เกลียด! แรกเจอ… (ของคุณ..ก็แค่..จิ้งจก!)

3321 คำ
ขณะที่มาร์คัสนายแบบหนุ่มกำลังนั่งรถไปยังสตูดิโอเพื่อถ่ายแบบนิตยสารฉบับหนึ่ง.. “ข้างหน้ามีอุบัติเหตุหรือไงพี่..ทำไมรถติดนิ่งสนิทไม่ขยับนานแบบนี้!” มาร์คัสเปิดดูนิตยสารในมือไปพร้อมกับเอ่ยถามแองเจล่าเพราะใกล้ถึงเวลานัดหมายถ่ายแบบกระชั้นชิดเข้ามาเต็มที “มีหญิงชราท่าทางจะเป็นลม โบกเรียกรถแท็กซี่กี่คันก็ไม่จอดรับ บวกกับสัญญาณไฟข้างหน้าก็ปล่อยรถครั้งละไม่กี่คันด้วย” “หญิงชราไม่สบายอย่างนั้นเหรอ..พี่ขยับรถเข้าไปรับยายคนนั้นก่อน” “แต่นายมีงานถ่ายแบบ นี่ก็ใกล้เวลานัดมากแล้วด้วย” “ผมไปสายหน่อยคงไม่เป็นไร ชีวิตคนสำคัญกว่า” “มันก็จริงอย่างที่นายพูด ว่าไงก็ว่าตามกัน” แองเจล่าหมุนพวงมาลัยรถเบนซ์คันหรูขยับเข้าไปจอดเทียบริมฟุตบาทพร้อมกับลดกระจกลง “น้อง..พายายขึ้นรถมาเร็ว! เดี๋ยวพี่จะพาไปส่งที่โรงพยาบาล” “แต่..เอ่อ..” หญิงสาวที่กำลังประคองพยุงร่างหญิงชราอยู่นั้นมีท่าทีอึกอักลังเลมองรถสลับกับหญิงชรา “พี่ไม่พาไปไหนหรอก เรียกแท็กซี่กี่คันก็ไม่รับสักคันไม่ใช่เหรอ ขึ้นมาเร็วๆ” “ประคองยายขึ้นมานั่งตรงนี้..” นายแบบหนุ่มเปิดประตูรถด้านหลังแล้วสั่งหญิงสาว จนเธอประคองยายขึ้นมานั่งใกล้ๆ มาร์คัสเรียบร้อย “น้องมานั่งข้างหน้ากับพี่..” “ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่..” จนหญิงสาวขึ้นมานั่งประจำที่เรียบร้อย แองเจล่าก็ออกรถทันที “ยายเป็นอะไร..” “ยายเป็นโรคไตค่ะ ยายมีอาการหายใจหอบเหนื่อยผิดปกติพักนึงแล้ว หนูเลยต้องพายายไปหาหมอ” “แล้วทำไมไม่โทรเรียกรถโรงพยาบาลให้มารับ” “งานเขาเยอะอยู่แล้ว และถ้าไม่ใช่เคสฉุกเฉินหรืออาการหนักสุดๆ จริงๆ เขาไม่มารับหรอกค่ะ ซอยที่ยายอยู่ก็แคบ รถเข้าออกไม่ได้ หนูเลยต้องพายายมาเรียกรถเอง” ขณะที่แองเจล่ากำลังซักถามกับหญิงสาว นายแบบหนุ่มก็ใช้นิตยสารในมือพัดวีให้หญิงชราเบาๆ จนยายเริ่มรู้สึกตัว.. “หนูต่าย..” “คะ ยาย.. ต่ายอยู่นี่ค่ะ” หญิงสาวโผล่หน้าออกมาให้ยายเห็น “นี่ไม่ใช่รถแท็กซี่ แล้วพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใครล่ะหนูต่าย” “พี่เขาจอดรถช่วยรับเราไปส่งโรงพยาบาลค่ะ ยายเป็นยังไงบ้าง ให้หนูโทรไปบอกพี่หวายหรือเปล่า” “ยายไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องโทรหรอก เดี๋ยวยายหวายจะกังวลจนไม่มีสมาธิทำงาน วันนี้ทำงานใหญ่ด้วย” “ค่ะยาย..” “พ่อหนุ่มชื่ออะไรล่ะ” หญิงชราเอ่ยถามพร้อมกับหันไปพิจารณาใบหน้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ “ยายชื่อปลาย” “ผมชื่อมาร์คัสครับ” “คนอะไรชื่อหมากัด!” “มาร์คัสครับ ไม่ใช่หมากัด! เอ่อ..มาร์ค..สั้นๆก็ได้ครับยาย” “อ๋อ..พ่อหมาก! บอกว่าชื่อหมากตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง” “มาร์คครับยาย ไม่ใช่หมาก!” “อือๆ ..พ่อหมากก็พ่อหมาก” “ฮ่าๆ สงสัยชื่อนายจะเรียกยากนะ..นายมาร์ค” “ยายเรียกผิดเหรอพ่อหมาก” “ครับ..หมากก็หมาก” “พ่อหมากมีแฟนหรือยังล่ะ” มาร์คัสสงสัยว่ายายจะถามเขาทำไมเกี่ยวอะไรกับการมาส่งท่าน “ว่าไง..พ่อหมากมีแฟนหรือยัง ตอบยายได้มั้ย” “ยังครับ ผมยังไม่มี..” “พ่อหมากสนใจจะมาเป็นหลานเขยยายมั้ยล่ะ” “ยายคะ! ..พี่หวายรู้เข้าจะโกรธยายเอาอีกนะคะ” “เราอยู่เฉยๆ หน่ะ..ว่าไงพ่อหมากสนใจมั้ย..หลานยายทั้งสวยและขยันทำงานนะ” “เอ่อ..อย่าเลยครับยาย..ผมยังไม่คิดจะมีแฟน ขอบคุณยายที่เมตตาผม” “ยายๆ” “อะไรอีกล่ะนังหนูต่าย” “ถึงโรงพยาบาลแล้วค่ะ” “อ้าว..ถึงแล้วเหรอ กลับเลยมั้ย..ยายหายเป็นปกติดีแล้ว” “ยาย..หนูจะโทรรายงานพี่หวาย!” “เอะอะก็จะโทรฟ้องอยู่นั่นแหละ..ขอบใจมากนะแม่หนู..พ่อหมากที่มาส่งยาย ถ้าเปลี่ยนใจอยากเป็นหลานเขยยายก็บอกนะ” “ครับยาย..” เมื่อประตูรถถูกปิดลงแล้วแองเจล่าก็ออกรถ มาร์คัสนั่งอมยิ้มกับความตรงไปตรงมาของยายท่านนั้น.. (หลานสาวท่านจะสวยอย่างที่ท่านบอกหรือเปล่า แล้วถ้าเขาเกิดสนใจขึ้นมาเขาจะติดต่อยายได้ยังไง แค่คิดเขาก็นึกขัน ไม่มีเบอร์ไม่มีที่อยู่จะติดต่อกันได้ยังไง) “นายสนใจหลานสาวยายเหรอนายหมาก เอ๊ย! มาร์ค!” “พี่แองจี้! พี่แค่แกล้งอำผมเล่นใช่มั้ย” “พี่ถามนายจริงๆ พี่เห็นนะว่านายแอบยิ้ม และยายก็แก่แล้วแต่ก็ยังสวย หลานสาวอาจจะสวยมากก็ได้นะ” “เลิกคุยเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้เถอะ พี่ควรจะรีบขับรถไปสตูดิโอได้แล้ว..” มาร์คัสพูดตัดบทสนทนาที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ยายปลายเดินเข้ามาในโรงพยาบาลกับตรีกมล ระหว่างรอพยาบาลเรียกซักประวัติก่อนเข้าไปพบหมอ ยายปลายนั่งนึกถึงแต่พ่อหมากหนุ่มหล่อใจดี สถานที่ถ่ายแบบในวันนี้..สตูดิโอใหญ่โตย่านธุรกิจใจกลางเมือง วัสยาช่างภาพสาว เธอต้องทำงานแข่งกับเวลา เสร็จงานนี้เธอก็ต้องวิ่งไปอีกงานเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่ขณะที่ทีมงานทุกฝ่ายเตรียมงานทุกอย่างไว้พร้อมเรียบร้อยแล้ว ขาดก็แต่นายแบบคนดัง! ที่สายจนป่านนี้แล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเดินทางมาถึงสตูดิโอ ทุกคนรออยู่พักใหญ่จนทีมงานสถานที่เข้ามาบอกว่า..นายแบบมาถึงหน้าสตูดิโอแล้ว! “มาสาย 1ชั่วโมงครึ่ง!” วัสยามองเวลาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก จนแองเจล่าเดินนำนายแบบหนุ่มเข้ามาในสตูดิโอที่เซ็ทฉากเตรียมไว้พร้อม “นายแบบมืออาชีพ! นายแบบที่ดีควรจะมีระเบียบวินัยตรงต่อเวลามากกว่านี้นะคะ ไม่ใช่เป็นนายแบบดังแล้วจะปล่อยให้ใครต่อใครอีกหลายชีวิตหลายอาชีพต้องมารอคนแค่คนเดียว แต่ละคนก็ต้องไปทำมาหากินกันอีก” ช่างภาพสาวเอ่ยติติงออกมาตรงๆ “เอ่อ..คือว่าอย่างนี้ค่ะ..” แองเจล่าอ้าปากจะอธิบายให้วัสยาเข้าใจสาเหตุที่พวกเธอมาสาย “พี่แองจี้! เราเสียเวลามามากพอแล้ว เริ่มงานกันได้แล้ว เวลายิ่งเป็นเงินเป็นทอง ผมก็ต้องรีบไปทำงานอย่างอื่นอีกเหมือนกัน” “เหอะ! (ไม่ตรงต่อเวลาแล้วยังไม่มีจิตสำนึกไม่รู้สึกผิดอีก) ” วัสยาบ่นพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ “แต่..” “ทุกฝ่าย..เริ่มงานค่ะ” เพื่อไม่ให้เสียเวลาของทุกคนมากไปกว่านี้ วัสยาก็สั่งเริ่มงานทันที “คอสตูมรีบพานายแบบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เซ็ทผมแค่นิดๆ หน่อยๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด” “ค่ะ น้องหวาย” งานครั้งนี้เป็นการถ่ายแบบลงนิตยสาร มีนายแบบดังอย่างมาร์คัสเป็นตัวหลักและนายแบบทั่วไปมาร่วมด้วยอีกสามคน สปอนเซอร์หลักคือบริษัทจำหน่ายเสื้อผ้าชุดลำลองสำหรับผู้ชาย การถ่ายแบบลงนิตยสารครั้งนี้จึงต้องพรีเซนต์กางเกงไปในตัว ผู้ควบคุมดูแลงานจ้างช่างภาพผู้หญิงเพราะต้องการสื่อให้เห็นถึงมุมมองของผู้หญิงซึ่งส่วนมากจะเป็นคนดูแลจัดการทั้งเลือกสรรและหาซื้อเสื้อผ้าให้ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เมื่อนายแบบทั้งสี่พร้อมแล้ว วัสยาให้ทุกคนมายืนหน้าฉากที่เซ็ทไว้เพื่อทดสอบกล้องและมุมภาพก่อนที่จะถ่ายงานจริง เมื่อนายแบบพร้อม ฉากแสงสีพร้อม วัสยาก็เริ่มกดชัตเตอร์ “ยืนสบายๆ ให้ดูผ่อนคลายเป็นธรรมชาติที่สุดนะคะ ไม่ต้องเกร็ง” “ครับ..” นายแบบทั้งสามตอบรับเธอ มีเพียงเขาคนเดียวที่นิ่งเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้จนเธอหมั่นไส้ “คุณนายแบบดัง..คุณนั่นแหล่ะ!” “ผมชื่อ..มาร์คัสครับคุณช่างภาพ” “ค่ะ คุณมาร์คัส รบกวนคุณตั้งใจพรีเซนต์หน่อยสิคะ นำเสนอกางเกงนะคะ ไม่ใช่กิจกรรมทางเพศ ไม่ต้องโชว์ต้องอวดไอ้นั่นของคุณมากหรอกค่ะ!” “อะไรนะ?” มาร์คัสรู้สึกปรี๊ดด้วยความโกรธกับข้อกล่าวหาของช่างภาพสาว “ใครโชว์ใครอวด ผมไม่ได้โชว์ นี่ปกตินะ ถ้ามันตื่นจะยิ่งกว่านี้อีก คุณอยากลองทำกิจกรรมทางเพศกับของผมไหมล่ะ จะได้รู้ว่าของจริงจะถึงใจขนาดไหน ไม่ต้องโชว์ก็มีคนติดใจ!” “คนบ้ากาม!” วัสยารู้สึกเกลียดรังเกียจคนแบบนี้ที่สุดเลย เธอได้ยินกิตติศัพท์แง่ลบของเขาเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงมามากมาย ไม่คิดเลยถ้าวันนึงเธอต้องวนเวียนมาทำงานกับคนอย่างเขา วัสยาไม่อยากโต้ตอบกับนายแบบหนุ่มให้เสียเวลา เขาจะโพสต์จะโชว์อะไรก็เรื่องของเขา แต่อย่ามาทำให้งานของเธอเสียก็แล้วกัน ช่างภาพสาวถอยห่างออกมาจับโพกัสภาพกดชัตเตอร์รัวเก็บภาพไปเรื่อย ๆ “เช็กภาพ! เตรียมถ่ายเซตต่อไป..” วัสยาบอกให้นายแบบไปนั่งรอและหันไปสั่งงานทีมงานให้เตรียมพร้อมถ่ายอีกเซต เธอยืนเช็กภาพในจอมอนิเตอร์จนได้ภาพเป็นที่พอใจอย่างที่วางแผนเอาไว้ วัสยาก็หันไปบอกคอสตูมจัดการพานายแบบไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อถ่ายแบบเซตต่อไป ช่างภาพสาวหันไปมองตามเสียงทีมงานที่ดังอื้ออึงขึ้นเมื่อนายแบบทั้งสี่เดินออกมาโดยเปิดโชว์สัดส่วนท่อนบนอวดกล้ามเนื้อแข็งแรง ส่วนท่อนล่างถูกพันไว้หมิ่นเหม่ด้วยผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว! เธอคิดว่าพวกเขาต้องใส่กางเกงขาสั้นเซฟไว้ข้างใน แต่นายแบบดังนายนั้น..ตรงเป้าของเขาโดดเด่นนำหน้านายแบบคนอื่น ๆ มาอีกเช่นเคย “ทุกฝ่ายพร้อมแล้วนะคะ นายแบบโพสต์ได้เลยค่ะ ฉันจะถ่ายไปเรื่อย ๆ” “ให้โพสต์ยังไงดีครับ คุณช่างภาพ ผมโพสต์ไม่เป็น เชิญคุณมาทำให้ผมดูเป็นตัวอย่างก่อน” มาร์คัสแกล้งทำทีว่าเขาโพสต์ไม่เป็น เขาอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไง วัสยาทำงานด้วยความคล่องแคล่ว เธอเข้ามาจัดท่าโพสต์ให้มาร์คัสโดยไม่เฉลียวใจว่าเขาคิดจะแกล้งเธอ เมื่อช่างภาพสาวเข้ามาใกล้นายแบบหนุ่มก็จงใจปลดปมผ้าขนหนูเปิดออกแม้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีแต่เขามั่นใจว่าเธอเห็นแก่นกายความแข็งแกร่งของเขาเข้าแล้วอย่างแน่นอน เพราะเธอหยุดชะงักนิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนที่จะก้าวถอยหลังแล้วยกกล้องขึ้นมาบังหน้าเตรียมถ่ายรูปจนเขานึกแปลกใจ (“ยัยนี่เป็นคนยังไงนะ ไม่ตื่นตะลึงไม่ตื่นเต้นตกใจไม่สะทกสะท้านไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไงที่ได้เห็นแก่นกายของเขา”) มาร์คัสก้าวมาประชิดวัสยาและเอ่ยถาม “จับหน่อยมั้ย..” “จับอะไร?” ช่างภาพสาวลดกล้องถ่ายรูปลงเงยหน้าขึ้นมองสบตานายแบบหนุ่มพร้อมกับถามด้วยความสงสัย “ลองจับของฉันดูมั้ย..ท่าทางเธอจะไม่เคยได้จับ..” มาร์คัสกระซิบแค่พอได้ยินแค่เขากับเธอ แต่สิ่งที่เธอโต้ตอบเขากลับมาเสียงดังนี่สิ..ทำเขาเจ็บแสบ “อ๋อ..ไอ้นั่นของผู้ชายน่ะเหรอ ฉันเห็นมาจนชินแล้ว..หึ! ของคุณก็แค่..จิ้งจก!” (ไอ้พวกลามกหื่นกามแบบนี้ต้องเจอตอกกลับให้หน้าหงาย) “จิ้งจก? ..” นายแบบหนุ่มขบกรามแน่นแทบกระอัก ยิ่งเห็นนายแบบและทีมงานยืนซุบซิบกระซิบกระซาบกันแล้วเหล่ตามามองเขาสลับกับมองตรงเป้า เขายิ่งรู้สึกเจ็บใจที่ยัยช่างภาพตัวแสบทำให้เขาอับอาย “เอ่อ..ทุกคนครับ..” นายแบบหนุ่มเอ่ยขึ้นจนทุกคนในสตูดิโอหันมามองเขา “วันนี้ผมรู้สึกเกร็งแปลก ๆ ไม่ค่อยมั่นใจยังไงก็ไม่รู้ ขอผมถ่ายงานกับคุณช่างภาพแค่สองคนก่อน รบกวนเชิญทุกคนออกไปรอข้างนอกกันก่อนจะได้ไหมครับ” “จะทำอะไรของคุณ!” “ผมไม่ทำอะไรคุณช่างภาพหรอก แค่ขอถ่ายรูปตัวต่อตัวก็แค่นั้น..” มาร์คัสใช้สายตาอันทรงพลังมองโดยรอบแทนการออกคำสั่งจนนายแบบและทีมงานแต่ละคนทยอยออกไปทีละคนๆ “ทุกคนครับ!” มาร์คัสมองแองเจล่าที่ยืนนิ่งอยู่คนสุดท้าย “พี่ด้วย?” แองเจล่าผู้จัดการของเขาชี้เข้าหาตัวเองถามเพื่อความแน่ใจ “ครับ!” เมื่อทุกคนออกไปรอด้านนอก มาร์คัสก้าวเท้าขยับเข้ามาหาวัสยาช้า ๆ ... นายแบบหนุ่มเดินเข้ามาประชิด จนช่างภาพสาวถอยหลังไปชนเข้ากับมุมโต๊ะ เขายื่นหน้าเข้ามากระซิบใกล้ ๆหน้าวัสยา.. “ที่เธอพูดออกมาเมื่อกี้..เพราะเธออยากดูของฉันชัด ๆ ใช่มั้ย?” “ดูอะไรของคุณ?” วัสยาถาม มาร์คัสก็ก้มมองหว่างขาตัวเองแทนการตอบ “อ๋อ..จิ้งจกน่ะเหรอไม่เป็นไรฉันเห็นมาเยอะละ”(จะเล่นสงครามประสาทกับเธออย่างนั้นใช่มั้ย..) วัสยาปลายตามอง “หยามกันเกินไปแล้ว! นี่เธอดูถูกขนาดของฉันว่าเล็กเหมือนจิ้งจกอย่างนั้นเหรอ!” (ฮึ่ม! ถ้าไม่เกรงใจคนอื่นนะ เขาอยากจับยัยนี่กดมันตรงนี้ให้รู้เรื่องรู้ราวกันไปเลย) “จริงไม่ใช่เหรอ?” “ยัยช่างภาพจอมแสบ! ไม่เคยมีใครดูถูกฉันแบบนี้มาก่อน!” “ว่าของคุณเล็กเหมือนจิ้งจกน่ะเหรอ คุณไม่ต้องอายหรอกค่ะ” “มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” นายแบบหนุ่มขบกรามเป็นสันนูนโกรธจนหน้าแดงหูแดงไปหมด “ไม่มากไปหรอกสำหรับคนบ้ากามบ้าอำนาจอย่างคุณ อย่าคิดว่าทุกคนจะต้องก้มหัวเกรงกลัวคุณทุกคน คนอื่น ๆ อาจจะยอมสยบให้คุณ แต่ไม่ใช่ฉัน!” “งั้นเธอก็ดูซะให้เต็มตา!” นายแบบหนุ่มพูดออกมาอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับปลดผ้าขนหนูที่ผันรอบเอวเขาออกต่อหน้าช่างภาพสาวทันที วัสยาตกใจไม่คิดว่านายแบบหนุ่มจะกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ เขากล้ามามีหรือที่เธอจะถอย แม้จะไม่อยากมองให้อุจาดตาแต่เธอไม่ต้องการให้เขาได้ใจคิดว่าเธอประหม่าหรือเกรงกลัวเขาเหมือนอย่างคนอื่น ๆ เธอจึงตัดสินใจจ้องมองมันเต็มตา..(คือหน้าตามันทั้งใหญ่ทั้งยาวน่าเกลียดน่ากลัวพิลึก) วัสยาพยายามกัดฟันทำหน้านิ่งไม่แสดงอาการความประหม่าและความรู้สึกใด ๆ ออกมา “ก็แค่..จิ้งจกเล็กนิดเดียว! จะชอบอวดชอบโชว์ทำไมกันนักหนา” วัสยากอดอกเชิดหน้าหันไปมองไฟส่องประกอบฉาก มาร์คัสอึ้งรู้สึกหงิดหงิดเสียเซลฟ์มากกับสิ่งที่ได้ยินจากริมฝีปากอิ่มตรงหน้า “นั่นปากเหรอ..มันน่านัก!” มือหนารีบรวบผ้าขนหนูพันรอบเอวไว้เหมือนเดิม ช่างภาพสาวไม่ทันตั้งตัว นายแบบหนุ่มก็จับต้นแขนทั้งสองข้างของเธอบีบและกระชากเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับก้มหน้ากดริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มที่ช่างเปรียบเปรยให้เขาเสียศักดิ์ศรีความเป็นชายอย่างที่เขาไม่เคยโดนใครดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน วัสยาพยายามใช้ฝ่ามือผลักดันอกแกร่งของเขาไว้ “ฮื้อ! ฮ่อยฮันฮะ!(ปล่อยฉันนะ)” เธอพยายามทั้งเบี่ยงและผละหน้าออกจากการจาบจ้วงของคนฉวยโอกาส แต่มือหนาบีบต้นแขนของเธอตรึงไว้ วัสยาพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมจนหายใจเหนื่อยหอบติดขัด มาร์คัสเห็นท่าทางของเธอก็คลายมือผละริมฝีปากออกเล็กน้อย วัสยาจึงได้โอกาสผลักร่างสูงออกพร้อมกับตบใบหน้าเขาไปเต็มแรง “เพี้ยะ!??” นายแบบหนุ่มก็กระชากร่างบางมาจูบอีกครั้งทันทีเช่นกัน ด้วยความโกรธที่ถูกช่างภาพสาวตบหน้า เขากดปากจูบปากอิ่มของเธออย่างรุนแรงหนักหน่วง “ฮื้อออ..” มาร์คัสขยับริมฝีปากเม้มจูบกลีบปากนุ่มเนิ่นนานก่อนจะค่อยๆแผ่วเบาลงเพราะริมฝีปากอิ่มนุ่มหอมหวานละมุนของวัสยาทำให้เขารู้สึกเคลิ้มและหลงใหล วัสยารวบรวมแรงทั้งหมดที่เธอมีผลักมาร์คัสออกเป็นจังหวะที่เขากำลังเคลิบเคลิ้มเผลอใผล จนวัสยาผละออกจากมือหนาที่บีบรัดแขนเธอเอาไว้ได้สำเร็จ “เพี้ยะ!??” มือบางฟาดไปสัมผัสแก้มสากที่มีเคราอยู่นั้นโดยอัตโนมัติอีกครั้ง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าของคุณ! อย่ามาฉวยโอกาสทำป่าเถื่อนอย่างนี้กับฉันอีก ฉันเกลียดและขยะแขยงคนแบบคุณที่สุด!” ช่างภาพสาวทั้งพูดและแสดงกิริยาท่าทางรังเกียจขยะแขยงนายแบบหนุ่มออกมาอย่างชัดเจน “แต่ฉันชักจะสนใจช่างภาพอย่างเธอเสียแล้วสิ สักวันเธอต้องมาเป็นผู้หญิงของฉัน! และฉันจะทำให้เธอจุกไปถึงมดลูกของเธอเลยคอยดู!” มาร์คัสเน้นคำพูดแต่ละคำตอกย้ำให้วัสยาฟัง ทั้งคู่จ้องมองตาท้าทายกันไม่กะพริบตาไม่มีใครยอมใครจนกระทั่งผู้จ้างงานเปิดประตูเข้ามาในสตูดิโอ.. “เอ่อ..เริ่มงานกันต่อได้หรือยังคะคุณมาร์คัส น้องวัสยา” “ค่ะ / ครับ” เมื่อทุกคนกลับเข้ามาทำงานกันต่อ แองเจล่าก็มองทั้งคู่อย่างจับสังเกตแต่เธอก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติหรือว่ามีพิรุธใดๆ วัสยารู้สึกโล่งใจคงจะเพราะว่าเขาไว้หนวดไว้เคราจึงปกปิดกลบเกลื่อนรอยแดงจากฝ่ามือเธอไว้ได้ เธอตบเขาไปเต็มแรงอย่างนั้นต้องมีรอยแน่นอน เมื่อเขาทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอก็ให้ความสำคัญกับงานเช่นกัน เธอไม่อยากให้งานสะดุดหรือมีปัญหา การถ่ายแบบดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่างการถ่ายแบบ เมื่อมาร์คัสเดินเข้ามาใกล้วัสยา เธอก็หยิบเอานิตยสารขึ้นมาปัดกวาดพัดวี ทำกิริยาท่าทางเป็นไล่จิ้งจก “จิ้งจกเข้ามาได้ไงเนี่ย..” ช่างภาพสาวเหวี่ยงนิตยสารจนไปโดนตัวตนความเป็นชายของมาร์คัสจนเขาหลบไม่ทันรู้สึกจุกจนต้องขอหยุดพักการถ่าย เขาทั้งโกรธทั้งเจ็บทั้งจุกทั้งอายทั้งเสียหน้า “พร้อมจะทำงานหรือยัง..คุณ..อุ๊ย!จิ้งจก!” วัสยาปลายตาเยาะหยันมาร์คัสเป็นนัย ๆ “เธอ!” “คะ?..มีอะไรหรือเปล่าคะ” “เธอต้องรับผิดชอบน้องชายฉัน!” “รับผิดชอบอะไรของคุณ!” (ถ้าเธอไม่เกรงใจผู้ที่จ้างให้เธอมาถ่ายงานนี้ เธอจะกระชากไอ้จิ้งจกนั่นให้หลาบจำเลย) วัสยาคิดพร้อมกับยกเข่าขึ้นเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ช่างภาพสาวตีเข่าเข้ากลางหว่างขาตรงกล่องดวงใจของนายแบบหนุ่ม จนเขารีบยกมือขึ้นมาปิดป้องแทบไม่ทันด้วยความตกใจ “ฉันจะเอาคืนเธอให้สาสม..ยัยช่างภาพจอมแสบ! เธอทำร้ายน้องชายฉันหลายครั้งแล้วนะ เธอต้องรับผิดชอบดูแลมันไปตลอดชีวิต!” มาร์คัสขบกรามกัดฟันพูดเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างขุ่นเคือง เขาก้าวมาประชิดวัสยาหน้าตาเอาเรื่องสุดๆ “ถอยไป! ฉันจะทำงาน!” “ฉันฝากเอาไว้ก่อนนะ ยัยช่างภาพ!” “มีอะไรกันหรือเปล่า..มาร์ค..น้องวัสยา..” “เปล่า! พี่พาผมไปห้องน้ำหน่อย” “เราเป็นอะไรน่ะมาร์ค ปวดท้องเหรอ เดินไหวหรือเปล่า” แองเจล่าถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นนายแบบหนุ่มเดินตัวงอ “ผมไม่เป็นไร ปวดท้องนิดหน่อย รีบไปห้องน้ำก่อนเถอะ” “ไป ๆ” แองเจล่าประคองมาร์คัสไปยังห้องน้ำ วัสยามองตามหลังทั้งสองไปแล้วนึกสะใจที่แกล้งเอาคืนนายแบบหนุ่มได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม