บทที่ 7

1183 คำ
เจ๊ยาหรือคุณวิริยาพาร่างอวบอิ่มติดจะสมบูรณ์ไปหน่อยเดินลงบันไดมาด้วยความรีบร้อนเมื่อคนรับใช้คนสนิทเข้าไปบอกว่าปิณฑิราร้องห่มร้องไห้กำลังต้องการความช่วยเหลือ ‘หนูพริ้นซ์...มีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือลูกถึงได้ร้องไห้น้ำตาเป็นเต่าเผาแบบนี้’ เจ๊ยาทรุดตัวลงนั่งติดๆ กับร่างบางระหงที่ยังสะอื้นร้องไห้เบาๆ มือใหญ่อวบอิ่มเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ปิณฑิราจับมือนุ่มนิ่มของเจ๊ยามากุมไว้ ดวงตาคู่สวยแดงก่ำจ้องมองแน่นิ่งที่เจ๊ผู้ใจดีก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแผ่วเบา ‘เจ๊คะ แม่ติดหนี้พนันเสี่ยประกิจเกือบสามแสน วันนี้มันส่งคนมาทวงหนี้และก็ทำร้ายแม่จนสลบ พริ้นซ์...อยากมาของานเจ๊ทำ พริ้นซ์จะเอาเงินไปใช้หนี้ให้แม่ พวกลูกน้องของเสี่ยประกิจมันขู่ว่าถ้าไม่เอาเงินมาใช้ทั้งหมดภายในอาทิตย์นี้มันจะ...จะ...มาฆ่าแม่แล้วก็เอาพริ้นซ์ไปเป็นตัวขัดดอก’ ‘โธ่เอ๋ย...เด็กน้อยของฉัน’ วิริยาโอบแขนไปรอบเรือนร่างบางระหงที่สะอื้นฮักจนตัวสั่นโยนด้วยความสงสารในชะตากรรมที่ต้องประสบพบเจอ นางรู้ความหมายของคำว่า ‘งาน’ ที่เด็กสาวเอ่ยร้องขอว่าเป็นงานเช่นใด แต่นางไม่อยากให้หญิงสาวที่สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นคนดีอย่างปิณฑิราต้องมาแปดเปื้อนราคีเพราะความมากตัณหาของพวกผู้ชาย... ‘พริ้นซ์...เจ๊ว่าหนูลองหาวิธีอื่นก่อนดีมั้ย เจ๊รักและเอ็นดูหนูเหมือนลูกของเจ๊เอง บอกตามตรงว่าเจ๊ไม่อยากให้หนูทำงานนี้เลย’ เจ๊ใหญ่แห่งวงการค้าเนื้อสดที่เป็นไปตามความสมัครใจของหญิงสาวทั้งหลายโดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญพยายามเอ่ยตะล่อมหว่านล้อมให้เด็กสาวเปลี่ยนใจ ปิณฑิราก้มหน้านิ่งน้ำตาหยดแหมะลงกระทบกับมือบางสั่นเทาที่วางไว้บนหน้าตักของตัวเอง เจ๊ยาปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือเธอเรื่องงาน แม่เธอกำลังจะตาย...และเธอก็กำลังจะตกไปเป็นของบำบัดความใคร่ให้กับเสี่ยประกิจและลูกน้องอีกทั้งฝูง ‘เจ๊ยาคะ ถือว่าช่วยพริ้นซ์สักครั้งเถอะคะ พริ้นซ์ยอมตกเป็นของใครคนใดคนหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว ดีกว่าที่จะตกไปเป็นของเล่นบำบัดความใคร่ให้ไอ้เสี่ยประกิจกับลูกน้องของมัน’ ‘ลีเห็นด้วยกับสิ่งที่หนูพริ้นซ์พูดมาน่ะพี่ยา ช่วยพริ้นซ์เถอะ’ สราวลีที่นั่งนิ่งฟังอยู่นานเอ่ยสนับสนุนความคิดเห็นของหญิงสาวแสนหวานที่สะอื้นร้องไห้จนตาบวมแดงก่ำไปหมด ‘เฮ้อ...พริ้นซ์เป็นคนเลือกเองน่ะ เอาเถอะ...เจ๊จะลองหาลูกค้าให้ แต่มันก็ยากเอาการเหมือนกันน่ะ ใครจะกล้าจ่ายตั้งสามแสนเพื่อแลกกับการอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง’ วิริยาถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจ เมื่อเอ่ยปากตอบตกลงที่จะช่วยก็มาหนักใจเรื่องการหาลูกค้าชั้นดีที่กระเป๋าหนักจริงๆ และยอมจ่ายเงินหลายแสนเพื่อแลกกับความบริสุทธิ์ผุดผ่องของหญิงสาวที่สวยสดงดงามคนนี้ สราวลีเคาะกะโหลกตัวเองเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านายสาวเธอกำลังนึกถึงลูกค้าวีไอพีที่โทรเข้ามาเมื่อวันสองวันก่อน ‘พี่ยา ลีจำได้แล้วค่ะ’ จู่ๆ สราวลีก็ยิ้มแป้นร้องตะโกนออกมาเสียงดังจนทำให้คนที่เป็นเจ้านายต้องตวาดห้ามเบาๆ ‘อะไรของแกยายลี จู่ๆ ก็มาตะโกนลั่นแสบแก้วหูไปหมด’ ‘อ้าว...ก็เรื่องลูกค้าระดับวีไอพีกระเป๋าหนักที่มีเงินถุงเงินถังมากมายเหลือเฝือที่จะซื้อ...เอ้ยไม่ใช่...ที่พอจะช่วยหนูพริ้นซ์ได้ไงค่ะ’ สราวลียิ้มกว้างให้หญิงสาวทั้งสอง เธอบรรยายถึงความร่ำรวยของลูกค้าเสียยืดยาวจนเจ๊ยาอดที่จะค้อนขวับไม่ได้ ‘ไหน? ใครกันย่ะที่แกบอกว่ามีเงินถุงเงินถังมากมายเหลือเฝือ เท่าที่ฉันเห็นก็มีแค่พวกเสี่ยๆ เมียเผลอที่ยอมจ่ายเงินแค่ไม่กี่หมื่นบาท’ วิริยาเอ่ยประชดเสียงห้วนซึ่งฟังแล้วแทบจะแยกแยะไม่ออกว่านางประชดลูกน้องหรือประชดพวกผู้ชายมักมากไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยากันแน่ ถึงแม้นางจะทำอาชีพเกือบๆ จะเรียกว่า ‘แม่เล้า’ แต่นางก็ยังมีจริยธรรมความดีหลงเหลืออยู่ในใจบ้าง เด็กสาวที่มาที่บ้านวิริยาเธอจะรับเฉพาะคนที่มาด้วยความสมัครใจ ไม่มีการขู่บังคับเขี่ยวเข็ญให้ทำงานและลูกค้าของเธอเองต้องถือกฏของบ้านวิริยาอย่างเคร่งครัดคือห้ามทำร้ายทารุณกับเด็กสาว เงินรายได้จากการทำอาชีพนี้ส่วนหนึ่งนางก็นำไปบริจาคสร้างวัดสร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร แม้จะรู้ว่ามันไม่สามารถชดเชยกันได้แต่นางก็คิดว่ายังดีกว่าไม่ได้ช่วยเหลือสังคมเลย สราวลีลุกขึ้นจากโซฟาสีฉูดฉาดแล้วไปหยิบสมุดจดรายชื่อลูกค้ามาพลิกเปิดดู 2-3 หน้าก่อนจะเอ่ยตอบเจ้านาย ‘นี่ไงค่ะ ลูกค้าที่ลีพูดถึง เมื่อสองวันก่อนมีลูกค้าชาวอาหรับคนหนึ่งโทรมาบอกว่าต้องการเด็กสาวที่ยังสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากมลทินให้ไปอยู่กับท่านชีคของเขาสักหนึ่งคืน ถ้าหากว่ามีเด็กตามที่ต้องการเขาจะจ่ายให้ไม่อั้น’ ‘เขาจะยอมจ่ายถึงสามแสนหรือยายลี’ ‘ไม่ลองก็ไม่รู้ค่ะ เดี๋ยวลีจะลองโทรไปหาเขาดู เขาทิ้งเบอร์ไว้ให้ลีด้วย’ สราวลีเอ่ยตอบก่อนจะรีบลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์และกดโทรหาลูกค้าอย่างรวดเร็ว ปิณฑิราก้มหน้านิ่งปล่อยให้หยาดน้ำตาใสแพรวพราวหยดลงเป็นทางด้วยความอดสูขณะที่ฟังหญิงสาวทั้งสองคนเอ่ยปรึกษาหารือกันเรื่องการหาลูกค้ากระเป๋าหนักให้เธอ ทำไงได้?...เมื่อไม่มีหนทางในการหาเงินแสนที่รวดเร็วทันใจเหมือนวิธีนี้แล้วเธอก็ต้องยอมก้มหน้ารับกับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า สราวลีคุยโทรศัพท์กับลูกค้าด้วยภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นงูๆ ปลาๆ แต่ครู่เดียวเธอก็เบิกตากว้างแล้วพูดเป็นภาษาไทยรัวเร็วเมื่อฝ่ายลูกค้าถามกลับเป็นภาษาไทย พอถึงตอนที่จะเสนอราคาให้ลูกค้าทราบเธอก็เอามือปิดโทรศัพท์แล้วทำปากพะง้าบๆ ถามเจ๊ยา ‘เท่าไหร่’ เจ๊ยาตัดสินใจอย่างรวดเร็วแล้วยกมือชูนิ้วขึ้นสี่นิ้วบ่งบอกถึงราคาที่จะเสนอขาย ปิณฑิราเห็นแล้วก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย ใครจะบ้ากล้าซื้อตัวเธอตั้งสี่แสน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม