ตอนที่8

2561 คำ
กำราบรัก 8 “คุณทีครับ คุณเมฆมาครับ” “ให้เข้ามา” เมฆคือเพื่อนสนิทหนึ่งในสองคนของที พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ต่างรู้นิสัยของกันและกันเป็นอย่างดี สำหรับวันนี้ที่เมฆมาก็ไม่ได้คิดถึงเพื่อนแต่อย่างใดแต่เขาเป็นตัวแทนของเพื่อนมาสอดส่องเด็กเพื่อนรักต่างหาก “เดี๋ยวนี้กูจะเข้าพบต้องรอขออนุญาตด้วยหรอวะ” ชายหนุ่งรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนตัดกับผิวขาวสไตล์ลูกครึ่ง ดวงตาสีฟ้าสดใสคู่สวยถือเป็นเสน่ห์พิฆาตของเขาเลยก็ว่าได้เพราะผู้หญิงที่ได้สบตาเขาไม่มีใครเคยหนีรอดเงื้อมมือเขาสักราย “กับมึง ควรสั่งห้ามเข้าพบด้วยซ้ำ” คนโดนเหน็บแนมเบ้ปากเล็กน้อย เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามที สายตาสอดส่องไปทั่วห้องพยายามหาผู้หญิงที่เขาต้องการพบ “หาอะไร” ทีเอ่ยถามเสียงนิ่ง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเขากำลังหาอะไรอยู่ เรื่องสอดรู้สอดเห็นนี้ที่หนึ่งเลย ให้ตายเถอะ เขาไม่น่าเผลอส่งรูปลงไปในไลน์กรุ๊ปเลย “เด็กมึงอยู่ไหนอะ” “เด็กกูแล้วมึงเสือกอะไรครับ” ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง มือหนายกขึ้นปิดปากตัวเองแสดงราวกับพบเจอเรื่องน่าประหลาดก่อนจะรีบเอ่ยถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นกว่าเดิม “คนนี้มึงเอาจริงหรอ” “เออ” “OMG เรื่องนี้ต้องถึงหูไอกัปตัน มันต้องช็อคตายคาเครื่องบินแน่ถ้ารู้ว่าคุณชายน้ำแข็งอย่างมึงคิดจริงจังกับผู้หญิง” “หุบปากไปเลย” ทียัดคุกกี้ใส่ปากเพื่อนด้วยความรำคาญ ในตอนแรกเมฆกำลังจะด่ากลับแต่เมื่อลิ้นสัมผัสคุกกี้ รสชาติหอมหวานละมุนที่ได้รับก็ทำให้เขายอมหุบปากและเคี้ยวมันจนหมด “มึงซื้อร้านไหนวะ โครตอร่อย” เมฆเอ่ยชม เอื้อมมือออกไปหมายจะหยิบคุกกี้อีกชิ้นเข้าปาก “ไม่ต้องกินแล้ว” แต่เพื่อนเขากลับคว้ากล่องไปถือไว้ ไม่ยอมให้เขากินอีก “อะไรวะ นี่มึงหวงคุกกี้กับเพื่อนหรอไอคุณที” “เออ กลับไปได้แล้ว มึงว่างมากรึไง” ริมฝีปากได้รูปยิ้มกว้างอวดฟันสวยทั้งสามสิบสองซี่ของตนเอง เมฆไม่รู้สึกเกรงกลัวสายตาเย็นยะเยือกของทีเลยสักนิดเพราะเขาคุ้นชินมาตั้งแต่เด็กแล้ว รู้ดีว่ารังสีประมาณนี้แสดงว่าเขายังไม่มีอันตราย “ว่างมาก วันนี้ทั้งวันกูนอนรอเจอเด็กมึงได้เลย” “เหอะ ไม่เจอหรอก วันนี้หนูซอลไปนอนกับเพื่อน” “เฮ้ย ไอคุณชายมึงน้อยใจเด็กหรอวะ ฮ่าๆ” เท้าเรียวยกขึ้นมาตั้งบนโต๊ะเป็นสัญญานเตือนเมฆกลายๆว่าถ้ายังไม่หยุด ได้กินอวัยวะเบื้องล่างของเขาแน่ “ไม่ล้อก็ได้ครับเพื่อน เอาลงเถอะครับคุณชาย” เมฆยกมือขึ้นยอมแพ้ รีบประนีประนอม ทีเอาเท้าลงตามคำขอของเพื่อนก่อนจะหันไปหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อ ยื่นข้อเสนอที่คิดว่าเพื่อนน่าจะสนใจจะได้เลิกวุ่นวายเรื่องเขาสักที “มึงว่างมากก็ไปจีบแอร์สิ” “แอร์สายการบินมึง กูกินเรียบแล้วครับ” เป็นอย่างที่เมฆว่า เขาถือได้ว่าเป็นคาสโนว่าอันดับต้นๆเลย และยิ่งสาวสวยในชุดแอร์ออสเตส เขาจะยิ่งหมายตาเป็นพิเศษฉะนั้นจึงไม่แปลกที่แอร์ในสายการบินเพื่อนเขาจะเคยเชยชมมาแล้วเกือบทั้งหมด “มาเข้าเรื่องมึงดีกว่า ถึงขั้นไหนแล้ววะ” “ขั้นไหนเหี้ยไรล่ะ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำมั้งว่ากูรู้สึกอะไร” “หือ มีคนกล้าเฉยเมยกับความรู้สึกคุณชายน้ำแข็งอย่างมึงด้วยหรอ?” “เออ ล่าสุดสนใจบาร์บีคิวมากกว่านัดกู” พูดแล้วก็หงุดหงิด ทีหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่มโดยไม่สนใจว่ามันจะร้อนหรือไม่ เมฆมองอาการเพื่อนรักพลางหัวเราะในลำคอ “ชักจะอยากเจอหนูซอลคนนี้ซะแล้วสิ” ณ ย่านศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองอันเป็นสถานที่นิยมกันในหมู่วัยรุ่น หนุ่มสาวมากมายพากันเดินเลือกซื้อของเต็มทั่วเกือบทั้งพื้นที่ แต่จุดสนใจของบรรดาวัยรุ่นดูเหมือนจะเป็นสามสาวอย่างกุญแจซอล ปีโป้และผักบุ้งเสียมากกว่า “เดี๋ยวบุ้งต้องกลับก่อนสี่โมงนะ พี่เหนืองอแงว่ะ” ผักบุ้งเอ่ยขึ้นหลังจากเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพายใบเล็ก ปีโป้เบ้ปากเล็กน้อย พี่เหนือหรือดาวเหนือเป็นแฟนของผักบุ้งและเป็นรุ่นพี่สุดโหดของเธอแต่พออยู่กับเมียนะ อย่างกับคนละคน “บุ้งพูดจริงนะ แอบถ่ายตอนพี่เหนืองอแงมาขายโป้เถอะ โป้จะเอาไปแบล็กเมล์” ปีโป้ยื่นข้อเสนอให้เพื่อน เตรียมแผนเพื่อแบล็คเมล์รุ่นพี่เสร็จสรรพ “โป้กล้าแบล็คเมล์พี่เหนือสุดหล่อของซอลหรอ” กุญแจซอลหันว่ามองเพื่อนตัวเอง ก็ดาวเหนือหนะเป็นรุ่นพี่ที่เธอเทิดทูนมาก “เออ บุ้งไม่เอาด้วยหรอก ขืนโดนจับได้มีหวังไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันพอดี” ปีโป้ทำหน้าเซ็งเมื่อไม่มีเพื่อนคนไหนสนใจแผนการณ์ของเธอก่อนจะหันไปกอดคอกุญแจซอลซึ่งกำลังเลือกต่างหูให้เดินตามผักบุ้งไป จุดประสงค์ของการมาสยามในวันนี้ของพวกเธอคือช่วยกันเปลี่ยนลุคให้ปีโป้ ด้วยเหตุผลที่ว่าอาทิตย์หน้าสีครามแฟนของปีโปจะพาเธอไปทานข้าวกับครอบครัวเขา ปีโป้เลยอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อแฟนหนุ่มบ้าง ถึงแม้ลุคเธอตอนนี้จะดูสวยแบบเท่ๆก็ตามแต่มันอาจดูห้าวเกินไปสำหรับเข้าหาผู้ใหญ่ หลังจากสามสาวช้อปปิ้งเสร็จ กุญแจซอลมานอนกับปีโป้เนื่องจากเธออาสาสอนแต่งหน้าให้เพื่อนรักกว่าจะเสร็จเรื่องเสร็จราวก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มเลยทีเดียว “เป็นอะไรจ๊ะคุณหนูซอล” ปีโป้เดินออกจากห้องน้ำเห็นเพื่อนก้มมองโทรศัพท์เป็นสิบรอบจึงเดินเข้ามาทัก “เฮ้อ ซอลกำลังคิดว่า ซอลจะไปสมุยกับคุณทีดีมั้ย” กุญแจซอลตอบด้วยใบหน้างองุ้มเหมือนคนกำลังใช้ความคิดตัดสินใจอย่างหนัก เธอเล่าทุกเรื่องให้ปีโป้ฟัง ปีโป้จึงรู้จักคุณทีเป็นอย่างดีจากคำบอกเล่าของเธอ “ไม่อยากไปหรอ” ดวงหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตารีบส่ายไปมาเพื่อปฏิเสธ “ป่าวนะ ซอลอยากไป” “เอ้า ก็ไปสิ คิดมากทำไม” “มันตรงกับวันงานคณะอ่า ซอลอยากกินบาร์บีคิว” ปีโป้ถึงกับตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ กุญแจซอลไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาแต่บ้างเรื่องเธอก็ซื่อเกินไปจริงๆ “ถ้าอยากไปกับเขาก็ไป บาร์บีคิวกินวังหลังก็ได้” “แล้วโป้ไม่โกรธหรอที่เราไม่ไปงานคณะกับโป้” “ไม่ไปหนะดีแล้ว จะได้ไม่ต้องรำคาญพวกมาจีบคุณหนูซอลประจำคณะวิศวะ” “ไม่มีสักหน่อย” “จ้า โทรไปหาเขาสิ จ้องหน้าจอจนจะท้องกับโทรศัพท์แล้วมั้ง” สาวห้าวประจำกลุ่มเดินหัวเราะร่าออกไป สงสัยเพื่อนสาวตัวน้อยของเธอกำลังมีความรักแน่ๆ ปกติคนอย่างคุณหนูซอลจอมกินเคยเลือกอะไรมาก่อนของกินซะที่ไหน กุญแจซอลสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะกดโทรออกหาที เธอรอสายอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งสายตัดไป “สงสัยหลับแล้วมั้ง ค่อยไปหาตอนเช้าล่ะกัน” เช้าวันต่อมา กุญแจซอลตัดสินใจกลับบ้านทีตั้งแต่เช้าแต่เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อมาถึง แม่บ้านกลับบอกว่าคุณทียังไม่ตื่น ปกติคุณทีไม่เคยตื่นหลังเจ็ดโมงด้วยซ้ำ “คุณทีตื่นเร็ว ไหนบอกจะพาหนูซอลไปซื้อของไง” กุญแจซอลเขย่าแขนแกร่งของคนบนเตียงแต่คนโดนปลุกกลับพลิกตัวหนี ปกติทีไม่ใช่คนตื่นสายแบบนี้ เหตุสืบเนื่องจากเมื่อวาน ทีเมินสายเรียกเข้าจากกุญแจซอลแต่เขากลับนอนไม่หลับเสียเองเมื่อเธอไม่โทรกลับมาอีก ครั้นจะให้โทรไปก็กลัวเสียเชิง “อื้อ จะนอน” “นอนไม่ได้ ตื่นนะ ถ้าไม่ตื่นหนูซอลจะ...ว้าย” ร่างเล็กถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของคนบนเตียง แขนแกร่งกอดรัดเธอไว้แน่นพลางกระซิบลงข้างหูขาวเนียนทั้งที่เขายังหลับตาอยู่ “จะอะไรครับคุณหนูซอล” “คะ...คุณทีปล่อยนะ” “นิ่งๆเลยจะนอน” คนถูกกอดตัวแข็งทื่อเมื่อถูกสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ทีซุกหน้าเข้ากับซอกคอขาวเพื่อสูดกลิ่นหอมจากคนในอ้อมกอดก่อนจะเคลิ้มหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเช่นเดียวกับหญิงสาวในอ้อมกอด ความอบอุ่นที่เธอได้รับจากอ้อมกอดแกร่งทำให้เธอเผลอหลับไปเช่นกัน กว่าทั้งคู่จะตื่นจากห้วงนิทราอีกครั้งปาเข้าไปเกือบสิบโมง ทั้งคู่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการหลับไปในอ้อมกอดของกันและกันแบบนี้ทำให้พวกเขาหลับสบายกว่าทุกครั้งแต่ถึงอย่างนั้นมันยังถือเป็นเรื่องน่าอายสำหรับกุญแจซอลอยู่ดี เธอมาปลุกเขาแท้ๆแต่ดันเผลอหลับในอ้อมกอดเขาเสียได้ “เลิกก้มหน้าสักที” ทีเอื้อมมือไปดึงแก้มป่องของคนด้านข้างขึ้น เจ้าของแก้มเลยตวัดสายตามองเขาเขม็งซึ่งกำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมายุ่งเลย หนูซอลอุส่าต์รีบตื่นเช้ากลับบ้าน นี่อะไรกว่าจะได้ออกมาปาเข้าไปบ่ายโมง” กุญแจซอลพยายามหาเรื่องมากลบเกลื่อนความอายของตัวเอง “อย่ามางอแง หนูซอลก็หลับเถอะ” เมื่อโดนย้อนกลับด้วยความจริง คนไม่มีทางสู้เลยสะบัดหน้าหนีเพราะไม่มีเรื่องจะเถียง ขืนให้เธอมองเขาต่อ ความรู้สึกตอนอยู่ในอ้อมกอดเขาต้องทำให้เธอเผลอแสดงอาการออกมาจนเขารู้แน่ ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงห้างสรรพสินค้า หลังจากทีไปรับของที่เขาสั่งไว้เรียบร้อย เขาจึงตามใจให้กุญแจซอลไปเลือกซื้อของที่เธออยากได้ “ชุดว่ายน้ำ?” เจ้าของใบหน้านิ่งเอ่ยออกมาในเชิงประโยคคำถามเมื่อโดนลากมายังแผนกชุดว่ายน้ำสำหรับผู้หญิง “ใช่ค่ะ หนูซอลมีเสื้อผ้าเยอะแล้วไม่จำเป็นต้องซื้อขาดแต่ชุดว่ายน้ำ” “ชุดว่ายน้ำก็ไม่จำเป็น” พูดเพียงเท่านั้น ทีจึงกลับหลังหัน เตรียมเดินออกมาจากบริเวณนั้นแต่กลับโดนมือเล็กคว้าไว้เสียก่อน “จำเป็นค่ะ นะนะ หนูซอลซื้อแปบเดียว” ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆอย่างขอความเห็นใจ ทีเห็นอย่างนั้นถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่และเดินนำเธอเข้าไปยังโซนชุดว่ายน้ำในที่สุด ทีเลือกนั่งรอหญิงสาวอยู่หน้าห้องลองแทนที่จะไปนั่งรอเธอในส่วนที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ เขาอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม เขาถึงได้รู้สึกห่วงเธอขนาดนี้ทั้งที่ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยรู้สึกห่วงผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากแม่ตัวเอง “คุณทีชุดนี้เป็นไง” โทรศัพท์เครื่องบางในมือแทบหล่น เมื่อทีเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงสดใสในชุดว่ายน้ำทูพีชสีชมพูพาสเทลที่มีสายคล้องคอเป็นสายเส้นเล็กสายเดียว โชว์เนินอกขาวอวบอิ่มน่าฟัด ไหนจะหน้าท้องเนียนขาวดูมีน้ำมีนวลน่าสัมผัสนั่นอีก นี่ยังไม่ดับช่วงล่างที่สั้นจนแทบเห็น.... บ้าจริง เห็นผู้หญิงใส่ทูพีชมาก็เยอะ ทำไมไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงขนาดนี้เลย “น่าเกลียด ไปเปลี่ยน” “น่าเกลียดตรงไหน ใครเขาก็ใส่กัน” “ถ้าจะเอาชุดนี้ ก็เล่นน้ำอยู่แต่ในห้อง” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อได้ยินก่อนจะเถียงออกมาอย่างไม่ยอมเช่นกัน “ไปเกาะก็ต้องลงทะเลสิ ไม่รู้ล่ะหนูซอลชอบ เอาชุดนี้แหละ” กุญแจซอลพูดเองเออเองเสร็จสรรพไม่ได้สนใจสายตาเย็นยะเยือกจากอีกคนก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในห้องลองโดยไม่ทันรู้ตัวว่าทีเดินตามเข้ามาด้วย “วร้าย คุณทีเข้ามาทำไมคะ” หญิงสาวร้องลั่นเมื่อกำลังจะถอดชุดออกแต่สายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงในกระจกยืนซ้อนหลังเธออยู่ “น่าเกลียด ห้ามใส่” ถ้อยคำรุนแรงออกจากริมฝีปากสวยแต่ทว่าแววตาเขากลับเป็นประกายแสดงอาการชื่นชมเรืองร่างของผู้หญิงในกระจกอย่างปิดไม่อยู่ “หนูซอลไม่ได้ขออนุญาตคุณที ออกไปนะคะ” มือเล็กดันอกแกร่งให้ออกไปจากห้องลอง ไม่รู้ว่าแรงเธอน้อยหรือแรงของคนที่เธอกำลังดันเยอะเกินไปกันแน่ ทีถึงไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว “นี่เป็นคำสั่ง” ทีรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะดึงเธอเข้าประชิดตัว ค่อยๆก้มหน้าเข้าหาดวงหน้าเล็กจนปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน ทีจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มอีกครั้ง “เข้าใจใช่มั้ย?” ริมฝีปากอวบอิ่มเมมเข้าหากัน ไม่ยอมตอบ ถึงแม้จะกลัวทีอยู่บ้างแต่เธอก็ยังอยากใส่บิกินนี่ไปเที่ยวทะเลเหมือนคนอื่นนะ “ดื้อ” เมื่อไม่ได้คำตอบที่พึงพอใจ ทีจึงก้มลงจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้าตักตวงความหวานจากเธอพอประมาณ กัดริมฝีปากล่างของเธอเบาๆก่อนจะผละออกมากดจูบลงบนซอกคอและเนินอกอวบอิ่มจนเกิดเป็นรอยแดงสองสามจุด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วและอ่อนโยนจนคนอ่อนประสบการณ์อย่างกุญแจซอลตามไม่ทัน รู้ตัวอีกทีรอยแดงสีกุหลาบก็เด่นหราอยู่บนตัวเธอแล้ว “คุณทีทำอะไร” เสียงหวานถามแผ่วเบาคล้ายเธอยังมีอาการล่องลอยอยู่ ถึงอย่างนั้นเธอก็จำคำขู่ของอีกคนได้ทุกคำ “ถ้ายังดื้อ รอยไม่ใช่แค่นี้แน่” แม้ไม่เข้าใจถึงเจตนาเขาแต่เธอก็พอจะรู้ว่า ทีไม่ใช่บุคคลที่เธอควรขัดสักเท่าไหร่ ขนาดเขาทำรอยแค่นี้เธอยังแทบยืนไม่อยู่ถ้าเขาทำมากกว่านี้ เธอไม่เป็นลมตายไปเลยหรอ ——————————— ทำไมอยากเชียร์ให้หนูซอลดื้อจัง อิอิ รีทของไรท์อาการเป็นยังไงกันบ้างจ้ะ ไหนเล่าสิ ^^ เข้าไปหวีดหนูซอลและคุณทีกันได้ที่ #กำราบรักท่านประธาน ไปร่วมสนุกกันเยอะๆนะคะ ??? ติดตามไรท์ได้ที่ Facebook Page : นิยาย น้ำขลุกขลิก Twitter : @chernutcha
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม