ขายขนมจีบ 1

2004 คำ
“หา! ว่าอะไรนะ คุณนานโอนัดแกดินเนอร์เหรอ” ธารทิพย์ถามวารุณีเสียงสูง ใบหน้ามีความตกใจเล็กน้อย             “ก็ใช่น่ะสิ” วารุณีตอบ “แล้วทำไมแกต้องทำหน้าตกใจแล้วถามฉันเสียงสูงด้วยล่ะ”             “แหมแก ฉันก็ตกใจน่ะสิ ที่แกบอกว่าคุณนานโอจะมารับแกไปดินเนอร์ด้วย”             “ตกใจทำไม ก็แค่ไปดินเนอร์ปกติธรรมดา”  วารุณีไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก ทว่าธารทิพย์ไม่คิดเช่นนั้น             “ธรรมดากะผีน่ะสิ” วารุณีมองหน้าเพื่อนหลังจากได้ยินประโยคนี้ “ฉันว่ามันไม่ธรรมดา แกลองคิดดูสิว่า คุณนานโอเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงปรี๊ด จะมาเลี้ยงฉลองที่แกได้เป็นพรีเซนเตอร์ทำไม แล้วฉันก็ไม่เคยได้ยินได้รู้มาก่อนว่า คนที่เซ็นสัญญาเรื่องนี้จะเป็นท่านประธานบริษัท เขาต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้สิถึงจะถูก ฉะนั้นที่เขาชวนแกไปดินเนอร์เพราะสนใจแกแน่ๆ เลยวา”             ธารทิพย์ดีใจแทนเพื่อนที่มีคนหล่อ รวย และดูดีมีระดับมาชอบพอ งานนี้หล่อนจึงสนับสนุนเพื่อนรักเต็มที่             “ไม่จริงมั้ง คนระดับนั้นจะมาสนใจฉันได้ไง ไม่มีทางหรอก” วารุณีกลับคิดสวนทางกับเพื่อน ทว่าอีกใจกลับพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปลื้มปริ่มเมื่อธารทิพย์บอกว่า นานโอสนใจตน แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกไว้ในใจ ไม่กล้าเปิดเผยให้เพื่อนรู้             “คนระดับนั้นที่เราพูดถึงก็คนคนหนึ่งนะ มีหัวใจ ตับไตไส้พุงเหมือนเรา เกิดแก่เจ็บตายก็ด้วย ไม่ได้วิเศษเป็นเทวดาถึงจะได้อิ่มทิพย์ อีกอย่างมีออกถมไปที่ผู้ชายรวยล้นฟ้า แต่มองผู้หญิงยาจก แต่จะว่าไป ฐานะของแกก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ พี่เหนือออกจะรวย พี่เหนือรวยแกก็รวย” ธารทิพย์พูดมาล้วนแต่เป็นความจริง “ถ้าคุณนานโอจีบแก แกก็รับขนมจีบเขาเลยนะ ผู้ชายเพอร์เฟคแบบนี้หายาก”             “เขาไม่ได้จีบฉันหรอก คนอย่างคุณนานโอมีผู้หญิงที่เทียบเท่ากับเขาตั้งเยอะ อีกอย่างอายุของเขาก็มากกว่าฉันตั้งยี่สิบห้าปีเชียวนะแก”             “อายุห่างกันยี่สิบห้าปีแล้วไง เป็นผัวเมียกันไม่ได้เหรอ อายุห่างกว่านี้ฉันก็เห็นว่าเป็นผัวเมียกันได้เลย อายุน่ะมันเป็นแค่ตัวเลข ไม่เกี่ยวกับความรักความใคร่สักหน่อย” ธารทิพย์หาข้อมาแย้งวารุณี “อีกอย่างแกชอบคนมีอายุกว่าไม่ใช่เหรอ ฉันจำคำพูดของแกได้ แกบอกฉันว่า มีแฟนอายุเยอะกว่าดีกว่ามีแฟนอายุเท่ากัน เพราะแฟนที่อายุมากกว่าจะมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความคิดความอ่านและความเป็นผู้นำมากกว่า คุณนานโอตีโจทย์แกได้ทุกข้อเลยนะ แถมหล่อ รวยอีกต่างหาก”             ธารทิพย์พูดอีกก็ถูกอีกและสมกับที่เป็นเพื่อนวารุณี รู้ลึกรู้จริงเรื่องวารุณีมากทีเดียว วารุณีแทบจะหมดคำโต้เถียงกับการวิเคราะห์ของเพื่อน             “ถึงคุณนานโอจะจีบฉันจริง ฉันก็ไม่คิดว่าจะจีบสำเร็จ แกก็รู้นี่ว่า ถ้าคุณนานโอคิดจีบฉันจริง เขาก็ต้องถูกพี่น็อตสกัดดาวรุ่งอีกตามเคย” วารุณีเป็นคนสวย หุ่นก็เร้าใจผู้ชายที่เมียงมอง มีหรือจะไม่มีผู้ชายมาจีบ แน่นอนว่ามีและหลายคนด้วย ทว่าผู้ชายทั้งหลายก็ถูกบุรินทร์เพื่อนสนิทของเหนือเมฆ ที่คอยสอดส่องดูแลน้องสาวของเพื่อนรักทำให้ชายทั้งหลายม้วนเสื่อยอมแพ้ ไม่เดินหน้าจีบวารุณีต่อ จะว่าไปส่วนหนึ่งวารุณีไม่คิดมีแฟนด้วย ตั้งใจเรียนให้จบนำความสำเร็จไปให้เหนือเมฆ หล่อนจึงไม่เดือดร้อนเรื่องผู้ชายที่ถูกสกัดให้พ้นทาง แต่ทำไมหนอ ทำไม เพียงแค่คิดว่า นานโอจะจีบตน หล่อนรู้สึกว่า ไม่อยากให้บุรินทร์ทำให้นานโอหยุดขายขนมจีบตน เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนมาก่อนเลย “ก็บอกแล้วไงว่า เรื่องพี่น็อตฉันจัดการเอง แกสบายใจได้ ถ้าคุณนานโอจีบแก แกรีบรับซื้อเลยนะ” “แกจะทำยังไงล่ะ พี่น็อตไม่ใช่เล่นๆ นะ” ธารทิพย์ยิ้มกว้าง เมื่อได้ยินคำพูดของวารุณี “แกพูดแบบนี้ แกก็อยากให้คุณนานโอจีบแกจริงๆ ใช่ม้า” ธารทิพย์พูดอย่างรู้ทันความคิดเพื่อน “บ้าเหรอ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย” วารุณีตอบกลับด้วยท่าทางเขินอาย หน้าแดงระเรื่อ “เชื่อมือไอ้น้ำเถอะ ฉันจัดการพี่น็อตได้อยู่แล้ว” คนพูดพูดอย่างมั่นใจ “ฉันว่าเราขึ้นไปเรียนกันดีกว่า จวนได้เวลาแล้ว” สองสาวเพื่อนสนิทยุติการสนทนาลง พากันเดินขึ้นอาคารเรียน โดยไม่รู้ว่า คนที่สองสาวกำลังเป็นกังวล จะมาหาวารุณีที่มหาวิทยาลัยแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว             วารุณีกับธารทิพย์เดินออกมาจากอาคารห้องสมุดเมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมายไว้กับนานโอ สองสาวเดินไปคุยกันไปตามปกติ บางครั้งธารทิพย์กล่าวแซวเพื่อนรักเรื่องหนุ่มใหญ่รูปหล่อที่จะมารับไปดินเนอร์ แน่นอนว่าแก้มทั้งสองข้างของวารุณีเห่อร้อนและขึ้นเลือดฝาดด้วยความเขินอาย             “นั่นไงแก คุณนานโอมายืนคอยแกอยู่โน่นแน่ะ” ธารทิพย์บอกวารุณีด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับชี้ไปทางนานโอที่ยืนพิงรถสปอร์ตสุดหรู ก่อนรอยยิ้มนั้นจะหุบเมื่อเห็นรถยนต์ของใครคนหนึ่งมาจอดต่อท้ายรถซุปเปอร์คาร์ของนานโอ ซึ่งหล่อนจำได้ดีว่า คือรถใคร “แย่แล้ววา พี่น็อตมา”             วารุณีทำหน้าตกใจ เมื่อได้ยินชื่อเล่นของบุรินทร์ มองหาเจ้าของชื่อ             “ไหนล่ะพี่น็อต”             “นั่นไงล่ะ จอดรถต่อท้ายรถคุณนานโอ” วารุณีจำรถบุรินทร์ไม่ได้ เนื่องจากรถยนต์ของเขามีหลายคัน หล่อนจำได้อยู่คันเดียวคือ แลมโบกินี่สีแดง ซึ่งรถที่เขานำมาวันนี้คือรถจากัวร์ ธารทิพย์รีบฉุดวารุณีให้หลบหลังรูปปั้น เพื่อไม่ให้สองหนุ่มเห็น “เราจะทำยังไงดีล่ะน้ำ ถ้าพี่น็อตเห็นคุณนานโอมารับฉันไปดินเนอร์ ความแตกแน่” วารุณีถามคนมากแผนด้วยเสียงร้อนรน อีกฝ่ายนิ่งคิด ก่อนที่สมองจะสว่างปิ๊ง “แกอยู่ตรงนี้นะ อย่าเพิ่งออกไปไหน แกจะออกไปก็ต่อเมื่อฉันขึ้นรถไปกับพี่น็อต” ธารทิพย์บอกวารุณี “แล้วแกจะทำยังไง” วารุณีอดถามไม่ได้ “เชื่อหัวไอ้น้ำเถอะ” ธารทิพย์ตอบกลับ “ทำตามที่ฉันบอกนะวา ฉันไปล่ะ” วารุณียืนหลอบหลังรูปปั้นตามเดิม เยี่ยมหน้าออกไปมองดูธารทิพย์ที่เดินไปหาบุรินทร์ด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ หล่อนไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ อารมณ์เหมือนหนีผู้ปกครองไปเที่ยวอย่างไหนอย่างนั้น  “พี่น็อต” ธารทิพย์ปั้นหน้ายิ้มกว้าง เรียกชื่อบุรินทร์ที่ก้าวเดินมาหา “มารับน้ำกลับบ้านเหรอคะ” “แล้ววาล่ะไปไหน” เขาไม่ตอบแต่กลับถามถึงวารุณี ธารทิพย์หุบยิ้ม นึกน้อยใจชายหนุ่มรูปงามรูปร่างดีคนนี้ขึ้นมาทันใด ในสายตาเขามีแต่วารุณี ไม่มีหล่อนเลยสักนิด “แหม แทนที่จะทักทายน้ำกลับ ดันถามถึงคนที่ไม่อยู่ตรงนี้ น้อยใจดีไหมเนี่ย” ธารทิพย์งอนใส่ “ก็ทุกทีเห็นตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ พอพี่ไม่เห็นวา พี่ก็ถามสิ” บุรินทร์ตอบ ก่อนถามถึสตรีที่เขาไม่เห็นหน้า “แล้ววาไปไหน” “วาอยู่ในห้องสมุด ทำรายงานพิเศษกับกลุ่มเพื่อนๆ คงจะอีกสองสามชั่วโมงกว่าจะเสร็จ” “แล้วทำไมน้ำไม่อยู่กับวาด้วยล่ะ” “ทำงานคนละกลุ่ม จะให้ไปนั่งเสนอหน้าได้ไง” สาวจอมแก่นตอบ เดินไปคล้องแขนบุรินทร์ “พี่น็อตขา น้ำหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ” บุรินทร์ดึงแขนตัวเองออกจากแขนเรียวเล็กที่คล้องแขนตนออก ขยับเท้าออกมาทางด้านข้างหนึ่งก้าว ทิ้งระยะห่างไม่ให้ดูน่าเกียจ ธารทิพย์หน้าชาวาบ ไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนกับว่า เขารังเกียจตน “อย่าทำอย่างนี้มันไม่ดี” บุรินทร์สอน ธารทิพย์อยากเถียงกลับ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองมีหน้าที่อะไร ธารทิพย์เก็บคำพูดโต้เถียงไว้ในใจ หล่อนต้องพาบุรินทร์ออกไปจากที่นี่ “พี่น็อต น้ำหิว เราไปหาของอร่อยกินกันดีกว่านะ” “รอวาก่อนสิ แล้วค่อยไปด้วยกัน” “โห กว่าวาจะทำงานเสร็จ น้ำเป็นโรคกระเพาะกันพอดี” หล่อนโวยเล็กน้อย “เอาอย่างนี้ดีไหมพี่น็อต กว่าวาจะทำงานเสร็จตั้งสองสามชั่วโมง เราไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยกลับมารับวา ดีกว่ามานั่งแขวนท้องรอสามชั่วโมง ไม่ไหวนะพี่น็อต นะพี่น็อตนะ” บุรินทร์มองหน้าคนหิว สลับไปมองตัวอาคารเรียนหลังใหญ่ที่เขารู้ดีว่า ห้องสมุดอยู่บนชั้นที่สี่ของอาคารหลังนั้น ก่อนตัดสินใจ “ก็ได้” “งั้นไปกันเลยนะพี่น็อต น้ำหิวจนจะกินพี่น็อตได้แล้ว” ธารทิพย์พูดเย้า เป็นคำพูดที่บุรินทร์ไม่มีทางรู้ว่า หล่อนอยากจะกินเขาจริงๆ แต่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองเต็มที่ เพราะรู้ตัวดีกว่า ไม่คู่ควรกับเขา ที่สำคัญที่สุด บุรินทร์คงไม่ชายตาแลมองหล่อน ในสายตาเขามีเพียงวารุณีคนเดียวเท่านั้น วารุณีเดินออกมาจากหลังรูปปั้นเมื่อรถยนต์ของบุรินทร์ขับออกไปจากจุดที่จอด หล่อนรีบเดินไปหานานโอที่ยืนรออยู่ที่เดิม หล่อนฉีกยิ้มให้เขา ซึ่งก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา “สวัสดีค่ะคุณนานโอ คอยนานไหมคะ” หล่อนทักนานโอ “รอนานตลอดชีวิตยังไหวครับ” นานโอหยอดคำหวาน “รู้อย่างนี้ฉันลงมาช้ากว่านี้ก็ดี คุณจะได้คอยนานๆ สมใจ” วารุณีเย้ากลับ “ผมยินดีรอคอย ถ้าปลายทางแห่งการรอคือได้พบคุณ มันก็คุ้มค่ากับการอครับ” นานโอพูดจากใจ หยอดคำหวานที่ทำให้คนฟังยิ้มเขิน หัวใจพองโตคล้ายลูกโป่งและเต้นรัว “อ้อ...ผมมีอะไรจะให้คุณด้วย” นานโอเปิดประตูรถ หยิบบางอย่างที่วางอยู่บนเบาะด้านหน้าออกมา ก่อนส่งให้วารุณี ที่มองดอกกุหลาบสีขาวในมือหนาสลับกับเงยหน้ามองความหล่อของนานโอ “ผมซื้อดอกไม้มาให้คุณครับ ตอนแรกตั้งใจว่าจะซื้อช่อดอกไม้ช่อใหญ่ๆ และมีหลายสิบดอกมาให้คุณเพราะคิดว่าคุณต้องชอบ แต่มาคิดอีกที ไม่ว่าผมจะให้ดอกไม้สิบดอกยี่สิบดอกหรือเพียงแค่ดอกเดียว มันแทนความหมายและความรู้สึกของผมได้เหมือนกัน” นานโอพูดจาแฝงด้วยความหมาย และเปิดเผยความรู้สึกทางแววตาให้วารุณีรับรู้ ทว่าความอ่อนประสบการณ์ด้านความรัก ทำให้หล่อนไม่กล้าสบตามหาเสน่ห์ของเขา ความเขินอายประทับทั่วดวงหน้า แดงระเรื่อจนถึงลำคอ “เพื่อมิตรภาพที่ดีของเราครับ” นานโอยื่นดอกกุหลาบส่งให้วารุณีที่ยกมือขึ้นรับดอกไม้มาไว้ในมือ หล่อนเงยหน้ายิ้มให้นานโอที่ยิ้มตอบรับ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม