนโยนจ้องมองไปยังสตรีที่กำลังยิ้มแย้มกับหนังสือหย่าที่นางพึ่งจะได้รับ ประหนึ่งว่าได้รับตำลึงมากโขก็มิปาน “งดงามยิ่ง” เสียงแผ่วเบาเอ่ยออกไปอย่างเหม่อลอย เมื่อจินตนาการไปถึงใบหน้างดงาม ที่เขาได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อยามที่นางพำนักอยู่ที่ตำหนักร้างของชินอ๋อง ในทุกๆวันจวิ้นอ๋องหยางหนิงเฉิงจะเร้นกายไปเฝ้ามองนางฝึกวิชาแปลกประหลาด จนแทบไม่อยากกลับโรงเตี๊ยมเลยสักวัน แต่ก็ต้องตัดใจจากลากลับออกมา เพราะเกรงว่านางจะรับรู้เข้าเสียก่อนว่ามีคนแอบมองอยู่ทุกวัน เจียงหยวนองครักษ์คนสนิทจ้องมองนายท่านของเขา ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมของนายท่านตลอด5วันที่ผ่านมา จวิ้นอ๋องหยางหนิงเฉิงผู้ไม่เคยสนใจสตรีใด แต่กลับตามเฝ้ามองสตรีนางหนึ่งมาตั้งแต่อยู่เมืองหลวง จนนางเดินทางมาถึงเมืองเสิ่นเจียง ก็ยังตามปกป้องคุ้มภัยอยู่ไม่ห่าง เห็นทีว่านายท่านของเขาจะพบรักเข้าเสียแล้วกระมัง จวินอ๋องหยางหนิงเฉิงเป็นบุรุษสูงศักดิ์ ที่จำต้องย้ายไปอาศัยอยู่ต่างเมืองตั้งแต่อายุ20ปี เพื่อไม่ให้ฮ่องเต้กับชินอ๋องนึกหวั่นเกรงในตัวเขา เนื่องจากจวิ้นอ๋องอนุชาต่างมารดาของฮ่องเต้และชินอ๋อง เป็นผู้ที่มีวรยุทธ์สูงส่งกว่าผู้ใดในแคว้นเหว่ยหยาง จึงถูกพี่น้องในราชวงศ์หวาดระแวงในตัวเขาอยู่เสมอมา จวิ้นอ๋องจึงมาปักหลักอยู่เมืองเสิ่นหนานหัวเมืองใหญ่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของหวงกุ้ยเฟยพระมารดาของเขา เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวงในบรรดาพี่น้อง เพราะตัวเขามิได้ประสงค์อยากแย่งชิงบัลลังก์ราชันย์แต่อย่างใด บุรุษรูปงามวัย30ปี ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเสิ่นหนานอย่างเงียบสงบ นานๆครั้งจึงจะแอบเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเพื่อหาซื้ออาวุธในร้านที่ซื้อขายกันอยู่เป็นประจำ ทว่าเขาก็ไม่เคยไปทักทายพี่ชายต่างมารดาทั้งสองพระองค์เลยสักครั้ง นับตั้งแต่แยกออกไปอยู่ต่างเมืองเพียงลำพัง เพราะไม่อยากถูกจับตามองจนโกรธเคืองซึ่งกันและกันอีก ชาวเมืองเสิ่นหนานต่างก็รู้จักจวิ้นอ๋องหยางหนิงเฉิงกันเป็นอย่างดี ว่าเขาเป็นพระอนุชาของฮ่องเต้หยางหนิงเทียน บุรุษสูงศักดิ์รูปงามผู้นี้อาศัยอยู่ในจวนหลังใหญ่ท้ายตลาดตามลำพังกับองครักษ์คนสนิท ทั้งยังมีพ่อบ้านผู้ดูแลทุกเรื่องในจวนหนึ่งคน และบ่าวไพร่ทำความสะอาดจวนอีกไม่กี่คนเท่านั้น ทว่ายามนี้บุรุษสูงศักดิ์ผู้ที่ไม่เคยใส่ใจมองสตรีนางใดมาตลอดหลายปี ทั้งๆที่เหล่าบรรดาคุณหนูในเมืองเสิ่นหนานต่างหมายปองพระองค์ กลับตามเฝ้ามองสตรีที่สวมผ้าคลุมใบหน้าไม่ยอมให้ห่างไกลจากสายตาอันคมกริบ จวิ้นอ๋องหยางหนิงเฉิง ยอมออกจากมุมมืดที่ใช้เร้นกายยามเข้าเมืองหลวง เพื่อออกหน้าอำนวยความสะดวกในการผ่านทาง ให้รถม้าของนางผ่านทางไปได้โดยง่าย ชนิดที่ว่าไม่มีใครกล้าเรียกตรวจสอบรถม้าคันเก่าๆนี้เลยสักครั้ง บนรถม้าคันเก่า จางเย่วชิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่นางสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละเมืองที่ผ่านทางมา โดยไม่ต้องยื่นเอกสารแนะนำตัวเอง เพราะนางยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้แซ่เดิมของมารดา นางตั้งใจจะจัดการให้แล้วเสร็จเมื่อเดินทางถึงเมืองเสิ่นหนาน ถึงจะรู้ว่าคงไม่มีใครตามหาตัวนางเป็นแน่แต่ป้องกันเอาไว้ย่อมไม่เสียหาย “ดียิ่งจูลี่ ตามด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่มีใครถามข้อมูลส่วนตัวของข้าเลย” “ใช่เจ้าค่ะ เห็นทีว่าสวรรค์จะเปิดทางให้พวกเราหลุดพ้นจากขุมนรกนะเจ้าคะ” “จูลี่ นับจากนี้ไปข้าจะขุนเจ้าให้ตัวอวบอ้วนเลยคอยดู เจ้าจะไม่อดอยากและไม่ลำบากอีกแล้ว” เย่วชิงยกมือขึ้นลูบหัวสาวใช้ข้างกาย ด้วยความสงสารในชะตาชีวิตที่ผ่านมา จูลี่อายุห่างจากนางเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับจางเย่วชิงที่เป็นสายลับสาวที่เสียชีวิตตอนอายุ32ปี ก็นับว่าจูลี่อายุน้อยกว่านางหลายปี “คุณหนูก็ต้องกินให้เยอะด้วยนะเจ้าคะ ท่านก็ผอมแห้งไม่ต่างจากข้า” จูลี่น้ำตาคลอขณะที่พูด เมื่อจ้องมองร่างกายที่ผอมแห้งของคุณหนูของนาง เพราะพวกนางทั้งสองคนต่างอดมื้อกินมื้อมาด้วยกันมานานแล้ว “อืม อีกไม่นานร่างกายของข้าก็คงสมบูรณ์แบบ พร้อมรับการฝึกในหลักสูตรที่เข้มข้นแล้วล่ะจูลี่” เมืองหลวง ชินอ๋องหยางหนิงหลงอมยิ้มมุมปากอย่างเป็นสุข เมื่ออีกไม่กี่เพลาเขาจะได้พบปะพูดคุยกับสตรีที่อยู่ในหัวใจมาเนิ่นนานหลายปี ยามนี้เขาไร้พันธะใดๆแล้ว จึงพร้อมยิ่งกว่าพร้อมที่จะสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งใหม่ ครั้งก่อนพลาดพลั้งแต่งสตรีไร้ค่าเข้ามาในตำหนัก ก็ให้ถือว่าถึงคราวเคราะห์ที่ต้องเผชิญ ยังดีที่อดีตพระชายาผู้นั้นไม่ใช่สตรีที่น่ารำคาญมากจนเกินไป นางจึงได้ยอมเขียนจดหมายหย่าและจากไปเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ใบหย่าฉบับที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ทุกประการ พ่อบ้านฉีได้นำกลับมาให้ชินอ๋องเก็บเอาไว้อย่างมิดชิด แม้กระทั่งฮ่องเต้ก็ไม่สามารถคัดค้านการหย่าร้างในครั้งนี้ได้ ในเมื่อฝ่ายสตรีเป็นผู้ที่ต้องการหย่าขาดด้วยตนเอง หาได้ผิดต่อราชโองการสมรสแต่อย่างใด ความสุขที่ฉายชัดออกมาทางแววตาของบุรุษผู้มีอุปนิสัยเย็นชา ค่อนไปทางดุดันและโหดเหี้ยม ทำให้องครักษ์ข้างกายถึงกับขนลุกไปตามๆกันด้วยความไม่ชิน ใช้เวลาเดินทางจากตำหนักมาร้านเฟิ่งหวงเพียงหนึ่งก้านธูป รถม้าคันใหญ่จากตำหนักชินอ๋อง ก็มาจอดเทียบที่หน้าร้านเฟิ่งหวง ชินอ๋องหยางหนิงหลงสวมใส่อาภรณ์เรียบหรูสีเข้มเหมาะสมกับพระยศ เรือนร่างกำยำสูงใหญ่ก้าวเดินเข้าไปในร้านเฟิ่งหวงด้วยท่วงท่าที่องอาจสมชายชาตรี ประกอบกับใบหน้าคมคายที่นับได้ว่าเป็นบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง เหล่าคุณหนูที่กำลังเลือกสรรเครื่องประดับอยู่ในร้าน ต่างจ้องมองมาที่บุรุษรูปงามอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งจางซูเม่ย ที่กำลังเลือกซื้อปิ่นปักผมอยู่กับสหายสนิทของนาง “ชินอ๋องหยางหนิงหลง พระอนุชาร่วมอุทรของฮ่องเต้ เสด็จอาขององค์รัชทายาทหยางเฟยเทียนที่เจ้าหมายปองอย่างไรเล่า” หลินม่านอวี้ สหายสนิทของจางซูเม่ยกระซิบเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน เมื่อเห็นแววตาสงสัยใคร่รู้ของสหายของนาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม