ตอนที่ 3 เรื่องบังเอิญ

1857 คำ
เสียงที่ดังอึกทึกอยู่ภายในคลับสุดหรูทำให้ดาว ดาราภัสรู้สึกลังเลอยู่ไม่น้อย เธอได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่คณะให้มาสมัครงานที่นี่ เพราะลูกค้าที่นี่ส่วนมากจะไม่น่ากลัวเท่าคลับอื่นที่มักจะลวนลามพนักงานสาวๆ และเธอก็ได้รับรู้มาว่าเจ้าของคลับแห่งนี้ใจดีและไม่เคยเอาเปรียบพนักงานของตนเองเธอจึงตัดสินใจมา ถ้าลูกค้าดีเจ้านายดี เพื่อนร่วมงานดี เท่านี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเด็กสาวที่โชคไม่ดีเหมือนกับเธอ “ดาว...มาสิ ผู้จัดการร้านรออยู่ แล้วเฟรนด์ยังมาไม่ได้ใช่ไหม” เสียงของพี่หมิวรุ่นพี่ปีสามคณะเดียวกันกับเธอเอ่ยถามออกมาเมื่อมองหาเด็กสาวที่เธอเห็นเป็นน้องเป็นนุ่งอีกคนก็ไม่เห็น “เมื่อวานก่อนเฟรนด์ประสบอุบัติเหตุน่ะค่ะ วันนี้เลยยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล” ดาว ดาราภัสตอบก่อนที่จะเดินไปหา เมื่อวานตอนที่พี่หมิวถามพร้อมไปทำวันไหน เธอยังไม่ทันตอบ รุ่นพี่สาวก็รีบเข้าเรียนไปเสียก่อนจึงไม่ทันได้คุยกัน “อ้าว! อย่างนั้นเหรอ น้องเฟรนด์เป็นอะไรมากเปล่า” หมิวเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ พรุ่งนี้เช้าคุณหมอก็อนุญาตให้ออกแล้ว” ดาว ดาราภัสตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเอ่ยถามอีกประโยคออกไป “พี่หมิว เจ้าของร้านใจดีจริงๆ ใช่ไหมคะ แล้วแขกที่นี่มือไวหรือเปล่า คือ... ดาวกลัวน่ะ” หญิงสาววัยสะพรั่งผู้ที่ไม่เคยผ่านมือชายใดมาเอ่ยถามรุ่นพี่ออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ “คลับนี้ไว้ใจได้ ไม่มีเรื่องค้าประเวณีแน่นอน นอกจากไปติดต่อกันนอกคลับ แต่พี่ว่าเราคงไม่เดือดร้อนจนถึงขั้นจะต้องไปเป็นเด็กของใครหรอกมั้งดาว” ความสวยของดาว ดาราภัสอดทำให้เธอนึกเป็นห่วงไม่ได้หากจะต้องทำงานกลางคืน แต่ที่คลับแสนพันหมื่นล้านแห่งนี้ บอสทั้งหล่อและใจดี แถมไม่เคยมีประวัติคั่วผู้หญิงให้เห็นเลย แม้จะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเทียวมาอ่อยบอสอยู่เป็นประจำก็ตาม “ไม่หรอกจ้ะ ดาวแค่อยากหารายได้เสริม พอดีงานที่โรงแรมมีแต่งานแคชชวล มันไม่ได้มีให้ดาวทำทุกวัน ดาวเลยต้องตัดสินใจมาหางานกลางคืนทำ” หญิงสาวบอกออกมา เฉพาะเงินค่าเทอมเธอได้รับทุนกับเพื่อนสองคนก็จริง แต่ค่ากินค่าอยู่เธอก็ต้องหามาจ่ายด้วยตนเอง “บอสใจดี ลูกค้าที่นี่ก็ไม่มือไว ไปเถอะดาว เดี๋ยวพี่จะพาไปแนะนำให้พี่ผู้จัดการร้านรู้จัก” หมิวจูงมือเด็กสาวเข้าไปทางหลังร้าน ก่อนที่จะแนะนำเด็กสาวให้กับผู้จัดการร้านซึ่งเป็นผู้ชายวัยกลางคนได้รู้จัก เขาเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพไม่มีสายตาที่จะใช้ลวนลามเด็กสาวแบบที่ผู้จัดการร้านอื่นที่เธอเคยเจอ ลุงผินพาหญิงสาวขึ้นไปหาบอสใหญ่ที่ห้องทำงานชั้นสองเพื่อแนะนำเธอให้เขาได้รู้จัก เพราะฟ้า แผ่นฟ้ามักจะทำความรู้จักพนักงานที่คลับนี้ทุกคนเพื่อที่จะได้รู้ถึงปัญหาของแต่ละคน หากเขาช่วยแก้ไขได้เขาก็จะช่วยเพราะฉะนั้นพนักงานทุกคนจึงเคารพและรักเขาถึงแม้เขาจะอายุยังน้อยและเย็นชากับพนักงานมากมายก็ตามที ก๊อก..ก๊อก...ก๊อก.... เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้วิรุตเดินไปเปิดก่อนที่เขาจะตาเบิกโพลงเมื่อได้เห็นหญิงสาวที่อยู่ในประวัติที่เขาหามาให้ผู้เป็นนาย ไม่ทันได้ไปหาเหยื่อ เหยื่อกลับเดินมาหา เขาก็อยากจะรู้นักว่าเจ้านายผู้ที่ไม่เคยมองผู้หญิงคนใดทำไมถึงสนใจในตัวเด็กกำพร้าที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความสวยและหุ่นที่สมส่วน “ใคร!!” เสียงเย็นชาดังออกมาจนร่างบางรู้สึกสั่นสะท้าน “ลุงผินน่ะครับ” เสียงวิรุตตอบออกมา “ผมพาเด็กใหม่มาแนะนำให้เธอได้รู้จักบอสเอาไว้ครับ” เสียงทุ้มของลุงผิน ผู้จัดการร้านดังออกมา ทำให้ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่สีดำหมุนตัวกลับมามอง “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อดาราภัส พงษ์วิภา หรือดาว ขอฝากเนื้อฝากตัวกับบอสด้วยนะคะ” หญิงสาวก้มหน้าก่อนที่จะเอ่ยแนะนำตัวเองออกไป ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาค้างด้วยไม่คิดว่าแม่สาวสวยที่เขารู้สึกถูกตาต้องใจจะเดินมาหาเขาถึงที่ โดยที่เขายังไม่ได้ออกแรงไปหาเธอเลยสักนิด ริมฝีปากหนาฉีกยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะทำสีหน้าเรียบเฉยตามเดิมราวกับว่าเมื่อสักครู่ไม่ได้ยิ้มออกมา ฟ้า แผ่นฟ้าสำรวจสาวสวยตรงหน้าอีกครั้ง เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาก่อนที่ร่างระหงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวกับกระโปรงสีดำสั้นเคลียร์หน้าขา สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว วันนี้เธอแต่งตัวเข้ากับเด็กที่ร้านได้เป็นอย่างดีทำเอาชายหนุ่มนึกชื่นชมให้กับความพร้อมของเธออยู่ภายในใจ ไม่เพียงแค่ฟ้า แผ่นฟ้าเท่านั้นที่รู้สึกตกใจกับการที่ได้พบเจอเธออีกครั้ง เธอเองก็ตกใจเช่นกัน ไม่นึกว่าคนที่เธอได้พบเจอและบังเอิญชนเขาวันนั้นที่งานหมั้นของซุปตาร์สาวชื่อดังจะกลายมาเป็นเจ้าของไนต์คลับที่เธอเลือกมาทำงานในวันนี้ “ดาราภัส อายุเท่าไหร่ล่ะ แล้วมาทำตำแหน่งอะไร” น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากริมฝีปากสีแดงอมชมพูธรรมชาติ "อายุยี่สิบ มาเป็นพนักงานเสิร์ฟค่ะ” เสียงหวานตอบออกมาแต่ทว่าสายตาคู่สวยกลับมองต่ำลงไปที่พื้น มากกว่าจะที่กล้าสบตากับเขา “อืม...... ไปทำงานได้ ที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัว ถ้ามีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับแขกภายในร้าน แจ้งที่ลุงผินได้เลย เข้าใจไหม” แผ่นฟ้าเอ่ยออกมาก่อนที่ก้มหน้าลงแสร้งทำเป็นอ่านเอกสารที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่สนใจเธออีก ลุงผินพอเห็นเจ้านายหนุ่มไม่พูดอะไรอีกจึงสะกิดแขนเด็กสาวให้ตามออกไป พอลงไปยังชั้นล่าง ลุงผินก็จัดแจงหน้าที่ให้กับเธอ ซึ่งดาราภัสก็ทำหน้าที่ของเธอได้เป็นอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง และแน่นอนว่าคนสวยๆ แบบเธอย่อมตกเป็นเป้าสายตาของกลุ่มนักเที่ยวและพนักงานภายในร้าน แต่เพราะเจ้านายหนุ่มออกกฎมาว่าห้ามให้มีเหตุการณ์ชู้สาวเกิดขึ้นภายในที่ทำงาน หนุ่มๆ เลยได้แต่เสียดายไปตามๆ กัน ดาราภัสเริ่มงานเป็นพนักงานเสิร์ฟและรับออร์เดอร์อย่างคล่องแคล่ว เธอหารู้ไม่ว่าทุกการขยับร่างกายของเธออยู่ในสายตาคมดุจพญาเหยี่ยวของเจ้านายหนุ่มตลอดเวลา สองบอดี้การ์ดหนุ่มถึงกับแปลกใจกับการกระทำของเจ้านาย เพราะก่อนหน้านี้ฟ้า แผ่นฟ้า บอสหนุ่มผู้เย็นชาคนนี้จะสนใจผู้หญิงคนไหน จนเวลาเที่ยงคืนเด็กๆ ภายในร้านก็ช่วยกันเก็บกวาดร้านและตรวจเช็กไฟฟ้าอีกครั้ง ดาว ดาราภัสกลับพร้อมกับรุ่นพี่ปีสามอย่างหมิว แผ่นฟ้าไม่ลืมที่จะสั่งให้หนึ่งในสองบอดี้การ์ดของเขาติดตามไปคอยดูแลเธอจนถึงหอพักที่ดูเหมือนตอนนี้หญิงสาวจะย้ายหอพักมาอยู่นอกมหาวิทยาลัยแล้ว คงจะเป็นเพราะสะดวกต่อการออกไปหารายได้เสริมมากขึ้น “ทำไมเธอไม่เข้ามหาวิทยาลัยวะ” อรุณเอ่ยถามลูกน้อง “พี่อรุณลืมเหรอครับว่าเธอย้ายออกมาอยู่นอกมหาวิทยาลัยแล้ว” ลูกน้องเอ่ยถามออกมาอย่างขำๆ ก็ลูกพี่ของเขาเพิ่งจะสั่งให้คนไปสืบประวัติเธอเพิ่มและเพิ่งรายงานไปเมื่อเย็นแท้ๆ สงสัยลูกพี่เขาจะลืม “เออ...จริงด้วยว่ะ มัวแต่งงกับนายหึๆ” อรุณหัวเราะออกมาเบาๆ สายตาคมก็จ้องมองร่างระหงเดินเข้าหอพักไปจนลับสายตา ถือว่างานของเขาในค่ำคืนนี้สิ้นสุดลง เขาเองก็ไม่เข้าใจเจ้านายหนุ่มเช่นกันว่าจะให้เขาตามดูแลเธอทำไม หรือเจ้านายผู้ที่มีหัวใจเย็นชาจะตกหลุมรักแม่สาวน้อยคนนี้จริงๆ ดาราภัสแยกย้ายกับรุ่นพี่ที่หน้าหอพักเพราะอยู่คนละตึกกัน หญิงสาวเดินเข้าห้องไป ห้องนอนที่ว่างเปล่านั้นทำให้เธอรู้สึกเหงาแทบจับใจ เพื่อนที่เคยนอนร่วมเตียงกันก็มาเจ็บป่วย เธอหยุดมองที่นอนว่างเปล่าอยู่ครู่เดียวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำขนาดเล็ก แล้วอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดเพื่อเตรียมตัวเข้านอน ร่างบางในชุดนอนเสื้อแขนสั้นลายกระต่ายสีชมพูกับกางเกงขายาวสีเดียวกันเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จ คืนนี้เธอเลือกที่จะไม่สระผมก่อนนอนเพราะความเหน็ดเหนื่อย ร่างบางที่แสนเหนื่อยล้าเดินตรงไปที่เตียงก่อนที่จะล้มตัวลงนอน เพียงไม่นานเสียงลมหายใจของเธอก็ดังออกมาอย่างสม่ำเสมอ เช้านี้ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนขายาวซีดๆ สวมรองเท้าผ้าใบให้ความทะมัดทะแมงเยื้องย่างไปตามฟุตบาทก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ดาว ดาราภัสกำลังจะเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชนที่เพื่อนสนิทเข้ารับการรักษาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน วันนี้ เฟรนด์ จุฑารัตน์ก็จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว “ดาว.... มาแล้วเหรอ” เฟรนด์ จุฑารัตน์เรียกขานชื่อของเพื่อนสนิทขณะที่ยังนอนอยู่บนเตียง “อ้าว ทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดอีกล่ะ” ดาว ดาราภัสเอ่ยถามคนที่ยังคงอยู่ในชุดคนป่วย “รอคุณหมอมาตรวจก่อนน่ะ” คนป่วยตอบยิ้มๆ “เฟรนด์... แล้วหัวใจเฟรนด์เป็นยังไงบ้าง ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม” ดาว ดาราภัสเดินไปนั่งลงที่ข้างเตียงก่อนที่จะคว้ามือเพื่อนมากุมเอาไว้แล้วเอ่ยถามออกมา “อืม...ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรนะ” คนป่วยตอบยิ้มๆ คนฟังทำหน้าเศร้าทันที “ทำไมพูดแบบนี้อะ ถ้าเฟรนด์รู้สึกไม่ดีหรือมีปัญหาอะไร เฟรนด์ต้องรีบบอกดาวเลยนะ” ดาว ดาราภัสกำชับเพื่อน คนฟังพยักหน้าเพื่อให้เพื่อนสบายใจ ถึงแม้เธอจะรู้สึกไม่ค่อยจะดีก็ตามที สองสาวนั่งคุยกันไปสักพักคุณหมอก็เข้ามาตรวจและอนุญาตให้เฟรนด์ จุฑารัตน์กลับบ้านได้ เพราะอาการบาดเจ็บจากการถูกรถเชี่ยวแล้วจักรยานล้มนั้นดีขึ้นมากแล้ว สองสาวจึงพากันออกจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ส่วนค่ารักษานั้นคนที่ขับรถเฉี่ยวชนรับผิดชอบเอาไว้หมดแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม