ตอนที่ 2 ปานวาด /2

1864 คำ
ในเวลาต่อมา ร่างระหงนั่งอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ภายในห้องนอนส่วนตัวของเธอหลังจาก ส่งน้องสาวสุดที่รักเข้านอนและดูแลความเรียบร้อยจนเธอนอนหลับอย่างมีความสุขไปแล้วตั้งแต่ยังไม่สามทุ่ม ดวงตาหวานนั่งจ้องหน้าจอคอมเพื่อหางานที่เธอสามารถทำเพื่อหาเลี้ยงน้องสาวและตัวเธอได้อีกต่อไปในภายภาคหน้า ลำพังเงินค่าชดเชยที่ได้รับจากการถูกเลิกจ้างกว่าสามแสนบาท แม้จะมากพอสมควรแต่สักวันย่อมหมดลงเพราะฉะนั้นจะให้เธอนั่งๆ นอน กินเงินเก่าของเธอจนหมดไปแล้วค่อยหางานทำนั้น ไม่ใช่วิสัยของปานวาดแน่นอน หญิงสาวกวาดสายตาหาคอลัมน์งานในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่กำลังประกาศรับสมัครหาพนักงานหลากหลายตำแหน่งและหลากหลายอาชีพ ทั้งในเขตอุตสาหกรรมที่เธอสามารถใช้วุฒิเอกภาษาอังกฤษของตัวเองได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด เพราะเธอจบจากคณะอักษรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังมานั้นเอง ตำแหน่งงานเลขานุการประกาศรับอย่างมากมาย สอดคล้องกับคุณสมบัติของเธอทั้งหมด ทว่าทุกบริษัทมีเด็กเส้นแทบทั้งนั้น การประกาศลงรับสมัครงานก็แค่เพื่อทำเอาไว้บังหน้าแต่ในความเป็นจริงแล้วมีคนของตัวเองเป็นตัวเลือกเรียบร้อยปิดกั้นโอกาสคนอื่นๆ ที่อยากได้งานอย่างจริงจังไปโดยปริยาย และอีกประการหนึ่งก็คืออัตราค่าจ้างที่ต่ำกว่าความเป็นจริงอยู่มาก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยไล่อ่านตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครอย่างใจจดใจ่ออยู่เป็นเวลานาน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีตำแหน่งงานที่เธอจะสามารถสมัครได้เลยเนื่องจากอายุเกินกว่าที่กำหนดนั้นเอง “ทำไมไม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นอายุ 30 ขึ้นไปได้มีโอกาสทำงานกับเขาบ้างนะ ฉันก็อยากมีงานที่มั่นคงเพื่อเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงน้องนะเว้ย เมื่อไรโชคชะตาจะเข้าข้างปานวาดกับเค้าบ้างวะ!”หญิงสาวบ่นพึมพำดั่งหมีกินผึ้งเลยทีเดียว ทันใดนั้นเอง ปื้นนนนน!!ปื้นนนนน!!! เสียงบีบแตรดังสนั่นอยู่หน้าบ้านของเธอ เฮือกกกก!!! ปานวาดสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงบีบแตรรถดังสนั่นในเวลาดึกสงัด ยิ่งแถวบ้านเธอด้วยแล้วอยู่ในย่านโซนเงียบสงบอย่างยิ่งยวด “ใครกันนะมาบีบแตรดึกดื่นแบบนี้!”หญิงสาวบ่นพึมพำ ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานมองลอดผ่านหน้าต่างจากห้องนอนของเธอที่สามารถเห็นรั้วบ้านได้อย่างชัดเจน “ไอ้วาด!ไอ้วาด!ไอ้ปานวาด!เพื่อนสุดที่รักมาหาแกแล้ว!มาเปิดประตูให้หน่อย...แม่เพื่อนขี้เซา”เสียงหญิงสาวตะโกนอยู่ข้างนอกรั้วบ้านเธอ “ไอ้เมี่ยง!”หญิงสาวเรียกชื่อเพื่อนรักที่เธอสนิทมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปเปิดประตูรั้วบ้านต้อนรับเพื่อนสาวที่มาหาเธอกลางดึก ทันทีที่ประตูรั้วบ้านเปิดออกปรากฏร่างหญิงสาวอวบอิ่ม ยืนยิ้มหน้าระรื่นด้วยความดีใจตรงหน้าเธอ “โอโห่เมี่ยง! ไม่เจอกันตั้งนานนี่แกยังไม่ตายอีกเหรอวะ แล้วนี่ไปทำอะไรมา ทำไมกลายร่างเป็นปลาพะยูนเกยตื้นแบบนี้”หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะกระเซ้าเพื่อนสนิทเล่นเอาเจ้าตัวหุบยิ้มลงทันที “เดี๋ยวแม่ถีบปากเพื่อนรักเดี๋ยวนี้เลย เข้าใจสรรหาคำทักทายมาจริงๆ เชียว ฉันแค่คนอวบเว้ย ไม่ใช่หุ่นนางแบบเหมือนแกเสียที่ไหน จะบอกอะไรให้นะ ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงหุ่นสะบึมแบบฉันทั้งนั้นเลยขอบอก ไอ้สูงชะลูดแถมดูบอบบางเหมือนแกเนี่ย ไม่มีใครเค้าเอามาเป็นแม่พันธุ์หรอกนะเพื่อน”แม่เพื่อนรักปากไวดั่งปลากัด ตอบจิกกัดเพื่อนรักกลับไปทันทีด้วยความเคยชิน “อ๋อหราแม่คนอวบ อวบระยะสุดท้ายจนตัวใกล้แตกเนี่ยนะแก”หญิงสาวพูดพลางเดินเข้าล๊อกคอเพื่อนรักทันทีด้วยความคิดถึง “แกเป็นอย่างไงบ้างวาด สบายดีไหมตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านพ่อกับแม่ที่ชลบุรี เราสองคนไม่ค่อยได้มีโอกาสไปไหนต่อไหนกันเลย ดีนะเนี่ยที่บริษัทฉันมาประชุมกันที่นี่ ฉันก็เลยแวะมาเยี่ยมแก”เมี่ยงเอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรัก “ก็เรื่อยๆ วะแก อยู่แบบพอเพียงตามอัตภาพก็ไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรเฉพาะตอนนี้นะ แต่อีกหน่อยจะต้องเดือนร้อนแน่ถ้าหากฉันยังตกงานอยู่แบบนี้... ตอนนี้ก็กำลังหางานใหม่อยู่” คำตอบของเพื่อนรักทำให้เมี่ยงหรือนงนุช ลิ้มเจริญกุลหรือในอดีตคือแซ่ลิ้ม หยุดเดินไปโดยพลันเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นี่แกตกงานอย่างนั้นเหรอ! แล้วบริษัทมันเลิกจ้างหรือแกออกเอง”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “บริษัทเขาเลิกจ้างฉันเพราะต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายตำแหน่งที่ฟุ่มเฟือยเกินไปสำหรับองค์กร” “หะ! ตำแหน่งเลขานุการเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยอย่างนั้นเหรอวะแก บริษัทนี้มันเอาหัวสมองส่วนไหนมาคิดวะเนี่ยเชื่อจริงๆ เลยวะ”เมี่ยงบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจแทนเพื่อน “แล้วแกได้ค่าชดเชยหรือเปล่าวะ ได้ครบไหมถ้าไม่ครบบอกไอ้เมี่ยงคนนี้ได้เลย แม่จะร้องเรียนไปทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้มันจ่ายค่าชดเชยจนอาน” “บริษัทจ่ายค่าชดเชยมาให้ฉันหมดแล้ว ได้ครบไม่ขาดตกบกพร่องหรอก เงินสามแสนก็พอประทังชีวิตไปได้อีกนานพอสมควรหากใช้เงินเป็น ว่าแต่แกมาหาฉันจะมานอนที่บ้านหรือมีที่พักอยู่แล้ว”หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนรักกลับไปด้วยความอยากรู้ “แกไม่ต้องห่วงเรื่องที่พักของฉัน บริษัทจองห้องพักในโรงแรมสุดหรูให้นอนด้วยนะเว้ย บังเอิญว่าบริษัทฉันบริหารงานโดยชาวต่างชาติ เป็นบริษัทต่างชาติที่ทำเกี่ยวกับแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในทะเลบ้านเรานี่แหละ..เงินเดือนของที่นี่ตอบแทนค่ามันสมองของฉันได้อย่างโคตรคุ้มเลยวะ” ปานวาดพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กัน เมื่อได้ยินเพื่อนของเธอบอกเช่นนั้น “ดีใจด้วยวะเมี่ยงที่แกได้งานในสิ่งที่ตัวเองถนัดและชอบ ตำแหน่งวิศวกรไม่ค่อยมีผู้หญิงทำสักเท่าไรหรอก นี่คงจะเงินเดือนเยอะละสิ ถ้าให้น้อยมีหรือแกจะทำจริงไหม”หญิงสาวกล่าวดักคอเพื่อนรัก “แหมแกพูดถูกเผงเลยไอ้วาด ก็เพราะเงินเดือนหลักแสนนี่แหละฉันถึงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ รู้ไม่ใช่เหรอว่าไอ้ฉันก็ภาระเยอะมากมายขนาดไหน ทั้งเตี่ย หม่าม้า อาเฮีย ไอ้ตี๋กลาง ตี๋เล็ก ตี๋น้อย นางหมวย...ไหนจะนาง... ”เมี่ยงยังไม่ทันสาธยายวงศาคณาญาติของตัวเองจบ เสียงร้องห้ามของเพื่อนรักเอ่ยขัดขึ้นมาโดยพลัน “พอแล้วไอ้เมี่ยงคำ! ตระกูลแกฉันรู้หมดแล้วว่ามีกี่ชีวิต ถ้านับรวมกันทั้งหมดที่อยู่รวมกันที่ตึกแถวสองคูหาของเตี่ยแกก็ปาเข้าไป 18 คน เป็นไงฉันจำแม่นไหมวะ”หญิงสาวบอกเพื่อนรัก “ผิดแล้วไอ้วาด!เพราะตอนนี้โคตรตระกูลลิ้มเจริญกุลของฉันมีสมาชิกเพิ่มอีก 3 คนเป็น 21 คนแล้วเพราะอาเฮียใหญ่ของฉันแต่งงานแล้วซ้อก็ดันท้องแฝดสาม คิดดูสิว่าสมาชิกบ้านฉันมันจะหนาแน่นขนาดไหน ” “หะ!”ปานวาดอุทานออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฉันให้กำลังใจแกวะ หวังว่าเงินเดือนหลักแสนของแกจะเลี้ยงคนทั้งบ้านได้หมดนะ...ว่างๆ ก็หาเวลาพักผ่อนบ้างจะได้ไม่ต้องเครียดจากการทำงานหาเงินเลี้ยงสมาชิกในครอบครัว”หญิงสาวพูดพร้อมใช้มือตบไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเพื่อนรักเอ่ยแทรกดังขึ้น “ขอบใจวะไอ้วาด”เพื่อนสาวกล่าวขอบใจก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “พูดถึงเวลาพักผ่อน...ไอ้วาด! ฉันอยากไปเที่ยวกลางคืนที่พัทยาวะ ไปเป็นเพื่อนด้วยกันหน่อยดิ” หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น “แกนึกอย่างไงจะไปเที่ยวกลางคืนที่พัทยาวะไอ้เมี่ยง ปกติก็เที่ยวกลางคืนที่กรุงเทพอยู่เป็นประจำนึกว่าเบื่อแล้วเสียอีก”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “โธ่ไอ้วาด! ฉันไมได้เที่ยวมาเกือบสองปีแล้วตั้งแต่ได้งานที่บริษัทนี้ วันๆ อยู่แต่กับงานเงยหน้าขึ้นมาก็ดึกแล้วขับรถกลับบ้านนอน เป็นแบบนี้มาตลอด มาประชุมเที่ยวนี้ก็เลยถือโอกาสมาพักผ่อนไปในตัว นะนะนะเพื่อนวาดไปเป็นเพื่อนกันหน่อยนะเพื่อนรัก อยากเปิดหูเปิดตาโลกกลางคืน อยากเห็นแสงสีที่สำคัญอยากเมาเป็นบ้าเลยวะเพื่อนและที่สำคัญอยากนอนกับผู้ชาย ห่างเหินมานานแล้ว อายุขึ้นเลข 3 แล้ว ยังหาสามีเป็นตัวเป็นตนไม่ได้เลย”หญิงสาวพูดพลางหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนั้น “เอาจริงเหรอะวะเมี่ยง นี่พูดจริงหรือพูดเล่นที่บอกกับฉันเมื่อกี้”หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปเพื่อความแน่ใจในสิ่งที่เพื่อนพูด “ฉันพูดจริงแต่แกไม่ต้องห่วงหรอก แค่ไปเที่ยวเฉยๆ เปิดหูเปิดตาตัวเอง แกเองก็เหมือนกันก็ต้องรู้จักเปิดโลกทัศน์บ้างนะจะได้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าพัฒนากันไปถึงไหนกันแล้ว...ไปเหอะ...อาบน้ำแต่งตัวจะได้ไปเที่ยวกัน ฉันมีชุดมาพร้อมด้วยเว้ย”เมี่ยงเอ่ยพร้อมตบมือเข้าที่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ซึ่งภายในนั้นมีเสื้อผ้าและเครื่องสำองค์สำหรับการออกไปเที่ยวของเธอในค่ำคืนนี้ “โอโห่เตรียมมาพร้อมเลยเหรอ....ถ้าฉันไปกับแกคืนนี้ ยายรุ้งก็จะอยู่กับป้าสาลี่แค่สองคน”ปานวาดเอ่ยย้อนแย้งออกมา “แกจะไปคิดอะไรมากวะไอ้วาด ปกติยายรุ้งก็อยู่กับป้าสาลี่ ที่แกจ้างมาเฝ้าและคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาตอนแกไม่อยู่ไปทำงานไม่ใช่เหรอ แตกต่างแค่ตอนนี้แกจะไปเที่ยวกับฉันไม่ได้ไปทำงานและที่แตกต่างอีกอย่างคือ ฉันชวนแกไปเที่ยวกลางคืนเท่านั้นเอง ...จริงไหม”แม่เพื่อนสาวหุ่นอวบอธิบายให้เพื่อนรักฟังก่อนจะคว้าข้อมือลากเพื่อนเลิฟเข้าบ้านทันที “คิดอะไรอยู่หว้า..รีบเข้าบ้านเหอะราตรีนี้นางเมี่ยงขอลุย” ร่างระหงถูกเพื่อนรักลากเข้าบ้านเพื่อทำการแปลงโฉมออกท่องราตรีในค่ำคืนนี้ หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพราะล่วงรู้นิสัยเพื่อนรักดี ก่อนจะเดินตามเข้าไปในบ้านอย่างว่าง่ายเพื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวออกไปเป็นเพื่อนท่องราตรีกับแม่ตัวเมี่ยงหุ่นอวบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม