บทที่ 2 ขอโทษกับเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้น

990 คำ
เมื่อหญิงสาวทำธุระส่วนตัวเสร็จก็แอบออกมาเดินเล่นที่ริมระเบียงห่างจากห้องน้ำประมาณไม่ไกล วันนี้คือวันที่พระจันทร์เต็มดวง แม้จะมีแสงไฟแต่ก้ยังมองเห็นดาวดวงเล็กๆ แสงจันทร์กระทบบนผิวน้ำในสระมองแล้วก็เพลิดเพลิน เธอคิดถึงมารดาเหลือเกิน ท่านจากเธอไปแล้วพร้อมทิ้งจดหมายเอาไว้ให้เธอฉบับหนึ่ง ใจความในจดหมายบอกว่าเธอไม่ใช่คนไร้ที่พึ่ง มารดาให้เธอย้ายมาอยู่กับภวินท์และคอยช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่คนอย่างเธอจะสามารถทำได้ “อะ แฮ่ม” “อะ เอ่อคุณ...” พัทธ์ธีราจ้องมองผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งที่สวมเดรสสีแดงไม่วางตา นี่หล่อนรู้จักเธอด้วยหรอ “ฉันชื่อเนย เป็นหลานของเจ้าสัวนนทิเวศ” หญิงสาวแนะนำตนเองให้อีกฝ่ายรู้จักทันที คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะทำตาโตเมื่อรู้ว่าเธอเป็นใครแต่มันกับไม่ได้เป็นอย่างนั้น “ค่ะ ชื่อไม่คุ้นหูเลยนะคะ” หญิงสาวตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบ คนในแวดวังสังคมแบบนี้เธอไม่รู้จักจริงๆอย่างที่เอ่ยออกไป “นังบ้านนอก แกไม่รู้จักคุณปู่ขอฉันได้ยังไง รู้ไหมว่าตระกูลผู้ดีอย่างฉันรวยแค่ไหน” “ก็ฉันไม่รู้จักจริงๆนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับแววตาใสซื่อจนอีกฝ่ายคิดว่าเธอแกล้งทำเพื่อยั่วโมโห “มันจะมากไปแล้วนะนังบ้า” เนยไม่เคยเจอใครกวนประสาทเท่ากับคนตรงหน้ามาก่อน เธอจึงทนไม่ไหวยื่นมือไปจิกผมสลวยของหญิงสาวทั้งที่พัทธ์ธีรายังไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นก็ตบไปที่แก้มของหญิงสาวหนึ่งทีจนขึ้นรอยที่แก้มบาง “โอ้ย เป็นบ้าหรือไง เราไม่เคยรู้จักกันคุณมาทำร้ายฉันทำไม” พัทธ์ธีราโวยวายเสียงดังเพราะคิดว่าเสียงของเธอจะทำให้เธอรอดพ้นเรื่องบ้าๆนี่สักที “ปล่อยคนของผมเดี๋ยวนี้นะ” ภวินท์ตวาดออกไปเสียงดังจนหญิงสาวต้องรีบปล่อยมือจากเส้นผมของพัทธ์ธีราอัตโนมัติ สีหน้าของชายหนุ่มเคร่งเครียดเมื่อเห็นว่าคนในปกครองโดนทำร้าย ผิดเองที่เขาดูแลเธอไม่ดี “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมต้องใช้กำลังแบบนี้กับคนของผมด้วย” พัทธ์ธีราหลบอยู่ด้านหลังของภวินท์ทันทีเมื่อเขาสาวเท้าเข้ามาใกล้ “มะ มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยค่ะหนึ่ง อย่าโกรธเนยเลยนะคะ” เนยรีบขยับเข้าไปใกล้คนตัวโตเพื่ออ้อนวอนเขา “หนูไม่เป็นไรค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะนะคะ” หญิงสาวอยากจะจบเรื่องทุกอย่างและเข้าพักบนเตียงกว้างของตนแล้วจึงยอมเจ็บตัวฟรีในวันนี้เพื่อให้เรื่องจบลงโดยเร็ว “แน่ใจนะว่าจะไม่เอาเรื่อง” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเนยเลยสักนิดเพราะคนที่เขาสนใจคือพัทธ์ธีรา “แน่ใจค่ะ ก็ถ้าเกิดว่าคุณไม่ใช่แฟนกับผู้หญิงคนนั้นก็ถือว่าไม่มีอะไรหรอกค่ะ” “ฉันโสด ใครๆก็รู้” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงดังฟังชัด เขาเป็นคนชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่บนรถเขาก็จ้องมองหญิงสาวไม่วางตาเพราะต้องการทราบว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง “เจ็บมากไหม ขอโทษที่ทำให้ต้องมาเจ็บตัว” ชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงอบอุ่น ท่าทางและกลิ่นกายของเขาทำเอาใจของหญิงสาวสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอคงอ่อนหัดเรื่องบุรุษเพศมากเกินไป “ไม่เจ็บแล้วค่ะ มันแสบๆคันๆมากกว่า ยัยป้านั่นก็อะไรไม่รู้จู่ๆก็มาทำร้ายกัน” ชายหนุ่มยิ้มขำที่หญิงสาวเรียกหลานสาวสุดรักสุดหวงของเจ้าสัวนนทิเวศว่าป้า “หัดสู้คนอื่นบ้างสิ” “หนูก็จะสู้อยู่ค่ะแต่ว่าคุณหนึ่งมาพอดี” “จะมาเป็นว่าที่เมียของฉันได้ต้องสู้คนนะ เรียกพี่หนึ่งสิ เรียกคุณมันดูยังไงไม่รู้ ฉันยังไม่อยากแก” “คิกๆ ก็ความจริงอะ เอ่อพี่หนึ่งแกกว่าที่รักตั้งหลายปีนี่คะ” เธอหัวเราะออกมาเบาๆ รู้สึกผ่อนคลายเมื่อเขาคุยเล่นกับเธอ ชายหนุ่มอายุมากกว่าเธอถึงสิบห้าพี่ เวลานี้เธออายุยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ส่วนเขาอายุย่างเข้าเลขสี่แล้ว “มันก็จริง เรียกพี่นั่นแหละดีแล้วอย่างน้อยๆก็เรียกที่บ้าน” “ตกลงค่ะ” เมื่อกลับมาถึงบ้านอบเชยก็จัดแจงทายาให้กับหญิงสาวจากนั้นก็แยกย้ายกันไปนอน ชายหนุ่มได้แต่ขบคิดอยู่ในหัวว่าการพาเธอไปออกงานแต่ละครั้งมักจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนนอกที่มารบกวนเวลาส่วนตัวของเธอมากกว่า ด้านเจ้าสัวนนทิเวศฟังหลานสาวบ่นเรื่องผู้หญิงของภวินท์อย่างตั้งใจ เขานึกสงสัยไม่น้อยว่าคนรักสันโดดอย่างภวินท์ทำไมถึงรับเด็กสาวเข้ามาอยู่ในการดูแล “ยัยเด็กนั่นมันไม่มีอะไรดีเลยนะคะคุณปู่ ดีอยู่อย่างเดียวก็คือมันอายุน้อยกว่าเนยแค่นั้นเองค่ะ เนยจะทำยังไงกับมันดีคะเนยไม่อยากให้มันอยู่กับภวินท์เลย” “เราทำอะไรไม่ได้หรอกหลานรัก ปู่เชื่อว่าอีกไม่นานภวินท์ก็คงจะเบื่อแม่หนูคนนั้น” “จริงด้วยค่ะ ภวินท์ต้องมองว่าแม่นั่นเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งแน่ๆ” “ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ก็แยกย้ายกันไปพักเถอะนะ” “ค่ะ ขอบคุณที่ปู่ทำให้เนยคิดได้ค่ะ เนยจะทำตัวดีๆให้ภวินท์เห็นว่าเนยคู่ควรกับเขามากที่สุด” “ดีแล้วลูก ไปเข้านอนเถอะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม