วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของมหาวิทยาลัยแอล หลิว ถิงถิงได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่หอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เธอมีรูมเมทอีกสองคน คนแรกคือจ้าวซือซือ เพื่อนสนิทจากโรงเรียนเดิม ส่วนอีกคนคือเฉิน เหม่ยหาน เฉินเหม่ยหานเป็นคนเมืองเค ซึ่งอยู่ห่างไปจากเมืองแอลค่อนข้างไกล เธอเป็นสาวแว่นและเป็นเด็กเรียนพอสมควร
“ถิงถิง เธอใช่ไหมที่เป็นเด็กในอุปการะของคุณชายซือ” นักศึกษาสาวคนหนึ่งเอ่ยถามหลิวถิงถิงขึ้น หลังจากที่เข้ามานั่งเรียนคาบแรก หลิว ถิงถิงพยักหน้ารับ
“เธอเคยเจอคุณชายซือตัวจริงไหมอะ ฉันได้ยินมาว่าคุณชายซือหล่อมากเลยนะ แถมอายุเพิ่งจะสามสิบปีนี้เอง” เพื่อนสาวในห้องเอ่ยถาม
“ไม่จ้ะ ฉันยังไม่เคยเจอเขาเลย” ถิงถิงตอบพร้อมกับส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้
“เห้อ น่าเสียดายจัง ฉันได้ยินว่ารุ่นพี่เคยเห็นตัวจริงแล้ว หล่อมากเลยแหละ น่าเสียดายที่เธอเป็นเด็กทุนของเขาแท้ๆกลับยังไม่เคยเจอตัวจริง” สาวสวยคนนั้นบ่นออกมาก่อนที่จะเดินจากไป
“ท่าทางจะบ้า ก็แค่คนที่เขาให้ทุนปะวะ เขาจะต้องมาเจอทำไมกัน” เป็นจ้าวซือซือที่อดจะหัวเสียแทนเพื่อนรักไม่ได้
“ไม่เอาน่า ซือซือ เขาก็แค่อยากรู้เลยมาถามเราแค่นั้นเอง”
หลิวถิงถิงบอก ก่อนที่จะสนใจหนังสือเรียนในมือต่อไป เฉินเหม่ยหาน ลอบมองใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสาวคนใหม่อย่างรู้สึกดี เพื่อนคนนี้น่าคบ เธอจะคบหลิวถิงถิงเอาไว้
คาบแรกผ่านไปอย่างราบรื่น ชีวิตวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัยของเด็กสาววัย18ย่าง19 มันย่อมเป็นอะไรที่แปลกใหม่ โดยเฉพาะการที่ต้องแยกจากครอบครัวออกมาอยู่หอพักกันตามลำพัง สำหรับคนอื่นถือว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่สำหรับหลิวซือซือ เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้ออกมาอยู่ข้างนอก เพราะบ้านที่เคยอบอุ่นนั้น มันไม่ได้มีความอบอุ่นมาเนิ่นนานแล้ว
ความอบอุ่นมันได้กลายเป็นอดีตตั้งแต่ที่เธอสูญเสียมารดาไป บิดาก็มีภรรยาใหม่แทบจะทันที ราวกับว่าคนทั้งคู่นั้นแอบคบหาดูใจกันมาก่อนแล้ว ใหม่ๆหยินเยว่ภรรยาใหม่ของบิดานั้นดีกับเธอมาก จนสองปีถัดมาที่หยินเยว่มีหลิวซือเยว่ที่กลายเป็นน้องสาวต่างมารดา เธอก็หมดความสำคัญ จากแม่เลี้ยงที่แสนดีกลายเป็นแม่เลี้ยงที่เอาแต่กดขี่และโขกสับเธอ
ณ โรงอาหารของมหาวิทยาลัยแอล
สาวน้อยหน้าหวานกำลังต่อแถวเพื่อรอซื้ออาหารอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกสองคน หลิวถิงถิง เป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เธอจะตกเป็นเป้าสายตา และเป็นที่สนใจของหนุ่มๆในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่เพราะหลายๆคนรู้ว่าเธอเป็นเด็กทุน มีฐานะทางบ้านไม่ดี ผู้ชายส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเลิกสนใจในตัวเธอ ผิดกับเพื่อนรักอย่างจ้าวซือซือที่เป็นลูกคุณหนู ฐานะทางบ้านร่ำรวย เรียกว่าติดอันดับท๊อปเท็นของเมืองแอลเลยก็ว่าได้ หนุ่มๆจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาจีบเธอแทน ถึงแม้จะชอบหลิวซือซือมากกว่าก็ตาม
“ซือซือ พี่ซื้อน้ำมาฝากครับ”
เสียงทุ้มดังมาจากรุ่นพี่ปีสามรูปหล่อดาวของคณะวิศวะ แก้วน้ำส้มถูกวางลงบนโต๊ะที่สามสาวใช้นั่งทานอาหาร จ้าวซือซือเงยหน้าขึ้นมองก่อนที่จะขอบคุณด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันซื้อทานเองได้ วันหลังไม่ต้องลำบากนะคะ” จ้าวซือซือบอกพร้อมกับจ้องใบหน้าหล่อของรุ่นพี่
“อะ..เอ่อ ค่ะ..ครับ”
หนุ่มหล่อรู้สึกหน้าเสียทันทีก่อนที่จะหันหน้าไปมองสาวสวยหน้าหวานที่กำลังนั่งทานอาหารอย่างไม่สนใจคนรอบข้างมากนัก นี่สินะหลิวถิงถิง เขาลอบมองเธอก่อนที่จะได้ยินเสียงกระแอมไอจากผู้หญิงที่เขาสนใจมาตั้งแต่ต้น
“อะแฮ่ม... ขอโทษค่ะ มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่ขอเวลาส่วนตัวให้พวกเราด้วยค่ะ”
จ้าวซือซือพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย เฉินเหม่ยหานมองเพื่อนสาวอย่างทึ่งๆไม่คิดว่าจ้าวซือซือจะกล้าพูดกับรุ่นพี่แบบนี้ แถมอีกฝ่ายยังมีดีกรีเป็นถึงดาวคณะ
ในขณะที่หลิวถิงถิงก็ตั้งใจทานอาหารอย่างไม่สนใจใคร เธอไม่ชอบทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและเธอไม่ชอบเสวนากับพวกผู้ชาย หลินเจียอีได้สติจึงดึงสายตากลับมาสนใจที่จ้าวซือซืออีกครั้ง
“ถ้างั้นพี่ขอตัวก่อนครับ” หลินเจียอีเอ่ยลา จ้าวซือซือพยักหน้ารับ หลินเจียอีเดินจากไปหลังจากที่โดนปฏิเสธ ใช่จ้าวซือซือมีสิทธ์ที่จะปฏิเสธ เพราะเธอก็จัดได้ว่าสวยและรวยมากของเมืองแอล
“เจ๋งอะ ซือซือ ฉันนี่อดทึ่งในตัวเธอไม่ได้จริงๆฮ่าๆ” เฉินเหม่ยหานเอ่ยขึ้นกลั้วหัวเราะ
“ก็คนไม่ชอบอะ มาเรียนไม่ได้มาสร้างสัมพันธไมตรีกับพวกผู้ชาย” จ้าวซือซือตอบพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แคร์
“แกก็ตรงเกินไปแล้วล่ะซือซือ ถ้าพี่เค้าไม่พอใจขึ้นมา ตอนรับน้องล่ะโดนแกล้งแย่เลย” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
“อย่ากังวลไปเลยนะถิงถิง ฉันไม่กลัวหรอก อีกอย่างพี่เขาอยู่วิศวะไม่ได้มาเกี่ยวอะไรกับคณะของเราหรอก” จ้าวซือซือเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“ฉันก็ได้แต่หวังว่าอย่างนั้นนะซือซือ” หลิวถิงถิงเอ่ยพร้อมส่ายหน้างามไปมาอย่างเหนื่อยใจกับความที่เป็นคนตรงๆของเพื่อนรัก
สามสาวนั้นไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน หลิวถิงถิงนั้นเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จ้าวซือซือนั้นเรียนคณะนิเทศศาสตร์ และเฉินเหม่ยหานนั้นเรียนคณะจิตวิทยา เรียกได้ว่าคนละคณะแต่ก็มาสนิทกันได้อย่างง่ายดาย ด้วยทั้งสามคนพักอยู่หอพักเดียวกัน ห้องเดียวกัน เป็นรูมเมทกัน เฉินเหม่ยหานนั้นเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็เข้ากับทั้งสองสาวได้เป็นอย่างดี เพราะหลิวถิงถิงกับจ้าวซือซือนั้นเป็นคนจริงใจน่าคบ ที่สำคัญเวลาที่อยู่ในหอพักทั้งสองสาวจะไม่รบกวนเวลาอ่านหนังสือของเพื่อนสาวคนใหม่คนนี้เลย จึงทำให้คบหากันได้แบบสบายใจ
ทางด้านคุณชายซือที่ตอนนี้กำลังมาตรวจงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตอนเหนือของเมืองแอล เขามีนัดทานอาหารกับบุตรสาวของคู่ค้าในตอนเย็น ทั้งๆที่ไม่อยากไปแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เสียทีเดียว เพราะคู่ค้าคนนี้ค่อนข้างสำคัญ แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาเจอกับเขารับรองว่าเธอจะเผ่นแทบไม่ทัน
“คุณชายซือครับ ชุดที่ให้เตรียมมาส่งแล้วครับ” ต้าฉินเข้ามารายงานผู้เป็นนาย
“อืม.... เอาเข้ามาเลย นี่เหลืออีกกี่ชั่วโมงจะถึงเวลานัด” ซือมู่อันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ขณะที่สายตายังจับจ้องมองแทปแลตราคาแพงของตนอยู่
“อีกสองชั่วโมงครับ” ต้าฉินบอกขณะเดินกลับมาจากนำชุดที่แม่บ้านนำมาส่งให้ที่หน้าประตูเข้าไปเก็บด้านในห้องแต่งตัวของโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
“นายครับคืนนี้จัดไหมครับ” จางหลงเอ่ยถามอย่างรู้ใจ
“อืม เหมือนเดิม อย่าให้มีปัญหาตามมาทีหลังอย่างเดียว แค่จ่ายเงินแล้วก็ให้จบกัน”
เสียงเย็นชาดังออกมาจากปากบางสีกุหลาบ จางหลงรับคำสั่งก่อนที่จะไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านาย เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของหนุ่มโสดเช่นเขา ผู้ชายในวัยกลัดมันเช่นเขาถ้าไม่ได้ปลดปล่อยเลยก็คงจะแย่ เขาไม่นิยมรับเลี้ยงดูใคร แต่เขานิยมครั้งเดียวจบและไม่กลับไปกินซ้ำอีก ถึงแม้อีกฝ่ายจะสวยเด็ด ลีลาดีขนาดไหน ก็ไม่มีใครทำให้เขาเปลี่ยนใจได้สักคน
พอได้เวลานัด ซือมู่อันในชุดสูทสีดำทั้งตัว ทรงผมจัดแต่งอย่างดูดี ใบหน้าคมคายหล่อเหลา จมูกโด่งรับด้วยปากบางสีกุหลาบ ทุกท่วงท่าอิริยาบถของเขาทำให้สาวๆที่เป็นลูกค้าของร้านอาหารต่างมองมาที่เขาเป็นสายตาเดียวกัน ด้านหลังมีสองบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำเช่นเจ้านายยืนคุมเชิงอยู่
รอเพียงไม่นานก็มีชายสูงวัยร่างท้วมเดินเคียงคู่มากับผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่ง เธอแต่งกายด้วยชุดเดรสสีทอง ขับกับผิวขาว ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจากแบรนด์ดังจนเข้ม เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีดำ ความสวยและเซ็กซี่ของเจ้าหล่อนไม่ได้ทำให้คุณชายซือนั้นหวั่นไหวแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ ผู้หญิงแบบเธอเขาเห็นมานักต่อนัก คนแบบเขามันไม่มีหัวใจ หากใครหวังความรักจากคนเย็นชาแบบเขาก็คงต้องผิดหวังไปตามๆกัน