กำราบรัก 8
“คุณทีครับ คุณเมฆมาครับ”
“ให้เข้ามา”
เมฆคือเพื่อนสนิทหนึ่งในสองคนของที พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ต่างรู้นิสัยของกันและกันเป็นอย่างดี
สำหรับวันนี้ที่เมฆมาก็ไม่ได้คิดถึงเพื่อนแต่อย่างใดแต่เขาเป็นตัวแทนของเพื่อนมาสอดส่องเด็กเพื่อนรักต่างหาก
“เดี๋ยวนี้กูจะเข้าพบต้องรอขออนุญาตด้วยหรอวะ”
ชายหนุ่งรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนตัดกับผิวขาวสไตล์ลูกครึ่ง ดวงตาสีฟ้าสดใสคู่สวยถือเป็นเสน่ห์พิฆาตของเขาเลยก็ว่าได้เพราะผู้หญิงที่ได้สบตาเขาไม่มีใครเคยหนีรอดเงื้อมมือเขาสักราย
“กับมึง ควรสั่งห้ามเข้าพบด้วยซ้ำ”
คนโดนเหน็บแนมเบ้ปากเล็กน้อย เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามที สายตาสอดส่องไปทั่วห้องพยายามหาผู้หญิงที่เขาต้องการพบ
“หาอะไร”
ทีเอ่ยถามเสียงนิ่ง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเขากำลังหาอะไรอยู่ เรื่องสอดรู้สอดเห็นนี้ที่หนึ่งเลย
ให้ตายเถอะ เขาไม่น่าเผลอส่งรูปลงไปในไลน์กรุ๊ปเลย
“เด็กมึงอยู่ไหนอะ”
“เด็กกูแล้วมึงเสือกอะไรครับ”
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง มือหนายกขึ้นปิดปากตัวเองแสดงราวกับพบเจอเรื่องน่าประหลาดก่อนจะรีบเอ่ยถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นกว่าเดิม
“คนนี้มึงเอาจริงหรอ”
“เออ”
“OMG เรื่องนี้ต้องถึงหูไอกัปตัน มันต้องช็อคตายคาเครื่องบินแน่ถ้ารู้ว่าคุณชายน้ำแข็งอย่างมึงคิดจริงจังกับผู้หญิง”
“หุบปากไปเลย”
ทียัดคุกกี้ใส่ปากเพื่อนด้วยความรำคาญ ในตอนแรกเมฆกำลังจะด่ากลับแต่เมื่อลิ้นสัมผัสคุกกี้ รสชาติหอมหวานละมุนที่ได้รับก็ทำให้เขายอมหุบปากและเคี้ยวมันจนหมด
“มึงซื้อร้านไหนวะ โครตอร่อย”
เมฆเอ่ยชม เอื้อมมือออกไปหมายจะหยิบคุกกี้อีกชิ้นเข้าปาก
“ไม่ต้องกินแล้ว”
แต่เพื่อนเขากลับคว้ากล่องไปถือไว้ ไม่ยอมให้เขากินอีก
“อะไรวะ นี่มึงหวงคุกกี้กับเพื่อนหรอไอคุณที”
“เออ กลับไปได้แล้ว มึงว่างมากรึไง”
ริมฝีปากได้รูปยิ้มกว้างอวดฟันสวยทั้งสามสิบสองซี่ของตนเอง เมฆไม่รู้สึกเกรงกลัวสายตาเย็นยะเยือกของทีเลยสักนิดเพราะเขาคุ้นชินมาตั้งแต่เด็กแล้ว รู้ดีว่ารังสีประมาณนี้แสดงว่าเขายังไม่มีอันตราย
“ว่างมาก วันนี้ทั้งวันกูนอนรอเจอเด็กมึงได้เลย”
“เหอะ ไม่เจอหรอก วันนี้หนูซอลไปนอนกับเพื่อน”
“เฮ้ย ไอคุณชายมึงน้อยใจเด็กหรอวะ ฮ่าๆ”
เท้าเรียวยกขึ้นมาตั้งบนโต๊ะเป็นสัญญานเตือนเมฆกลายๆว่าถ้ายังไม่หยุด ได้กินอวัยวะเบื้องล่างของเขาแน่
“ไม่ล้อก็ได้ครับเพื่อน เอาลงเถอะครับคุณชาย”
เมฆยกมือขึ้นยอมแพ้ รีบประนีประนอม ทีเอาเท้าลงตามคำขอของเพื่อนก่อนจะหันไปหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อ ยื่นข้อเสนอที่คิดว่าเพื่อนน่าจะสนใจจะได้เลิกวุ่นวายเรื่องเขาสักที
“มึงว่างมากก็ไปจีบแอร์สิ”
“แอร์สายการบินมึง กูกินเรียบแล้วครับ”
เป็นอย่างที่เมฆว่า เขาถือได้ว่าเป็นคาสโนว่าอันดับต้นๆเลย และยิ่งสาวสวยในชุดแอร์ออสเตส เขาจะยิ่งหมายตาเป็นพิเศษฉะนั้นจึงไม่แปลกที่แอร์ในสายการบินเพื่อนเขาจะเคยเชยชมมาแล้วเกือบทั้งหมด
“มาเข้าเรื่องมึงดีกว่า ถึงขั้นไหนแล้ววะ”
“ขั้นไหนเหี้ยไรล่ะ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำมั้งว่ากูรู้สึกอะไร”
“หือ มีคนกล้าเฉยเมยกับความรู้สึกคุณชายน้ำแข็งอย่างมึงด้วยหรอ?”
“เออ ล่าสุดสนใจบาร์บีคิวมากกว่านัดกู”
พูดแล้วก็หงุดหงิด ทีหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่มโดยไม่สนใจว่ามันจะร้อนหรือไม่ เมฆมองอาการเพื่อนรักพลางหัวเราะในลำคอ
“ชักจะอยากเจอหนูซอลคนนี้ซะแล้วสิ”
ณ ย่านศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองอันเป็นสถานที่นิยมกันในหมู่วัยรุ่น
หนุ่มสาวมากมายพากันเดินเลือกซื้อของเต็มทั่วเกือบทั้งพื้นที่ แต่จุดสนใจของบรรดาวัยรุ่นดูเหมือนจะเป็นสามสาวอย่างกุญแจซอล ปีโป้และผักบุ้งเสียมากกว่า
“เดี๋ยวบุ้งต้องกลับก่อนสี่โมงนะ พี่เหนืองอแงว่ะ”
ผักบุ้งเอ่ยขึ้นหลังจากเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพายใบเล็ก ปีโป้เบ้ปากเล็กน้อย พี่เหนือหรือดาวเหนือเป็นแฟนของผักบุ้งและเป็นรุ่นพี่สุดโหดของเธอแต่พออยู่กับเมียนะ อย่างกับคนละคน
“บุ้งพูดจริงนะ แอบถ่ายตอนพี่เหนืองอแงมาขายโป้เถอะ โป้จะเอาไปแบล็กเมล์”
ปีโป้ยื่นข้อเสนอให้เพื่อน เตรียมแผนเพื่อแบล็คเมล์รุ่นพี่เสร็จสรรพ
“โป้กล้าแบล็คเมล์พี่เหนือสุดหล่อของซอลหรอ”
กุญแจซอลหันว่ามองเพื่อนตัวเอง ก็ดาวเหนือหนะเป็นรุ่นพี่ที่เธอเทิดทูนมาก
“เออ บุ้งไม่เอาด้วยหรอก ขืนโดนจับได้มีหวังไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันพอดี”
ปีโป้ทำหน้าเซ็งเมื่อไม่มีเพื่อนคนไหนสนใจแผนการณ์ของเธอก่อนจะหันไปกอดคอกุญแจซอลซึ่งกำลังเลือกต่างหูให้เดินตามผักบุ้งไป
จุดประสงค์ของการมาสยามในวันนี้ของพวกเธอคือช่วยกันเปลี่ยนลุคให้ปีโป้ ด้วยเหตุผลที่ว่าอาทิตย์หน้าสีครามแฟนของปีโปจะพาเธอไปทานข้าวกับครอบครัวเขา ปีโป้เลยอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อแฟนหนุ่มบ้าง ถึงแม้ลุคเธอตอนนี้จะดูสวยแบบเท่ๆก็ตามแต่มันอาจดูห้าวเกินไปสำหรับเข้าหาผู้ใหญ่
หลังจากสามสาวช้อปปิ้งเสร็จ กุญแจซอลมานอนกับปีโป้เนื่องจากเธออาสาสอนแต่งหน้าให้เพื่อนรักกว่าจะเสร็จเรื่องเสร็จราวก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มเลยทีเดียว
“เป็นอะไรจ๊ะคุณหนูซอล”
ปีโป้เดินออกจากห้องน้ำเห็นเพื่อนก้มมองโทรศัพท์เป็นสิบรอบจึงเดินเข้ามาทัก
“เฮ้อ ซอลกำลังคิดว่า ซอลจะไปสมุยกับคุณทีดีมั้ย”
กุญแจซอลตอบด้วยใบหน้างองุ้มเหมือนคนกำลังใช้ความคิดตัดสินใจอย่างหนัก เธอเล่าทุกเรื่องให้ปีโป้ฟัง ปีโป้จึงรู้จักคุณทีเป็นอย่างดีจากคำบอกเล่าของเธอ
“ไม่อยากไปหรอ”
ดวงหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตารีบส่ายไปมาเพื่อปฏิเสธ
“ป่าวนะ ซอลอยากไป”
“เอ้า ก็ไปสิ คิดมากทำไม”
“มันตรงกับวันงานคณะอ่า ซอลอยากกินบาร์บีคิว”
ปีโป้ถึงกับตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ กุญแจซอลไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาแต่บ้างเรื่องเธอก็ซื่อเกินไปจริงๆ
“ถ้าอยากไปกับเขาก็ไป บาร์บีคิวกินวังหลังก็ได้”
“แล้วโป้ไม่โกรธหรอที่เราไม่ไปงานคณะกับโป้”
“ไม่ไปหนะดีแล้ว จะได้ไม่ต้องรำคาญพวกมาจีบคุณหนูซอลประจำคณะวิศวะ”
“ไม่มีสักหน่อย”
“จ้า โทรไปหาเขาสิ จ้องหน้าจอจนจะท้องกับโทรศัพท์แล้วมั้ง”
สาวห้าวประจำกลุ่มเดินหัวเราะร่าออกไป สงสัยเพื่อนสาวตัวน้อยของเธอกำลังมีความรักแน่ๆ ปกติคนอย่างคุณหนูซอลจอมกินเคยเลือกอะไรมาก่อนของกินซะที่ไหน
กุญแจซอลสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะกดโทรออกหาที เธอรอสายอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งสายตัดไป
“สงสัยหลับแล้วมั้ง ค่อยไปหาตอนเช้าล่ะกัน”
เช้าวันต่อมา กุญแจซอลตัดสินใจกลับบ้านทีตั้งแต่เช้าแต่เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อมาถึง แม่บ้านกลับบอกว่าคุณทียังไม่ตื่น ปกติคุณทีไม่เคยตื่นหลังเจ็ดโมงด้วยซ้ำ
“คุณทีตื่นเร็ว ไหนบอกจะพาหนูซอลไปซื้อของไง”
กุญแจซอลเขย่าแขนแกร่งของคนบนเตียงแต่คนโดนปลุกกลับพลิกตัวหนี ปกติทีไม่ใช่คนตื่นสายแบบนี้
เหตุสืบเนื่องจากเมื่อวาน ทีเมินสายเรียกเข้าจากกุญแจซอลแต่เขากลับนอนไม่หลับเสียเองเมื่อเธอไม่โทรกลับมาอีก ครั้นจะให้โทรไปก็กลัวเสียเชิง
“อื้อ จะนอน”
“นอนไม่ได้ ตื่นนะ ถ้าไม่ตื่นหนูซอลจะ...ว้าย”
ร่างเล็กถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของคนบนเตียง แขนแกร่งกอดรัดเธอไว้แน่นพลางกระซิบลงข้างหูขาวเนียนทั้งที่เขายังหลับตาอยู่
“จะอะไรครับคุณหนูซอล”
“คะ...คุณทีปล่อยนะ”
“นิ่งๆเลยจะนอน”
คนถูกกอดตัวแข็งทื่อเมื่อถูกสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ทีซุกหน้าเข้ากับซอกคอขาวเพื่อสูดกลิ่นหอมจากคนในอ้อมกอดก่อนจะเคลิ้มหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเช่นเดียวกับหญิงสาวในอ้อมกอด ความอบอุ่นที่เธอได้รับจากอ้อมกอดแกร่งทำให้เธอเผลอหลับไปเช่นกัน
กว่าทั้งคู่จะตื่นจากห้วงนิทราอีกครั้งปาเข้าไปเกือบสิบโมง ทั้งคู่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการหลับไปในอ้อมกอดของกันและกันแบบนี้ทำให้พวกเขาหลับสบายกว่าทุกครั้งแต่ถึงอย่างนั้นมันยังถือเป็นเรื่องน่าอายสำหรับกุญแจซอลอยู่ดี เธอมาปลุกเขาแท้ๆแต่ดันเผลอหลับในอ้อมกอดเขาเสียได้
“เลิกก้มหน้าสักที”
ทีเอื้อมมือไปดึงแก้มป่องของคนด้านข้างขึ้น เจ้าของแก้มเลยตวัดสายตามองเขาเขม็งซึ่งกำลังขับรถอยู่
“ไม่ต้องมายุ่งเลย หนูซอลอุส่าต์รีบตื่นเช้ากลับบ้าน นี่อะไรกว่าจะได้ออกมาปาเข้าไปบ่ายโมง”
กุญแจซอลพยายามหาเรื่องมากลบเกลื่อนความอายของตัวเอง
“อย่ามางอแง หนูซอลก็หลับเถอะ”
เมื่อโดนย้อนกลับด้วยความจริง คนไม่มีทางสู้เลยสะบัดหน้าหนีเพราะไม่มีเรื่องจะเถียง ขืนให้เธอมองเขาต่อ ความรู้สึกตอนอยู่ในอ้อมกอดเขาต้องทำให้เธอเผลอแสดงอาการออกมาจนเขารู้แน่
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงห้างสรรพสินค้า หลังจากทีไปรับของที่เขาสั่งไว้เรียบร้อย เขาจึงตามใจให้กุญแจซอลไปเลือกซื้อของที่เธออยากได้
“ชุดว่ายน้ำ?”
เจ้าของใบหน้านิ่งเอ่ยออกมาในเชิงประโยคคำถามเมื่อโดนลากมายังแผนกชุดว่ายน้ำสำหรับผู้หญิง
“ใช่ค่ะ หนูซอลมีเสื้อผ้าเยอะแล้วไม่จำเป็นต้องซื้อขาดแต่ชุดว่ายน้ำ”
“ชุดว่ายน้ำก็ไม่จำเป็น”
พูดเพียงเท่านั้น ทีจึงกลับหลังหัน เตรียมเดินออกมาจากบริเวณนั้นแต่กลับโดนมือเล็กคว้าไว้เสียก่อน
“จำเป็นค่ะ นะนะ หนูซอลซื้อแปบเดียว”
ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆอย่างขอความเห็นใจ ทีเห็นอย่างนั้นถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่และเดินนำเธอเข้าไปยังโซนชุดว่ายน้ำในที่สุด
ทีเลือกนั่งรอหญิงสาวอยู่หน้าห้องลองแทนที่จะไปนั่งรอเธอในส่วนที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ เขาอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม เขาถึงได้รู้สึกห่วงเธอขนาดนี้ทั้งที่ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยรู้สึกห่วงผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากแม่ตัวเอง
“คุณทีชุดนี้เป็นไง”
โทรศัพท์เครื่องบางในมือแทบหล่น เมื่อทีเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงสดใสในชุดว่ายน้ำทูพีชสีชมพูพาสเทลที่มีสายคล้องคอเป็นสายเส้นเล็กสายเดียว โชว์เนินอกขาวอวบอิ่มน่าฟัด ไหนจะหน้าท้องเนียนขาวดูมีน้ำมีนวลน่าสัมผัสนั่นอีก นี่ยังไม่ดับช่วงล่างที่สั้นจนแทบเห็น....
บ้าจริง เห็นผู้หญิงใส่ทูพีชมาก็เยอะ ทำไมไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงขนาดนี้เลย
“น่าเกลียด ไปเปลี่ยน”
“น่าเกลียดตรงไหน ใครเขาก็ใส่กัน”
“ถ้าจะเอาชุดนี้ ก็เล่นน้ำอยู่แต่ในห้อง”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อได้ยินก่อนจะเถียงออกมาอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“ไปเกาะก็ต้องลงทะเลสิ ไม่รู้ล่ะหนูซอลชอบ เอาชุดนี้แหละ”
กุญแจซอลพูดเองเออเองเสร็จสรรพไม่ได้สนใจสายตาเย็นยะเยือกจากอีกคนก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในห้องลองโดยไม่ทันรู้ตัวว่าทีเดินตามเข้ามาด้วย
“วร้าย คุณทีเข้ามาทำไมคะ”
หญิงสาวร้องลั่นเมื่อกำลังจะถอดชุดออกแต่สายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงในกระจกยืนซ้อนหลังเธออยู่
“น่าเกลียด ห้ามใส่”
ถ้อยคำรุนแรงออกจากริมฝีปากสวยแต่ทว่าแววตาเขากลับเป็นประกายแสดงอาการชื่นชมเรืองร่างของผู้หญิงในกระจกอย่างปิดไม่อยู่
“หนูซอลไม่ได้ขออนุญาตคุณที ออกไปนะคะ”
มือเล็กดันอกแกร่งให้ออกไปจากห้องลอง ไม่รู้ว่าแรงเธอน้อยหรือแรงของคนที่เธอกำลังดันเยอะเกินไปกันแน่ ทีถึงไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
“นี่เป็นคำสั่ง”
ทีรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะดึงเธอเข้าประชิดตัว ค่อยๆก้มหน้าเข้าหาดวงหน้าเล็กจนปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน ทีจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มอีกครั้ง
“เข้าใจใช่มั้ย?”
ริมฝีปากอวบอิ่มเมมเข้าหากัน ไม่ยอมตอบ ถึงแม้จะกลัวทีอยู่บ้างแต่เธอก็ยังอยากใส่บิกินนี่ไปเที่ยวทะเลเหมือนคนอื่นนะ
“ดื้อ”
เมื่อไม่ได้คำตอบที่พึงพอใจ ทีจึงก้มลงจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้าตักตวงความหวานจากเธอพอประมาณ กัดริมฝีปากล่างของเธอเบาๆก่อนจะผละออกมากดจูบลงบนซอกคอและเนินอกอวบอิ่มจนเกิดเป็นรอยแดงสองสามจุด
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วและอ่อนโยนจนคนอ่อนประสบการณ์อย่างกุญแจซอลตามไม่ทัน รู้ตัวอีกทีรอยแดงสีกุหลาบก็เด่นหราอยู่บนตัวเธอแล้ว
“คุณทีทำอะไร”
เสียงหวานถามแผ่วเบาคล้ายเธอยังมีอาการล่องลอยอยู่ ถึงอย่างนั้นเธอก็จำคำขู่ของอีกคนได้ทุกคำ
“ถ้ายังดื้อ รอยไม่ใช่แค่นี้แน่”
แม้ไม่เข้าใจถึงเจตนาเขาแต่เธอก็พอจะรู้ว่า ทีไม่ใช่บุคคลที่เธอควรขัดสักเท่าไหร่ ขนาดเขาทำรอยแค่นี้เธอยังแทบยืนไม่อยู่ถ้าเขาทำมากกว่านี้ เธอไม่เป็นลมตายไปเลยหรอ
———————————
ทำไมอยากเชียร์ให้หนูซอลดื้อจัง อิอิ
รีทของไรท์อาการเป็นยังไงกันบ้างจ้ะ ไหนเล่าสิ ^^
เข้าไปหวีดหนูซอลและคุณทีกันได้ที่ #กำราบรักท่านประธาน ไปร่วมสนุกกันเยอะๆนะคะ
???
ติดตามไรท์ได้ที่
Facebook Page : นิยาย น้ำขลุกขลิก
Twitter : @chernutcha