บทที่5. หัวเสีย

1375 คำ
ราฟาเอลรู้สึกหัวเสียมีผู้หญิงไม่น้อยที่พยายามตามเกาะติดเขาไม่ยอมปล่อยแต่เขาก็ยังไม่เคยใครที่เกาะติดเหมือนปลิงแบบนี้เลยสักครั้ง “แต่ตอนนี้ผมไม่อยู่กรุงเทพนะ” “คุณไปไหนคะที่รัก คาร่ามาเมืองไทยบ่อยเดี๋ยวคาร่าจะตามคุณไปเอง” “คาร่า” เขาเอ่ยเสียงเครียด “อย่าทำตัวแบบนี้กับผม ถ้าผมไม่ชอบหรือรำคาญคุณจะลำบาก” หญิงสาวอึกอักอย่างหวาดกลัวแต่ฝืนหัวเราะออกมา “แล้วคาร่าจะทำยังไงละคะ คาร่ามาหาคุณถึงที่นี่แล้วนะ” “ก็ไหนว่าคุณมาเมืองไทยบ่อยๆ ก็คงเอาตัวรอดได้นี่” “ราฟาเอล” หญิงสาวทอดเสียงหวาน “คุณลืมค่ำคืนที่แสนหวานและเร่าร้อนของเราได้ไงคะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา ให้ตายเถอะ! เขาแค่ไปดูแลสาขาที่ญี่ปุ่นแล้วเจอดาราสาวคนนี้มาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำในโรงแรมที่เขาพักอยู่ ก็แค่สนุกกันข้ามคืนไม่คิดว่าเจ้าหล่อนจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้      เขามองไปทางสุรัตที่มองเขาผ่านกระจกส่องหลังพอดี “ก็ได้...งั้นคุณพักที่โรงแรมรอผมก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะให้คนของผมจัดการที่พักให้คุณก็แล้วกัน” ราฟาเอลเอ่ยตอบ “ไม่เกินยี่สิบนาทีจะมีคนติดต่อคุณเรื่องที่พักเอง” “ก็ได้ค่ะ แล้วคุณรีบกลับมานะคะ คาร่าเหงาอยากเจอคุณมากๆ เลย” ราฟาเอลพยักหน้ากับโทรศัพท์แล้วกดปิดทันทีอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อหรือไม่ เขาเก็บโทรศัพท์เข้าที่แล้วมองที่สุรัตซึ่งพยักหน้ารับคำสั่ง เขาโทรศัพท์สั่งให้เลขาจัดการจองโรงแรมและส่งคนไปรับผู้หญิงของเจ้านายทันที ‘ทำงานเป็นแบบนี้คงอยู่ด้วยกันได้’ ราฟาเอลนึกชมอยู่ในใจ รถแล่นออกนอกเมืองไปยังจังหวัดนครปฐมทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและรถราแน่นขนัดกลายเป็นบ้านเรือนหลังเล็กๆ อยู่ห่างๆ กันจนไปถึงโฮมสเตย์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ริมน้ำได้เห็นวิถีชีวิตของคนริมน้ำได้เป็นอย่างดี   “ผมจอดรถรอตรงนี้นะครับ” สุรัตเอ่ยแล้วลงไปเปิดประตูให้บอสหนุ่มก้าวเดินไปอย่างเงียบๆ  แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ราฟาเอลมาบ้านเกิดของมารดาแต่เขากลับรู้สึกราวกับว่าเคยมาที่นี่แล้ว มารดาของเขาเป็นลูกครึ่งเหมือนกันนั่นก็คือยายเป็นคนไทยทำงานเป็นไกด์และพบรักกับหนุ่มอิตาลี่ที่มาท่องเที่ยวในไทยจนเกิดเป็นมารดาของเขา แต่เมื่อโตขึ้นเข้าสู่วัยรุ่นก็ไปใช้ชีวิตที่อิตาลี่กลับมาเมืองไทยเป็นบางครั้ง แต่ส่งเงินมาให้ทางบ้านสม่ำเสมอ    แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่ามารดาของเขาจะกลายเป็นภรรยาของมาเฟียจนมีเขาเป็นตัวเป็นตนได้ แต่นั่นเป็นเรื่องของแม่ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหตุผลว่าแม่รักพ่อหรือเปล่า เพราะเขาเองก็รู้สึกถึงการห่างเหินบางอย่าง                     เขาเดินไปตามทางเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้าไปโฮมสเตย์ริมน้ำตามที่แม่เคยบอกไว้ก่อนตาย รูปร่างสูงโปร่งสะดุดตาจนมีสาวๆ เหลียวมองและส่งยิ้มให้ เขาเดินมาถึงที่หมายไม่ยากนักและอดคิดไม่ได้ว่าถ้าแม่ของเขาเติบโตที่นี่ไม่ได้ไปใช้ชีวิตที่อื่นจะเป็นอย่างไร แม่อาจมีความสุขมากกว่าอยู่กับริคาโด้ก็เป็นได้ “มาหาใครหรือจ๊ะพ่อหนุ่ม หรือว่ามาเช่าห้องพักจ๊ะ” “เอ่อ เปล่าครับ เอ่อ ผม ผม” เอาละซิ เขาจะพูดว่าอะไรดี หญิงชรามองใบหน้าอึกอักของชายหนุ่มแล้วเหลือบมองโกศที่เขาประคองอยู่ ก่อนจะเงยหน้าเพ่งมองใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้งแล้วดวงตาของหญิงชราก็มีน้ำตาเอ่อคลอ “ราฟาเอลใช่ไหม พาแม่จอมขวัญกลับบ้านใช่ไหม” “ครับ” เขาถอนหายใจเบาๆ ที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมาก “เข้ามาก่อนซิหลาน” หญิงชราดึงมือของชายหนุ่มให้เดินตามมาด้านใน “นึกอยู่แล้วว่าต้องมีแบบนี้เข้าสักวัน จอมขวัญคงไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วละ” ราฟาเอลพูดอะไรไม่ถูก เขาไม่เคยอยู่ในสภาพนี้มันช่างแตกต่างจากที่เขาเคยอยู่และเติบโต เขารู้จากแม่ว่าตาเสียไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว หญิงชราพาเดินไปหลังบ้านซึ่งมีต้นไม้ใหญ่หลายต้น “จอมขวัญรักสวนหลังบ้านมาก มีต้นไม้หลายต้นที่แม่ของหลานปลูกเองกับมือ”           “ครับ อยู่ที่โน้นแม่ก็ชอบปลูกต้นไม่เหมือนกัน” เขาเอ่ยขึ้นพลางมองต้นไม้รอบกายที่ได้รับการดูแลอย่างดี “พูดไทยได้ชัดดี จอมขวัญคงสอนมาละซิ” “ครับ” เขายิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “แม่ให้ผมพาแม่กลับมาบ้านครับ” “ขอบใจหลานมาก ยายจะให้จอมขวัญอยู่กับพ่อของเขา” หญิงชรารับโกศบรรจุอัฐิมาไว้ในวงแขนด้วยมือที่สั่นเทา “กลับมาบ้านแล้วนะลูกนะ” ราฟาเอลหันไปมองทางอื่น เขารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตาอารมณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในใจของเขานานแล้ว จริงๆ แล้วเขาถูกสอนไม่ให้หวั่นไหวกับสิ่งเหล่านี้ด้วยซ้ำ “แย่จริงลืมถามไปเสียสนิทเลย หลานจะพักกี่วัน มีที่หลับที่นอนหรือยังแล้วกินข้าวกินปลามาหรือยังละ” “ไม่เป็นไรครับ ผมพาแม่กลับบ้านแล้วก็มาทำธุระเรื่องงานด้วย คงไม่สะดวกที่จะพักที่นี่”         “เหรอจ๊ะ เสียดายจริง” “เอาไว้ถ้าผมเสร็จงานแล้วอาจจะแวะมาอีกนะครับ” “ได้ซิ ที่นี่ก็เหมือนบ้านของหลานด้วยเหมือนกัน” ราฟาเอลเอ่ยลาหญิงชราแล้วหมุนตัวเดินกลับมาที่รถ เขาไม่อาจอยู่สถานที่นี่ได้นานเพราะความไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ สุรัตเองก็ดูไม่แปลกใจที่เขาเดินกลับมาเร็วนัก เขาเปิดประตูให้เจ้านายเข้าไปนั่งแล้วจึงขึ้นไปประจำที่ฝั่งคนขับ “กลับเลยนะครับ” ราฟาเอลพยักหน้าแทนคำตอบ เขามองสถานที่สุดท้ายที่มารดาปรารถนาจะกลับมามากที่สุดอีกครั้ง รู้สึกโล่งในอกที่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ตอนนี้คงเหลือภารกิจอีกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  ชายหนุ่มหลับตาและคิดถึงใบหน้าสุดท้ายของมารดา ‘ไม่ใช่จ๊ะ แม่เกิดที่เมืองไทย ถ้าถึงเวลานั้น ลูกพาแม่กลับไปบ้านเกิดของแม่นะ สัญญานะราฟาเอล’ ‘แม่ครับผมทำตามสัญญาแล้วนะครับแม่’. กีณรินนั่งลงอย่างเหนื่อยๆ ในร้านขายข้าวแกงริมถนนอพาร์ท-เม้นท์ที่พักอยู่ เธอสั่งข้าวราดแกงง่ายๆ และน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว เอกสารสมัครงานถูกเปิดออกช้าๆ ในขณะที่จิตใจเต็มไปด้วยความหดหู่ เมื่อครู่เพิ่งไปสอบสัมภาษณ์บริษัทแห่งหนึ่งและดูท่าจะรู้ผลโดยไม่ต้องรอให้เขาติดต่อกลับ หญิงสาวจัดการอาหารตรงหน้าพลางเปิดดูหนังสือพิมพ์สมัครงานไปด้วย ทำไมชีวิตมันไม่เหมือนในนิยายบ้างนะ เวลานางเอกสู้ชีวิตจนเรียนจบแล้วก็มีงานดีๆ มารอรับแต่นี่เธอสมัครงานไปตั้งหลายแห่งยังเงียบอยู่เลยหรืออุปสรรคเหล่านี้มาเพื่อทดสอบชีวิตเรากัน กีณรินเผลอยิ้มให้ตัวเอง คงต้องมีสักวันที่เป็นวันของเราบ้างล่ะ! เธอให้กำลังใจตัวเองแล้วเก็บเอกสารบนโต๊ะกำลังจะลุกขึ้นเพื่อไปจ่ายค่าอาหารแต่โทรศัพท์มือถือกลับดังขึ้นก่อน เบอร์ที่โทรเข้าทำให้เธอยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกรอกเสียงตอบรับ “สวัสดีค่ะลุงพงษ์” “หนูรินอยู่กับลูกอรหรือเปล่า”       “เปล่าคะ” น้ำเสียงร้อนรนทำให้กีณรินอดกังวลไม่ได้ “หนูไปสมัครงานเพิ่งกลับค่ะ ยังไม่ได้เข้าบ้านเลย ลุงพงษ์มีอะไรหรือคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม