[ 03 ] • คนดูแล •

1429 คำ
ดารินยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความร้อนใจ ทันทีที่ได้รู้ข่าวว่ากระทิงรถคว่ำก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที “ดารินลูก กระทิงเป็นไงบ้าง!” พิงค์กับครามเมื่อได้รู้ข่าวก็รีบมาทันทีเช่นกัน “หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะน้าพิงค์ คุณหมอยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลยค่ะ” “ตายจริง รู้ว่าฝนตกหนักทำไมถึงยังขับรถกลับอีกล่ะเนี่ย” “เป็นเพราะหนูเองค่ะน้าพิงค์ ถ้าหนูกลับมากับคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่แรกพี่กระทิงก็คงไม่ต้องมาส่งหนูที่บ้าน และเรื่องแบบนี้มันก็จะไม่เกิดขึ้น” เธอพูดอย่างรู้สึกผิด “อย่าโทษตัวเองเลยลูก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ น้าเข้าใจนะลูกอย่าโทษตัวเองพี่กระทิงต้องไม่เป็นอะไร” “ค่ะน้าพิงค์” “มาหาพี่มาน้องดาริน” ฟ้าครามน้องสาวของกระทิงเอ่ยเรียกขึ้น “ไม่เป็นอะไรนะไม่ต้องร้องไห้” “พี่กระทิงจะเป็นอะไรมั้ยคะพี่ฟ้า” “ไม่เป็นอะไรหรอกนะ พี่กระทิงเก่งอยู่แล้ว” ฟ้าครามพูดปลอบโยนคนตรงหน้า “ฮึกก หนูกลัวจังเลยค่ะ” ดารินกลัวจนตัวสั่น ถึงจะไม่มีใครโทษว่าเป็นความผิดของเธอ แต่เธอก็ยังโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กระทิงเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ “ไม่เป็นอะไรนะน้องพี่” แกร้ก~ ผ่านไปไม่นานคุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน พิงค์รีบเดินเข้าหาทันที “ลูกชายของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” “ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยดีแล้วนะครับ ยังดีที่คนไข้รัดเข็มขัดนิรภัยเลยไม่ได้เป็นอะไรมาก แผลภายนอกก็แค่หัวแตกแต่หมอเย็บปิดให้แล้ว ส่วนรอยฟกช้ำขีดข่วนตามตัวหมอได้ทำแผลให้เรียบร้อยแล้วครับ” “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” “เห็นไหมน้องดาริน พี่บอกแล้วว่าพี่กระทิงไม่เป็นอะไรหรอก” ฟ้าครามพูดขึ้นเมื่อคุณหมอเดินออกไป โชคดีจริงๆ ที่พี่ชายของเธอไม่ได้รับอันตรายอะไรมากมาย “ฮึกค่ะพี่ฟ้าคราม พี่กระทิงปลอดภัยแล้ว พี่กระทิงไม่เป็นอะไรแล้ว” “กลับบ้านไปก่อนนะ คืนนี้ยังไงคุณหมอก็ไม่ให้เฝ้าอยู่ดี พรุ่งนี้ค่อยมาหาพี่กระทิงใหม่นะ” “ค่ะพี่ฟ้า” ดารินยอมกลับบ้านกับพ่อแม่แต่โดยดีเพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากรอมาที่โรงพยาบาลพรุ่งนี้อีกครั้งหลังจากที่โรงพยาบาลเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมคนไข้ได้แล้ว “รินลูก…เป็นอะไรไปทำไมถึงนั่งร้องไห้ล่ะ” เดียร์หันไปถามลูกสาว เมื่อเห็นว่าดารินกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ “ฮึกคุณแม่คะ ถ้าพี่กระทิงฟื้นขึ้นมาแล้ว พี่กระทิงจะโกรธรินมั้ยคะที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่กระทิงเกิดอุบัติเหตุแบบนี้” เธอพูดปนเสียงสะอื้นในลำคอ “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะลูก” เดียร์หันไปโอบกอดลูกสาว พร้อมกับลูบหลังให้กับเธอเบาๆ เป็นการปลอบโยน “ถ้าพี่กระทิงไม่มาส่งรินที่บ้าน พี่กระทิงก็คงไม่ต้องขับรถฝ่าฝนตกกลับออกไป” “ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกนะลูก เลิกคิดมากได้แล้วนะ พรุ่งนี้ค่อยไปเยี่ยมพี่กระทิงที่โรงพยาบาลด้วยกัน” “ค่ะคุณแม่” พอกลับมาถึงบ้านดารินก็นอนไม่หลับเลย เพราะเป็นห่วงกระทิงมาก ถึงแม้คุณหมอจะบอกว่ากระทิงนั้นปลอดภัยแล้ว แต่ในใจก็ยังนึกแอบห่วงอยู่ดี เช้าวันต่อมา ดารินเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ลืมตาตื่นมาอีกทีก็แดดส่องสว่างเต็มห้องนอนแล้ว แต่พอเธอขยับตัวเท่านั้นแหละก็รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งร่างกายเลย “อือ…ปวดหัวจัง” เธอบ่นพึมพำก่อนจะยกมือขึ้นจับที่ศรีษะของตัวเอง “แค่ก ๆ ๆ เป็นไข้เหรอเนี่ย” ร่างกายร้อนระอุราวกับไฟกำลังโหมไหม้อยู่ในตัว เมื่อวานก็ไม่เห็นจะมีท่าทีว่าจะไม่สบายหรือเป็นไข้เลยนี่นา เพราะเธอก็รีบมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย “อืม…แค่ก ๆ ๆ” มือเล็กสาวออกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะกดโทรออกไปหาเพื่อนสาวที่ชื่อว่าโดนัท ( เซฮายค่ะเพื่อนสาว มีอะไรหรือเปล่าคะ ) ปลายสายกดรับ “อือโดนัท ฉันฝากแกลาอาจารย์ให้หน่อยนะ พอดีว่าฉันไม่ค่อยสบายน่ะเมื่อคืนตากฝนมา” ( อ่าว แล้วนี่แกเป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปหาหมอมายัง ) “ยังเลยอะ แต่เดี๋ยวก็จะไปอยู่เหมือนกัน” ( โอเคๆ เดี๋ยวฉันบอกกับอาจารย์ให้ แล้วจะจดงานส่งไปให้ในเมลนะ ) “ขอบใจมากนะโดนัท” ( จ้าแค่นี้แหละ ) หญิงสาวหยัดกายลุกอย่างงัวเงีย และรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว เธอพยายามทำธุระส่วนตัวทุกอย่างให้เสร็จอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะเดินลงบันไดไปหาพ่อกับแม่ของเธอ “ตายแล้วดาริน ทำไมถึงได้หน้าซีดแบบนั้นล่ะลูก” “รินเป็นไข้น่ะค่ะ” “มาๆ มากินข้าวก่อนซักหน่อยนะลูกแล้วค่อยกินยา” “ค่ะคุณแม่ แล้วเรื่องพี่กระทิงไปถึงไหนแล้วคะฟื้นหรือยัง” “ฟื้นแล้วลูก ตอนนี้น้าพิงค์กับพี่ฟ้าครามช่วยกันดูแลอยู่ไม่ต้องเป็นห่วง” “ค่ะคุณแม่ ตอนเย็นรินขอไปเยี่ยมพี่กระทิงที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ” “ได้สิลูก เดี๋ยวพ่อกับแม่พาไปนะ” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยอมไปนั่งกินข้าวแล้วก็กินยาจากนั้นก็ไปนอนพักผ่อนเอาแรงต่อ จนกระทั่งถึงตอนเย็น เธอเองที่ยังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่ก็ฝืนตัวเองลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อที่จะไปเยี่ยมกระทิงที่โรงพยาบาล เวลาต่อมา โรงพยาบาล “ดารินเข้าไปก่อนเลยนะลูก เดี๋ยวแม่รอเข้าไปพร้อมกับพ่อของเราเอง” “ค่ะคุณแม่” หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปด้านใน ตรงไปยังห้องพักฟื้นที่กระทิงพักอยู่ ก๊อก ๆ ๆ “ครับ” เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากทางด้านใน ดารินก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปทันที “อ่าวริน มากับใครล่ะ” “รินมากับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ยังไม่เข้ามา พี่กระทิงเป็นยังไงบ้างคะเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า” “แค่เส้นยึดน่ะ เลยขัดๆ นิดหน่อย ส่วนอย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแล้ว” “รินขะ…” “กระทิงข้าวต้มมาแล้วจ้า…” เสียงใสๆ ของใครบางคนทำให้ดารินหยุดชะงัก และไม่ยอมพูดต่อ จนกระทั่งเจ้าของเสียงนั้นเดินออกมา “อ้าวน้องดาริน มาเยี่ยมกระทิงเหมือนกันเหรอ” “ค่ะ” “พี่รู้ข่าวว่ากระทิงรถคว่ำก็ตกใจมากรีบมาหาที่โรงพยาบาลเลย คืนนี้ก็ว่าจะนอนเฝ้าที่นี่ด้วย” “อ๋อค่ะ” “กินข้าวก่อนนะกระทิง จะได้กินยา” แยมวางถ้วยโจ๊กลงตรงหน้าของกระทิง ก่อนจะทำท่าเหมือนจะตักป้อน “ผมกินเองได้” “เดี๋ยวแยมป้อนนะ ยังขัดๆ ที่แขนไม่ใช่เหรอ” “อืม..” ดารินยืนดูทั้งสองคนดูแลกัน เหมือนกับว่าเธอเป็นแค่สายลมที่ไม่ได้อยู่ในสายตาเลย มันเจ็บดีนะ ไม่รู้ว่าเธอมาขัดจังหวะความสุขของเขาทั้งสองคนหรือเปล่า “ระ รินขอตัวกลับก่อนนะคะ” “อ้าว แล้วคุณลุงกับคุณป้าล่ะ” “มะ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรินบอกกับคุณพ่อคุณแม่เองว่าพี่สบายดีมีคนดูแลแล้ว” พูดจบดารินก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทันที “อ้าวรินลูก ทำไมกลับออกมาแล้วล่ะ ไม่อยู่คุยกับพี่เขาก่อนเหรอ” “ไม่ล่ะค่ะคุณแม่ เรากลับบ้านกันดีกว่านะคะ คุณพ่อคุณแม่อย่าเข้าไปเลยค่ะ” “ทำไมล่ะลูก” “คือ พี่กระทิงเค้าหลับไปแล้วน่ะค่ะ รินกลัวว่าจะเข้าไปเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของพี่กระทิง” “อ้าวเหรอ มาเสียเที่ยวซะได้เนี่ย แต่ไม่เป็นไรเราค่อยมากันใหม่ก็ได้ หรือไม่ก็ค่อยไปเยี่ยมพี่กระทิงที่บ้านเลยหลังจากที่พี่กระทิงออกจากโรงพยาบาลแล้ว” “ค่ะ” “ปะกลับบ้านกันนะลูก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม