ตอนที่ 8 คนป่วยขี้อ้อน

1729 คำ
เด็กผมช่างร้าย ตอนที่ 8 คนป่วยขี้อ้อน ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเชิ้ตสีขาวตัวบางที่พี่เขาคงใส่เอาไว้ให้แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านม่านมาแยงตา ทำให้รู้สึกมึนๆ หัว พอพยายามที่จะขยับตัว ร่างกายมันก็ประท้วงขึ้นมา มันล้าไปหมด เจ็บจนอยากจะร้องไห้ออกมา สมองฉันค่อยๆ ประมวลผลเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน.....ฉันจำได้ว่าระหว่างที่ฉันกับพี่เขามีอะไรกัน ฉันก็สลบคาอกพี่เขาไปตอนไหนไม่รู้ เมื่อนึกถึงตรงนั้นก็พยายามมองหาพี่เขา แต่...ไม่เจอ...พี่เขาไม่ได้อยู่ในห้อง....ฉันฝืนร่างกายที่บอบช้ำลงจากเตียง เมื่อขาแตะพื้นตัวฉันก็ทรุดลงไปกองทันที “ฮือ..” น้ำตาฉันไหลลงมาช้าๆ เพราะความเจ็บบวกกับที่ใจมันกลัวเหลือเกินว่าพี่เขาจะทิ้งฉันไป ฉันคงง่ายเองสินะ... “ฮึบบ...” ฉันปาดน้ำตาตัวเองแล้วพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ร่างกายมันไม่มีแรงเอาเสียดื้อๆ ก็เลยล้มไปกองอยู่ที่พื้น... “ฮืออ...ไอ้พี่บ้า คิดจะทิ้งฉันเหรอ” ฉันยกมือปิดหน้าแล้วนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทั้งเสียตัว ทั้งเสียใจ ไอ้พี่บ้านั่นก็ไม่คิดจะสนใจฉันเลย “ฉันจะไม่รักพี่แล้ว....ฮืออ.... ฉันจะหนีพี่ไปไกลๆ เลย....” ฉันพยายามตะเกียงตะกายขึ้นเตียงอีกครั้ง แล้วมานอนคว่ำหน้าร้องไห้ซุกอยู่ที่หมอน”เจ็บ สไมล์เจ็บไปหมดแล้ว พี่เดย์อยู่ไหน...” แกร๊ะ!! เสียงประตูเปิดเข้ามา แต่ฉันไม่หันไปมองหรอกนะว่าเป็นใคร ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอใค รไม่อยากพูดกับใครทั้งนั้น!! ***** Part เดย์ “งอแงอะไรหื้มม..” ฝ่ามือหนาลูบลงที่หัวของร่างบางที่นอนซุกหน้าร้องไห้อย่างไม่สนใจใคร “สไมล์เจ็บ...” ร่างบางพูดเสียงอู้อี้ตอบกลับ แม้จะไม่หันหน้าไปมองแต่สัมผัสที่คุ้นเคย มันก็ทำให้รู้ว่าเจ้าของสัมผัสนี้คือใคร “เจ็บมากไหม ไหนลองหันหน้ามามองพี่สิครับ” เสียงพูดนุ่มนวลที่ส่งไป มีเพียงคนตัวเล็กร่างบางบนเตียงตอนนี้เท่านั้นที่ได้รับจากเขา “ไม่!!” ร่างบางส่ายหน้าอยู่กับหมอนใบใหญ่ ปฏิเสธที่จะหันมามองหน้าเขา “ถ้าไม่หันมา พี่จะลงโทษสไมล์นะ” ไม่พูดเปล่ามือแกร่งก็สอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตตัวบางที่ตนเป็นคนสวมใส่ให้ร่างบางเองกับมือ “หะ..หันแล้ว” คนตัวเล็กค่อยๆ หันหน้าไปมองร่างสูงที่ส่งยิ้มบางๆ กลับมาเมื่อเห็นหน้าน้ำตา มันก็พาลจะไหลลงมาอีกครั้ง ความน้อยใจของร่างบางตีตื้นขึ้นมา ทำไมตื่นมาถึงไม่เจอหน้า ทำไมต้องปล่อยให้ตัวเขาอยู่คนเดียว ได้เขาแล้วจะทิ้งกันใช่ไหม “ฮือ...คนใจร้าย” “หื้มม..พี่ใจร้ายตรงไหน” ร่างสูงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมานั่งตักให้หันหน้าเข้าหาเขา “พี่...จะ..ทิ้งสไมล์” ก้อนสะอึกที่อยู่ในคอ ทำให้ร่างบางพูดเสียงขาดๆ หายๆ น้ำตาที่เคยหยุดไหลก็พาลไหลลงมาอีกครั้ง “หยุดร้องนะคะคนดี” มือหนาเช็ดน้ำตาให้ร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้สะอื้นไม่หยุด เขาไม่รู้ว่าทำไมร่างบางตรงหน้าต้องร้องไห้หนักขนาดนี้ แถมยังมากล่าวหาเขาว่าจะทิ้งตนไปอีก ตั้งแต่ที่ได้เห็นหน้าหวานๆ ดวงตากลมตัวคู่นี้ เขาก็ไม่เคยคิดที่จะมองใครอีกเลย แต่ตอนนี้ดวงตากลมตาที่เคยสดใสกลับมีคราบน้ำตาเต็มไปหมด ต้นเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือเขาเอง “พี่จะไม่ทิ้งสไมล์ใช่ไหมคะ” “ไม่ครับ พี่จะไม่ทิ้งสไมล์ นอนนะคนดี” เขาจับร่างบางเอียนลงไปกับเตียง เพื่อที่จะให้เจ้าตัวนอนพัก แต่ เจ้าตัวเล็กของเขานะสิ!! กอดคอเขาแน่นไม่ยอมปล่อย เขารู้ว่าตื่นมาร่างบางตรงหน้าเขาต้องเจ็บจนไข้ขึ้นแน่นอน ก็เมื่อคืนเจ้าตัวเล็กของเขาเล่นสลบ คาอกเลยนะสิ แต่ใครจะรู้ว่าแค่การที่เขาออกไปโทรสั่งงานลูกน้องแป๊บเดียว มันทำให้เจ้าตัวเล็กของเขาต้องนอนร้องไห้ขนาดนี้ รู้งี้นอนกอดเมียอยู่บนเตียงต่อก็ดี “ถ้าสไมล์หลับ พี่จะไม่ไปไหนใช่ไหม” พูดมาขนาดนี้พี่จะไปไหนได้ล่ะครับ มีเมียเด็กต้องตามใจ ยิ่งเมีย ไม่สบายยิ่งต้องโคตรตามใจ!! “พี่จะอยู่ตรงนี้ จนกว่าสไมล์จะตื่น” “สัญญานะ” ร่างบางชูนิ้วก้อยเล็กๆ มาตรงหน้าแล้วเอียงคอมองเขาอย่างน่ารัก “ครับพี่สัญญา” เจ้าตัวเล็กของเขายิ้มจนตาหยี น่ารักขนาดนี้ใครจะทิ้งลงล่ะจริงไหม? หลังจากที่สัญญากันแล้วร่างบางตรงหน้า เธอก็นอนหลับไป คงเป็นเพราะพิษไข้ด้วยมั้ง ที่ทำให้เจ้าตัวเล็กของเขาต้องงอแงขนาดนี้ แต่เขาก็ชอบนะที่โดนอ้อนแบบนี้ ตั้งแต่ได้เจอครั้งแรกได้รู้จักกันมากขึ้น ร่างบางตรงหน้าทำให้เขาเปลี่ยนไปมาก ความหยาบกระด้างที่เคยมีมาเริ่มลดลงที่ละนิด เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วนำกะละมังมาลองน้ำไว้เพื่อนำมาเช็ดตัวให้เจ้าตัวเล็ก ไม่รู้ว่าตื่นมาจะงอแงอีกไหมนะ 13 : 30 น. ตอนนี้ก็ปาไปบ่ายครึ่งแล้ว เจ้าตัวเล็กของเขายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย อาหารที่สั่งไว้ก็เย็นจืดชืดหมด เขาเลยต้องลุกไปจัดการเข้าครัวเองเสียแล้ว เห็นแบบนี้เขาก็ทำอาหารอร่อยนะ เพราะย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียวตั้งแต่อายุ 18 ปี มันทำให้เขาต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตเองทุกอย่าง บิดาของเขาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เขาพึ่งขึ้นมัธยมปลายได้ไม่นาน ส่วนมารดาของเขาตอนนี้ท่านอยู่ที่ฝรั่งเศส ครอบครัวของเขามีธุรกิจมากมายรวยระดับTop5 ของโลก ธุรกิจส่วนใหญ่ก็อยู่ในความดูแลของเขาเอง อีกส่วนก็ให้ คนสนิทมือซ้ายของเขาที่เป็นลูกพี่ลูกน้องดูแล อาหารมื้อนี้เขาเลือกทำเป็นข้าวต้มปลา ซึ่งมันเหมาะมากกับเด็กดื้อที่นอนขี้เซาอยู่บนเตียง ทำเสร็จก็กะว่าจะออกไปซื้อเค้กมาเอาใส่สักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้เดินออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียงอะไรดังมาจากในห้องนอน “สไมล์!!” เขาตกใจมากที่เห็นร่างบางนั่งกองอยู่ที่พื้น นี่คงจะดื้อจนเจ็บตัวอีกแล้วสินะ “เจ็บ...” เจ้าตัวเล็กเงยหน้ามองเขาแล้วแบะปากเหมือนเด็กที่กำลังจะร้องไห้ “ใครบอกให้ลุกจากเตียงห๊ะ! เห็นไหมเจ็บตัวหมดแล้ว” เขาแกล้งพูดเสียงดังให้เจ้าเด็กดื้อกลัว “ฮือ...” อะ...อ้าวเห้ย เขาทำเจ้าตัวเล็กร้องไห้อีกแล้ว “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ เจ็บตรงไหนบอกพี่สิ” เขาพูดพร้อมกับกอดปลอบร่างบางที่ร้องไห้งอแง อย่าร้องเลยนะ คนดี เขาไม่ชอบเลยที่ได้เห็นน้ำตาจากดวงตากลมโตคู่นี้ “พี่....เดย์...ดุ...สไมล์” “ไม่ดุแล้วๆ สไมล์หยุดร้องนะ” “ฮึบ..” เจ้าตัวเล็กของเขาพยายามใช้มือเช็ดน้ำตาไปมาอย่างน่ารัก ดวงตากลมโตเริ่มแดงขึ้นเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แต่สำหรับเขามันก็ยังดูสวยอยู่เสมอ “สไมล์หยุดแล้ว” “บอกพี่สิ สไมล์ลุกขึ้นมาทำไม” เขาถามร่างบางออกไป “ก็...พี่สัญญาแล้วว่าจะไม่หายไปไหน” ร่างบางทำแก้มป่องพองลมเมื่อพูดจบ ได้เห็นแบบนั้นเขาก็อยากเข้าไปหยิกแก้มนิ่มๆ นั่นสักที ทำไมต้องทำตัวน่ารักขนาดนี้กันนะ แค่นี้ยังทำให้เขาหลงไม่พออีกเหรอ “พี่ไปทำอาหารให้สไมล์ไง ตื่นมาจะได้กินข้าวกินยา จะได้หายไวๆ ไม่ดีเหรอ” “ขอบคุณนะคะ” ยิ้มหวานส่งกลับมาแทนคำขอบคุณ ทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ “ขอบคุณอย่างเดียวเหรอ” ความเจ้าเล่ห์เคยมีแบบไหนก็ยังคงไว้แบบนั้นไม่ยอมเปลี่ยน เขา ยกมือชี้มาที่ปากของตัวเอง เป็นการบอกทางอ้อมว่าให้ทำอะไร “เอ่อ...” ร่างบางเห็นดังนั้นแก้มที่แดงอยู่แล้วก็แดงขึ้นมาอีกแล้วค่อยๆ ขยับหน้าเข้าไปใกล้ร่างหนาเรื่อย ๆ จนปากของทั้งคู่สัมผัสกัน มือหนาจับการล็อคท้ายทอยของร่างบางไว้ ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะขยับออก จุมพิตเริ่มต้นขึ้นมาอย่างเนิบๆ ช้าๆ มือแกร่งสอดเข้าไปในเชิ้ตสีขาวตัวบางที่เจ้าตัวเล็กสวมใส่อยู่ แล้วใช้มือขยี้ยอดอกของคนตัวเล็กจนร้องครางออกมา “อ๊ะ...” เขาผลักร่างบางนอนราบไปกับพื้นแล้วบดจูบลงมาอีกครั้ง... “พะ...พี่เดย์...สไมล์หิวแล้ว” “อื้อ...พี่ก็หิว...” “งั้นพี่ก็ลุกไปสิคะ จะได้ไปกินข้าวกัน” “ใครบอกว่าพี่จะกินข้าว พี่จะกินสไมล์ต่างหาก” “อื้อออ..” เสียงครางที่หวานหูดังขึ้นมาอีกครั้งด้วยฝีมือของร่างหนาที่ครอบครองยอดอกของร่างบางอยู่ “พะ...พอ..ก่อน ไมล์เจ็บอยู่นะ” คนตัวเล็กส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ร่างหนาที่จ้องแต่จะจับเธอกินแทนข้าว “โอเคๆ พี่ยอมแล้ว” พูดจบเขาก็อุ้มเจ้าเด็กดื้อขี้อ้อนออกมานั่งที่โต๊ะอาหารแล้วจัดการป้อนข้าวป้อนน้ำ แล้วตบท้ายด้วยการบังคับให้กินยา ออกจะลำบากไปสักนิดก็เจ้าเด็กดื้อของเขานะสิ บอกว่ายามันขมไม่อยากกิน เขาเลยต้องยัดยาเข้าปากตัวเอง แล้วประกบจูบเด็กดื้อพร้อมกับใช้ลิ้นดันยาเข้าปากร่างบางไป ขมๆ หวานๆ รสชาติไม่ก็ไม่เลวนะ ___________________________________
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม