ก๊อกๆๆ
ก๊อกๆๆ
ใคร?
ใครมาเคาะห้อง?
แล้วมาเคาะทำไมในเมื่อฉันมาเที่ยวกับเพื่อนสองคนไม่ได้มีคนรู้จักที่ไหนนี่ หรือจะเป็นแม่บ้าน แต่ปกติเขาไม่โทรเข้ามาในห้องเพื่อติดต่อลูกค้าเหรอ?
แล้วปกติคนที่เขาสงสัยอะไรที่อยู่แค่ตรงหน้ามันจำเป็นต้องเอาแต่นั่งคิดนั่งสันนิษฐานแบบนี้ให้เสียเวลาด้วยเหรอพริกหวาน?
สงสัยก็แค่เดินไปที่ประตูแล้วส่องตาแมวดูสิวะ!
ฉันบอกตัวเองเสร็จก็เดินไปที่ประตู เดินไปประตูเพื่อส่องดูตาแมว พอส่องแล้วน้องพริกก็ตาตำปากเหมือนจะร้องโอ้โหขึ้นมาทันที
โอ้โห~ สปอนเซอร์ของทริปนี้มา มาแบบไม่ได้บอกกล่าวด้วยสงสัยจะมาเซอร์ไพรส์แฟนแน่นอน แต่แป้งหอมเพื่อนฉันอยู่ในห้องน้ำนี่นา ฉันควรเดินไปเรียกเพื่อนแล้วปล่อยให้พี่คูเปอร์ยืนรอหรือว่าเปิดเลยดี
ก๊อกๆๆ
ระหว่างที่กำลังคิดฉันก็สะดุ้งเพราะเสียงเคาะประตูที่เกิดจากคนข้างนอก คงต้องเปิดแล้วล่ะค่ะ มาเซอร์ไพรส์แน่นอนเพราะไม่บอกให้เพื่อนฉันรู้ก่อนถ้างั้นก็เปิดประตูให้เฮียแกไปเซอร์ไพรส์เมียในห้องน้ำไปเลยจ้า~
แอด~
“เอ่อ สวัสดีค่ะพี่คูเปอร์ มาได้ยังไงคะ” ฉันเปิดประตูออกไปก็ทักทายพี่คูเปอร์แบบเกร็งๆ แฟนเพื่อนนี่คะไม่ใช่แฟนเราจะให้ทักทายเซย์ไฮลั้นลาก็ไม่ใช่เรื่องนี่เนอะ
“พี่ส่งข้อความหาพริกหวานประมาณร้อยข้อความได้” พี่เขายิ้มให้ตอนที่ฉันยกมือไหว้ก่อนจะเอ่ยคำทักทายที่ไม่เหมือนทักทายสักนิดเดียวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ส่งข้อความหาพริก? อ๋อโทรศัพท์พริกแบตหมดเลยชาร์ตแบตเอาไว้น่ะค่ะ ไม่ได้เปิดเสียงด้วย ขอโทษด้วยนะคะพี่เปอร์ พี่เปอร์จะเข้ามาก่อนไหมคะแป้งหอมอยู่ในห้องน้ำน่ะค่ะเดี๋ยวพริกไปตามให้” ฉันรู้สึกว่าเสียมารยาทที่ให้พี่เขาที่เป็นคนจ่ายค่าห้องพักยืนอยู่ข้างนอกก็เลยเอ่ยปากชวน มันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรเพราะเพื่อนฉันก็อยู่ด้วย ถึงตอนนี้จะงงๆ ว่าพี่คูเปอร์เขามาได้ยังไงแต่เอาไว้เดี๋ยวค่อยถามอีกทีก็แล้วกันค่ะ
“อ้อ ดีเลยครับ ถ้างั้นพริกหวานช่วยพี่หน่อยพี่มีเรื่องจะขอร้อง” พี่เขาตอบตกลงพร้อมกับบอกฉันด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“คะ?”
“คือว่าพี่มาเซอร์ไพรส์แป้งหอม ก็เลยอยากขอให้เราช่วยพี่ด้วยการไปพักอีกห้องได้ไหมครับ” พี่คูเปอร์พูดออกมาด้วยท่าทางที่เกรงใจมาก แต่ฉันนี่ถึงกับยิ้มกว้างทันทีที่ได้ฟังเลยค่ะ ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะเรื่องแค่นี้สบายมาก~
“ได้สิคะ ว่าแต่จะให้พริกไปตอนนี้เลยไหมคะ ห้องไหนคะพี่เปอร์” ฉันตอบบตกลงทันที ไปตอนนี้เลยก็ดีนะคะยัยแป้งหอมออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอผู้ชายนั่งอยู่ในห้องคงดีใจน่าดู อิอิ
แล้วก็ไม่อยากจะคิดเลยค่ะว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น โอ้ย~ พริกหวานฟิน >//////<
“โอเคมากค่ะพี่เปอร์ ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะพริกสิคะที่ต้องขอบคุณพี่เปอร์มากๆ สำหรับที่พัก แต่เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะพริกไปรวบสมบัติแป๊บเดียวค่ะ ถ้ายัยหอมออกมาตอนนี้เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ อิอิ” ฉันรีบบอกพี่คูเปอร์ด้วยการร่ายคำพูดรัวเร็ว จากนั้นก็เดินกึ่งวิ่งเข้าไปหยิบสมบัติทุกชิ้นของตัวเองในห้องด้วยความเร็ว เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าชนิดที่มันสุมไม่เป็นระเบียบออกแนวเละไปเลยค่ะ
“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่เปอร์ ถ้างั้นเดี๋ยวพริกไปเลยดีกว่า ตามสบายนะคะ ไม่ต้องห่วงไม่ต้องเกรงใจพริก อิอิ” ฉันบอกพร้อมยิ้มกว้างและคิดว่าพี่คูเปอร์ต้องรู้ทันความคิดของฉันแน่นอนไม่งั้นไม่ยิ้มมาเลสนัยกลับมาหรอก
“ครับผม อ้อ เพื่อนพี่มาด้วยพี่ฝากให้มันดูแลเราแล้วนะ คีย์การ์ดห้องเราอยู่ที่มัน แล้วก็พวกมันยังไม่ได้กินข้าวกันเลยเราก็คงยังเหือกันใช่ไหม พี่ฝากพาพวกมันไปกินข้าวเลยนะครับ ฝากดูแลน้องด้วยนะเว้ย”
“คะ?” ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่เพราะในหัวกำลังนึกเรื่องฟินๆ แล้วเขินแทนเพื่อน พอพี่คูเปอร์หันไปบอกเพื่อนของพี่เขาที่ฉันยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครอีกนอู่ตรงนั้นก็เลยงงๆ ตามไม่ทันนิดหน่อย
“จะไปได้รึยัง” ฉันหันกลับไปหาพี่คูเปอร์เพื่อจะถามว่าเขาพูดว่าอะไร พอจะจับใจความได้ค่ะแต่กลัวฟังไม่ละเอียดเลยอยากถามใหม่ แต่พอหันกลับไปข้างหลังฉันก็มีเสียงทุ้มแต่โคตรเย็นชาเอ่ยขึ้น
“...พี่ฟาโรห์ สวัสดีค่ะ” ฉันหันกลับไปตามต้นเสียงแล้วก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง หน้าหล่อแต่เย็นชา เย็นชาชนิดที่ว่าไร้อารมณ์ให้จินตนาการว่ากำลังคิดอะไรอยู่ มองดูปราดเดียวก็รู้สึกว่าคนแบบนี้ต้องเลี่ยงออกไป น่ากลัวค่ะดูอึมครึมแบบครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดเวลายังไงก็ไม่รู้
“ครับ คีย์การ์ดห้องน้องอยู่กับพี่ จะไปรึยัง?” เขาพยักหน้ารับและก็ยังดีที่เขามีคงมีครับตามมารยาท ฉันนึกว่าจะเย็นชาจนแค่มองฉันด้วยหางตาซะอีก แต่น้ำเสียงเย็นชาชะมัด
“อ่อค่ะ ถ้างั้นพริกขอคีย์การ์ดเลยได้ไหมคะ เดี๋ยวจะไปห้องเลย” ฉันพูดไปก็เกร็งไปนะคะ ก็พอจะรู้จักพี่เขาบ้างแต่ไม่เคยคุยกัน แถมตอนนี้พี่คูเปอร์ก็ปิดประตูไปเรียบร้อยแล้ว
“...เดี๋ยวไปส่ง” พี่เขามองหน้าฉันนิดหน่อยก่อนจะพูดออกมาสั้นๆ แต่แค่แป๊บเดียวก็ทำฉันเกร็งแล้วค่ะ สายตาที่มองมาคาดเดาอะไรไม่ได้เลยก็เลยไม่รู้ว่าเขาเป็นมิตรหรือไม่เป็นกันแน่
“ขอบคุณค่ะ” บอกจะไปส่งก็ตามนั้นล่ะค่ะ ไม่สนิทกันก็เลยไม่อยากพูดอะไรให้มากความ
พี่ฟาโรห์พูดจบก็เดินนำหน้าฉันไป ฉันก็เลยลากกระเป๋าเดินตาม นอกจากเย็นชาแล้วยังไม่สนใจเลยว่าผู้หญิงสวยๆ ตัวเล็กๆ อย่างฉันจะต้องเหนื่อยแค่ไหนกับการลากกระเป๋าเนี่ย นี่ไม่ได้สำออยนะคะถือเองลากเองได้ให้แบกก็น่าจะไหว แต่เขาเป็นผู้ชายนะไม่คิดจะมีน้ำใจหน่อยเหรอ
เหอะ! รู้สึกไม่ถูกชะตาค่ะบอกตามตรง
“ถึงแล้ว” เขาเดินนำหน้าไปไม่กี่ก้าวก็หยุดอยู่ที่ประตูห้องข้างห้องเดิมที่ฉันเพิ่งขนของออกมา ยังนินทาในใจได้นิดเดียวเอง ไม่น่าล่ะใกล้แค่นี้นี่เองถึงยอมเดินมาส่ง ถ้าไกลกว่านี้คงไม่เนไปส่งหรอกท่าทางไม่น่าจะใช่คนดีมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้วนี่เนอะ
“ขอบคุณค่ะ” ฉันขอบคุณเขาพร้อมกับยื่นมือไปรับคีย์การ์ดที่เขายื่นมาให้ด้วยความเร็ว บอกตามตรงค่ะว่าฉันไม่ถูกชะตากับพี่เขามากๆ เมื่อก่อนก็เฉยๆ เพราะไม่ได้รู้จักมักจี่เป็นการส่วนตัว รู้จักเขาเพราะเขาเป็นคนดังในมหาลัยฯ หลังๆ มาก็รู้จักในฐานะเพื่อนของแฟนเพื่อน แต่ก็เท่านั้นแหละไม่ได้รู้จักกัเป็นการส่วนตัวอยู่ดีเลยแค่เฉยๆ พอได้มาพูดคุยแค่ไม่กี่ประโยคนี่อยากเลิกรู้จักเลยค่ะ ไม่ถูกชะตา!
“เดี๋ยวไอ้วายุขึ้นมา มันพักอยู่ห้องนั้น มีอะไรอยากออกไปไหนก็ชวนมันได้เพราะวันนี้เพื่อนฉันกับเพื่อนเธอคงไม่ออกมาจากห้องง่ายๆ” เขาบอกพร้อมกับชี้กลับไปทางฝั่งที่ฉันกับเขาเพิ่งเดินมา ชี้ไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามกับห้องเก่า พูดยาวๆ ก็เป็นด้วย แต่ไม่พูดคงดีกว่าเพราะโทนเสียงของเขามันโมโนโทนมาก~
เรียบ~เรียบมาก~ พูดเหมือนคนที่เกิดมาแล้วเทวดาลืมใส่ตัวโน๊ตลงไปในหลอดเสียง
แต่พี่วายุก็มาใช่ไหม ดีเลยค่ะ กับพี่วายุก็ไม่รู้จักกันหรอกเคยเห็นแค่ผิวเผินเหมือนเขาคนนี้นี่แหละ แต่ดูท่าทางจะอัธยาศัยดีมีมนุษย์สัมพันธ์มากกว่าคนตรงหน้าแน่นอน
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันพยักหน้ารับนิดหน่อยพร้อมขอบคุณ แต่จะขอบคุณมากกว่านี้ถ้าเขาหลบทางให้ฉันเดินไปเปิดประตูเข้าห้องได้สักที
“อืม” เขาพยักหน้ารับแล้วก็มองหน้าฉันต่อ มีปัญญหาอะไรกับหน้าฉันกันนะ มองอยู่นั่น จะไม่ว่าเลยค่ะถ้ามองด้วยสายตาพิศวาสสักนิด ไม่ใช่สายตาไร้อารมณ์เหมือนหุ่นยนต์ผิวนิ่มแบบนี้
“ถ้างั้นพริกขอเข้าห้องก่อนนะคะ” ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ ก็เลยตัดสินใจพูดออกไป
“โอเค” เขาตอบตกลงสั้นๆ แล้วก็ผละออกจากประตูให้ฉัน เอ่อ...อย่าเรียกว่าผละเพื่อหลีกทางเลยค่ะ เขาผละออกแล้วหมุนตัวหันหลังให้แล้วขยับไปเปิดประตูห้องฝั่งตรงข้ามฉันแล้วก็เข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับปิดประตูห้องทันทีโดนที่ไม่สนใจฉันที่ยังยืนอยู่ตรงนี้เลยสักนิด
เหอะ! คนรามีสิทธิ์จะเป็นคนเย็นชาได้นะคะแต่เรื่องมารยาทอย่างน้อยก็ควรมีเพราะมันสำคัญต่อการเข้าสังคม
เอาตรงๆ นะคะ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก หน้าหล่อหุ่นเพอร์เฟค ดีหมดยกเว้นไอ้ท่าทางเย็นชาจนดูไร้มารยาทของเขา
...เห็นอาการไม่น่าคบหาของเขาแล้วต้องบอกว่าไม่เหมาะกับการเกิดมาเป็นคนเลยสักนิด เหมาะเป็นตุ๊กตายางมากกว่า!