เช้าวันต่อมา
“เฮือกก...”
ร่างบางของเอยสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากที่นาฬิกาปลุกกรีดร้องเสียงดังขึ้นมามือบางควานหาโทรศัพท์เพื่อปิดเสียง ก่อนที่สายตาจะปะทะกับสองร่างบนเตียงนอนที่นอนน้ำลายยืดอยู่ โดยที่หน้าตาและชุดยังคงเป็นชุดเดิมตั้งแต่เมื่อวานทั้งสามคน นี่พวกเธอเมากันขนาดนี้เลยเหรอ เฮ้อ ถอนหายใจยาวยกมือขึ้นกุมหัวเพราะรู้สึกปวดหัวตึ้บ ๆ ขึ้นมาทันที
“เธอกินไปกี่แก้วเนี่ยเอย”
บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะลุกจากที่นอนไปอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสดชื่นสักหน่อย
เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วก็เจอสองสาวที่ตื่นแล้วนั่งอยู่บนเตียงนอนของเธอ ในขณะที่เธอสวมชุดคลุมอาบน้ำอยู่ มือเรียวสวยยกขึ้นเช็ดผมลวก ๆ ก่อนจะทำหน้างงเมื่อเพื่อนสาวทั้งสองจ้องหน้าเธอเขม็งไม่วางตา
“มึงเป็นไร อีเจน อีเบน จ้องหน้ากูอยู่ได้”
เอยเช็ดผมไปถามเพื่อนไปด้วยความสงสัย
“ลูกกะเทย มึงรู้ตัวปะว่าเมื่อวานมึงบ้งมากค่ะอีดอก”
เจนนี่เป็นคนตอบคำถามนั้นเองหน้าที่ยังมีเครื่องสำอางแต่งแต้มอยู่มองเพื่อนสาวอย่างเอือม ๆ
“ทำแมะ กูบ้งตรงไหนกูเป็นงงแล้วแม่ไหนเหลามาสิ นี่รอฟัง”
เอยหันมามองเพื่อนสาวเต็มตาก่อนจะเท้าสะเอวด้วยความสงสัย เมื่อวานเธอทำอะไรผิดเธอแค่ไปกินเหล้ากับเพื่อนมันบ้งตรงไหน
“นี่มึงจำอะไรได้บ้างปะเนี่ย หรือเมาจนลืมไปหมดแล้ว”
เบนนี่ถามเพื่อนก่อนจะส่งค้อนมาให้ลูกใหญ่อีเอยมันเก่งค่ะทุกคนลืมเก่งจริง ๆ ทั้งที่ไปสร้างวีรกรรมโคตรแซบไว้อะ
“โอ๊ย กูลำไยพวกมึงจริง ๆ มีไรไหนพูดกูไม่เก็ต”
เมื่อทนไม่ไหวเอยก็โวยวายใส่เพื่อนก่อนจะถลาตัวมาที่เตียงนอนแล้วนั่งแหมะลงที่ขอบเตียง
“อีเจนมึงเหลา มึงผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน”
เบนนี่พยักเพยิดหน้ามาทางเจนนี่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ให้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้เอยฟัง
“คืองี้เว้ยมึง มึงอะไปหาเรื่องอีน้ำเน่าที่ไปนั่งกับคุณคิณแถมมึงยังไปนั่งตักเขาอีกแลงมากมึงอะ แล้วพอเขาไล่อีน้ำเน่าไปมึงก็ไปจูบปากเขาแถมมึงยังไปเลื้อยเขาอีก ดีนะที่กูไปดึงมึงออกมาไม่อย่างนั้นเขาเสียตัวให้มึงแน่ มึงก็ได้เสียจิ้นให้ผู้เพราะความเลื้อยแน่ ๆ อีเอย”
“อ๊าย อีเจน อีเบน กูไปปล่อยโป๊ะเหี้ยไรไว้วะเนี่ย ขายขี้หน้าชะมัดเขาจะมองกูยังไงทีนี้ไม่มองกูเป็นคนขี้อ่อยใจง่ายไปแล้วเหรอ”
เมื่อเพื่อนเล่าจบภาพความจำจากเรื่องเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวเป็นฉาก ๆ มือบางยกขึ้นปิดหน้าทันที น้ำตาจะไหล ภาพลักษณ์ที่ดูดีต่อหน้าผู้ชายที่แอบชอบพังไม่เป็นท่าเลย นี่เธอทำอะไรลงไปเนี่ย
“แหงอะดิ มึงอะมั่นเกินเบอร์มากอีเอยผีตัวไหนเข้าสิงฮะ ถึงไปจูบคุณคิณเขาน่ะ”
เบนนี่ดุเพื่อนอย่างมีน้ำโหดูสิไปแอบชอบเขาแต่เสือกไปโชว์สกิลเทพเลื้อยใส่เขาแถมไปหาเรื่องนังน้ำเน่าอีก จบเลยเพื่อนกู เบนนี่ส่ายหน้าอย่างรู้สึกปลงแทนเพื่อน
ในขณะที่เอยยกมือลูบหน้าเบา ๆ สีหน้าหมดอาลัยตายอยากเธออยากจะโขกหัวกับหัวเตียงสักสิบทีเรียกสติกลับคืนมาหมดกัน เจอหน้าเขาต่อไปจะทำยังไงล่ะทีนี้
“กูจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอเขาได้ล่ะเนี่ย ฮือ กูบ้งมากอะมึง”
เอยยกมือขึ้นปิดหน้าอีกรอบก่อนจะฟูมฟายแบบไม่มีน้ำตาออกมา อะเอนเนอร์จี้มันได้เว้ยเพื่อนกู Acting มากว่ะ เจนนี่ขออนุญาตขำค่ะ หุหุ
“มึงก็เอาหน้าสวย ๆ ของมึงไว้ที่เดิมนั่นแหละ มึงคิดว่าโชคชะตาจะเล่นตลกให้มึงเจอเขาบ่อย ๆ หรือไงเขาเป็นใครละมึงเป็นใครวงโคจรไม่มีทางมาเจอกันง่าย ๆ หรอกถ้ามึงไม่ไปเป็นสตอร์กเกอร์ตามเขาอะ ฉะนั้นมึงจงมูฟออนละไปต่อสวย ๆ จ้ะ”
เจนนี่เบรกความคิดเพื่อนไว้ทันทีที่เอยคร่ำครวญไม่หยุดเพื่อดึงสติ
เมื่อเจอคำพูดของเพื่อนจากที่กำลังฟูมฟายอยู่หน้าสวยก็หงอยลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นสินะ เขาเป็นใครแล้วเธอเป็นใคร เส้นทางของเราไม่มีวันมาพบเจอกันได้หรอกนี่ก็เป็นเพียงความบังเอิญล้วน ๆ ที่ทำให้ได้รู้จักกันและเผลอไผลได้จูบกันให้เป็นบุญของเธอ ก่อนที่เขาจะเดินไปตามเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบของเขา ในขณะที่เธอก็ต้องเดินไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยก้อนดินหินกรวดของเธอเช่นกัน
เจนนี่กับเบนนี่ที่เห็นท่าทางเหมือนหมาหงอยของเพื่อนนั้นก็กลอกตามองบนไปมาอย่างเหนื่อยใจ เล่นใหญ่เกินเบอร์มากลูกกะเทยนี่จะตามไม่ทันละ เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวหงอย ไบโพลาร์จะแดกกะเทยละค่า เปลี่ยนอารมณ์ตามเพื่อนไม่ทันเลย
“หงอยเหมือนหมาเลยนะมึง วงวารลูกสาวมามะมากอด ๆ ไม่แน่เจอกันรอบหน้านี่อาจจะได้เขาเป็นผัวเลยนะมึง”
เบนนี่ปลอบใจเพื่อนก่อนจะพูดติดตลกให้เพื่อนขำซึ่งเอยก็หลุดขำพรืดออกมา เฮ้อ เศร้าไปก็เท่านั้นช่างมันแค่แอบรักก็พอแล้วเธออย่าหวังสูงอีกเลย เอย อรนลิน
“เออ อีเบนพูดน่าคิดว่ะกูถัมจริงอีเอย ถ้าวันหนึ่งเขามาจีบมึงหรือมีเหตุการณ์ให้มึงกับเขาปั๊ปปี้ดูกันมึงจะทำไง มึงจะหนีหรือมึงจะชนอะกูถามหน่อย”
เจนนี่เอ่ยถามอย่างอยากรู้ดูจากเมื่อวานที่เพื่อนเธอแค่จุ๊บเขาแต่เขากลับคว้าคอเพื่อนเธอไปบดจูบอย่างดูดดื่มกะเทยว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆคิดในใจพลางจ้องหน้าเพื่อนอย่างกดดันรอคำตอบที่อยากรู้
“เออกูก็อยากรู้มึงจะทำไง ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เผื่อมึงเผลอพลาดไปมีซัมติงจิงกระเบลกันมึงจะทำไงวะ”
เบนนี่เอียงคอมองเพื่อนอย่างรอคอยคำตอบอีกคน
ในขณะที่ดวงตากลมโตของเอยมองหน้าเพื่อนทีละคน เธอจะทำอย่างไรน่ะเหรอ มันจะมีวันนั้นไหมวันที่มันเกิดขึ้นจริงเขากับเธอเหมือนอยู่กันคนละโลกมันจะมีจังหวะนรกอะไรกันมาให้ปั๊บปี้ดูกันเลย แต่ แต่ถ้ามันมีจริง ๆ แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ คิดคำตอบในหัวอย่างสับสนวุ่นวายใจก่อนจะตอบเพื่อนออกมา
“กูจะชนว่ะมึง กูว่ากูต้องลองสักตั้งจะลองทั้งทีแม่งต้องเอาให้สุดติ่งบางทีอาจจะฟลุ๊ค การแอบชอบของกูมันอาจจะคอมพลีตก็ได้จริงมะถือว่าให้มันเป็นประสบการณ์หนึ่งที่ประดับชีวิตกูละกัน”
ตอบเพื่อนด้วยสีหน้าท่าทางที่มุ่งมั่น แต่เธอกลับคิดในใจว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง ๆ หรอก เพราะฉะนั้นเธอจงหยุดมโน เอย อรนลิน เส้นทางข้างหน้าไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบางทีโชคชะตาอาจจะกำลังเล่นตลกกับเธออยู่ก็ได้
หลังจากนั้นนี่ก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วที่เอย กับ คิณ อัคนี ไม่ได้เจอกันอีกเลย ข่าวคราวของเขายังคงมีบ้างตามหน้าช่องข่าวสังคมกับข่าวพวกก๊อตซิปดารา ไฮโซ ข่าวลือระหว่างเขา กับ เจ้าจอม คุณหนูราชนิกูลผู้สูงส่งก็เข้ามากระทบหูกระทบใจเธออย่างจังทั้ง ๆ ที่บอกตัวเองให้เลิกฝันแต่พอได้ดูข่าวของเขาเธอก็อดที่จะรู้สึกนอยด์ไม่ได้ ฮือ เอยรู้สึกเกลียดตัวเองในเวอร์ชันคนที่เพิ่งเคยอกหักจากผู้ชายก็วันนี้แหละค่ะทุกคน
“เอยจ้ะ แบบนี้โอเคยัง เอยดูให้พี่หน่อยเข้มไปไหม หรืออ่อนไป”
พี่หมีช่างแต่งหน้าเจ้าประจำเอ่ยถามดาราสาวรุ่นน้องอย่างขอความเห็นว่าโทนหน้าที่เธอแต่งมันพอดีหรือยัง แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากสาวเจ้าสักนิดเลยทำเอากะเทยเป็นงง