ตอนที่ 12 ตรงข้ามความรู้สึก

1291 คำ
เธอนิ่งไปพักใหญ่ จ้องมองเขาสีหน้าตระหนก หมายความว่ายังไงพักในห้องด้วยกันอย่างนั้นเหรอ บ้ากันไปใหญ่แล้ว ไม่ได้เด็ดขาด หากความลับแตกขึ้นมาต้องแย่แน่ๆ “นี่คุณพูดจริงเหรอ?”เธอถามย้ำอีกครั้ง “ก็ใช่นะสิ” “คือ... คือผมไม่ค่อยชอบนอนกับคนอื่น ชอบนอนคนเดียว” เขาเลิ่กคิ้วมองสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน เพราะจงใจพักห้องเดียวกับเอสอยู่แล้ว เขาต้องการล้วงความลับเกี่ยวกับน้องสาว ก็คนมันอยากรู้ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ “ไม่มีห้องอื่นแล้วล่ะครับ ช่วงนี้แขกที่โรงแรมเยอะ”เขาอ้าง ริมฝีปากบางเม้มเมื่อถูกขัดใจ ให้ตายสิจะทำยังไงดี ไซน์จ้องมองริมฝีปากกำลังเม้มเข้าหากัน ทำไมมันช่างเย้ายวนเหมือนเชิญชวนให้จุมพิต แล้วหัวใจต้องเต้นแรงมือสั่นแบบนี้ด้วยหรือ นี่เขาบ้าไปแล้วใช่ไหม ถึงได้คิดอุตริ ชายหนุ่มรีบสะบัดไล่ความคิดนี้ออกไป คงเพราะช่วงนี้งานยุ่งมากเลยสับสน ต่อไปควรตั้งสติให้ดีกว่านี้เสียแล้ว “เราอาบน้ำกันก่อนดีกว่า เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ชายหนุ่มเสนอ “ก็ได้ครับ”เธอตอบเขาน้ำเสียงสั่น “ว่าแต่... คุณจะอาบน้ำกับผมไหม?” “ไม่เป็นไรผมไม่อาบ” คนตัวเล็กรีบปฏิเสธทันที “ไม่อาบก็ไม่เป็นไรครับ ผมไปอาบเองก็ได้” ไซน์บอกแล้วสังเกตสีหน้าอีกฝ่าย ทำไมเอสถึงได้แสดงอาการราวกับกลัวเขาหนักหนาด้วย หญิงสาวนั่งผ่อนคลายบนเตียงอยู่พักใหญ่ ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำร่างบางรีบชันกายลุกขึ้นทันที ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำในลักษณะผ้าขนหนูพันรอบกายเพียงผืนเดียว เอลี่นั่งอ้าปากค้างเมื่อแผงอกแกร่งกำลังเผยต่อสายตาอยู่ แม้ไม่อยากจะมอง ทว่าสายตาไม่ยอมละกลับเลื่อนลงมาที่เอวสอบ หญิงสาวชะงักหน้าแดงซ่านราวกับลูกตำลึงสุกรีบเมินหน้าหนีจากภาพตรงหน้า ไซน์เปิดตู้เลือกเสื้อผ้าตนเองออกมา สะบัดผ้าขนหนูที่พันรอบกายออกอย่างไม่อาย เอลี่เมินมองไปทางอื่นได้พักใหญ่จึงตัดใจหันกลับมาเพราะคิดว่าเขาเสร็จแล้ว แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าเล่นเอาคนมองแทบร้องกรี๊ดออกมา ดีทีเห็นเพียงด้านหลังไม่เช่นนั้นคงหัวใจวายตายเป็นแน่ หญิงสาวรีบลุกยืนเดินตัวลีบน้ำตาปริ่มแทบไหล ก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าติดมือเผ่นหนีเข้าห้องน้ำไป ไซน์เหลือบมอง คิดในใจด้วยความสับสน สวรรค์... ถ้าเธอเป็นหญิงที่หมายปองเขาคงมีความสุขไม่น้อย ร่างบางเปิดประตูห้องน้ำเมื่อจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย เห็นเขากำลังนั่งทำงานอ่านเอกสารสีหน้าเคร่งเครียด เอลี่เผลอมองด้วยความแปลกใจเพราะไม่นึกว่าเขาจะมีด้านนี้ผสมอยู่ด้วย หญิงสาวค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำอย่างเงียบเฉียบ เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันมามองเธอ “จะนอนแล้วเหรอ?”เขาถาม หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย “ใช่” “งั้นนอนก่อนได้เลยเอส”เขาบอก เธอแทบอยากสลบตรงนี้เลย แค่คิดว่าต้องนอนร่วมเตียงก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อย่างบอกไม่ถูก “คือ... ผมขอนอนที่โซฟาก็แล้วกัน ผมไม่ชอบนอนร่วมเตียงกับใคร” หญิงสาวพยายามต่อรอง “ทำไมล่ะ เราก็ผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นเป็นไร” “ผมนอนดิ้นน่ะครับ”หญิงสาวรีบหาข้อแก้ตัว “ผมก็ดิ้นเหมือนกัน ไม่ต้องกังวลหรอก” ใบหน้าเรียวสวยเริ่มซีดเผือด รู้สึกประหม่า จะหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี เกิดมาไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายสักครั้ง จะมีก็แค่ตอนถ่ายละครเท่านั้น แถมเวลานั้นผู้กำกับและทีมงานก็เยอะแยะ ไซน์เหลือบมองใบหน้าอีกคน เขาเห็นท่าทางเป็นกังวลรู้สึกเป็นห่วง หรือเอสอาจไม่ชอบการนอนร่วมเตียงกับคนอื่นจริงๆ “ถ้าอย่างนั้นคุณนอนเตียงเถอะ เดี๋ยวผมนอนโซฟาเองตกลงไหม”เขาตัดปัญหา “จริงเหรอ!”หญิงสาวร้องออกมาน้ำเสียงตื่นเต้น “ครับ คุณนอนก่อนได้เลย” หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ไซน์จ้องมองรอยยิ้มนั้นราวกับต้องมนต์สะกด มันช่างดูสดใส เหมือนเขากำลังเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องตาต้องใจกำลังส่งยิ้มมาให้ พอนึกขึ้นว่าตนกำลังคิดอะไร จึงสะบัดไล่มันออก ชายหนุ่มรีบปรับสีหน้าตนเองขบกรามแน่น เขากำลังเป็นบ้าอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้เผลอใจไปกับผู้ชายบ่อยนักไม่เข้าใจ เอสคือผู้ชายและเป็นพี่ชายของเอลี่ เขาไม่ควรมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ร่างบางรีบเข้าไปขดตัวในผ้าห่มผืนหนาหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจึงผล่อยหลับไป ไซน์อ้าปากหาวหลายครั้ง สายตาเขาเริ่มเบลอเพราะเวลาล่วงเลยมามากแล้ว ชายหนุ่มบิดกายเล็กน้อยก่อนเดินออกจากโต๊ะทำงานราวกับคนละเมอแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง คว้าผ้าห่มดึงรั้งมาคลุมกายบดเบียดเข้าหาร่างนุ่มนิ่มอย่างไม่รู้ตัว เหมือนฝัน... นี่เขากำลังนอนกอดผู้หญิงอยู่ใช่ไหม กลิ่นกายหอมกรุ่นลอยเข้ามา ผิวเนื้อก็นุ่มเนียนราวกับแพรไหม เขากำลังฝันหรือเปล่า ชายหนุ่มรำพึงกับตนเองจนเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ ลมหายใจอุ่นรินรดพวงแก้มนวล เอลี่เปิดเปลือกตารู้สึกมึนงงเมื่อสายตายังไม่รับแสงแห่งรุ่งอรุณ เมื่อคืนรู้สึกหลับสบายที่สุด รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกเช่นนั้น เมื่อลืมตาขึ้นสายตาปรับรับแสงวันใหม่วงหน้าใครบางคนอยู่ไม่ห่างท่อนแขนของเขากำลังโอบรัดไม่ห่าง ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอดวงตายังปิดสนิท หญิงสาวจ้องมองใบหน้าตาเขม็ง ริมฝีปากสั่นระริกกายสาวสะท้าน อยากจะกรีดร้องออกมาแต่กลับทำไม่ได้ จึงกัดริมฝีปากตนเองจนห่อเลือดเพื่อระงับอารมณ์โกรธที่กำลังปะทุ แม้จะโกรธมากเพียงใด แต่ทว่าเธอกลับมีอารมณ์อื่นเข้ามาแทรก ในยามค่ำคืนที่ผ่านมาเหตุใดถึงรู้สึกอบอุ่นเสียเหลือเกิน หรือเพราะอ้อมกอดนี้ เธอเผลอพิศมองวงหน้าหล่อเหลา สุดท้ายมือบางเลยเอื้อมไล้ใบหน้าเขาราวกับละเมอ เครื่องหน้าคมเข้มถูกมือบางเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากบางเผยอแย้มเมื่อรู้สึกสากระคายกับเคราที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ เธอเพลิดเพลินจนหลงลืมไปว่าตนเองไม่ควรทำเช่นนี้ เปลือกตาของอีกคนเปิดขึ้น ดวงตาสีอำพันจ้องมองดวงตาสีดำสนิทของอีกคน ไซน์ชะงักงันด้วยความตกใจระคนสงสัย ไม่คิดว่าเขาจะใกล้ชิดผู้ชายมากขนาดนี้ วงแขนกำลังโอบกอดร่างของผู้ชายอยู่ แต่ทำไมถึงได้รู้สึกราวกับว่าตนเองโอบกอดหญิงงาม เอลี่สบตาเขามือบางยกขึ้นผลักออก ชันกายขึ้นนั่งใจสาวสั่นระรัว เธอบ้าไปแล้ว ทำอะไรลงไปทำไมถึงได้ทำแบบนั้น หญิงสาวมึนงงสับสนกับตัวเองพักใหญ่ จนเขาลุกนั่งจ้องมองเธอคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เพราะไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไป “เดี๋ยวเราไปอาบน้ำ จะได้ไปประชุมกัน”ไซน์บอกน้ำเสียงราบเรียบเพื่อให้อีกคนสบายใจ “อืม”เธอตอบรับเขาเสียงเบาไม่แม้แต่จะมองหน้า หัวใจเธอตอนนี้ยังเต้นแรงไม่หาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม