บทนำ
เล่าย้อนกลับไปถึงเมื่อสามเดือนก่อนที่ผมจะตาย แม่ของผมแต่งงานกับคุณเคลวิน นักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่แม้อายุเยอะแล้วแต่ก็ยังหล่อลากไส้ชนิดที่ขนาดผู้ชายเห็นยังอ่อนระทวย ผมเลยต้องย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเขา แม่กับสามีใหม่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันราบรื่นมีความสุขดี
แต่ในวันที่ผมสอบติดมหา’ ลัย กำลังจะเอาข่าวลงมาบอกคุณแม่ สาวใช้นางหนึ่งก็ลุกขึ้นมาเปิดเผยความชั่วช้าทุกอย่างของคุณแม่ภายในวันเดียวราวกับละครหลังข่าว
หล่อนบอกว่าคุณแม่ยักยอกเงินบริษัทและแอบเอาเครื่องเพชรเก่าแก่ของตระกูลคุณเคลวินไปขาย เท่านั้นไม่พอ ยังสั่งให้คนไปรุมทำร้ายหลานชายบุญธรรมสุดที่รักของคุณเคลวินจนปางตายอีก ซึ่งผมสงสัยมากว่าป้าแกเป็นคนใช้หรือโคนัน ทำไมถึงรู้ดีไปหมดทุกอย่าง
แต่สิ่งที่ป้าแกรู้ดันเหมือนจะเป็นความจริง คุณแม่ของผมกรีดร้องออกมาสุดเสียงเหมือนคนเสียสติ เธอคว้ากระบอกปืนและเหนี่ยวไกเข้าหาตัวเองต่อหน้าต่อตาผม...
ผมที่เพิ่งปรินต์ใบประกาศผลสอบมา ยืนชะงักค้างอยู่ตรงบันไดขั้นบนสุด ร่างทั้งร่างราวกับถูกตรึงอยู่กับที่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ ดวงตาใต้กรอบแว่นสุดเชยเบิกกว้างมองร่างของคุณแม่ทรุดลงจนหัวกระแทกพื้น
วินาทีนั้นเหมือนแสงสว่างสาดเข้าใส่หน้า ผู้ชายใบหน้าหวานหยาดเยิ้มในชุดคนไข้บังคับรถเข็นเข้ามาด้วยน้ำตาคลอหน่วย เขาก็คือ ‘เจ้าจันทร์’ หลานชายบุญธรรมสุดที่รักของลุงเคลวินที่ถูกคุณแม่สั่งให้คนรุมทำร้าย ด้วยรูปร่างหน้าตา บุคลิก นิสัยและเรื่องราวในชีวิต หากเปรียบกับนิยายเขาก็คือนายเอกนั่นแหละ
“อย่าทำอะไรคุณหญิงเลยครับ ฮึก ผมไม่ถือโทษโกรธเธอ” เขาร้องไห้โฮพร้อมกับหันหน้ามาทางผม
ลูกชายทั้งสองของลุงเคลวิน ‘คิง’ และ’ ไคน์’ พี่ชายต่างสายเลือดของผมดันหันขึ้นมาสบตากับผมพอดี ด้วยความเคียดแค้นที่เห็นเมียตัวเองเจ็บปางตายเพราะคำสั่งร้าย ๆ ของคุณแม่ เขาเลยยกกระบอกปืนขึ้นและลั่นไกใส่ผมทันที...
ปัง!
เฮือก
“พูลูก ตื่นได้แล้ว วันนี้ย้ายเข้าบ้านคุณเคลวินนะ”
ผมย้อนกลับมาเมื่อสามเดือนก่อน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นั้น...
วันนี้เป็นวันที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านสามีใหม่ของคุณแม่ ซึ่งที่นั่นคือจุดเริ่มต้นโศกนาฏกรรมของผมกับเธอ
“ไม่ไปได้ไหมแม่”
“ไม่ไปได้ไงลูก เราคุยกันเรียบร้อยแล้วนะ แม่ไปเก็บของที่อีกห้องก่อน กลับมาต้องพร้อมล่ะ”
“ครับ ๆ ผมขอเวลาคิดแป๊บ”
ไม่สิ ผมขอเวลาทำใจแป๊บ...
ผมพยายามควบคุมสติไม่ให้ฟุ้งซ่านไปกับเรื่องที่เจอมา มันไม่ใช่ความฝันแน่นอนเพราะภาพและเสียงทุกอย่างชัดเจนเสียขนาดนั้น ทั้งเสียงกรีดร้องของคุณแม่ที่ยังดังชัดเจนอยู่ในโสตประสาท เลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้น ยังจำได้ติดตา
ผมเอามือตบ ๆ แก้มตัวเองเพื่อเรียกสติ ในเมื่อย้อนเวลากลับมาแล้วย่อมแสดงว่าเหตุการณ์นั้นมันยังไม่เกิดขึ้น แล้วอีกอย่าง ด้วยความที่ผมเพิ่งรู้ความจริงเอาวันสุดท้ายก่อนตาย ความผิดของคุณแม่ลึกตื้นหนาบางเป็นยังไงผมก็ไม่รู้ เรื่องราวจะดำเนินไปแบบเดิมหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ หากผมเปลี่ยนความคิดที่จะยักยอกเงินของคุณแม่ไม่ได้ และทุกอย่างมันเป็นแบบเดิมจะทำยังไงล่ะ?
คิดสิ คิด!
โอ๊ยยยยย
ผมทึ้งหัวตัวเองเพราะความคิดตีกันไปหมด ชีวิตสดใสในรั้วมหา’ ลัยของผมต้องจบลงเพราะป้าสาวใช้โคนันนั่นคนเดียว เอ้อ ไม่สิ เพราะไอ้พี่ชายสองคนนั้นต่างหาก พวกเขาไม่สืบหาความจริงและไม่ถงไม่ถามเรื่องราวเลยสักคำ ไม่ฉุกคิดเลยแม้แต่นิดว่าคำพูดของแม่บ้านคนนั้นไม่สมเหตุสมผลเลย
อยากจะบอกว่าสามเดือนที่อยู่ที่นั่น ผมไม่เคยคุยกับพวกเขาเลยสักครั้ง แต่มีครั้งหนึ่งที่ลงมากินน้ำข้างล่างก็ดันเจอทั้งคู่กำลังโซเดมาคอมกับเจ้าจันทร์อยู่ในห้องครัว
“อ๊ากกก ไม่รู้แล้วโว้ย”
ผมที่กำลังก้มลงหยิบกางเกงในยัดใส่กระเป๋าเดินทางพลันชะงักกับความคิดหนึ่งที่เด้งเข้ามาในหัว พวกเขาทั้งคู่ดูหวงน้องไม่แท้อย่างเจ้าจันทร์มาก ถ้าผมไปเสนอหน้าขอเป็นน้องของพวกเขาบ้างล่ะ?
ไม่ใช่ไปเป็นเมียแบบเจ้าจันทร์นะ หมายถึงไปเป็นลูกน้อง เลียแข้งเลียขาประจบสอพลอพวกเขา ไม่แน่ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาผมอาจจะมีชีวิตรอดก็ได้ เพราะถึงไม่เคยคุยแต่ก็พอรู้ว่าพวกเขาเป็นหัวหน้าที่มีลูกน้องหลายร้อยหลายพันคน ถ้าผมไปเป็นหนึ่งในนั้นก็อาจจะซื้อความเชื่อใจของเขาได้ วินาทีที่ลั่นไกเขาอาจจะชะงักสักนิด...
เอาละ ฉลาดมาก ไอ้หมีพู
ผมต้องเปลี่ยนเรื่องราวทั้งหมดให้ได้!
ปฏิบัติการเลียแข้งเลียขาพี่ชายทั้งสองเริ่มขึ้นตั้งแต่บัดนี้!
“กูไม่นับมึงเป็นน้อง แล้วก็เลิกเดินตามกูสักทีไอ้เด็กเวร”
ฮือ (╥﹏╥)