บทที่ 3

1230 คำ
แดเนียลกัดฟันดังกรอดๆ เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิงด่าว่า ‘ปากหมา’ แม้แต่ครั้งเดียว ผู้หญิงทั้งประเทศมีแต่ป้อนคำหวานพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจเขา คงมีแค่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าด่าเขาอย่างไม่ไว้หน้า และเขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ ต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรมาต่อกรกับผู้ชายที่ชื่อ แดเนียล จรณินทร์ คาเรีย          และเมื่อหันไปมองคู่กรณี ก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเพ่งสายตาจ้องมองเขม็งอยู่นานหลายนาทีจนมั่นใจว่าผู้หญิง กำลังร้องไห้อยู่          “ร้องไห้ทำไม หรือว่าคิดถึงแฟน คิดถึงผัว”          แดเนียลพึมพำถามตัวเอง พอคิดว่าหญิงสาวคงมีสามีอยู่แล้วก็อดเสียดายไม่ได้ เพราะเขาชอบในความปากจัดของเธอ และอยากรู้ว่าเรียวปากที่เจ้าตัวขบเม้มจนเกือบเป็นเส้นตรงจะหวานฉ่ำเหมือนดั่งน้ำผึ้งเดือนห้าหรือไม่          ยิ่งเห็นหญิงสาวนั่งน้ำตาร่วงรินมากเพียงใด แดเนียลก็ยิ่งสนใจในตัวหญิงสาวมากเท่านั้น และก็ไม่ปล่อยให้ความสงสัยคงอยู่กับตัวนานจนเกินไป ชายหนุ่มกดปุ่มเรียกแอร์โฮสเตส ซึ่งไม่ต้องรอนาน แอร์โฮสเตสสาวสวยก็รีบเดินตรงมาหาเขาในทันที          “ไปบอกให้ผู้หญิงคนนั้นมานั่งที่ชั้นธุรกิจข้างๆ ผม”          แดเนียลออกคำสั่งในทันทีเมื่อแอร์โฮสเตสเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า และคำสั่งของเขาทำให้แอร์โฮสเตสสาวตีสีหน้างุนงงพร้อมกับเอ่ยปฏิเสธไปว่า          “เอ่อ...จะอัพเกรดให้เธอมานั่งชั้นธุรกิจคงไม่ได้หรอกค่ะ”          “ทำไม!” แดเนียลถามเสียงห้วนๆ          “ก็เธอเป็นผู้โดยสารชั้นธรรมดา หากอัพเกรดมานั่งชั้นธุรกิจเธอต้องจ่ายเงินก่อนค่ะ”          “ไม่จำเป็น เพราะนี่เป็นคำสั่งของผม” แดเนียลตอบอย่างทรงอำนาจ          และแอร์โฮสเตสซึ่งยังไม่รู้ว่าผู้โดยสารที่ออกคำสั่งกับเธออยู่นั้นเป็นใครกัน จึงยืนกรานปฏิเสธเหมือนเดิม          “คงไม่ได้หรอกค่ะ แค่คำสั่งของคุณคงไม่พอ เธอต้องจ่าย...”          “ไปตามหัวหน้าคุณมา”          แดเนียลออกคำสั่งเสียงห้วนพร้อมกับโบกมือไล่ ไม่ต้องการสนทนาและไม่ต้องการอธิบายให้แอร์โฮสเตสสาวคนนี้รู้ว่าเขาคือใคร นาทีนี้เขาต้องการพูดกับหัวหน้าแอร์โฮสเตสเท่านั้น          “ค่ะ รอสักครู่ค่ะ” แอร์โฮสเตสรับคำรีบเดินไปตามหัวหน้าตามคำสั่งของผู้โดยสาร เมื่อพบหัวหน้าก็เอ่ยรายงานรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจผู้โดยสารเจ้าอำนาจรายนี้ “หัวหน้าค่ะ ผู้โดยสารท่านนั้นต้องการอัพเกรดให้ลูกค้าชั้นธรรมดามานั่งชั้นธุรกิจตรงที่นั่งว่างข้างตัวเขาค่ะ ดิฉันบอกว่าทำไม่ได้เพราะผู้โดยสารต้องจ่ายเงินค่าอัพเกรดที่นั่งก่อน แต่เขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องจ่าย และเขาต้องการพบหัวหน้าค่ะ” “ผู้โดยสารคนไหนที่อยากอัพเกรดที่นั่งให้ลูกค้าชั้นธรรมดา” หัวหน้าแอร์โฮสเตสเอ่ยถาม พลางกวาดสายตามองไปยังลูกค้าในโซนชั้นธุรกิจ ซึ่งตอนนี้มีนั่งอยู่บนที่นั่งราวๆ สิบคน “คนสุดท้ายที่เป็นผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวค่ะ หัวหน้า” ได้ยินลูกน้องบอกเช่นนั้นก็เพ่งสายตามองตาม และเมื่อรู้ว่าผู้โดยสารคนดั่งกล่าวคือใคร ก็ถึงกับสะดุ้งโหยงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ตายแล้ว! นั่นคุณแดเนียล จรณินทร์ คาเรีย” “คะ...คุณแดเนียล จรณินทร์ คาเรีย...” ผู้เป็นลูกน้องทวนคำเสียงตะกุกตะกักหน้าถอดสีเผือดลงในทันที เมื่อชื่อของผู้โดยสารรายนี้แล่นเข้ามาในหัว “ใช่” หัวหน้าแอร์โฮสเตสรับคำ “คุณแดเนียลเป็นเจ้าของสายการบิน เขาเพิ่งเข้ามารับช่วงธุรกิจต่อจากพ่อของเขาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง” “หนู...หนูเคยได้ยินชื่อของเขา แต่...แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงสักที” แอร์โฮสเตสสาวแทบหมดแรง เมื่อรู้ว่าตนเองได้ปฏิเสธความต้องการของเจ้าของสายการบิน ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้ ไม่รู้ว่าอนาคตหน้าที่การงานของตนจะเป็นอย่างไร “ก็เพราะคุณแดเนียลไม่ค่อยออกสื่อยังไงล่ะ โอ๊ยย...พี่จะไปหาคุณแดเนียลก่อน ไม่รู้ว่าจะโดนท่านเล่นงานอย่างไรบ้าง” ว่าแล้วหัวหน้าแอร์โฮสเตสก็รีบเดินเร็วๆ เกือบเป็นวิ่งตรงไปหาผู้เป็นเจ้าของสายการบิน ในใจนั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นว่าตนเองและลูกน้องคงถูกเล่นงานอย่างหนัก “สวัสดีค่ะ ท่านแดเนียล ดิฉันต้องขอโทษแทนลูกน้อง...” “ไม่ต้อง” แดเนียลโบกมือปฏิเสธ เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะรับฟังคำขอโทษจากใคร เขาต้องการแค่เพียงให้ผู้หญิงปากจัดมานั่งใกล้ๆ เขาเท่านั้น “ผู้โดยสารคนนั้นชื่ออะไร” แดเนียลชี้ไปยังคู่กรณีของตน ซึ่งหัวหน้าแอร์โฮสเตสมองตามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจว่า “ผู้โดยสารที่นั่งแถว 6 A ติดหน้าต่างใส่ชุดสีดำใช่ไหมคะ” “ใช่!” แดเนียลรับคำ แน่นอนว่าแอร์โฮสเตสย่อมมีข้อมูลรายชื่อของผู้โดยสารทุกคน หัวหน้าแอร์โฮสเตสรีบหยิบกระดาษรายชื่อของผู้โดยสารออกมากวาดสายตาอ่าน ก่อนจะบอกว่า “ชื่อ...มิสอลินนาค่ะ” แดเนียลพยักหน้ารับพลางออกคำสั่งอย่างทรงอำนาจด้วยความเคยชิน “ไปบอกอลินนาให้ย้ายมานั่งชั้นธุรกิจข้างๆ ผม”          “ค่ะๆ ดิฉันจะไปบอกเธอเดี๋ยวนี้ค่ะ”          แดเนียลกระตุกยิ้มกับคำตอบที่ได้รับ แน่นอนว่าหัวหน้าแอร์โฮสเตสรู้ว่าเขาคือใคร และรีบทำตามคำสั่งก่อนจะถูกปลดออกจากงาน          “ถ้ารู้ว่าได้อัพเกรดมานั่งชั้นธุรกิจ คงรีบแจ้นมาในทันที”          แดเนียลยิ้มเยาะ มั่นใจว่าจะเป็นเช่นนั้น ก็แน่ล่ะ ที่นั่งชั้นธุรกิจสะดวกสบายกว่าชั้นธรรมดาเป็นร้อยเท่า ผู้หญิงปากจัดคงดีใจจนเนื้อเต้นที่จู่ๆ ก็ได้ย้ายมานั่งชั้นธุรกิจฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว ที่สำคัญได้มานั่งใกล้กับผู้ชายหล่อเหลา ที่เธอจงใจทอด สะพานให้ด้วย          “สวัสดีค่ะ มิสอลินนาใช่ไหมคะ”          ผู้เป็นเจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองแอร์โฮสเตสที่เอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วเอ่ยตอบกลับ          “ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”          หัวหน้าแอร์โฮสเตสคลี่ยิ้มหวานให้ แล้วเอ่ยบอกถึงความต้องการของผู้เป็นเจ้าของสายการบิน          “CEO ของเราต้องการให้มิสอลินนาย้ายไปนั่งที่ชั้นธุรกิจค่ะ”          อลินนาขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง ไม่ได้ตื่นเต้นที่จู่ๆ ก็ถูกอัพเกรดให้ไปนั่งชั้นธุรกิจ จากนั้นก็เอ่ยถามกลับไปว่า “ใครคือ CEO ของคุณ”          “คุณแดเนียล จรณินทร์ คาเรียค่ะ”          อลินนาคงไม่รู้ว่าใครคือ CEO ของสายการบินที่เธอกำลังนั่งอยู่ หากอีกฝ่ายไม่ลุกขึ้นยืนแล้วหันมากระตุกยิ้มเยาะหยันขณะจ้องมองมาที่ตัวเธอ          “อ๋อ...ผู้ชายปากหมาคนนั้นเป็น CEO ของคุณ” อลินนาถามเสียงสูงและค่อนข้างดัง จงใจให้คนที่กำลังจ้องมองเธออยู่ได้ยินด้วย แน่นอนว่าแดเนียลได้ยินเต็มสองหู เพราะเธอเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายบึ้งตึงเส้นเอ็นปูดโปน เจ้าตัวคงกัดฟันกรอดจนฟันโยกไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม