3

1504 คำ
“ป่วยอยู่ยังจะออกแรง” จริงๆ เขาก็แข็งแรงขึ้นมากแล้วถ้าไม่นับอาการปวดหัวที่รุนแรงเป็นบางครั้ง “บอกว่านอนเฉยๆ หมายถึงให้หยกทำไง” เขาเรียกชื่อเล่นเธอเหมือนจะให้ชินปาก เธออมยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร แต่ปีนขึ้นไปนั่งใกล้ๆ เขา พิมพ์รดาลูบไล้อกกว้างของเขาไปมา แล้วริมฝีปากสั่นระริกก็ประทับจุมพิตกับริมฝีปากหยักหนา สุริยันต์จับท้ายทอยของเธอเอาไว้ แล้วบดจูบเธออย่างเร่าร้อนดูดดื่ม พิมพ์รดาถอนริมฝีปากออกห่างพลางหอบหายใจสะท้าน มือนิ่มค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าของเขาออก เธอก้มลงลามเลียอกกว้างที่เต็มไปด้วยเส้นขน ดูดยอดอกสีเข้มของเขาเบาๆ จนคนใต้ร่างถึงกับครวญครางไม่เป็นภาษา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้เขาหลับตารับมันอย่างเต็มอกเต็มใจ มันคุ้นเคยจนอบอุ่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนิทสนม ปากนุ่มแทะเล็มไปเรื่อยๆ ก่อนจะตวัดเลียที่หน้าท้องแข็งแกร่ง เธอลูบเบาๆ ทำให้เขาครางอย่างต่อเนื่อง แขม่วหน้าท้องเมื่อเธอดึงกางเกงออกไปจากสะโพกสอบ เขายกสะโพกสอบให้เธออย่างไม่เกี่ยงงอนจนท่อนล่างเปลือยเปล่า กลิ่นหอมจางๆ ของเธอทำเอาเขาอารมณ์คุกรุ่นรุนแรง มือของเธอลูบไล้แก่นกายชายอันองอาจ มันทำให้เขาตื่นตัวอย่างรุนแรง สุริยันต์เกร็งไปทั้งตัว เขาผงกศีรษะขึ้นมองก็เห็นว่าเธอกำลังรูดรัดแก่นกายของเขาไปมาเบาๆ แต่เร้าอารมณ์ยิ่งนัก สุริยันต์อ้าปากหอบสะท้านเมื่อเธออ้าอมดูดรัดท่อนกายของเขา เธอขยับใบหน้าดูดจนแก้มตอบ ก่อนจะลากลิ้นสีแดงสดไปกับสัดส่วนความเป็นชายที่เริ่มแข็งขึงมากกว่าเดิม เรียวลิ้นชุ่มฉ่ำของเธอแตะเลียส่วนปลายของความแข็งแกร่ง ใบหน้าของสุริยันต์กระตุก ความวาบหวามที่คุ้นเคยทำเอาเขาร้องครางไม่เป็นภาษา เธอขยับปากสวมครอบดูดรัดและลามเลีย มือน้อยรูดรัดเป็นจังหวะ ไม่นานก็ได้ยินเสียงครางหนักๆ ที่ผ่อนออกมาไม่ขาดปากจากเขา “ไม่ไหวแล้ว” เขาบอกแค่นั้นก่อนดึงใบหน้าของเธอออกห่างจากแก่นกายชาย มือหนากุมใบหน้าของเธอดึงมาหาตัวก่อนจะบดจูบอย่างดูดดื่ม พิมพ์รดาค่อยๆ ขยับกายเข้าไปหาเขา ตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนบางเบา เพียงแค่แหวกเป้ากางเกงในตัวน้อยออกไปก็สามารถสอดเสียบเรือนกายเข้าหากันได้แล้ว มือหนารูดรัดแก่นกายอย่างรอคอย เขาครางเมื่อเธอเลื่อนมือมากอบกุมและขยับเบาๆ กายสาวชุ่มฉ่ำค่อยๆ กดคลึงลงไปหาอย่างเนิบช้าแต่สุดแสนเสียวซ่าน ซอกกายสาวค่อยๆ ดูดกลืนความเป็นชายเข้าไปจนหมดสิ้น “อ๊า...” สองเสียงครางพร้อมกันเมื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว พิมพ์รดาที่อยู่ในชุดนอนสุดเซ็กซี่งบางเบานั่งทาบทับอยู่บนเรือนกายของเขา เธอกดมือกับหน้าท้องแกร่ง เผยอปากน้อยร้องครางเบาๆ ด้วยความเสียวซ่าน “จริงๆ ตั้งใจจะมานอนด้วยใช่ไหม” คนรู้ทัน เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เขาก็หัวเราะเบาๆ จับมือของเขามาลูบไล้หน้าท้องนูนๆ ของเธอ สุริยันต์ทำท่าจะดึงมือหนีแต่เขาก็ชะงักวางทาบเอาไว้แบบนั้น ความรู้สึกของเขามันช่างประหลาดล้ำในยามที่ได้สัมผัสหน้าท้องของเธอ “ใส่ชุดนอนมาขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ขย่มนี่ถือว่าผิดปกติมาก” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี ความอบอุ่นอ่อนหวานกำลังสวมครอบสอดเสียบอยู่กับความเป็นชายไม่ยอมล่าถอย “ความจำเสื่อมแล้วยังปากร้ายอีกนะคะ อื้อ...” เธอเริ่มขยับกายเสียดสีกับท่อนเนื้อของเขา กายแกร่งที่ผลุบเข้าผลุบออก ทำเอาร่องสาวฉ่ำเยิ้มจากน้ำหวานชุ่มฉ่ำที่ชโลมไล้ความเป็นชายตลอดกาย “ท้องแล้วทำกันท่านี้น่าจะไม่กระเทือนลูกในท้องนะ” เขาพูดเหมือนปรึกษาหารือ การมีเซ็กซ์กับเธอมันช่างสุดแสนวิเศษ เขาขาดเซ็กซ์มานานแค่ไหน คงตั้งแต่ป่วย สุริยันต์จำได้ว่าตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเขายังไม่เคยมีเซ็กซ์กับภรรยาจอมยั่วของตัวเองเลย สายตาของเธอมันทำให้เขาร้อนรุ่มทุกครั้งที่ได้สบ “จะทำกันท่านี้จนคลอดเลยเหรอคะ” เธอประชด แต่เขาเอาจริง “อือ... เป็นผัวเมียกันไม่นอนด้วยกันถือว่าแปลก” “ไม่ได้ว่าอะไรหรอกค่ะ อย่าไปนอนกับอีหนูก็แล้วกัน” “นอนกับหยกคนเดียว กับอีหนูไม่เอา” “ให้มันแน่ค่ะ” เธอพูดแต่แอบอมยิ้มอย่างพึงพอใจ “เมื่อก่อนไม่รู้ แต่ตอนนี้รู้แน่ๆ ว่าไม่ทำ” เขาพูดแล้วใบหน้ากระตุกเมื่อเธอตอดรัดแก่นกายแกร่ง พิมพ์รดาขยับกายโยกคลอนไปเรื่อยๆ ขณะจับมือของเขามาสัมผัสกับหน้าท้องนูนไม่ยอมให้ละห่าง “เหมือนลูกจะดิ้น” จู่ๆ เขาก็พูดอย่างตื่นเต้น เธอส่ายหน้าไปมา สีหน้าเสียวซ่าน ซู้ดปากเบาๆ “เขาคงหาว่าเราสองคนลามกค่ะ” “อ้าว...” เขาทำหน้าเหลอหลา เธออมยิ้ม ขย่มร่างเร็วขึ้นแต่ไม่กระแทกรุนแรง พร้อมร้องครางเสียงหลง “เราหยุดเรื่องลูกดิ้นกันก่อนนะ” ได้ยินเขาพูดแบบนั้นเธอก็หลุดหัวเราะเบาๆ ออกมา เขาครางเสียงหนักเลื่อนมือไปกุมสะโพกผายของเธอเอาไว้ บังคับจังหวะก่อนจะพากันไปถึงจุดสุดยอดอย่างรุนแรง “เฮีย” พิมพ์รดาเรียกเขาเสียงหวานหลังจากผ่านพ้นความสุขซ่าน “ว่าไง” เขาเอ่ยถามคนที่นอนตะแคงอยู่ในอ้อมแขน มือหนาถูกจับให้เลื่อนไปลูบไล้หน้าท้องของเธอเบาๆ “ถ้าลูกคลอดออกมา เฮียจะรักลูกไหม” “ทำไมถามแบบนั้นล่ะ” เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ผงกศีรษะขึ้นมองคนที่อยู่ในอ้อมแขน “หยกกลัวเฮียไม่รักลูก” “คนบ้าที่ไหนไม่รักลูกของตัวเอง” “คนบ้าแบบเฮียนั่นแหละ” “เจริญนะ ด่าผัวตัวเองว่าบ้า” เธอหัวเราะเบาๆ ในขณะที่เขาทำหน้าบึ้ง “ถ้าเฮียไม่รักลูก หยกจะพาลูกหนีไปเลย” “ดูละครน้ำเน่าเยอะเกินไปหรือเปล่า ฉันจะไม่รักเพราะมันเป็นลูกชู้นี่แหละ” เขาพูดขึ้น “ลูกเฮียนั่นแหละ ทำเองกับมือ” เธอทำเสียงขึ้นจมูก “ฉันทำลูกกับมือเหรอ นึกว่าทำกับ...” “เฮียน่ะ!” พิมพ์รดาค้อนเสียวงใหญ่ ไม่ยอมให้เขาพูดต่อจนจบ “แพ้ท้องไหม” เขาเอ่ยถาม อยากรู้ว่าเธอมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง “นิดหน่อยค่ะ แค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น เดี๋ยวนี้ไม่แพ้อะไรเลย หยกชนะทุกอย่างกินจนอ้วนเป็นหมูแล้วเห็นไหม” อยู่ด้วยกันเขาก็เห็นว่าเธอทำอาหารรับประทานเอง ถึงแม้จะจำอะไรไม่ได้แต่เธอก็คือภรรยาที่ดีคนหนึ่งสำหรับเขา พิมพ์รดานึกขอบคุณเขาในใจ สุริยันต์ในยามนี้เหมือนสุริยันต์เมื่อหลายปีก่อนที่รักและเอ็นดูเธอมากๆ จริงๆ เขาก็ไม่เคยปฏิเสธว่าไม่รักเธอ แต่เพราะหน้าที่การงานและความเคร่งเครียดของเขาทำให้เธอพลอยเครียดตามไปด้วย ช่วงเวลานี้เธอจึงรู้สึกว่าการอยู่กับเขามันมีความสุขเหลือล้น หากเขาจำอะไรขึ้นมาได้ เธอคิดว่าจะขอให้เขาล้างมือจากวงการไปอยู่กับเธอเงียบๆ ใช้เงินที่มีมากมายมหาศาลในที่สงบๆ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก เธอขบคิดเรื่องนี้ซ้ำๆ คาดหวังและเผื่อใจเอาไว้พอสมควร พอคิดว่าเขาอาจะไม่ยอมก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาอีก พลอยทำให้หงุดหงิดใส่เขาไปด้วย “คนท้องนี่อารมณ์แปรปรวนแบบนี้บ่อยเหรอ” เขาเอ่ยถามขึ้นในวันหนึ่ง การออกไปไหนไม่ได้ทำให้เขาต้องหาอะไรทำคลายเครียด เธอบอกว่าโดนตามฆ่าอยู่ขอเวลาอีกสักพัก ในขณะที่เขาแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ดีที่ยังมีอะไรให้ทำ ที่สำคัญก็คือร่างกายของเขากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง มีเพียงแค่ความทรงจำเท่านั้นที่มันยังคงรางเลือนและจำอะไรยังไม่ได้ หน้าท้องของเธอนูนขึ้นมากว่าแต่ก่อนมาก จากคนท้องห้าเดือนเป็นหกเดือนและเจ็ดเดือน ใบหน้าของเขาหายเกือบเป็นปกติแล้ว ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทาง เขาหันมาออกกำลังกาย ว่ายน้ำ และดูหนังฟังเพลง บางทีก็ช่วยเธอทำอาหาร มันเลยทำให้หายฟุ้งซ่านไปได้มาก “เปล่าค่ะ หยกแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” บางทีก็สุขบางทีก็ทุกข์ สุริยันต์เป็นผู้ชายในชีวิตคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกทั้งทุกข์ทั้งสุขในเวลาเดียวกัน “คิดเรื่องอะไร” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม