(“พี่จะเข้าไปกรุงเทพฯ นะ เต้นออกจากถ้ำมาเจอกันไหม”) แซวกันเหมือนเดิม สองคนชอบใช้มุกจิกกัดกัน
“พี่มาวันไหนครับ”
(“พุธหน้าน่ะ”)
“ได้ครับ แล้วพี่จะมาพักกับผมไหม”
(“ไม่ได้เที่ยวนี้ คุณป้าให้ไปนอนที่บ้าน”) ศีลเอ่ยถึงป้าบัววรรณซึ่งเป็นพี่สาวของคุณแม่แท้ ๆ ของศีลที่เสียไป
“เราค่อยออกไปเจอกันข้างนอก แต่ต้องไม่ใช่บ้านของคุณป้าบัววรรณนะครับ”
(“อ้าวทำไมล่ะ”) ทั้งที่ก็รู้เหตุผลดี
“รู้แล้วยังจะมาถามอีก” เหตุผลเดียวคือบ้านของคุณป้าบัววรรณอยู่ในส่วนเดียวกันกับบ้านของเอมิตา
(“ถ้าพี่ไม่มากรุงเทพฯ แกก็จะไม่ออกจากถ้ำใช่ไหมหา”)น้ำเสียงของศีลเปลี่ยนจริงจัง
ทุกคนชอบพูดว่าเตชิตกลายเป็นคนอินโทรเวิร์ตไปเสียแล้ว ไม่ชอบพบปะผู้คน คุยแต่กับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ซึ่งตอนเด็ก ๆ เตชิตไม่ได้เป็นคนแบบนี้ แต่เพิ่งมีอาการหลังจากที่บอกกับทุกคนว่าเขาอกหัก ในตอนนั้นเตชิตเพิ่งจะอยู่ ม.ห้าเอง
“พี่ก็ว่าแต่ผมล่ะ แล้วนี่ได้ฤกษ์ออกจากเกาะแล้วหรือครับ ต้องมีปัญหาใหญ่แน่ ๆ ถึงได้ลอยเรือออกมา”
“เปล่ามีปัญหา แค่มาทำหน้าที่หลาน วันเกิดคุณป้า”
“ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง มาหาว่าผมเป็นฤๅษี อ้อ... คุณป้าอ้างหรือเปล่าครับว่าให้มาหาเพราะคิดถึง” คิดอยากแซว
“อืม... ที่จริงอาจจะมาให้พี่ดูตัว คุณป้ากำลังจะหาเมียให้พี่ศีลหรือเปล่า” พูดแล้วก็หัวเราะ
“เมียหรือ”
“ก็ใช่นะสิ พี่แก่กว่าผมตั้งหลายปี เกือบจะสิบปี ถ้าพี่ไม่หาเมียปีนี้ มีหวังพี่จะโดนทุกคนบ่น ที่พี่ไม่คิดจะมีเมีย”
“คิดสิ คิดอยู่... แต่ยังหาคนที่จะเป็นแม่ของลูกไม่ได้ไง แล้วแกเถอะ ถ้ายังหลบแต่ในถ้ำ ระวังเถอะแม่ของแกจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมมาเป็นลูกสะใภ้ แบบเซอร์ไพรส์ ๆ ผู้หญิงที่มีครบทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติมากมาย”
ไม่ใช่ว่าเตชิตไม่คิด เขาก็คิดเหมือนกัน เพราะเวลาเจอหน้าของแม่ทีไรจะต้องเอ่ยถึงคู่หมายที่แม่หมายมั่นปั้นมือให้
“น้องอาย เอมิตา” ศีลเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าพี่ศีลจะยังคงชอบยายอายนะครับ ผมยังคิดว่าพี่ศีลยังสนใจเธอไม่เปลี่ยน”
“ไอ้บ้า เอ็งเอาอะไรมาพูด พูดมากจริง ๆ ใครจะกล้าคิด รู้ไหมถ้าได้ยายน้องอายมาเป็นเมีย น่าจะกลายเป็นแม่เสียมากกว่า” ด้วยนิสัยที่เจ้ากี้เจ้าการของเอมิตาทำให้ทั้งเตชิตและศีลค่อนข้างจะกลัว
“โชคดีนะที่แม่ของแกคว้าเอาเอมิตาไปให้แกเสียก่อน ไม่อย่างนั้นละก็”
“ทำไมล่ะครับ พี่ก็คิดว่าคุณป้าจะต้องคว้าเอายายอายไปให้พี่อย่างนั้นล่ะสิ ตอนนี้ผมก็สะดวกยกให้พี่อยู่นะครับ”
“เฮ้ย! ไอ้เต้น ถ้าน้องอายมาได้ยินอย่างนี้ มีหวังจะซัดแกสักตุบสองตุบ” ปากบอกว่าไม่สนใจ แต่ศีลก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าที่เขาไม่สนใจผู้หญิงอาจจะเพราะเอมิตา
“อย่างไรถ้าแกไม่รีบหาเมีย แกคงได้แต่งงานกับยายอายแน่ ๆ”
“พี่ศีลก็ช่วยผมหน่อยสิครับ ช่วยจัดการยายอายให้ผมหน่อย”
“ไอ้นี่ทำไมพูดแบบนี้ ยายน้องอายมาได้ยินเข้าเสียใจร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ ๆ”
“ที่พูดเพราะผมรู้ใจของพี่ศีลต่างหากครับ เพราะที่พี่ไม่แต่งงาน ไม่ใช่พี่เป็นเกย์ไม่สนหญิง แต่เพราะพี่มีผู้หญิงในดวงใจต่างหาก ยอมรับมาเถอะครับว่าพี่มีใจให้กับยายอายมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เราเล่นด้วยกัน พี่ไม่เคยละสายตาไปจากยายอายได้”
เตชิตกับศีล และเอมิตา ทุกปิดเทอมใหญ่ครั้งใด ก็จะไปอยู่ที่เกาะมะพร้าว ทั้งสามคนสนิทสนมกลมเกลียวกันดี สำหรับเตชิต เอมิตาจะคลั่งไคล้เขา แต่คนที่คลั่งไคล้เอมิตาและมีเธออยู่ในหัวใจก็คือ ศีล
“โอ๊ย! แกเอาอะไรมาพูด” ศีลโวยนิด ๆ
“พี่ศีล... สุภาพบุรุษต้องปากกับใจตรงกันนะครับ”
“ไม่เอาแล้วเว้ย ไม่คุย ไม่คุยเรื่องนี้กับแกแล้ว”
“อ้าว... พอถูกต้องใจดำเข้าหน่อย ก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปเสียแบบนั้น คนเราอย่าหนีความจริงสิ” เตชิตอมยิ้ม เพราะรู้คำตอบดีว่าศีลรักชอบและแอบปลื้มเอมิตาแค่นั้น ถ้าหากศีลไม่มีความกล้า เขาน่าจะเป็นคนจัดการให้ทั้งสองคนได้ลงเอยกันน่าจะดีที่สุด
“แกไม่ต้องมายุ่งเรื่องของพี่ดีกว่า ว่าแต่แกเหอะเป็นฤๅษีจำศีลมาหลายปี ตอนนี้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศหรือยัง”
“โอ้โห ทำไมมาดูถูกกันได้ขนาดนี้ล่ะครับ ผมเพียงแต่ไม่ได้เอาเรื่องบนเตียงมาเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเท่านั้นเอง”
“อย่าบอกนะว่าการที่แกอกหักเมื่อครั้งก่อนโน้น มันจะส่งผลมาถึงตอนนี้”
“ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องหลักของการดำรงชีวิตน่ะ”
“เอ๊ย! ไอ้น้องรัก เรื่องอกหักในวัยพัปปีเลิฟ ไอ้เต้นมันผ่านมาตั้งหลายปีมาก ๆ นะโว้ย ไอ้เรื่องรักแรกอะไรนั่นน่ะ แกควรโยนมันทิ้งไปได้แล้ว แม่ผู้หญิงรักแรกของแกก็คงจะไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แกควรจะหาใหม่ และเริ่มมองหาผู้หญิง และการที่ผู้ชายมีความต้องการทางเพศ และอยากมีอะไรกับผู้หญิง มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง เป็นการคลายเครียดได้จริง และแกก็ควรเลิกฝังและขังตัวเองอยู่บนตึกนั้นเสีย เพราะถ้าไม่เลิกทำ มีหวังชาตินี้ แกก็คงไม่ได้เมีย เข้าใจไหม” ศีลมาเป็นชุด
เตชิตคิดไปถึงคนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำงานที่หน้าห้องของเขา ‘ตอนนี้เธออยู่แค่เอื้อมมือครับพี่ศีล’
“ครับพ่อคนสอนเก่ง บอกตัวเองก่อนนะครับ” เตชิตหัวเราะบิดเบือนความจริงที่พี่ชายพูดแทงใจเช่นกัน
“ไว้เจอกันนะ ห้ามพลาดล่ะ เอ้อ... แค่นี้แหละ พี่ไปทำงานก่อน” แล้วศีลก็วางหูไป
เตชิตยังคงไม่ละสายตาจากจอภาพที่โคลสอัปไปที่เธอ
‘ตีรณา’ ผู้หญิงที่ขโมยหัวใจของเขาไปตั้งแต่ครั้งโน้น ไม่เคยลืม ใครบอกว่าลืมมันง่าย สำหรับเตชิตไม่เป็นความจริง การจากลาที่ไม่ได้บอกกันล่วงหน้าทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้ และเก็บเธอเอาไว้ในใจ