“หิวข้าวชะมัด”
หญิงสาวรีบล้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้ท้องร้องด้วยความหิวจนแสบไส้ไปหมด พอออกมาจากห้องน้ำได้แล้วก็คว้าเสื้อโค้ท อุปกรณ์กันหนาวมาใส่ครบเซ็ต ก่อนจะออกจากโรงแรม เดินไปตามถนนอารบัตเรื่อยๆ เพื่อมองหาร้านอาหารถูกใจและราคาไม่แพงจนเกินไป
ในที่สุด...อลินนาก็เลือกร้านอาหารเล็กๆ ทว่าการตกแต่งร้านแลดูอบอุ่น มีลูกค้าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แถมยังอยู่ติดกับถนนสามารถมองเห็นผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาได้ด้วย
ในความตั้งใจแรก อลินนาแค่ต้องการอาหารสักมื้อเพื่อให้อิ่มท้อง และจิบชาร้อนๆ คลายหนาว แต่ด้วยหัวสมองตกอยู่ในความคิดกับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หญิงสาวจึงไม่รู้เลยว่าตนเองนั่งอยู่ในร้านอาหารเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมง และแน่นอนว่าทุกอิริยาบถของเธอตกอยู่ในสายตาของลูกน้องของแดเนียลในตลอดเวลา...
แดเนียลกำลังนั่งมองภาพของอลินนาซึ่งเขาแอบถ่ายตอนที่หญิงสาวนอนหลับอยู่บนเครื่องบิน ขณะเพ่งสายตามองภาพถ่ายที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ ชายหนุ่มต้องขบกรามกับบางภาพซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสีหน้าของอลินนาเต็มไปด้วยความหมองเศร้า
“คุณจะต้องไม่เสียน้ำตาให้กับคนทรยศอีก”
แดเนียลลูบบนภาพถ่ายของอลินนาขณะพึมพำออกมา นึกโกรธผู้ชายเลวๆ อย่าง
กฤตินัยที่ทำให้อลินนาต้องเสียใจ เสียน้ำตา และหากไม่ติดว่าผู้ชายคนนั้นมีเมีย มีลูกเล็กให้ต้องดูแล เขาคงสั่งการให้โรซอฟจัดการเล่นงานกฤตินัยให้อ่วมอรทัย
แดเนียลยังคงกดเลื่อนดูภาพของอลินนาไปเรื่อยๆ เขาแอบถ่ายภาพของหญิงสาวไว้เป็นสิบๆ ภาพ รวมทั้งถ่ายวีดีโอคลิปไว้ด้วย และขณะกำลังจะกดเปิดดูวีดีโอคลิป ก็มีสัญญาณโทร.เข้า พอเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของโรซอฟก็รีบกดรับสายพร้อมกับเอ่ยถามรัวเร็วไปว่า
“เจออลินนาหรือยัง”
“ครับเจ้านาย พวกเราพบคุณอลินนาแล้วครับ”
โรซอฟผู้เฝ้าติดตามสืบเสาะหาหญิงสาวที่เจ้านายหนุ่มต้องตาต้องใจ เอ่ยรายงานโดยไม่ละสายตาไปจากอลินนาแม้นาทีเดียว
“อลินนาเป็นยังไงบ้าง”
“สีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไรครับ ผมเห็นเธอยกมือเช็ดน้ำตาบ่อยครั้งด้วยครับ”
“คงยังคิดถึงไอ้กฤตินัยผู้ชายเลวๆ อยู่” เมื่อคิดเช่นนั้นแดเนียลก็ต้องกัดฟันดังกรอด โกรธอลินนาที่ยังรักผู้ชายชั่วไม่มีเปลี่ยน “ทำไมต้องรักมันทั้งๆ มันทำให้เจ็บปวดเสียใจ”
“เอ่อ...เจ้านายคงต้องถามคุณอลินนาเอาเองครับ”
โรซอฟเอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกัก แค่ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าผู้เป็นเจ้านายโกรธมากเพียงใด
“แน่นอน เราถามเธอแน่”
แดเนียลรับคำ พลางลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เดินตรงไปยังหน้าบ้าน ตะโกนเรียกให้ลูกน้องนำรถออกมาจากโรงจอดรถมาให้ตน
โรซอฟได้ยินเสียงเจ้านายหนุ่มตะโกนสั่งลูกน้องภายในบ้านให้นำรถยนต์มาให้ ก็เอ่ยถามออกไปว่า
“เจ้านายจะมาหาคุณอลินนาใช่ไหมครับ”
“ใช่ เรากำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้”
“ตอนนี้คุณอลินนายังอยู่ในร้านอาหารครับ”
“นายรายงานพิกัดของอลินนาให้เรารู้ทุกนาที หากรถไม่ติดมาก ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเราก็จะไปถึง”
“ได้ครับ เจ้านาย”
โรซอฟรับคำ ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด สายตาทั้งคู่จับจองมองอยู่ที่อลินนา เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของหญิงสาว และโทร.รายงานเจ้านายหนุ่มในทุกเวลาด้วย
อลินนาบอกกับตัวเองไม่ให้คิดถึงอดีตอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันที่ผ่านมา แต่กระนั้นก็ยังทำใจได้ยาก ยิ่งอยากลืม เหตุการณ์อันเป็นเหมือนดั่งฝันร้ายก็ยิ่งตามหลอกหลอน คำพูดตะโกนชี้หน้าด่าจากคนที่เป็นภรรยาของกฤตินัยดังก้องเข้ามาในหัวดั่งกับภาพฉายซ้ำไม่มีผิด
‘นังผู้หญิงหน้าด้าน อยากมากหรือยังไงถึงเร่มาเอาผัวของฉัน’
‘จะบอกให้เอาบุญว่าพี่กฤตินัยเป็นพ่อของลูกในท้องฉัน เราจดทะเบียนด้วยกันนานแล้ว ถ้าเธอไม่เชื่อก็เอาทะเบียนสมรสไปแหกตาดูซะ’
น้ำตาแห่งความเจ็บปวดเสียใจระคนสมเพชตัวเองหยดลงมากระทบบนหลังข้อมือ อลินนาสะอื้นฮักยังจำได้ไม่มีลืมว่าตนเองช็อกมากเพียงใด เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้หญิงอุ้มท้องมาประกาศป่าวๆ ว่าเจ้าบ่าวเป็นสามีและเป็นพ่อของลูก และยิ่งช็อกกว่าเดิมเมื่อทะเบียนสมรสมีชื่อของกฤตินัยเด่นหราลอยมาปะทะใบหน้า
“บ้าที่สุด! เลิกคิดถึงคนทรยศได้แล้ว”
อลินนายกมือปาดน้ำตา สูดสะอื้นเข้าปอดลึกๆ ก่นด่าตัวเองที่ตัดผู้ชายเลวออกจากใจไม่ได้สักที
“เขาไม่ควรค่าแก่การจดจำ ไม่ควรให้เขามาทำลายชีวิตที่เหลือของเธอ”
หญิงสาวขบเม้มริมฝีปาก หักห้ามน้ำตาไม่ให้หลั่งริน บอกกับตัวเองด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
“เราจะไม่ร้องไห้ให้กับผู้ชายเลวๆ อีกแล้ว”
ต้องใช้เวลาอีกหลายนาทีกว่าจะปัดความเจ็บปวดเสียใจออกไปได้ และเมื่อเงยหน้ามองไปยังท้องถนนที่เริ่มร้างราผู้คน ก็รู้สึกตัวว่าตนเองนั่งอยู่ในร้านอาหารเป็นเวลานานจนเกินไป พอหลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้เวลาล่วงเกือบเที่ยงคืนแล้ว
ร่างบางผุดลุกจากเก้าอี้เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงิน รีบจ่ายค่าอาหารโดยไม่รอบริกร
มาเก็บเงินที่โต๊ะ จากนั้นก็รีบเร่งเดินออกจากร้านอาหารตรงไปยังโรงแรมที่พัก ในใจนั้นนึกหวั่นๆ เพราะโรงแรมไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ต้องเดินเข้าไปในซอยลึกหลายร้อยเมตร หากเดินในช่วงกลางวันก็ไม่น่ากลัวสักเท่าไร แต่ในยามวิกาลเช่นนี้ก็น่ากลัวและเปลี่ยวอยู่มาก
เมื่อไม่มีทางเลือก อลินนาจึงเดินเร็วๆ เกือบเป็นวิ่งท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บติดลบสิบองศาตรงไปยังโรงแรม โดยไม่ลืมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองว่ามีใครเดินตามตนเองมาหรือไม่
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวของอลินนาอยู่ในสายตาของโรซอฟตลอดเวลา ทันทีที่หญิงสาวออกจากร้านอาหาร ชายหนุ่มก็โทรศัพท์ไปรายงานเจ้านายทันทีเช่นเดียวกัน
“เจ้านายครับ คุณอลินนาออกจากร้านอาหารแล้วครับ”
“ตามเธออยู่ห่างๆ อีกห้านาทีเราก็ไปถึงแล้ว”
แดเนียลออกคำสั่ง พร้อมกับก้าวลงจากรถสปอร์ตหรู หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว ร่างใหญ่รีบเร่งเดินตรงไปหาอลินนาตามที่โรซอฟส่งพิกัดมาบอก
“ครับเจ้านาย”