คีติกาคิดใคร่ครวญดีแล้วว่าเธอไม่อยากปล่อยเวลาไปอย่างไร้ประโยชน์ แค่อยู่รอปรนนิบัติว่าที่สามีตอนกลับมาบ้านแบบนี้ดูแล้วไม่น่าจะใช่เรื่องที่สมควร เธอไม่อยากให้ความรู้และทักษะการทำอาหารที่มีต้องมาจบอยู่เพียงแค่นี้ จึงอยากจะขอออกไปทำงานข้างนอกบ้าง เมื่อคุณปิยะดามาเยี่ยมว่าที่สะใภ้คนโตของบ้าน คีติกาจึงเอ่ยเรื่องนี้ขึ้น
“ม้าคะ หลิวมีเรื่องอยากจะปรึกษาค่ะ”
“เรื่องอะไรจ๊ะ บอกม้าได้เลย”
มารดาของปกเกศนั้นเอ็นดูเธอมาก ทำให้คีติกากล้าที่จะพูดเรื่องที่คิดไว้
“คือ หลิวอยากออกไปทำงานข้างนอกน่ะค่ะม้าหลิวคิดว่าจะไปสมัครงานที่ครัวของโรงแรมค่ะ เห็นประกาศรับอยู่หลายแห่ง”
เธอมีฝีมือมีความรู้และมีความสามารถในการทำอาหาร ทั้งยังมีใบรับรองจากสถานศึกษา และมีประสบการณ์การทำอาหารได้หลากหลายคงมีโรงแรมสักแห่งที่เห็นความสามารถแล้วรับเธอเข้าทำงาน
คุณปิยะดาฟังแล้วก็นิ่งไปครู่ใหญ่ สีหน้าครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะยิ้มและเอ่ยตอบ
“ม้ารู้ว่าหลิวทำอาหารเก่งอยู่แล้ว เอางี้มั้ย หนูไม่ต้องไปรับจ้างใคร เป็นลูกจ้างคนมันเหนื่อย ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง หลิวมาเป็นลูกสะใภ้ม้าแล้ว ม้าจะเปิดร้านอาหารให้หลิวเอง หลิวจัดการทุกอย่างได้เลย จะลงมือทำเองหรือจะจ้างคนมาทำก็ได้ ม้าจะออกทุนให้”
“ม้า...”
คีติกาตะลึง ว่าที่แม่สามีที่แสนใจดียิ้มแล้วเอ่ยต่อ
“ม้ามีตึกแถวเหมาะจะเปิดร้านอาหารแถวราชพฤกษ์อยู่ จริง ๆ ก็ซื้อไว้ให้คนมาเช่า แต่ตอนนี้ม้าจะทำเป็นร้านให้อาหลิวก็แล้วกัน”
“ม้า หลิวไม่แน่ใจเลยว่าจะขายได้มากขนาดไหน หลิว...”
คีติกายังไม่มีความมั่นใจในตัวเองว่าถ้าเธอเปิดร้านแล้วจะมีลูกค้ามากพอที่จะไม่ทำให้ร้านขาดทุนจนต้องปิดกิจการหรือไม่ ถึงจะมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเอง แต่การเปิดร้านอาหารนั้นมันมีหลายปัจจัยและร้านจะอยู่รอดหรือไม่ก็มีอีกหลายองค์ประกอบ ฝีมืออย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ ทว่าดูเหมือนว่าผู้เสนอให้ทุนในการเปิดร้านจะไม่ได้สนใจเรื่องผลประกอบการเท่าไรนัก
“ไม่เป็นไร ลองทำดูก่อนแล้วกัน ดีกว่าปล่อยที่ร้างไว้”
คุณปิยะดายื่นมือมากุมมือว่าที่สะใภ้ที่นางเอ็นดูอย่างเชื่อมั่น
ค่ำคืนนี้หลังจากผ่านศึกรบกันมาแล้ว ลมหายใจที่หอบกระเส่ากลับมาเป็นปกติ คีติกาที่นอนหนุนท่อนแขนของปกเกศขยับใบหน้าออกมาเพื่อมองหน้าเขา ดวงตาคมสบมองเธอก่อนจะยกมือหนาขึ้นมาเสยกลุ่มผมนุ่มที่ปกใบหน้าให้อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากอิ่มที่ถูกดูดดึงจนบวมเจ่อขึ้นเม้มเป็นเส้นตรงก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“วันนี้หลิวคุยกับม้าเรื่องงาน...”
ชายหนุ่มไม่เอ่ยแทรก เขาลูบศีรษะเธอเบา ๆ เพื่อเป็นการบอกว่ากำลังฟังเธออยู่ น้ำเสียงของเธอกระตือรือร้นขณะที่เล่าสิ่งเธอคุยกับมารดาของเขา
“หลิวบอกม้าว่าหลิวอยากออกไปทำงานข้างนอก ไปสมัครเป็นเชฟที่โรงแรม แต่ม้าบอกหลิวว่า ม้าจะเปิดร้านอาหารให้หลิวทำค่ะ เฮียว่ายังไงคะ”
“...อืม ก็แล้วแต่ม้า”
^
^
^
***กดติดตามและส่งกำลังใจมาให้กันด้วยน้า