“อ่อยอะ ไอ้อ้า...” เธอดิ้นรนแต่หนีไม่รอดเพราะโดนมัดปากมัดมือไพล่หลังเอาไว้ ได้แต่ร้องด่าเขาไปแบบนั้น เพราะไร้หนทางหนีออกไปจากรถได้เนื่องจากเขาล็อกรถอย่างแน่นหนา
“เอาน่า... เดี๋ยวฉันสนองให้ถึงใจเลย รับรองว่าได้เงินก้อนใหญ่แน่ๆ” รัชภาคย์พูดแล้วหัวเราะน่ากลัว ตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดที่มารดากดดันเขาเรื่องแต่งงาน ผู้หญิงแต่ละคนที่มารดาหาให้ ไม่เกินอาทิตย์ทั้งนั้น พอได้เงินก็จากไปแต่โดยดี เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว ท่านยังไม่เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงพวกนั้นอีกว่าหิวเงินแค่ไหน ยังจะหาผู้หญิงมาให้เขาอีก ทั้งๆ ที่เขาไม่ต้องการใครทั้งนั้น
“เธอโชคร้ายเองนะ ที่หาเรื่องมากระตุกหนวดเสืออย่างฉัน ฉันกำลังหงุดหงิด อารมณ์เสีย เธอก็ดันจะมาแบล็กเมล์เรียกเงิน ทั้งๆ ที่เธอเดินมาให้รถฉันเฉี่ยวเอง” เขายังไม่ยอมรับความผิด
“อือๆๆ ไอ้อ้า...” ปิ่นแก้วส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน ด่าเขาไม่เป็นภาษาเพราะโดนมัดปากเอาไว้
“เก็บเสียงไว้ร้องครางใต้ร่างฉันจะดีกว่า...” เขาเหยียบคันเร่งจนมิด จนคนที่กลัวความเร็วถึงกับหน้าซีดตัวสั่น เธอหลับตาปี๋ ก่อนที่เขาจะเบรกรถจนหัวทิ่ม ลงไปลากเธอออกจากรถเมื่อถึงที่หมาย
“อือๆๆ” เธอดิ้นรนแต่เขาก็ไม่สน แบกเธอขึ้นบ่าแล้วล็อกรถ เดินขึ้นคอนโดฯ ไปอย่างไม่แยแส ระหว่างทางคนโดนอุ้มพาดบ่าทั้งเตะถีบดิ้นหนีแต่โดนเขาฟาดเข้าให้ที่สะโพกเต็มแรง เขาพาเธอเข้ามาในห้องพัก ก่อนจะแกะผ้ามัดปากมัดมือของเธอออก ไม่มีใครช่วยเธอได้ ขนาด รปภ. ยังให้เขาผ่านเข้ามาโดยง่าย
“โอ๊ย! ไอ้คนบ้า เฮงซวย ซาดิสม์ เจ็บนะ” เธอร้องเสียงหลง ลูบสะโพกป้อยๆ เมื่อโดนโยนมาที่โซฟาตัวยาวในห้องพักของเขา
ปิ่นแก้วกวาดตามองรอบกายอย่างระแวดระวัง ก่อนจะมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ เจ็บสะโพกที่โดนตีและโดนโยน กระดูกแทบหัก คนบ้าอะไรซาดิสม์ โรคจิต ด่าเขาไป สมองก็ครุ่นคิดไป เพื่อหาทางเอาตัวรอด ทำไมโชคร้ายมาเจอผู้ชายบ้ากามคนนี้ได้นะ นี่เธอจะทำยังไงดี
“จะเมคเลิฟกันตรงไหนดี ที่โซฟาตัวที่เธอนั่งอยู่ บนเตียง ห้องน้ำ บนเก้าอี้ บนโต๊ะ ที่ไหนฉันได้หมด” เขาให้เธอเลือก มองร่างน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ ปากก็พ่นถ้อยคำชวนสยิวให้หญิงสาวขนลุก รัชภาคย์คิดว่าคนตรงหน้าเล่นตัวไปแบบนั้นเอง เดี๋ยวเล้าโลมหน่อย เซ็นเช็คให้สักใบ ขี้คร้านจะเอาอกเอาใจเขาจนน่าเบื่อเหมือนผู้หญิงคนก่อนๆ ที่มารดาสรรหามาให้
“ไม่!!!” เธอรีบวิ่งหนีจากเขา ไปหยุดอีกมุมหนึ่งของห้อง หอบหายใจจนตัวโยนเมื่อไกลจากรัศมีที่เขาจะก้าวเข้ามาถึงตัวได้
“หรือจะเอากันที่ระเบียง ชอบระเบียงก็ไม่บอก อยากชมธรรมชาติ แล้วตื่นเต้นด้วยใช่ไหม เพราะอาจจะมีคนเห็นเรารักกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ถ้าไม่ถือสาจะชวนมาร่วมวงด้วยยังได้นะ” เขาลูบคางไปมาสีหน้ายียวน มองเธอไม่วางตา
“ลามก น่าเกลียดที่สุด” อยากจะกรีดร้องให้สุดเสียง ตะกุยหน้ายียวนของเขาให้เลือดซิบนัก ผู้ชายบ้าอะไรปากร้าย พูดตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด ในหัวของเขาคิดแต่เรื่องมีเซ็กซ์หรือยังไงกันนะ แล้วยังคิดจะชวนคนอื่นมาสวิงกิ้งด้วย แค่คิดก็ขนลุก เธอทำท่าสยองใส่เขา
“อย่าดีดดิ้นเล่นตัวไปหน่อยเลย” รัชภาคย์เริ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออก หรี่ตามองเธอเหมือนราชสีห์เตรียมตะครุบเหยื่อ
“คนบ้า คิดแต่เรื่องต่ำๆ” เธอวิ่งหนีไปที่ประตูเมื่อได้จังหวะ ขณะที่เขาหันไปสลัดเสื้อออกจากตัว แต่ประตูดันเปิดไม่ออก ประตูบ้าอะไรเปิดยากเปิดเย็น และเธอก็มองมันอย่างงงๆ
“เปิดไม่ออกหรอก อย่าพยายามเลย มันต้องใส่รหัส”
“เปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ ละ...แล้วคุณถอดเสื้อทำไม คนทะลึ่ง คนบ้า ลามก” แม้เขาจะหล่อลากกระชากไส้ก็เถอะ แต่เธอไม่บ้าจี้ยอมให้เขาขืนใจหรอกนะ แค่คิดก็สยองจนแทบจะกระโดดหน้าต่างหนี ถ้าไม่ติดว่าคอนโดฯ ของเขาสูงขนาดนี้ เธอก็อยากจะบ้าบิ่นทำแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
“เอ้า... ถอดเสื้อแล้วอยู่กับผู้หญิงในห้องสองต่อสอง เธอคิดว่าถอดทำไมล่ะ อย่าแกล้งทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อยเลยน่า” นี่มารดาให้ยายนี่แสดงบทสาวบริสุทธิ์ให้เขาเร้าใจหรือไง
“ฉันไม่รู้จักคุณมาก่อน เราไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน เอาเป็นว่าฉันขอโทษคุณก็แล้วกัน เรื่องที่ฉันเดินไม่ดูทางเอง จนทำให้รถของคุณมาเฉี่ยวฉัน” เธอยอมขอโทษแต่ไม่วายแดกดันเขานิดๆ ไม่คิดว่าคนเดี๋ยวนี้จะโกรธง่ายขนาดที่ว่าจะลากคนอื่นมาทำร้ายได้หน้าตาเฉย เธอเจ็บตัวตั้งแต่ต้น แต่เขากลับโกรธเธอเหมือนกับว่าเธอขับรถไปเฉี่ยวเขาเสียอย่างนั้น
“อย่ามาแกล้งไขสือไปหน่อยเลย เธอแกล้งเดินมาให้รถฉันเฉี่ยว ก็เห็นๆ อยู่ว่าเธออ่อยฉัน ฉันก็จะสงเคราะห์ให้แล้วไง ไม่ดีหรือไง” เขาสะบัดเสื้อผ้าออกจากตัว ปิ่นแก้วลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น เขาล้อเล่นใช่ไหม คงไม่ทำจริงๆ หรอกใช่ไหม เธออ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“ฉันไม่ได้อ่อยคุณ ฉันขอโทษไปแล้วไง ฉันไม่เอาเงินอะไรของคุณทั้งนั้น ไม่แจ้งความด้วย แค่ปล่อยฉันไป โอเคไหม” เธอต่อรองปนขอร้อง สถานการณ์แบบนี้ ถ้ายิ่งทำให้เขาโกรธมากๆ จะมีผลเสียกับเธอได้
“ไม่โอเค” เขาตอบหน้าตาย
“นี่คุณ!” เธอชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ ผู้ชายบ้าอะไร พูดจาไม่รู้เรื่อง
“อย่าพูดมากเลยน่า คุณแม่ส่งเธอมาใช่ไหม บอกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม เดี๋ยวฉันจะสงเคราะห์ให้ เธอจะได้ไม่เสียเที่ยวที่อุตส่าห์คิดวางแผนเอาไว้ ก่อนเริ่มงานอีกสองสามวันข้างหน้า เราก็น่าจะทำความรู้จักกันให้ลึกซึ้งจริงไหม” เขาปลดกางเกงลงจากสะโพกสอบ ปิ่นแก้วตาโต อ้าปากค้าง หน้าแดงจัด ก่อนจะปิดตา เบือนหน้าหนีแทบทันที
“ฉันพูดแทงใจล่ะสิ ถึงได้อึ้งจนพูดไม่ออก” เขาหัวเราะหึหึ ในลำคอ
“ไอ้บ้าถอดกางเกงทำไมนี่ ไอ้หื่น ไอ้โรคจิต” เธอชี้นิ้วสั่นระริก หลับหูหลับตาเบือนหน้าหนีอย่างอับอาย
“อ้าว... มาเป็นชุดเลย” เขาเลิกคิ้วขึ้น ไม่เคยโดนผู้หญิงด่าสาดเสียเทเสียแบบนี้มาก่อน มีแต่ผู้หญิงอยากได้ตัวเขากันทั้งนั้น
“ที่อึ้ง พูดไม่ออกเพราะฉันกำลังงงว่าคุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ ว่าแม่ของคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย” เธองงว่าแม่ของเขามาเกี่ยวอะไรด้วย เธอไม่เห็นจะรู้จักแม่ของเขาหรือเขามาก่อนเลย
“อย่ามาไขสือไปหน่อยเลยน่า” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
“ว้าย! อย่าเข้ามานะ” ปิ่นแก้ววิ่งหนีไปรอบห้อง ก่อนจะปาข้าวของที่ใกล้มือใส่เขา เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้ามาใกล้เธอได้
“โอ๊ย! ชอบซาดิสม์ก็ไม่บอก” เขาปัดข้าวของตกหล่นไปรอบกาย ไม่ให้มากระแทกกับร่างกายของตัวเอง เริ่มมองเธอด้วยความโมโหจัด ยายนี่จะพังห้องเขาหรือไงกัน
“ก็อย่าเข้ามาสิ” เธอขู่ฟ่อ เตรียมฟาดเขาเต็มที่ ลองเข้ามาสิ เธอฟาดไม่เลี้ยงแน่
“รู้ไหม... ข้าวของในห้องนี้เท่าไหร่ ถึงเธอจะขายตัวอีกสักสิบชาติ ก็ยังไม่มีปัญญาจ่าย” รัชภาคย์เท้าสะเอวมอง อวดร่างสมชายชาตรี แต่เวลานี้เธอไม่มีอารมณ์จะชื่นชมอะไรเขาหรอก ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดๆ ผู้ชายพอบ้าดีเดือดขึ้นมา ก็เหมือนวัวกระทิงที่สุดแสนจะโมโหร้าย เธอจำประโยคนี้มาจากเพื่อนอีกทีหนึ่ง
“กรี๊ด... อย่าเข้ามานะ คนบ้า คนเฮงซวย เข้ามาฉันฟาดแน่” เธอกรีดร้องวิ่งหนีอุตลุด เมื่อเขาเริ่มก้าวเข้ามาหาอย่างคุกคาม
“เฮ้ย! แจกันใบนั้น วางลงๆ ใจร่มๆ เข้าไว้” รัชภาคย์เบิกตากว้างเมื่อเธอคว้าแจกันราคาแพงลิ่วของเขาขึ้นมาง้างเอาไว้ ประกาศให้โลกรู้ว่า ถ้าขืนเขาก้าวเข้าไปเพียงก้าวเดียว สิ่งนั้นได้ตกแตกกระจายบนพื้นแน่ ที่สำคัญศีรษะของเขาก็จะเลือดอาบตามไปด้วย