หลังจากโค้งคำนับทักทายแล้วไป๋หรงก็เอ่ยขึ้นน้ำเสียงกึ่งล้อเลียนนิดหน่อย “บังเอิญอีกแล้วสินะคะ ไม่ทราบว่าวันนี้เป็นเรื่องบังเอิญแบบใด” สำหรับไป๋หรงการบังเอิญเจอกันกับอี้เฟยหยาง เธอเริ่มคุ้นชินเสียแล้ว ไม่ว่าจะไปไหนอย่างไรก็จะบังเอิญเช่นนี้ อยู่เสมอ “คุณไป๋หรงพูดเช่นนี้ บทพูดเตรียมมาผมยังไม่ทันได้เอ่ยเลย” ใบหน้าใสของอี้เฟยหยางเริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้น . เหล่าบอดี้การ์ดรีบก้มหน้าลง ไม่อยากเห็นสีหน้าเจ้านายตอนโดนหญิงสาวหยอกล้อ “เช่นนั้น คำพูดเมื่อกี้ ฉันขอถอนคำพูดละกันค่ะ เอาล่ะ เริ่มต้นใหม่ได้” เหล่าบอดี้การ์ดต่างคิดในใจ ไม่ทันแล้วมั้งครับท่าน โดยที่ไม่คิดว่าเจ้านายตนเองจะบ้าจี้ เมื่อได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง อี้เฟยหยางจึงตั้งใจเต็มที่ กลับไปวางมาดเข้มขรึมเอ่ยถามขึ้น “สวัสดีครับ คุณไป๋หรงบังเอิญจังเลย ผมเอานาฬิกามาซ่อม คุณมาซื้อนาฬิกาหรือครับ” ตั้งแต่ได้สไตล์สิสช่วยดูแลการแต่งกาย